โรคปอดอักเสบ/ปอดบวม-อาการ-สาเหตุ-วิธีรักษา-เเละ สมุนไพร

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โรคปอดอักเสบ/ปอดบวม-อาการ-สาเหตุ-วิธีรักษา-เเละ สมุนไพร  (อ่าน 25 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
watamon
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 654


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: มีนาคม 22, 2018, 10:00:07 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


โรคปอดอักเสบ / ปอดอักเสบ (Pneumonia)

  • โรคปอดอักเสบ / ปอดอักเสบ เป็นยังไง ปอด (Lung) เป็นอวัยวะในระบบการหายใจที่อยู่ด้านในทรวงอก 2 ข้าง มีลักษณะเป็นเนื้อหยุ่นๆมีสีออกชมพูมีบทบาทแลกแก๊สจากอากาศที่เราหายใจเข้าไปหมายถึงในช่วงที่พวกเราหายใจเข้าปอดจะปฏิบัติหน้าที่นำก๊าซออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงร่างกายแล้วก็ในเวลาเดียวกันปอดก็จะขับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ออกมากับลมหายใจ ธรรมดาเนื้อปอดนี้จะเป็นอวัยวะที่ปราศจากเชื้อโรค เมื่อมีเชื้อโรคหรือสิ่งปลอมปนอื่นๆเข้าไปถึงเนื้อปอด จะนำมาซึ่งการทำให้การอักเสบรวมทั้งมีการบวมเกิดขึ้น ซึ่งโรคปอดอักเสบ (Pneumonitis – นิวโมนิว่ากล่าวส) เป็นคำทั่วไปที่หมายถึงการอักเสบของเนื้อเยื่อปอด ในระหว่างที่ปอดอักเสบ (Pneumonia – นิวโมเนีย) เป็นจำพวกของการตำหนิดเชื้อที่นำมาซึ่งการอักเสบของปอด โรคปอดอักเสบรวมทั้งปอดบวมจึงมีความหมายคล้ายกันมากมายจนใช้เรียกแทนกันได้ แต่ในตอนนี้นิยมเรียกโรคปอดอักเสบมากยิ่งกว่าด้วยเหตุว่าสื่อความหมายตรงกว่า โรคปอดอักเสบ (Pneumonia) เป็นโรคติดเชื้อโรคในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งระยะฟักตัวขึ้นกับเชื้อที่ก่อโรคโดยบางทีอาจใช้เวลาฟักตัว 1-3 วัน หรือบางทีอาจจะนาน 1-4 อาทิตย์ อย่างยิ่งจริงๆ ซึ่งจะมีผลให้เกิด การอักเสบของเนื้อปอด*ซึ่งประกอบไปด้วยถุงลมปอดแล้วก็เยื่อโดยรอบทำให้ปอดปฏิบัติภารกิจได้ลดลง รวมทั้งกำเนิดอาการหายใจหอบเหนื่อย หายใจไม่สะดวก ซึ่งจัดเป็นภาวการณ์รุนแรงทำให้ผู้ป่วยอาจมีอาการร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในกรุ๊ปเสี่ยง ตัวอย่างเช่น เด็กเล็ก ผู้สูงวัย คนที่มีภูมิคุ้มกันต้านโรคต่ำ ฯลฯ
  • ต้นเหตุของโรคปอดอักเสบ/ปอดบวม ปอดอักเสบเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ แม้กระนั้นที่มักพบ คือ การต่อว่าดเชื้อ ยกตัวอย่างเช่น เชื้อไวรัส แบคทีเรีย โปโตซัว หรือ เชื้อวัณโรค ตัวอย่างเช่น การต่อว่าดเชื้อแบคทีเรีย ประเภทหนึ่งที่เป็นสาเหตุของปอดอักเสบที่พบบ่อยที่สุดในคนทุกวัย ตัวอย่างเช่น เชื้อปอดอักเสบ ที่มีชื่อว่า “สเตรปโตค็อกคัส นิวโมเนียอี (Streptococcus pheumoniae) หรือมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า “นิวโมค็อกคัส” (Pneumococcus) ซึ่งเป็นเชื้อที่กระตุ้นให้เกิดอาการปอดอักเสบฉับพลันรวมทั้งรุนแรง โดยแต่ละคนมีการ ติดโรคยากง่ายไม่เหมือนกัน ถ้า เป็นคนที่มีภูมิต้านทานร่างกายผิดพลาด ติดเชื้อโรคภูมิคุมกันบกพร่อง ได้ยากดภูมิต้านทานก็เสี่ยงต่อการต่อว่าดเชื้อได้ง่ายดายยิ่งกว่าคนเดินดินทั่วไป เช่นเดียวกับคนวัยแก่สุขภาพที่ไม่ดีราวกับคนวัยหนุ่มสาว ถ้าเกิดติดเชื้อตัวเดียวกัน คนสูงอายุอาจมีอาการร้ายแรงกว่า นอกเหนือจากนั้นคนสูงอายุบางทีอาจเป็นโรคอย่างอื่นร่วมด้วย ยกตัวอย่างเช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ถ้ามีสภาวะเหล่านี้ พอเพียงมีปอดอักเสบร่างกายก็จะทรุดเร็วภาวะแทรกซ้อนก็เกิดได้ง่ายมากยิ่งขึ้น อาทิเช่น ขาดออกสิเจนได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น
  • อาการโรคปอดอักเสบ/ปอดบวม ลักษณะโรคปอดอักเสบ/ปอดอักเสบ ผู้ป่วยจะมีลักษณะอาการไอ มักมีเสลด เป็นไข้ เจ็บอก อ่อนแรงง่าย ลักษณะของการมีไข้ มักเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน หรือจับไข้ตัวร้อนตลอดระยะเวลา อาการไอ ในระยะแรกอาจมีอาการไอแห้งๆไม่มีเสมหะ แล้วถัดมาจะมีเสมหะขาวหรือขุ่นข้นออกเป็นสีเหลือง สีเขียว หรือบางรายอาจะเป็นสีสนิมเหล็กหรือมีเลือดปน ลักษณะการเจ็บหน้าอก บางรายอาจมีลักษณะของการเจ็บหน้าอก แบบเจ็บแปลบเวลาหายใจเข้าหรือในขณะที่ไอแรงๆตรงบริเวณที่มีการอักเสบของปอด ซึ่งบางครั้งอาจเจ็บปวดรวดร้าวไปที่หัวไหล่ สีข้าง หรือท้อง แล้วถัดมาจะมีลักษณะอาการหายใจหอบเร็ว อาการหอบอ่อนเพลียผู้เจ็บป่วยมักมีลักษณะหอบอ่อนล้า หายใจเร็ว หากเป็นมากอาจมีอาการปากเขียว ตัวเขียว ส่วนในรายที่เป็นไม่มากอาจไม่มีอาการหอบเหนื่อยกระจ่าง อาการพวกนี้อาจมีไม่ครบทุกอย่าง โดยเฉพาะในคนไข้เด็กตัวเล็กๆๆคนชรา คนเจ็บพิการที่ไม่อาจจะช่วยเหลือตัวเองแล้วก็ติดต่อได้จำกัด ควรสนใจแล้วก็สงสัยมากกว่าปกติ เหตุเพราะอาการอาจกำกวม ดังเช่นว่า ในคนแก่ อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีเพียงแต่มีไข้ หรือตัวอุ่นๆและก็ซึมลงเท่า นั้น บางทีก็อาจจะไอเพียงนิดหน่อย หรือบางทีอาจจะไม่ไอให้เห็นก็ได้ เพราะเหตุว่ามีความจำกัดสำหรับการเคลื่อน ไหว แล้วก็/หรือกล้ามเนื้อไม่มีแรงพอที่จะไอได้อย่างมีคุณภาพ ส่วนอาการแทรกฝึกซ้อมที่บางทีอาจเกิดขึ้นได้ เป็นต้นว่า เกิดฝีในปอด หรือเกิดโรคหนองในเยื่อหุ้มห่อปอด โดยแม้เป็นไม่มากมายก็ใช้วิธีใส่ท่อระบายหนองออก ถ้าเป็นมากอาจถึงขนาดจำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อเอาหนองออก เจาะเยื่อห่อหุ้มปอดออก ในช่วงเวลาที่คนไข้บางรายอาจมีอาการไอเป็นเลือด ถุงลมรั่ว แต่ว่าพบได้น้อย
  • ปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดโรคปอดอักเสบ/ปอดอักเสบ ดังเช่นว่า
  • อายุ ในเด็กเล็กๆรวมทั้งในคนแก่ เพราะร่างกายมีความบกพร่องสำหรับการปกป้องและก็กำจัดเชื้อโรค
  • การดื่มสุรา สูบบุหรี่ และ/หรือรับประทานยาบางจำพวก เช่น ยากดภูมิต้านทาน ยารักษาโรคมะ เร็ง (ยาเคมีบรรเทา) ซึ่งจะทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันยับยั้งโรค และก็การกำจัดเชื้อโรค
  • การมีโรคประจำตัวบางสิ่งดังเช่น โรคถุงลมโป่งพอง โรคมะเร็ง เบาหวาน โรคหัวใจ  โรคไตเรื้อรัง ฯลฯ
  • การไม่รักษาสุขภาพและอนามัย ดังเช่นว่า การขาดอาหาร สุขภาพทรุดโทรม พักอาศัยในสถานที่ที่ไม่มีการถ่ายเทอากาศที่ดีเพียงพอ ในที่ที่มีมลภาวะที่ต้องหายดวงใจรวมทั้งสูดมลพิษเข้าไปในปอด
  • กรรมวิธีรักษาโรคปอดอักเสบ/ปวดบวม การตรวจหาเชื้อต้นเหตุขอโรคปอดอักเสบ[/url]จำเป็นต้องใช้การตรวจทางห้องทดลองและจะต้องใช้เวลาสำหรับเพื่อการตรวจทางห้องทดลอง ซึ่งประกอบด้วย


  • การตรวจ เพื่อวินิจฉัยโรคปอดบวม
  • การตรวจเพื่อประเมิน site of care,
  • การตรวจเพื่อหาเชื้อมูลเหตุ,
  • การตรวจเพื่อ ประเมินโรคประจำตัวของคนป่วย, รวมทั้ง
  • การตรวจเพื่อหา ภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะมีการเกิดขึ้น

ส่วนในด้านการลดอัตราการเสียชีวิต ของคนเจ็บโรคปอดบวม สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การให้ยา ยาปฏิชีวนะที่เหมาะสมรวมทั้งให้อย่างรวดเร็วข้างใน 4 ถึง 6 ชั่วโมง ภายหลังให้การวิเคราะห์รวมทั้งส่งตรวจทางห้องทดลอง ซึ่งขั้นตอนการเลือกใช้ยาปฏิชีวนะ จะพินิจตาม site of care เนื่องจากว่ามีข้อมูลทางระบาดวิทยาว่า เจอเชื้อสาเหตุอะไรได้บ่อยครั้งในผู้ป่วยแต่ละกลุ่ม ซึ่งข้อมูลเชื้อก่อโรคในประเทศไทย จะเหมือนกับทางประเทศอเมริกา ซึ่งวิธีการรักษาปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ประกอบด้วย การให้ยายาปฏิชีวนะชนิดรับประทาน เป็นต้นว่า เพนิซิลลินวี (Penicillin V.) อะม็อกซีซิลลิน (Amoxicillin) หรืออิริโทรมัยสิน (Erythromycin) ฯลฯ (สำหรับกลุ่มวัยรุ่นแล้วก็วัยหนุ่มสาว ควรจะใช้ยาอิริดทรมัยสิน เพื่อครอบคลุมเชื้อไมโคพลาสมานิวโมเนียอี แล้วก็เชื้อคลามัยเดีย นิวโมเนียอี) หรือบางทีอาจให้ยายาปฏิชีวนะทางเส้นเลือดแบบผู้ป่วยใน การรักษาเกื้อหนุนตามอาการธรรมดาดังเช่น การให้ยาลดไข้ การให้สารน้ำทางเส้นเลือด การให้ออกซิเจน การให้อาการเหลวทางสายให้อาหารลงกระเพาะอาหารในรายที่กินอาหารเองไม่เพียงพอ ฯลฯ

  • การติดต่อของโรคปอดอักเสบ/ปอดบวม ระยะติดต่อ สามารถกระจายเชื้อได้ตลอดเวลาที่เป็นโรคจนกระทั่งเสมหะจากปากแล้วก็จมูกจะมีเชื้อไม่ร้ายแรงแล้วก็มีจำนวนไม่มากพอ ส่วนเด็กที่เป็นพาหะของเชื้อโดยไม่แสดงอาการซึ่งพบได้ในสถานเลี้ยงเด็กก่อนวัยเรียนก็สามารถแพร่เชื้อได้เหมือนกัน  โดยเชื้อโรคแล้วก็สารก่อโรคสามารถเข้าสู่ปอดได้โดยทางใดทางหนึ่ง ดังต่อไปนี้  การหายใจนำเชื้อเข้าสู่ปอดโดยตรง โดยการสูดเอาเชื้อโรคที่แพร่กระจายอยู่กลางอากาศในรูปละออกฝอยขนาดเล็ก (จาการไอหรือจามใส่) หรือเชื้อที่อยู่ปกติวิสัย (Normal flora) ในช่องปากและก็คอหอยลงไปในปอด เป็นต้นว่า สเตรปโตค็อกคัส นิวโมเนียอี (Streptococcus pneumonia)  ฮีสูดดมฟิลัส อินฟลูเอนเซ (Haemophilus influenzae) กลุ่มแบคทีเรียที่ไม่พึ่งออกซิเจน – แอนแอโรบส์ (Anaerobes) การสำลัก เป็นกรณีคราวมีเหตุที่เกิดจากการสำลักเอาน้ำรวมทั้งสิ่งแปดเปื้อน (ในผู้ป่วยจมน้ำ) น้ำย่อยในผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อน สารเคมี (ดังเช่น น้ำมันก๊าด เบนซิน) หรือเศษอาหารเข้าไปในปอด ซึ่งพบได้มากได้ในเด็กเล็ก คนแก่ ผู้ป่วยอัมพาต ลมชัก หมดสติ หรือผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์จัด ก็เลยทำให้ปอดอักเสบจากการระคายเคืองของสารเคมีหรือการตำหนิดเชื้อ เรียกว่า “ปอดอักเสบจากการสำลัก” (Aspiration Pneumonia) ซึ่งการอักเสบนอกเหนือจากการที่จะเป็นผลมาจากสารเคืองแล้ว ยงอาจเกิดขึ้นจากเชื้อโรคที่มีอยู่ในช่องปากและก็คอหอยที่ถูกสำลักลงไปในปอดด้วย (ปอดอักเสบที่เกิดจากการสำลักมักเป็นที่ปอดข้างขวามากยิ่งกว่าข้างซ้ายด้วยเหตุว่าหลอดลมข้างขวาหักมุมน้อยกว่าข้างซ้าย)

ในปี พ.ศ.2558 (ค.ศ.2015) สำนักระบาดวิทยา ได้รับรายงานผู้เจ็บป่วยโรคปอดอักเสบ 215,951ราย อัตราเจ็บป่วย 330.06 ต่อประชากรแสนคน เสียชีวิต 486 ราย อัตราตาย 0.74 ต่อพลเมืองแสนคน และก็อัตราป่วยไข้ตายปริมาณร้อยละ 0.23 จากข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่ปี พุทธศักราช2549 – 2558 (คริสต์ศักราช2006 – 2015) อัตราเจ็บป่วย มีลัษณะทิศทางสูงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่อัตราเจ็บไข้ตายมีแนวโน้มต่ำลง โดยผู้เจ็บป่วยเป็นเพศชาย 117,531 ราย เพศหญิง 98,420 ราย อัตราส่วนผู้หญิงต่อผู้ชาย เท่ากับ 1 : 1.2 และก็กลุ่มอายุ 0 – 4 ปี มีอัตราเจ็บไข้สูงสุด รองลงมา คือ กลุ่มวัย 65 ปีขึ้นไป ภาคอีสานอัตราเจ็บป่วยสูงสุด รองลงมา ดังเช่นว่าภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคกึ่งกลาง

  • การปฏิบัติตนเมื่อเป็นโรคปอดอักเสบ/ปอดอักเสบ แนวทางสังเกตกล้วยๆว่าตนเองเป็นโรคปอดอักเสบ/ปอดบวมหรือไม่ คือ เมื่อใดที่เกิดอาการเมื่อยล้า รู้สึกเริ่มหายใจขัด ไม่ทั่วท้อง จำเป็นต้องเอะใจแล้ว หรือถ้าหากมีลักษณะไข้ ไอ มีเสลด คล้ายเป็นหวัด เกิน 3 วันไปแล้วไข้ยังสูงอยู่ เนื่องจากโดยปกติคนเป็นหวัดธรรมดาไม่เกิน 3 วันไข้ก็ลดแล้ว แม้กระนั้นหากเกิน 3 วันไข้ยังสูง มีความคิดว่าไม่ดีขึ้น แล้วก็มีอาการเหน็ดเหนื่อยร่วมด้วย อยู่ในข่ายถูกสงสัยเป็นปอดอักเสบ ควรจะไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย อีกอาการหนึ่งที่ทำให้สงสัยว่ามีลักษณะอาการปอดอักเสบหมายถึงมีลักษณะอาการเจ็บอกร่วมด้วย ซึ่งเรียกว่าเจ็บแบบเยื่อหุ้มปอดอักเสบหมายถึงเจ็บตอนหายใจเข้าลึกๆรวมทั้งเมื่อไปพบแพทย์แล้ว ปรากฏว่าแพทย์วินิจฉัยว่ามีลักษณะอาการ ปอดบวมนิดหน่อย ที่หมอพิเคราะห์ให้รักษาแบบผู้ป่วยนอกได้ หรือกรณีที่เป็นปอดบวมเข้ารับการดูแลและรักษาในโรงพยาบาลแล้ว และก็แพทย์พินิจพิเคราะห์ให้กลับบ้านเพื่อรักษา และพักฟื้นต่อที่บ้าน ควรปฏิบัติตนดังนี้ ควรกินยาต่อตามหมอสั่งอย่างถูกต้อง ครบสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาปฏิชีวนะ ซึ่งไม่ควรหยุดยาเอง รับประทานอาหารให้พอเพียงกับความอยากได้ของร่างกาย เพราะว่าเป็นช่วงๆที่ร่างกายอยากได้พลังงานในการต่อสู้กับโรค รวมทั้งซ่อมบำรุงร่างกายให้ฟื้น ควรจะเอาใจใส่พิจารณาอาการแทรกที่อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีเกิดขึ้น
  • การป้องดันตัวเองจากโรคปอดอักเสบ/ปอดอักเสบ รักษาสุขภาพและอนามัยให้แข็งแรงสมบูรณ์อยู่เป็นประจำตัวอย่างเช่น การทานอาหาร พักผ่อน บริหารร่างกาย ให้เหมาะสมกับภาวะรวมทั้งวัยของท่าน หลีกเลี่ยงสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่างๆได้แก่ การสูบยาสูบ การดื่มสุรา การใช้ยาเสพติด ภาวะทุพโภชนา ควันไฟ ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ หรืออากาศที่หนาวเย็นการงดรวมทั้งเลิก บุหรี่ สุรา แล้วก็สารเสพติด การป้องกันการรับเชื้อโดยการปิดปากแล้วก็จมูกเมื่อจำเป็นต้องสัมผัสผู้เจ็บป่วยที่ไอหรือจาม  รวมทั้งผู้ป่วยที่มีลักษณะไอหรือจาม ควรจะป้องกันการแพร่ระบาดฝอยละอองไปยังคนอื่น ด้วยการปิดปากและจมูกด้วยกระดาษหรือผ้าที่มีไว้สำหรับเช็ดหน้าหรือหน้ากากอนามัย ผู้ที่มีสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยง อาทิเช่น คนสูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว ดังเช่นว่า โรคถุงลมโป่งพอง เบาหวาน โรคหัวใจ  ผู้ได้ยากดภูมิต้านทานต้านทานโรค ยกตัวอย่างเช่น ยารักษาโรคโรคมะเร็ง/ยาเคมีบำบัด

ฯลฯ ควรพิเคราะห์ฉีดวัคซีนคุ้มครองป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ถ้าเกิดมีโรคประจำตัว หรือเมื่อเป็นโรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ ฝึกฝน อีสุกอีใส ฯลฯ ควรจะดูแลรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ

  • สมุนไพรจำพวกไหนที่สามารถช่วยบรรเทา/รักษาโรคปอดอักเสบ/ปอดบวมได้ ฟ้าทะลายขโมย  รสขม เป็นยาครอบจักรวาล คุณประโยชน์กินแก้อาการอักเสบต่างๆแก้ไข้ แก้หวัด แก้ปอดอักเสบ แก้ไอ แก้เจ็บคอ ไม่สมควรรับประทานติดต่อนานเกินเจ็ดวัน ทำให้ตับเย็น  กระเทียม  เป็นยาบำรุงร่างกาย รับประทานเป็นยาแก้อักเสบในอก ในปอด แก้เสมหะ กระเทียมเจ็ดกลีบตำอย่างระมัดระวัง ลายน้ำผึ้งกินติดต่อกันเจ็ดวัน เพื่อขับเสมหะในระบบทางเท้าหายใจ แก้หืดหอบ แก้ไอให้เสลดแห้ง บำรุงปอด แก้ปอดทุพพลภาพ แก้ปอดบวม แก้วัณโรคปอด แก้เสมหะ แก้น้ำลาบเหนียว แก้ริดสีดวงงอก เหง้าขิง  รสเผ็ดร้อนมีนำมันหอมระเหยที่มีประโยชน์ต่อหัวหัวใจ ปอด ไล่เสลด ไล่ลม ให้ความอบอุ่นยามที่หนาวเปียกชื้น กลิ่นหอมยวนใจทำให้หายใจสะดวก ดื่มน้ำขิงอุ่นๆผสมนมร้อนบำรุงร่างกายบำรุงปอด  ขมิ้น  เป็นสมุนไพรเบื้องต้นที่ใช้รักษาอาการอักเสบกับอวัยวะต่างๆมาหลายร้อยพันปี เป็นยาบำรุงปอด สมานแผลอักเสบในปอด
เอกสารอ้างอิง

  • นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ “ปอดอักเสบ/ปอดบวม (Pneumonia)” หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป หน้า 441-445
  • “ปอดอักเสบ”เป็นไข้ ไอ มีเสมหะ เหนื่อยเจ็บหน้าอก.สถานีรามาแชนแนล ขับเคลื่อนสังคมไทยให้สุขภาพดี (ออนไลน์)เข้าถึงได้จาก http://wed.mahidol.ac.th/ramanel ... rhealth-20140910-31
  • นพ.สุรเกียรติ อาชานุภาพ “โรคปอดอักเสบ ในโรคระบบการหายใจ” http://www.disthai.com/[/b]
  • การรักษาโรคปอดบวม.บทความฟื้นฟูวิชาการ.วารสารอายุรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.ปีที่ 1.ฉบับที่ 4.ตุลาคม-ธันวาคม 2558.หน้า 17-29
  • Mandell LA, Wunderink RG, Anzueto A, et al. Infectious Diseases Society of America/American Thoracic Society consensus guidelines on the management of community-acquired pneumonia in adults. Clin Infect Dis 2007; 44 Suppl 2: S27-72.
  • Watkins RR, Lemonovich TL. Diagnosis and management of community-acquired pneumonia in adults. Am Fam Physician 2011; 83: 1299-306.
  • Liapikou A, Torres A. Current treatment of community-acquired pneumonia. Expert Opin Pharmacother 2013; 14: 1319-32.
  • (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ) “ปอดอักเสบ” นิตยสารหมอชาวบ้าน คอลัมน์:สารานุกรมทันโรค เล่มที่306
  • Lim WS, Baudouin SV, George RC, et al. British Thoracic Society guidelines for the management of community acquired pneumonia in adults: update 2009. Thorax 2009; 64 (Suppl 3): iii1-55.
  • Managing CAP: An evidence – based algorithm. The Journal of Family Practice. 2007;56:722-726.
  • Reechaipichitkul W, Lulitanond V, Tantiwong P, Saelee R, Pisprasert V. Etiologies and treatment outcomes in patients hospitalized with community-acquired pneumonia (CAP) at Srinagarind Hospital, Khon Kaen, Thailand. Southeast Asian J Trop Med Public Health 2005; 36: 156-61.
  • Reechaipichitkul W, Lulitanond V, Sawanyawisuth, Lulitanond A, Limpawattana P. Etiologies and treatment outcomes for out-patients with community-acquired pneumonia (CAP) at Srinagarind Hospital, Khon Kaen, Thailand. Southeast Asian J Trop Med Public Health 2005; 36: 1261-7.
  • . Wattanathum A, Chaoprasong C, Nunthapisud P, et al. Community-acquired pneumonia in Southeast-Asia: the microbial different between ambulatory and hospitalized patients. Chest 2003; 123: 1512-9.
  • โรคปอดอักเสบ.สรุปรายงานการเฝ้าระวังโรคประจำปี 2558.สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวจสาธารณสุข.หน้า 101-103
  • สมุนไพรบำรุงปอด.สยามรัฐ.



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ