ความปลอดภัยกระแสไฟฟ้า

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ความปลอดภัยกระแสไฟฟ้า  (อ่าน 25 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Keekayr1200gs
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13292


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: พฤษภาคม 22, 2018, 02:22:20 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

การทำงานหรือดำเนินงานกับไฟฟ้าถือเป็นงานที่ก่อให้เกิดอันตรายสูง ด้วยเหตุว่ามองไม่เห็นว่ามีไฟฟ้าไหม รวมถึงการปฏิบัติงานที่อาจบกพร่อง ผิดขั้นตอน และก็ยังอาจมีผู้ร่วมดำเนินงานด้วยหลายชิ้น ซึ่งการผิดพลาดของคนหนึ่งอาจจะเป็นผลให้อีกคนหนึ่งเป็นอันตรายที่ร้ายแรงได้ รวมทั้งยังไม่มีมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานให้ใช้งาน ปัจจุบันนี้มีร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานสำหรับเพื่อการบริหาร จัดการ รวมทั้งดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมสำหรับเพื่อการดำเนินงานเกี่ยวกับไฟฟ้า ซึ่งจะประกาศใช้ในเร็วๆนี้ ในร่างกฎกระทรวงฯ ได้อ้างอิงถึงมาตรฐานของสโมสรวิศวกรรมสถานที่ที่ประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ที่เกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติงานกับไฟฟ้าไว้หลายส่วนร่วมกัน ดังนั้น วสทก็เลยได้จัดทำเป็นมาตรฐานฯขึ้นใช้ชื่อว่า มาตรฐานความปลอดภัยทางไฟฟ้าในสถานที่ทำงาน รวมทั้งเมื่อกฎกระทรวงฯ มีผลบังคับใช้ก็จะมีมาตรฐานฯ ของ วสท. รองรับให้สถานประกอบการแล้วก็ผู้ที่เกี่ยวข้องใช้อ้างอิง ปัจจุบันมาตรฐานความปลอดภัยฯ ผ่านวิธีการทำประชาพิจารณ์เพื่อขอความเห็นชอบจากผู้เกี่ยวข้องแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจดูหนสุดท้ายแล้วก็พิมพ์เป็นรูปเล่ม
 ด้วยเหตุว่ามาตรฐานฯ เป็นการเขียนในลักษณะของกฎระเบียบ ก็เลยบางทีอาจต้องตีความหมายและก็ทำความเข้าใจ และก็อาจไม่ตรงกันได้ แม้กระนั้นโดยหลักการของการใช้มาตรฐานฯ ทุกหัวข้อนั้น ผู้ใช้มาตรฐานฯ จะต้องเป็นบุคคลที่ผ่านการฝึกอบรมรวมทั้ง/หรือมีความรู้ในมาตรฐานฯ อย่างดีเยี่ยมแล้วเท่านั้น และกรณียังไม่แน่ใจต้องขอความเห็นผู้ที่มีความชำนาญเพื่อขอความเห็น คนเขียนในฐานะประธานแผนกอนุกรรมการจัดทำมาตรฐานความปลอดภัยทางไฟฟ้าในที่ทำงาน จึงได้เอามาตรฐานมาเผยแพร่รวมทั้งเพิ่มคำอธิบายไว้ด้วยเพื่อความเข้าใจและนำไปปฏิบัติได้อย่างแท้จริง โดยส่วนที่เป็นรายละเอียดของมาตรฐานฯ จะใช้เป็นตัวอักษรบนพื้นสีเทา
ส่วนประกอบของมาตรฐาน
 มาตรฐานความปลอดภัยฯ ประกอบด้วยเนื้อเรื่องจำนวน 3 บทคือ บทที่ 1 ข้อควรกระทำการทำงานด้วยความปลอดภัย บทที่ 2 ขัอกำครั้งดการบำรุงรักษาที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย และ บทที่ 3 ข้อกำหนดสิ่งที่จำเป็นความปลอดภัยสำหรับเครื่องมือพิเศษ ดังที่แสดงในรูปที่ 2
 ขอบเขต ในบทนี้ครอบคลุมรายละเอียด ข้อปฏิบัติ แล้วก็กฎเกณฑ์การทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้าด้วยความปลอดภัย สำหรับพนักงานที่ดำเนินการกับตัวนำหรือองค์ประกอบของวงจรที่มีไฟและไม่มีการปิดหุ้ม หรือดำเนินการบริเวณใกล้เคียงกับส่วนที่มีไฟฟ้าภายในสถานที่ทำงาน ซึ่งนายจ้างและพนักงาน ต้องนำหลักเกณฑ์ในบทนี้ไปปรับใช้ แต่ว่าอย่างไรก็ตาม วงจรไฟฟ้าและเครื่องใช้ไม้สอย ซึ่งขอบเขตของมาตรฐานนี้มิได้เอ๋ยถึง ก็บางทีอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อพนักงานผู้ซึ่งไม่มีคุณสมบัติซึ่งเข้าไปทำงานใกล้กับรอบๆนั้นได้เหมือนกัน เจ้านายและก็ผู้ปฏิบัติการก็ต้องระวังและมีมาตรการที่สมควรด้วย หลักเกณฑ์ต่างๆที่กำหนดในบทนี้ มีไว้เพื่อคุ้มครองป้องกันไม่ให้พนักงานผู้ไม่มีคุณสมบัติเป็นอันตรายดังที่กล่าวถึงมาแล้วด้วย เป้าประสงค์ เพื่อเป็นการทำให้สถานที่ปฏิบัติการมีความปลอดภัยสำหรับผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวเนื่องกับอันตรายจากกระแสไฟฟ้าที่เกิดขึ้นจากการเข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่
 ก่อนที่จะลงในเนื้อหาของตัวมาตรฐาน คนเขียนจะขอชี้แจงแนวความคิดรวมทั้งหลักรากฐานที่เกี่ยวกับการเกิดอันตรายและวิธีการคุ้มครองป้องกันก่อน เพื่อความเข้าใจเยอะขึ้นและก็ให้สามารถทำความเข้าใจกับตัวมาตรฐานฯ ได้ง่ายขึ้น
 อุบัติเหตุหมายความว่าการสิ้นไป ไม่ว่าจะอยู่ในรูปของการเจ็บ การสูญเสียชีวิต เงินเสียหาย ค่าพยาบาล ค่าสินไหมทดแทน สัญญาประกันภัย แล้วก็ความสูญเสียทางอ้อมอื่นๆสามารถเปรียบการสูญเสียในรูปของภูเขาน้ำแข็งที่ลอยในน้ำได้ ส่วนของเทือกเขาที่มองเห็นเปรียบเทียบได้กับความสูญเสียที่มองเห็นดังเช่นว่า ค่าพยาบาล แล้วก็ค่าเสียหาย สำหรับส่วนของภูเขาที่เป็นน้ำแข็งที่จมในน้ำเปรียบเสมือนการสิ้นไปทางอ้อมที่มักมองไม่เห็นที่มีอยู่จำนวนมากได้แก่ ทรัพย์สินเสียหาย เครื่องไม้เครื่องมือเสียหาย ผลผลิตเสียหาย ค่าทำงานล่วงเวลา รวมทั้งค่าสูญเสียการสร้าง ฯลฯ โดยเหตุนั้นค่าการสิ้นไปในส่วนที่แลเห็นนั้นนับว่าน้อยเมื่อเทียบกับความสูญเสียส่วนที่มองไม่เห็น ในการจัดการด้านความปลอดภัย จึงจำต้องให้ความเอาใจใส่กับความสูญเสียทั้งปวงของสถานประกอบการจากสถิติพบว่า มากยิ่งกว่า 80% ของการเกิดอุบัติเหตุเกิดจากการขาดการจัดการที่ดี ในมาตรฐานฯ นี้ก็เลยเน้นย้ำไปที่การจัดการเป็นส่วนมาก ด้วยเหตุนี้ผู้ที่มีการเกี่ยวข้องก็เลยมีนายจ้าง หัวหน้างาน แล้วก็ลูกจ้างหรือผู้ปฏิบัติงาน
ทำความเข้าใจเรื่องการเป็นอันตรายจากกระแสไฟฟ้า
 รูปแบบของการเกิดอันตรายจากไฟฟ้ากำเนิดได้ใน 3 ลักษณะเป็น กระแสไฟฟ้าดูด อาร์ก และก็การระเบิด
 กระแสไฟฟ้าดูด คือการที่บุคคลมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกาย กระแสไฟฟ้าดูดกำเนิดได้ทั้งกับบุคคลหรือสิ่งมีชีวิติอื่น เมื่อร่างกายมีไฟฟ้าไหลผ่านจะมีอาการต่างๆตามจำนวนกระแสไฟฟ้าที่ไหล ทางที่กระแสไฟไหลผ่าน รวมทั้งระยะเวลาที่ถูกกระแสไฟฟ้าดูด ผลกระทบของไฟฟ้าต่อสุขภาพร่างกายของแต่ละบุคคลอาจเปลี่ยนไปได้ไม่เหมือนกันในแต่ละคน แม้กระนั้นสามารถกำหนดเป็นค่าถัวเฉลี่ยได้ ซึ่งในมาตรฐานความปลอดภัยฯ กำหนดไว้ ดังต่อไปนี้
1. ผลของไฟฟ้ากระแสสลับ
(1) ขนาด 5 mA รับทราบได้ว่าไฟดูด
(2) ขนาด 10 mA บุคคลบางทีอาจไม่อาจจะหลุดออกไปพ้นจากอันตรายเนื่องจากกระแสไฟฟ้าดูดได้
(3) ขนาดโดยประมาณ 40 mA ไฟดูด ถ้าหากนาน 1 วินาที หรือมากยิ่งกว่า อาจจะส่งผลให้เสียชีวิตเหตุเพราะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
(4) กระแสไฟสูงเกินกว่านี้ นำมาซึ่งแผลไหม้และหัวใจหยุดเต้น
2. ผลของไฟกระแสตรง
(1) ไฟฟ้ากระแสตรง 2 mA รับรู้ได้ว่าไฟดูด
(2) ไฟฟ้ากระแสตรง 10 mA ตรึกตรองได้เป็นกระแสที่จะปล่อยหลุดได้
3. ผลของแรงกดดันกระแสไฟฟ้า แรงดันไฟฟ้า 30 V rms หรือ 60 V dc นับว่าไม่เป็นอันตราย นอกจากกรณีผิวหนังมีรอยแตก ความต้านทานด้านในของร่างกายอาจมีค่าต่ำถึง 500 โอห์ม ด้วยเหตุผลดังกล่าวอาจก่อให้เสียชีวิตได้
4. ผลการสัมผัสเวลาสั้นๆ
(1) สำหรับเพื่อการสัมผัสตรงเวลาน้อยกว่า 0.1 วินาที แล้วก็ด้วยกระแสไฟฟ้าเกินกว่า 0.5 mA เล็กน้อย อาจเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หากไฟฟ้าดูดอยู่ในช่องว่างของจังหวะการเต้นของหัวใจ
(2) ในการสัมผัสเป็นเวลาน้อยกว่า 0.4 วินาที แล้วก็ด้วยจำนวนกระแสมากมายๆบางทีอาจเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เมื่อกระแสไฟฟ้าที่ดูดนี้อยู่ในช่องว่างของจังหวะการเต้นของหัวใจ
(3) สำหรับในการสัมผัสตรงเวลาน้อยกว่า 0.8 วินาที และด้วยประมาณกระแสไฟเกิน 0.5 A บางส่วน อาจเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น (กู้คืนกลับมาได้)
(4) สำหรับเพื่อการสัมผัสตรงเวลามากกว่า 0.8 วินาที และด้วยกระแสประมาณมากมายๆบางทีอาจกำเนิดแผลไหม้และก็เสียชีวิต
5. ผลของความถี่เกิน 100 Hz กรณีขีดจำกัดคงทนถาวรของการรับทราบเพิ่มขึ้นจาก 10 kHz ถึง 100 kHz ค่าขีดจำกัดการปลดปล่อยหลุดมากขึ้นจาก 10 mA to 100 mA
 อาร์กหรือสะเก็ดไฟ เกิดขึ้นเมื่อมีกระแสไฟฟ้าสูงและก็พลังงานไฟฟ้าสูง การอาร์กเป็นการปลดปล่อยกระแสไฟฟ้าออกสู่อากาศออกมาเป็นแสงสว่าง ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อมีแรงดันกระแสไฟฟ้าสูงตกคร่อมช่องว่างระหว่างตัวนำมีค่าสูงเกินค่าความคงทนถาวรของไดอิเล็กทริก (dielectric strength) ของอากาศ รวมทั้งมีไฟฟ้าไหลผ่านอากาศ เหตุดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นมักเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากแรงดันสูงดังเช่นว่า จากฟ้าผ่า จากการสวิตชิ่ง จากความชำรุดของอุปกรณ์เนื่องจากว่าการใช้แรงงานผิดจำเป็นต้อง เป็นต้น
อาร์กจะแผ่รังสีออกไปทำให้คนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงมีอันตรายเกิดแผลไฟเผาที่รุนแรงถึงแก่ชีวิตได้ รังสีอินฟราเรดและก็แสงแรง สามารถก่อให้เกิดการไหม้ได้ สาเหตุที่มีผลต่อระดับความรุนแรงของการเจ็บมีหลายประการ ดังเช่นว่า สีผิว พื้นที่ของผิวหนังที่สัมผัส และก็ชนิดของเสื้อผ้าที่สวม การลดความเสี่ยงของการไหม้ดังกล่าวสามารถทำเป็นโดยการใช้เสื้อผ้า มีระยะห่างในการดำเนินการ และก็ การคุ้มครองป้องกันกระแสเกิน ที่เหมาะสม
อาร์กจากไฟฟ้าแรงสูงสามารถทำให้ชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เป็นทองแดงและอะลูมิเนียมหลอมละลายได้ หยดโลหะหลอมละลายดังกล่าวข้างต้นบางทีอาจถูกแรงระเบิดจากคลื่นความดันผลักให้กระเด็นไปเป็นระยะทางไกลๆได้ ถึงแม้ว่าหยดโลหะกลุ่มนี้จะแข็งอย่างเร็ว แต่ก็ยังมีความร้อนหลงเหลืออยู่มากพอที่จะนำมาซึ่งการไหม้อย่างหนักได้ หรือ ทำให้เสื้อผ้าปกติทั่วๆไปลุกติดไฟได้ แม้ว่าจะอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุมากยิ่งกว่า 3 เมตร รวมทั้งตาม
การปะทุ ธรรมดาการปะทุชอบเป็นสืบไปจากการเกิดอาร์กในปริมาตรที่จำกัด เมื่อเกิดอาร์กอากาศที่ได้รับความร้อนจะขยายตัวอย่างเร็ว ถ้าเกิดการขยายตัวอยู่ในความจุที่จำกัดและกล่องหรือเครื่องหุ้มห่อนั้นไม่สามารถที่จะทนได้ก็จะระเบิด การเกิดระเบิดจากอาร์กอาจมีอุณหภูมิมากถึง 19,400 องศาเซลเซียส และแรงจากการระเบิดนี้สูงมากจนก่อให้เกิดอันตรายต่อบุคคลได้ เนื่องมาจากความดันที่เกิดจากการอาร์กมีพลังงานสูง แม้กระนั้นก็บางครั้งอาจจะโชคดีที่ความดันนี้ จะพัดพาร่างของผู้ประสบอันตรายหลุดลอยออกไปจากแหล่งความร้อน อย่างไรก็ตามผู้รับเคราะห์บางทีอาจเสียชีวิตได้จากสาเหตุอื่น อาทิเช่น ชนกับของแข็ง หรือตกจากที่สูง แรงผลักนี้อาจรุนแรงมากมาย (ขึ้นกับความรุนแรงของการลัดวงจร) ทำให้ตู้หรือแผงสวิตช์ลอยกระเด็นไปได้ไกลๆ
 จากอันตรายดังที่กล่าวผ่านมาแล้วซึ่งมีลักษณะการเกิดแตกต่าง การคุ้มครองป้องกันอันตรายก็เลยจะต้องใช้กรรมวิธีแล้วก็/หรือเครื่องใช้ไม้สอยที่แตกต่าง สำหรับการเอาไปใช้ปฏิบัติต้องมีอีกทั้ง “วิธีการป้องกันรวมทั้งมาตรการในทางปฏิบัติ” ควบคู่กันไปเพื่อการปกป้องครบสมบูรณ์ พอเพียงสรุปได้ดังต่อไปนี้
แนวทางคุ้มครองอันตรายจากกระแสไฟฟ้าดูด
กระแสไฟฟ้าดูดเป็นการที่บุคคลมีไฟฟ้าไหลผ่านร่างกาย การที่กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านได้นั้นด้วยเหตุว่าร่างกายสัมผัสกับส่วนที่มีไฟฟ้า แบ่งลักษณะการสัมผัสได้เป็น 2 แบบ ดังต่อไปนี้
1. การสัมผัสโดยตรง (direct contact) เป็นการที่ร่างกายมนุษย์สัมผัสกับส่วนที่มีแรงดันกระแสไฟฟ้าโดยตรง อย่างเช่น มือจับสายไฟฟ้าส่วนที่มีแรงกดดันไฟฟ้า หรือส่วนของเครื่องมือที่เปิดโล่ง โดยเท้ายืนบนพื้นดิน ทำให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกายระหว่างมือกับเท้า เป็นการไหลครบวงจรทางไฟฟ้า
 การป้องกันการสัมผัสโดยตรง เป็นการคุ้มครองพื้นฐานที่จะจะต้องปฏิบัติสำหรับการใช้ไฟฟ้าหรือดำเนินงานกับกระแสไฟฟ้า การปกป้องสามารถทำเป็นหลายแนวทาง โดยอาจเลือกวิธีใดแนวทางหนึ่งหรือหลายแนวทางก็ได้ตามความเหมาะสม ดังนี้
· ห่อหุ้มฉนวนส่วนที่มีไฟ (insulation of live parts) อย่างเช่นการหุ้มฉนวนสายไฟฟ้า
· ปกป้องโดยมีสิ่งกันหรือตู้ (barrier or enclosures) อย่างเช่นตู้หรือแผงสวิตช์
· คุ้มครองโดยมีสิ่งที่ขวาง (obstacles) ตัวอย่างเช่นลานหม้อแปลง
· ยกให้อยู่ในระยะที่เอื้อมไม่ถึง (placing out of reach) อย่างเช่นติดตั้งสายบนเสาไฟฟ้า
· ใช้เครื่องไม้เครื่องมือคุ้มครองความปลอดภัยเฉพาะบุคคล (personnel protective equipment, PPE) เมื่อจำเป็นต้องดำเนินการกับกระแสไฟฟ้าระหว่างที่มีไฟ
· ใช้เครื่องตัดไฟรั่ว เป็นการป้องกันเสริม
หมายเหตุ เครื่องตัดไฟรั่วให้ใช้เป็นวัสดุอุปกรณ์ปกป้องเสริมเนื่องมาจากบางทีอาจชำรุดทรุดโทรมได้ระหว่างการใช้งาน เมื่อทรุดโทรมก็ไม่สามารถที่จะปกป้องได้
 2. การสัมผัสโดยอ้อม (indirect contact) คือการสัมผัสส่วนของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ปกติไม่มีไฟ แม้กระนั้นอาจมีไฟได้เมื่ออุปกรณ์ไฟฟ้ารั่วหรือเสีย โดยธรรมดาเครื่องใช้สอยหรือวัสดุอุปกรณ์กระแสไฟฟ้าที่เราสัมผัสจากการใช้งานตามธรรมดาเป็นส่วนที่นับว่าไม่มีไฟฟ้า อาทิเช่น ส่วนโครงโลหะของมอเตอร์ไฟฟ้า แล้วก็โครงโลหะของหม้อหุงข้าวไฟฟ้า เป็นต้น แม้กระนั้นจากการพังข้างในของอุปกรณ์ไฟฟ้าทำให้มีไฟฟ้ารั่วออกมายังส่วนที่สัมผัส เมื่อมีการสัมผัสจะมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกายลงดิน ครบวงจรทางไฟฟ้า
วิธีการปกป้องอันตรายจากการสัมผัสโดยอ้อม มีดังนี้
· มีการต่อลงดินเปลือกหุ้มที่เป็นตัวนำรวมทั้งมีเครื่องปลดวงจรอัตโนมัติ
· ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ชนิดฉนวน 2 ชั้น หรือประเภท II (double insulation)
· ใช้ในสถานที่ไม่เป็นสื่อตัวนำ (non-conducting location)
· ใช้ระบบกระแสไฟฟ้าที่แยกจากกัน (electrical separation) หรือระบบไม่ต่อลงดิน
· ใช้เครื่องตัดไฟรั่วเป็นการคุ้มครองป้องกันเสริม
การปกป้องคุ้มครองอันตรายสัมผัสโดยตรงแล้วก็สัมผัสโดยอ้อม มีอยู่ 2 วิธี ดังนี้
· ใช้เครื่องใช้สอยที่มีแรงดันต่ำที่ไม่เกิน 50 V. (safety extra-low voltage หรือ SELV) โดยต่อผ่านหม้อแปลง safety isolating transformer
· ใช้วิธี

Tags : anusornbestsafe,anusorn bestsafe



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ