Advertisement
ในการใช้สอยงานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ นั้น กิจกรรมหนึ่งที่ถือว่ามีความเด่น ก็คือ การชาร์จแบต
โดยปกติเมื่อพูดถึงการชาร์จแบต เราคงนึกถึงการนำสายกระแสไฟสำหรับวัสดุอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นั้นเชื่อมเข้ากับปลั๊กไฟฟ้าบ้าน ซึ่งการที่จะทำการชาร์จกระแสไฟฟ้าได้ ที่นั้นจะต้องเป็นที่ๆ มีปลั๊กไฟฟ้าบ้านเท่านั้น แถมกาลเวลาที่เราชาร์จแบต เราก็จำต้องวางโทรศัพท์มือถือไว้ในที่ใกล้กับปลั๊กกระแสไฟ จะย้ายไปตรงอื่นก็ไม่ได้ ทำให้ขาดความสะดวกในการใช้งาน ผู้ผลิตหลายรายในสมัยปัจจุบัน จึงได้สร้างระบบการชาร์จกระแสไฟฟ้าแบบ Wireless Charger หรือการชาร์จแบบไร้สายขึ้น พอให้การชาร์จแบตเตอรี่เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์เป็นไปอย่างความเป็นอิสระมากขึ้น แต่ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อย ที่คลางแคลงกับระบบการชาร์จแบบ Wireless Charger ว่าจะได้ผลดีเท่ากับการชาร์จกระแสไฟฟ้าบ้านหรือเปล่า แล้วจะเป็นเหตุให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้รับความพังหรือไม่ ในบทความนี้ เราจะมาอ้างอิงถึงใจความนี้กัน
Wireless Charger หรือการชาร์จแบบไร้สายนี้ มีหลักทำงานที่ค่อนข้างแตกต่างไปจากการชาร์จแบบเชื่อมกระแสไฟฟ้าบ้านปกติ กล่าวคือ ในกรณีที่เราเอาสายชาร์จมาเชื่อมเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์เข้ากับไฟฟ้าบ้าน สายชาร์จจะดำเนินการเสมือนกับท่อ ที่นำกระเสกระแสไฟฟ้าฟ้าเข้าสู่ตัวเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์โดยตรง แต่ Wireless Charger มีหลักการทำงานคือ ตัวของมันจะประกอบด้วยเครื่องมือ 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ต่อเข้ากับปลั๊กไฟฟ้าบ้าน ส่วนนี้เมื่อนำไปเสียปลั๊ก มันจะหน่วงเอากระแสไฟฟ้ามาแปลงให้มีลักษณะเป็นสนามแม่เหล็ก กับอีกส่วนหนึ่งคือส่วนเพื่อวางตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ส่วนนี้จะดำเนินการเหนี่ยวนำสนามแม่เหล็กเข้ามาในตัว แล้วเปลี่ยนรูปให้เป็นกระแสกระแสไฟฟ้าฟ้าเพื่อชาร์จวัสดุอุปกรณ์นั้นอีกทีหนึ่ง ซึ่งระยะการสะพัดสนามแม่เหล็กนั้นมีพื้นที่กว้างอยู่พอสมควร ด้วยเหตุนี้เราจึงสามารถโยกย้ายวัสดุอุปกรณ์ของเราไปยังจุดต่างๆ ได้ โดยที่ไม่หลุดจากสถานะชาร์จ ขอแค่อยู่ในเขตพื้นที่ของสนามแม่เหล็กก็พอ
เมื่อหลักการทำงานของ Wireless Charger มีความแตกต่างจากการเสียบสายชาร์จเช่นนี้ เป็นเหตุให้ความสามารถการชาร์จนั้นมีความต่างกันด้วย โดย Wireless Charger จะมีอัตราการชาร์จที่ต่ำกว่า และใช้ระยะเวลานานกว่าการชาร์จแบบเสียบสาย เนื่องด้วยในวิธีการเหนี่ยวนำสนามแม่เหล็กนั้น จะเกิดการสูญเสียพลังงานไปบางส่วน ทำให้กระแสกระแสไฟฟ้าไม่เข้ามาที่เครื่องมือ 100% เหมือนอย่างกาลชาร์จด้วยสายไฟฟ้า เพราะฉะนี้ การชาร์จแบบ Wireless Charger จึงใช้งานเวลานานกว่า ถ้าเปรียบเทียบเคียงง่ายๆ การชาร์จด้วยสายเสียบโดยตรง อาจใช้สอยระยะเวลา 2-3 นาทีเชื่อม 1% แต
ที่ชาร์จไร้สาย[/url] อาจใช้งานเวลาชาร์จ 6-7 นาทีต่อ 1% ก็ได้ และหากเราชาร์จไปด้วย ใช้งานวัสดุอุปกรณ์ไปด้วย ความเอนเอียงที่ผลรวมแบตเตอรี่จะลดน้อยลงระหว่างการชาร์จด้วย Wireless Charger จะมียิ่งกว่าการชาร์จด้วยสาย ที่หากเล่นไปด้วย ชาร์จไปด้วย จะลดน้อยลงอย่างมากสุดแค่ 1-2% เท่านั้น เว้นแต่ว่าจะเล่นหนักจริงๆ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกันแล้ว โทรศัพท์ที่ชาร์จด้วย Wireless Charger หากชาร์จไปด้วยเล่นไปด้วย แบตเตอรี่อาจเบาลงเหลือจำนวนรวมน้อยกว่าตอนก่อนชาร์จถึง 4-5% เลยทีเดียว ส่วนโทรศัพท์ที่ชาร์จด้วยสายปกติ อาจมีจำนวนแบตคงที่เท่ากับตอนก่อนชาร์จ หรือเพิ่มขึ้นมา 4-5% ก็ได้
การชาร์จด้วย Wireless Charger จึงดูเหมือนว่าได้ผลรวมแบตเตอรี่น้อยกว่า แม้กระนั้น ข้อดีของการชาร์จด้วยวิธีนี้ก็ยังมีอยู่ ดังต่อไปนี้
- ไม่มีปัญหาเรื่องกระแสไฟฟ้าตก กระแสไฟฟ้ากระชาก เนื่องมาจากการชาร์จด้วย Wireless Charger ไม่ได้นำเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์เข้าไปต่อกับไฟฟ้าบ้านโดยตรง แต่ใช้วิธีแปลงกระแสกระแสไฟฟ้าเป็นสนามแม่เหล็ก เพราะฉะนั้นต่อให้ไฟฟ้าจะตก ไฟฟ้าจะกระชาก สนามแม่เหล็กนั้นก็จะไม่เกิดความแปลงแปลง เป็นเหตุให้โทรศัพท์ได้รับกระแสไฟฟ้าฟ้าสม่ำเสมอ ไม่เกิดอุปสรรคแบตพัง หรือเสื่อมคุณภาพเพราะการชาร์จ ในขณะที่การชาร์จแบบเสียบปลั๊กปกติ เมื่อเกิดปัญหากระแสไฟตก กระแสไฟฟ้ากระชาก ตัวอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จะได้รับผลกระทบไปด้วย และทำให้เกิดตัวปัญหาแบตเตอรี่เสื่อม
- ไม่ทำให้ตัวเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์เกิดความร้อน เนื่องมาจากกระแสกระแสไฟฟ้าที่ผ่านเข้าสู่เครื่องจากการชาร์จด้วย Wireless Charger มีปริมาณไม่มาก เป็นเหตุให้การก่อเกิดเดโชนั้นไม่มากตามไปด้วย ในขณะที่การชาร์จด้วยสายไฟฟ้าปกติ จะทำให้เกิดความร้อนในเครื่องมาก ยิ่งถ้าชาร์จไปด้วย ใช้สอยงานไปด้วย ก็จะทำให้เครื่องยิ่งร้อน และส่งผลลัพธ์ให้อุปกรณ์นั้นมีอายุการใช้งานสั้นลง
- ไม่มีสายมาเป็นเครื่องกีดขวางระหว่างการใช้งาน แม้เราจำเป็นจะต้องเคลื่อนย้ายโทรศัพท์ไปไว้ที่อื่นใกล้ตัว เราก็สามารถชาร์จแบตได้ตลอดเท่าที่ต้องการ ต่างจากการชาร์จแบบใช้สอยสาย ที่เราต้องเสียบแล้ววางทิ้งไว้ตรงนั้นเลย เป็นเหตุให้ใช้สอยงานได้ไม่สะดวก อีกทั้งหากเราวางโทรศัพท์ชาร์จทิ้งไว้ ย่อมเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรม และสูญหายได้
กล่าวโดยสรุป การชาร์จแบตเตอรี่ด้วย Wireless Charger เป็นรูปแบบการชาร์จใหม่ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างมาก ไม่ต้องมีสายชาร์จมาเกะกะให้รำคาญใจ สามารถใช้งานงานเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างความเป็นอิสระ แต่ก็มีข้อเสียคือให้กระแสไฟฟ้าน้อย ชาร์จได้ช้า เนื่องจากเกิดการเสียพลังงานในวิธีการแตกต่างๆ ไปมาก เพราะฉะนั้น Wireless Charger จึงเหมาะกับผู้ที่ใช้สอยเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์แบบเรื่อยๆ สบายๆ ไม่ต้องการผลรวมแบตเตอรี่อย่างเร่งด่วนในกาลเวลาจำกัด แต่ถ้าเกิดว่าท่านเป็นผู้ที่ต้องการแบตจำนวนมากๆ เช่น ก่อนชาร์จเลือก 10% อยากจะให้จำนวนรวมแบตเพิ่มขึ้นมาที่ 40-50% ในกาลภายใน 20 นาทีละก็ ขอแนะนำให้เสียบเข้ากับกระแสไฟฟ้าบ้าน เพื่อได้ปริมาณแบตเตอรี่ตามที่ประสงค์มาก่อน แล้วค่อยใช้งาน Wireless Charger เพื่อประคองจำนวนแบตเตอรี่ไม่ให้ตกลงจะดีกว่า
ขอขอบคุณ
บทความ wireless charger: https://www.dotlife.store/mobile-accessory/wireless-charger.html, https://www.dotlife.store/
รีวิว wireless charger จาก Pantip: www.pantip.com
Tags : ที่ชาร์จไร้สาย
