โรคไข้สมองอักเสบ - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โรคไข้สมองอักเสบ - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร  (อ่าน 22 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
watamon
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 654


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2018, 09:35:46 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


โรคไข้สมองอักเสบ เจอี (Japanese Encephalitis)
โรคไข้สมองอักเสบ เจ อี เป็นอย่างไร ไข้สมองอักเสบ (encephalitis) หมายถึง การอักเสบของเนื้อสมอง หรือเฉพาะที่บางส่วน เนื่องจากว่าเนื้อสมองอยู่ใกล้กับเยื่อหุ้มสมอง จึงบางทีอาจเจอการอักเสบของเยื่อหุ้มสมองร่วมกับการอักเสบของสมองได้ด้วย  โดยโรคไข้สมองอักเสบบางทีอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุส่วนมากชอบเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการติดเชื้อจากเชื้อไวรัส โดยสามารถกำเนิดได้จากเชื้อไวรัสหลายอย่างหรือบางเวลาอาจพบเป็นโรคแทรกซ้อนของโรคฝึก คางทูม ไข้สุกใส แต่ไข้สมองอักเสบชนิดที่อันตราย/รุนแรงที่ทำให้มนุษย์เสียชีวิตได้เป็นโรคไข้สมองอักเสบ เจอี(Japaneseencephalitis, JE) พบบ่อยที่สุดในทวีปเอเชียรวมถึงเมืองไทยและเล็กน้อยของแปซิฟิกตะวันตก ส่วนใหญ่มักจะเจอการเกิดโรคในฤดูฝน แม้กระนั้นในแม้กระนั้นล่ะประเทศจะพบช่วงเวลาที่มีการกำเนิดโรคได้แตกต่างกันซึ่งเจอได้ตลอดทั้งปี โดยในบริเวณแหล่งระบาดมักจะเจอในผู้เจ็บป่วยอายุน้อยกว่า 15 ปี เพราะในคนแก่จะมีภูมิต้านทานอยู่ก่อนแล้ว  แต่แม้เป็นรอบๆที่ไม่เคยเกิดโรคมาก่อนก็จะพบในกลุ่มของคนที่แก่สูงมากขึ้นได้
โรคไข้สมองอักเสบเจอี เป็นโรคที่ก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตและก็เป็นโรคที่รักษายาก ที่สำคัญเมื่อเป็นแล้วมีอัตราการตายสูง แม้รอดตายมักมีความพิการหรือเปลี่ยนไปจากปกติทางสมองตามมา อัตราป่วยตายอยู่ระหว่างจำนวนร้อยละ 20-30 โดยประมาณสองในสามของผู้มีชีวิตรอด จะมีความพิกลพิการหลงเหลืออยู่ ในทวีปเอเชียพบคนป่วยโรคนี้ราวๆปีละ 30,000-50,000 ราย โรคนี้เรียกว่า Japanese ด้วยเหตุว่าสามารถแยกเชื้อได้จากผู้ป่วยในญี่ปุ่นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2468
สิ่งที่ทำให้เกิดโรคไข้สมองอักเสบ เจ อี ด้วยโรคไขสมองอักเสบเจอีเปนโรคที่มีอัตราตาย และความพิกลพิการตามมาสูง ซึ่งสวนใหญมักจะเปนในเด็ก ส่วนเชื้อที่กอโรคไดเอ็ง Japanese encephalitis virus (JEV) ซึ่งเปน arbovirus จัดอยูใน family Flaviviridae, genus Flavivirus โดยมียุงรําติดอยู่ญ Culex tritaeniorhynchus เปนพาหะนําโรค โรคนี้พบในเขตเมืองนอชูวาชนบท มีอัตราตายรอยละ 10-35 แล้วก็มีอัตราการเกิดความพิการ ตามมาสูงถึงรอยละ 30-50 โดยไวรัสจำพวกนี้ถูกศึกษาและทำการค้นพบทีแรกโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นแล้วก็ได้กระจัดกระจายทั่วๆไปทุกภาคและทุกฤดู ซึ่งประเทศที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้สมองอักเสบเจอี อาทิเช่น รอบๆเอเชียใต้ ประเทศอินเดียรวมทั้งศรีลังกา ตลอดจนประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในภาคทิศตะวันออกของประเทศจีน และก็พบได้ในประเทศ ไต้หวัน ประเทศเกาหลี และญี่ปุ่น
ปลายคริสตศตวรรษที่ 18 มีการระบาดใหญ่ของโรคไขสมองอักเสบเจอีในประเทศญี่ปุน โดย ในป พุทธศักราช 2468 สามารถแยกเชื้อไวรัสเจอีไดเปนครั้งแรกจากสมองของผูปวยชายอายุ 19 ปที่มี อาการสมองอักเสบและเสียชีวิตในกรุงโตเกียว ต่อมาสามารถแยกเชื้อไวรัสไดจากยุงหงุดหงิดรำคาญ Culex รวมทั้งมีรายงาน การระบาดของโรคไขสมองอักเสบเจอีในประเทศต่างๆในทวีปเอเชียตามมา ซึ่งนับคือปัญหาที่สําคัญที่สุดในบรรดาโรค สำหรับเมืองไทยเจอการระบาดคราวแรกในป พ.ศ. 2512 ที่จังหวัดเชียงใหมจากนั้นมีการพบผูปวยเรื่อยๆมาและก็มีการระบาดใหญ่เปนครั้งคราว ผู้ปวยโรคนี้สามารถพบไดบอยทางภาคเหนือและก็ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รองลงมาไดแก ภาคกึ่งกลาง แล้วก็ภาคใต
ปจจุบันพบผูปวยโรคไขสมองอักเสบ เจ อี นอยลง เนื่องด้วยมีการฉีดวัคซีนปองกันโรคไขสมอง อักเสบเจอีในเด็กทั้งประเทศ ในป พุทธศักราช 2552 สํานักระบาดวิทยาไดรับรายงานผูปวยโรคไขสมองอักเสบรวมทั้งสิ้น 543 ราย คิดเปนอัตราปวย 0.86 ตอแสนสามัญชน จําแนกเปนโรคไขสมองอักเสบเจอีจํานวน 106 ราย (รอยละ 19.52) คิดเปนอัยี่ห้อปวย 0.17 ตอแสน ราษฎร ไมมีรายงานผูเสียชีวิต  สวนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุนอชูวา 15 ป เจอผูปวยสูงสุดในกลุมอายุ 0-4 ป คิด เปนอัยี่ห้อปวย 1.1       ตอแสนประชาชน รองลงมาเป็น กลุมอายุยง 5-9 ป มากกวา 15 ป รวมทั้ง 10-14 ป โดยมี อัตราปวย 0.3, 0.09 และ 0.08 ตอแสนพลเมืองตามลําดับ กระจายอยู่ทุกภูมิภาคของประเทศ
อาการโรคไขสมองอักเสบ เจ อี   เชื้อไวรัสเจอีนี้ เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะแพร่ไปสู่สมองและก็จะทำลายเนื้อสมองตั้งแต่เล็กน้อยไปตราบจนกระทั่งอย่างมากแตกต่างกันไปในแต่ละคน (Japanese encephalitis virus)  โดยส่วนมากผู้ติดโรคจะไม่มีอาการ มีเพียง 1 ใน 300 คนเท่านั้น ที่จะแสดงอาการ โดยในรายที่ร้ายแรงจะแสดงอาการแบบสมองอักเสบ (encephalitis) โดยมีลักษณะอาการแบงเปน 3 ระยะดังนี้ 1. Prodromal stage ในระยะนี้ผู้ปวยจะมีลักษณะไขสูงรวมกับอาการออนเพลีย ปวดหัว คลื่นไสอาเจียน ตอนนี้จะกินเวลาราว 1-6 วัน 2. Acute encephalitic stage ผูปวยยังคงมี ไข้แล้วก็เริ่มมีอาการเคืองของเยื่อหุมสมอง มีการเปลี่ยนของระดับความรูสึกตัว มีอาการชักเกร็ง สามารถตรวจเจอ pyramidal tract signs, flaccid paralysis รวมทั้งพบ deep tendon reflex ลดลงไดรอยละ 10 อาจพบอัมพาตครึ่งส่วนแล้วก็ความไม่ปกติของเสน ประสาทสมองได ระยะที่ 1 และก็ 2 ของโรคมักกินเวลา ไมเกิน 2 สัปดาห ผูปวยที่มีอาการร้ายแรงมักเสียชีวิต ในช่วงนี้ 3. Late stage and sequele ในระยะนี้ไข้จะลดลง อาการทางสมองจะคงเดิมหรือดียิ่งขึ้น ผูปวยที่เสียชีวิตในตอนนี้มักมีสาเหตุจากโรคแทรกซ้อนซอนที่ตามมา ยกตัวอย่างเช่น ปอดอักเสบ โรคติดเชื้อทางเดินเยี่ยว ติดโรคในกระแสโลหิต ฯลฯ ซึ่งผู้เจ็บป่วยโรคไข้สมองอักเสบ บางรายอาจมีอาการ ความประพฤติเปลี่ยนหรือเป็นอาการทางใจได้ อาการชักมักเป็น แบบชักเกร็งกระตุกทั่วตัว ซึ่งพบได้ทั่วไปมากมายโดย เฉพาะเด็กเล็ก อาจจะมาด้วยนิ้วกระตุก, ตาเข, หรือหายใจผิดจังหวะได้หรืออาจจะมีอาการเหมือน โรคพาร์กินสัน คือมีอาการตัวเกร็ง, หน้าไม่แสดง อารมณ์,มือสั่นและก็เคลื่อนไหวลำบาก
กระบวนการรักษาโรคไข้สมองอักเสบ การวิเคราะห์ การวินิจฉัยอาศัยความเป็นมา การตรวจรางกายแล้วก็การ ตรวจทางหองดำเนินการ การตรวจนับเม็ดเลือดพบได้บ่อยวาจํานวนเม็ดเลือดขาวรวมทั้งคารอยละของนิวโตรฟล มากขึ้นในระดับปานกลางถึงสูงมาก การตรวจน้ำไขสันหลัง สวนใหญจะเจอวาน้ำไขสันหลังมีลักษณะใส ไมมี สีความดันของน้ำไขสันหลังอยูในเกณฑปกติมีเซลล เม็ดเลือดขาวไดตั้งแต 10-1,000 เซลล/ลบ.มิลลิเมตร ซึ่งส่วนใหญเปนชนิดโมโนนิวเคลียรเซลล ในช่วงแรกของโรคบางทีอาจไมเจอเซลลในน้ำไขสันหลังหรืออาจเจอนิวโตรฟลเดนได โปรตีนมักสูงกวาธรรมดาเล็กนอย ระดับน้ำตาลมักอยูในเกณฑปกติเมื่อเทียบกับระดับน้ำตาลในเลือด
การส่งไปเพื่อทำการตรวจวินิจฉัยด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า จะมีประสิทธิภาพสูงยิ่งกว่าการตรวจด้วยเครื่อง เอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์โดยจะเห็นความไม่ดีเหมือนปกติใน ตำแหน่ง thalamus,basalganglia, midbrain, pons, และก็ medullaตามหน้าที่ที่พบร่วมมากมาย ที่สุดเป็นตำแหน่ง thalamus การส่งไปทำการตรวจแยกเชื้อ (serology) ซึ่ง เป็นการวินิจฉัยที่ใช้อยู่ในขณะนี้คือตรวจหาIgM antibodyเฉพาะต่อไวรัสเจอีในนํ้าไขสันหลังและก็ ในเลือด โดยการตรวจพบ JEV-specific IgM antibody ในนํ้าไขสันหลังสามารถช่วยยืนยันการ ติดเชื้อโรคในคราวนี้ได้แต่ว่าหากตรวจเจอJEV-specific IgMantibodyในเลือดอาจเป็นการติดเชื้อหรือขึ้น จากการได้วัคซีนก็ได้ การตรวจหา antibody ในนํ้าไขสันหลัง จะสามารถตรวจพบได้จำนวนร้อยละ 70-90 ในผู้ป่วยที่ ติดเชื้อโรค โดยจะสามารถตรวจเจอได้เมื่อประมาณ วันที่5-8หลังจากเริ่มมีลักษณะ การตรวจหาantibodyในเลือดจะสามารถ ตรวจพบได้ปริมาณร้อยละ60-70 ในคนไข้ที่ติดเชื้อโดย จะสามารถตรวจเจอได้ขั้นต่ำ 9 วันหน้าจาก เริ่มมีลักษณะอาการ ในขณะนี้ยังไม่มีการดูแลรักษาที่จำเพาะ  การดูแลรักษา    เปนเพียงแต่การรักษาตามอาการ ที่สําคัญ คือ ลดอาการบวมของสมอง ดูแลระบบฟุตบาทหายใจ ใหยายับยั้งชัก บางรายบางทีอาจจําเปนตองให mannitol เพื่อควบคุมความดันในกะโหลกศีรษะ และก็คุ้มครองอาการเข้าแทรกตามมา การใช dexamethasone ในขนาดสูงเพื่อลดการบวมของสมองในผูปวยไขสมองอักเสบเจอี พบวาไมสามารถลดอัตราการตายแล้วก็อัตราการฟนจากโรคได มีรายงานจากการศึกษาแบบ controlled clinical trials ขนาดเล็กเกี่ยวกับ Neutralizing murine monoclonal antibodies ซึ่งผลิตในประเทศจีน นํามาใชรักษาผูปวย ไขสมองอักเสบเจอี เจอวาการดูแลและรักษาดังกลาวใหผลของการ รักษาที่  บางรายงายการศึกษาพบว่าได้มีการทดสอบการใช้ยาต้านทาน เชื้อไวรัส ribavirin แต่ว่าไม่เจอความแตกต่างของผล การรักษาของการใช้ยาต้านไวรัสกับยาหลอกและ พบว่าcorticosteroidsแล้วก็interferonalpha2a ไม่ช่วยในเรื่องของการควบคุมอาการและไม่ช่วย ในเรื่องของผลของการรักษา
สิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะก่อกำเนิดโรคไข้สมองอักเสบ เนื่องด้วยเชื้อไวรัส Japanese encephalitis ที่เป็นตัวการของโรคไข้สมองอักเสบ เจอี จะอยู่ในสัตว์เลือดอุ่นหลายแบบ อย่างเช่น หมู แล้วก็ยุงจะเป็นพาหะนำเชื้อจำพวกนี้มาสู่คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมูที่แก่ที่มากขึ้น ตัวสัตว์เองก็จะมีภูมิต้านทานพอควร ฉะนั้น ถ้ามีไวรัสอยู่ในตัวก็จะโดนควบคุมไม่ให้มีจำนวนมาก ส่วนลูกหมูชอบมีภูมิต้านทานไม่ค่อยดี เมื่อโดนยุงกัด แล้วมีเชื้อไวรัส เชื้อไวรัสจะเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างเร็ว ก็จะเป็นแหล่งแพร่ระบาดมาสู่ยุงไปสู่คน  ด้วยเหตุผลดังกล่าวไข้สมองอักเสบเจอี จึงพบได้บ่อยในแหล่งที่มีการเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่มีการเลี้ยงหมูมากไม่น้อยเลยทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น ในต่างจังหวัด และก็รอบๆชานเมือง รวมทั้งมักพบในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม แต่ว่าก็บางทีอาจเจอเล็กน้อยได้ตลอดทั้งปี ผู้ที่มีการเสี่ยงที่จะเป็นโรคไข้สมองอักเสบเจอี ดังเช่นว่า เกษตรกรที่มีอาชีพเลี้ยงหมู ผู้ที่อาศัยอยู่ในต่างจังหวัดในท้องถิ่นที่มีการระบาด ทหารที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติการในแคว้นที่มีการระบาดของโรค ผู้ย้ายที่อยู่ไปอาศัยอยู่ในเมืองนอกที่มีการระบาด
การติดต่อของโรคไข้สมองอักเสบ เจอี เชื้อ JEV (Japanese encephalitis Virus) จัดอยู่ในตระกูลฟลาวิไวรัส (family flaviviridae) สกุลฟลาวิไวรัส (genus flavivirus)อยู่ในกรุ๊ปเดียวกับไวรัสเด็งกี่(Dengue virus)และโรคไข้เหลือง(yellowfever) ด้วยเหตุดังกล่าวเชื้อไวรัสเจอี จึงมีคุณลักษณะเหมือนกับฟลาวิเชื้อไวรัสตัวอื่นๆซึ่งเป็น เชื้อไวรัสที่มีแมลงรับประทานเลือดเป็นพาหะนำ โรคจะติดต่อ ในวงจรจากสัตว์สู่คน โดยมียุงเป็นตัวพาหะนำ เชื้อโรค โดยมีหมูเป็นรังโรคที่สำคัญ หมูที่ติดเชื้อ JE จะไม่มีอาการ แต่มีเชื้อ JE ในเลือด เมื่อยุงไปกัด หมูในระยะนี้เชื้อจะเข้าไปเพิ่มจำนวนในยุง เมื่อ มากัดคนจะแพร่เชื้อไปสู่คน ส่วนสัตว์อื่นๆที่จะติด เชื้อ JEเป็นต้นว่าม้า วัวควายนก แต่สัตว์เหล่านี้เมื่อติดโรคแล้วจะไม่มีอาการมีแต่ว่าม้าและคนเพียงแค่นั้นที่มีลักษณะอาการ เมื่อได้รับเชื้อ แล้วโดยประมาณ 1 ใน 300-500 ของผู้ติดเชื้อโรคจะมี อาการสมองอักเสบ หมูมีความจำเป็นในวงจรการ แพร่ของโรค ด้วยเหตุว่าจะมีเชื้ออยู่ในกระแส เลือดได้เป็นเวลานานกว่าสัตว์อื่นๆจึงจัดว่าเป็นamplifier ที่เป็นรังโรคที่สำคัญ ยุงที่เป็นพาหะเป็นประเภท Culex tritaeniorhynchus  Culex golidus , Culex fascocephalus ยุงเหล่านี้เพาะพันธุ์ใน ท้องทุ่งที่มีนํ้าขัง จำนวนยุงจะเพิ่มมากในฤดูฝน ยุงตัวเมียสามารถถ่ายทอดเชื้อผ่านรังไข่ไปสู่ลูกยุงได้ ซึ่งมีระยะฟักตัวในยุงโดยประมาณ 9-12 วัน ยุงเหล่านี้จะออกมากัดกินเลือดในช่วงเย็นหรือ ช่วงคํ่า หมูรวมทั้งนกนํ้า อย่างเช่น นกกระสา นกกระยาง เป็นรังโรคที่สำ คัญเนื่องด้วยจะมีเชื้อในการแส เลือดได้นานแล้วก็มีการเพิ่มจำนวนเชื้อได้สูง ซึ่งใน ประเทศไทยประชากรจำนวนมาก ดำรงชีพเกษตรกรรมและมีปริมาณของการ เลี้ยงหมูปริมาณมากดังนั้นจึงเพิ่มความเสี่ยงสำหรัโรคไข้สมองอักเสบ[/url]มากตามมา
การกระทำตนเมื่อมีอาการป่วยเป็นโรคไข้สมองอักเสบ เจอี

  • กินยาตามแพทย์สั่ง แล้วก็ประพฤติตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
  • รักษาสุขภาพของร่างกายให้สะอาดอยู่เป็นประจำเพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อน
  • ไปพบหมอดังที่หมอนัดหมายให้ตามกำหนด
  • เมื่อพบว่าอาการไม่ดีขึ้นหรืออาการทรุดลง ภายหลังจากรับประทานยาที่หมอสั่งให้รีบไปพบหมอโดยด่วน
  • ใช้ยาทากันยุงแล้วก็นอนในมุ้งเพื่อปกป้องการกระจายเชื้อให้กับคนที่อยู่รอบตัว
  • ทานอาหารที่มีคุณประโยชน์ครบ 5 หมู่ รวมทั้งออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การปกป้องคุ้มครองตัวเองจากโรคไข้สมองอักเสบ เจอี

  • ผู้ที่มีไข้ตัวร้อนควรจะไปพบหมอโดยทันที เมื่อมีลักษณะอาการกลุ่มนี้ร่วมด้วย อาทิเช่น ปวดศีรษะร้ายแรง รับประทานยาพาราแล้วไม่ทุเลา คลื่นไส้มาก มีลักษณะชักร่วมด้วย ซึม ไม่ค่อยรู้สึกตัว หรือสลบ แขนขาเป็นอัมพาต ปากเบี้ยว กลืนทุกข์ยากลำบาก หรืออ้าปากตรากตรำ (ขากรรไกรแข็ง) หรือก้มคอไม่ลง (คอแข็ง)
  • ควรกำจัดยุงรวมทั้งแหล่งเพาะพันธุ์ของยุง
  • เมื่อมีการระบาดของโรคไข้สมองอักเสบ เจอี ควรยินยอมให้เจ้าหน้าที่ฉีดยาทำลายยุงในบริเวณพื้นที่ เกิดการระบาดของโรคโดยการพ่นสารเคมีเพื่อฆ่ายุงตัวแก่
  • ป้องกันไม่ให้ยุงกัด โดยนอนกางมุ้ง หรือติดมุ้งลวดในบ้านและก็ตามห้องต่างๆ
  • ย้ายคอกสัตว์ เป็นต้นว่า หมู โค ควาย ให้ห่างจากแหล่งที่อยู่ที่อาศัย เพื่อลดการเสี่ยงของรังโรค
  • ฉีดวัคซีนคุ้มครองโรคไข้สมองอักเสบ
  • แนวทางที่ดีที่สุดเวลานี้ เช่นการฉีดวัคซีนคุ้มครองป้องกันโรคนี้ให้แก่เด็กๆของเราก่อนที่จะติดเชื้อเองตามธรรมชาติ
  • วัคซีนคุ้มครองโรคไข้สมองอักเสบเจอี (JEV) เริ่มมีการพัฒนามาตั้งแต่ปี พ.ศ.2473 ในประเทศรัสเซียแล้วก็ประเทศญี่ปุ่น ต่อมาได้เพิ่มวิธีการทำให้วัคซีนบริสุทธิ์ขึ้นเพื่อคุ้มครองป้องกันผลเข้าแทรกจากการแปดเปื้อนของเนื้อเยื่อสมองหนู แล้วก็ได้รับการพัฒนาต่อเรื่อยมาจนกระทั่งมีใช้กันอย่างมากมายในตอนนี้
  • ส่วนในประเทศไทยซึ่งเป็นแหล่งระบาดของ เชื้อนั้น มีการฉีดยาเพื่อคุ้มครองปกป้องโรค ตั้งแต่ปี 2533 โดยเริ่มต้นในภาคเหนือ รวมทั้งค่อยๆขยาย ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ ตั้งแต่ พ.ศ. 2543 โดย ให้วัคซีนแก่เด็กอายุ 1 ปีครึ่ง ถึง 2 ปีคนละ 2 ครั้งแล้วก็กระตุ้น 1 ครั้ง เมื่ออายุ2 ปีครึ่ง ถึง 3 ปี วัคซีนที่ใช้เป็นประเภทเชื้อตาย (JE SMBV: mouse brain-derivedinactivatedJEvaccine)วัคซีน คุ้มครองป้องกันไข้สมองอักเสบเจอีที่จดทะเบียนและก็ ในประเทศไทยปัจจุบันมี2ชนิดอย่างเช่น (1.) วัคซีนชนิดเชื้อตายที่เพาะเชื้อในสมอง หนู(suckling mouse brain vaccine หรือ SMBV) (2.) วัคซีนจำพวกเชื้อมีชีวิตอ่อนฤทธิ์ (SA 14–14–2) ที่เพาะเชื้อในเซลล์เพาะเลี้ยง เป็นวัคซีน ใหม่ที่เพิ่งจะขึ้นทะเบียนในประเทศไทยปีพุทธศักราช2550

สมุนไพรที่ใช้ปกป้องตนเองจากโรคไข้สมองอักเสบ เอจี โรคไข้สมองอักเสบ เจอี เป็นโรคที่ยังไม่มียารักษาเฉพาะการรักษายังต้องใช้การรักษาแบบประคับประคอง รักษาตามอาการ ด้วยเหตุนั้นจึงไม่มีสมุนไพรชนิดไหนที่สามารถรักษาได้ เพียงแค่มีสมุนไพรซึ่งสามารถช่วยคุ้มครองป้องกันการเกิดโรคไข้สมองอักเสบ เจอี ได้ไพเราะเพราะพริ้งไข้สมองอักเสบ เจอี นั้นมียุงเป็นพาหนะนำเชื้อ เพราะฉะนั้นสมุนไพรที่ช่วยปกป้องโรคจำพวกนี้นั้น จึงเป็นสมุนไพรที่ใช้ไล่ยุงต่างๆได้แก่
พืชกรุ๊ปสกุล (genus) Cymbopogon
ตะไคร้หอม (Cymbopogon nardus (L.) Rendle) มีการเรียนรู้ฤทธิ์ไล่ยุงของตำรับน้ำมันตะไคร้หอม (citronella oil) ที่มีส่วนประกอบที่สำคัญคือ citronella, geraniol รวมทั้ง citronellol ในรูปแบบของครีม พบว่าตำรับที่มีน้ำมันตะไคร้หอม 17% ป้องกันยุงลายได้นานโดยประมาณ 3 ชั่วโมง ครีมที่มีน้ำมันตะไคร้หอม 14% ลดจำนวนยุงหงุดหงิดรำคาญที่มาเกาะด้านใน 1 ชั่วโมงข้างหลังทาครีม ยิ่งกว่านั้นสารสกัดเอทานอลของตะไคร้หอมผสมกับน้ำมันที่สกัดจากมะกอกสามารถไล่ยุงลายและก็ยุงหงุดหงิดได้นาน 2 ชั่วโมง ครีมที่มีน้ำมันหอมระเหยจากใบตะไคร้หอมที่ความเข้มข้น 1.25, 2.5 และก็ 5.0% คุ้มครองปกป้องยุงก้นปล่องได้ประมาณ 2 ชั่วโมง ในตอนที่ความเข้มข้น 10% ให้ผลได้ยาวนานกว่า 4 ชั่วโมง
ตะไคร้ (Cymbopogon citratus (DC.) Stapf) น้ำมันตะไคร้ (lemongrass oil) ใน liquid paraffin ความเข้มข้น 20 แล้วก็ 25% มีผลคุ้มครองยุงลายได้ 100% ใน 1 ชั่วโมงแรก รวมทั้งน้อยลงเหลือเกิน 95% ด้านใน 3 ชั่วโมง การเตรียมผลิตภัณฑ์น้ำมันตะไคร้ 15% ในรูปของครีมรวมทั้งขี้ผึ้งพบว่าให้ผลป้องกันยุงกัดได้ โดยคุณสมบัติขององค์ประกอบของผลิตภัณฑ์มีผลต่อการปลดปล่อยน้ำมันหอมระเหย รวมทั้งส่งผลต่อคุณภาพสำหรับการป้องกันยุงด้วย น้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้ที่มี geraniol จำนวน 0.2 มิลลิกรัม/ซึม2 สามารถลดอัตราการกัดจากยุงอารมณ์เสีย เป็น 10, 15 รวมทั้ง 18% ที่เวลา 1, 2 และก็ 3 ชั่วโมงตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับการไม่ได้ทาน้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้ สบู่อาบน้ำที่มีส่วนประกอบของน้ำมันตะไคร้หอม 0.1% น้ำมันตะไคร้ 0.5% และก็น้ำมันสะเดา 1% สามารถไล่ยุงได้ในตอน 8 ชั่วโมง
พืชกรุ๊ปสกุล (genus) Ocimum
น้ำมันหอมระเหยจากพืชกลุ่มนี้ 5 ประเภท ดังเช่น แมงกะแซง (O. americanum L.) โหระพา (O. basilicum L.) แมงลัก (O. africanum Lour. ExH) ยี่หร่าหรือโหระพาช้าง (O. gratissimum L.) รวมทั้งกะเพรา (O. tenuiflorum L.) พบว่ามีฤทธิ์ทั้งฆ่าลูกน้ำและไล่ยุงลายได้ ฤทธิ์ฆ่าลูกน้ำยุงลายของน้ำมันหอมระเหย เรียงลำดับดังนี้ โหระพา > ยี่หร่า> กะเพรา > แมงลัก = แมงกะแซง โดยมีค่าความเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหยที่ได้ผลปกป้องยุงได้ 90% (EC90) เท่ากับ 113, 184, 240, 279 และ 283 ppm ตามลำดับ สำหรับฤทธิ์ไล่ยุงของน้ำมันหอมระเหยที่ความเข้มข้น 10% พบว่า โหระพาช้างมีฤทธิ์แรงที่สุด ปกป้องยุงกัดได้นาน 135 นาที รองลงมาเป็น ใบกะเพรา และก็แมงลัก ที่คุ้มครองป้องกันยุงกัดได้นาน 105 และ 75 นาที ตามลำดับ ในตอนที่แมงกะแซง และก็โหระพาให้ผลน้อยที่สุดเพียงแต่ 15 นาที
พืชกรุ๊ปสกุล (genus) Citrus
มะกรูด (Citrus hystrix DC.) น้ำมันหอมระเหยจากมะกรูดมีฤทธิ์คุ้มครองยุงได้นาน 95 นาที และก็ตำรับยาใช้ภายนอกกันยุงที่มีน้ำมันมะกรูดความเข้มข้น 25 รวมทั้ง 50% สามารถไล่ยุงได้นาน 30 รวมทั้ง 60 นาที ตามลำดับ น้ำมันหอมระเหยผสมจากมะกรูด 5% และจากดอกชิงเฮา (Artemisia annua L.) 1% คุ้มครองป้องกันยุงลาย ยุงก้นปล่อง และยุงหงุดหงิดรำคาญได้นาน 180 นาที ในห้องทดลอง ในความเข้มข้นเดียวกันสามารถคุ้มครองปกป้องยุงลาย แล้วก็ยุงเสือ ได้ 180 นาที รวมทั้งยุงหงุดหงิดได้นานถึง 240 นาทีในภาคสนาม
มะนาวฝรั่ง (Citrus limon (L.) Burm.f.) น้ำมันหอมระเหยจากมะนาวฝรั่งมีฤทธิ์ไล่ยุงก้นปล่องได้ 0.88 เท่าของสารเคมีสังเคราะห์ N,N-diethyl-3-methylbenzamide
เว้นเสียแต่สมุนไพรที่ได้กล่าวมาแล้ว ยังมีสมุนไพรอื่นๆที่มีการเรียนรู้ฤทธิ์สำหรับเพื่อการคุ้มครองป้องกันยุง ดังเช่น ข่า ไพล ขึ้นฉ่าย ว่านน้ำ กานพลู หนอนตายหยาก ดอกกระดังงาไทย สารปรปักษ์ทรัม (pyrethrum) แล้วก็ไพรินทริน (pyrethrins) ที่เจอได้ในพืชเครือญาติดอกเบญจมาศ (chrysanthemum flowers) ฯลฯ
เอกสารอ้างอิง

  • รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ.ไข้สมองอักเสบ จากเชื้อไวรัส เจอี.นิตยสารหมอชาวบ้าน.เล่มที่ 174.คอลัมน์ แนะยา-แจงโรค.ตุลาคม.2536
  • Halstead SB, Jacobson J. Japanese encephalitis vaccines. In: Plotkin SA, Orenstein WA, Offit PA, editors. Vaccines. 5th ed. Elsevier Inc.; 2008. p.311-52. http://www.disthai.com/[/b]
  • Thisyakorn U, Thisyakorn C. Japanese encephalitis. In: Dupont HL, Steffen R, editors. Textbook of Travel Medicine and Health. 2nd ed. Hamilton: B.C. Decker Inc.; 2001. p.312-4.
  • นศ.พ.เฉลิมเกียรติ สุวรรณเทน.รศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า. Japanese Encephalitis. วารสารสมาคมประสาทวิทยาศาสตร์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.ปีที่ 6.ฉบับที่4.ตุลาคม-ธันวาคม 2554.หน้า 93-100
  • Thisyakorn U, Thisyakorn C. Diseases caused by arboviruses: dengue haemorrhagic fever and Japanese B encephalitis. Med J Aust. 1994;160:22-6.
  • โอฬาร พรหมาลิขิต.วัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบเจอี.ตำราวัคซีน.สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย.หน้า 127-135
  • Thisyakorn U, Nimmannitya S. Japanese encephalitis in Thai children, Bangkok, Thailand. Southeast Asian J Trop Med Public Health. 1985;16:93-7.
  • กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. โครงการเสริมภูมิคุ้มกันโรคและวัคซีนไข้ สมองอักเสบเจอีในประเทศไทย. ประจำปี Available from:
  • Thisyakorn U, Thisyakorn C. Studies on Flaviviruses in Thailand. In: Miyai K, Ishikawa E, editors. Progress in Clinical Biochemistry: Proceedings of the 5th Asian-Pacific Congress of Clinical Biochemistry; 1991 Sept 29-Oct 4; Kobe, Japan. Amsterdam: Excerpta Medica; 1992. p.985-7.
  • อุษา ทิสยากร, สุจิตรา นิมมานนิตย. Viral meningitis และ encephalitis ในเด็ก. วารสารโรคติดเชื้อ และยาตานจุลชีพ. 2528;2:6-10.
  • สุจิตรา นิมมานนิตย, อุษา ทิสยากร, อนันต นิสาลักษณ, Hoke CH, Gingrich J, Leake E. Outbreak of Japanese encephalitis-Bangkok Metropolis. รายงาน การเฝาระวังโรคประจําสัปดาห. 2527;15:573-6.
  • นพ.คำนวน อึ้งชูศักดิ์.โรคไข้สมองอักเสบจากไวรัสเจอี ถึงจะร้ายแต่ก็ป้องกันได้.นิตยสารหมอชาวบ้าน.เล่มที่108.คอลัมน์กันไว้ดีกว่าแก้.เมษายน.2531
  • สำนักระบาดวิทยา.สรุปรายงานการเฝ้าระวัง โรคประจำปีนนทบุรี:สำนักระบาดวิทยา กองควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข; รายปี2552: 21-23.
  • สมบุญ เสนาะเสียง, อัญชนา วากัส, ฐิติพงษ์ ยิ่งยง. Situation of encephalitis and Japanese B Encephalitis, Thailand, 2009. Weekly Epidemiological Surveillance Report. 2010;41:33-5.
  • อุษา ทิสยากร. ไขสมองอักเสบจากเชื้อไวรัส แจแปนนิส. ใน: อุษา ทิสยากร, จุล ทิสยากร, บรรณาธิการ. กุมารเวชศาสตรเขตรอน. กรุงเทพฯ: ดีไซร จํากัด; 2536. น.89-97
  • วรรณี ลิ่มปติกุล, อุษา ทิสยากร. การติดเชื้อ Japanese Encephalitis Virus ที่โรงพยาบาลสงขลา. วารสารวิชาการเขต 2541;9:65-71.
  • Weekly epidemiological record. Japanese Encephalitis. 2015;90:69-88.
  • อ.นพ.วินัย รัตนสุวรรณ.โรคไข้สมองอักเสบ.บทความความรู้สู่ประชาชน.ภาควิชาอาย



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ