Advertisement
การก่อสร้างในประเทศได้ก้าวก้าวหน้า แล้วก็เพิ่มปริมาณขึ้นมาก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเงาตามการปฏิบัติงานในการก่อสร้างหมายถึงอุบัติเหตุซึ่งการเกิดอุบัติเหตุในแต่ละครั้งนำมาซึ่งการสิ้นไปชั่วชีวิตแล้วก็สินทรัพย์อย่างประมาณมูลค่ามิได้การสิ้นไปจากการก่อสร้าง ในขณะนี้ในทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นทุกขณะจากการรวบรวมปริมาณการเผชิญอันตรายทั้งประเทศโดยแยกเป็นชนิดและประเภทตามชนิดอุตสาหกรรมปี 2546 การก่อสร้างมีผู้เจออันตรายอีกทั้งสิน 15,728 คน ในจำนวนนี้มีคนเสียชีวิตเป็นปริมาณ 109 ราย รวมทั้งมีคนงานจำนวนมากที่ยังเสี่ยงอันตรายจากการก่อสร้าง ด้วยเหตุนี้ การป้องกันอุบัติเหตุและก็การลดการเกิดอุบัติเหตุ ก็เลยเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องเร่งรีบแล้วก็ให้มีการปฏิบัติอย่างจริงจัง ทั้งนี้เพื่อลดความสูญเสียตลอดชีวิตแล้วก็สินทรัพย์ที่อาจจะเกิดขึ้น
ที่มาของการเกิดอุบัติเหตุ
สิ่งที่นำมาซึ่งการทำให้ความถี่และความรุนแรงของการเกิดอุบัติเหตุในการก่อสร้างมากขึ้นเป็นการนำเอาเทคโนโลยี เครื่องไม้เครื่องมือวัสดุ เครื่องจักร อันล้ำยุคมาใช้เพื่อทุ่นกำลัง รวมทั้งประหยัดเวลาไม่เพียงแต่ความปลอดภัยสำหรับเพื่อการก่อสร้างมิได้วิวัฒนาการตามเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยแล้ว ความปลอดภัยพื้นฐานในการก่อสร้างยังถูกปล่อยทิ้ง ขาดความสนใจ รวมทั้งเอาใจใส่จากผู้รับเหมาและก็ผู้ที่มีการเกี่ยวข้องต่างๆอย่างจริงจัง นอกจากนี้ คนงานยังขาดความรู้ ความเข้าใจ รวมทั้งจิตสำนึกความปลอดภัยในการปฏิบัติอย่างถูกต้องเหมาะสม อุบัติเหตุและก็เรื่องเศร้าก็เลยยังคงเกิดซ้ำแล้วซ้ำอีกอยู่แบบนี้
องค์ประกอบของความปลอดภัยในการก่อสร้าง
งานก่อสร้างเป็นงานซึ่งมีวิธีการและก็ขั้นตอนสำหรับในการดำเนินการที่มากมายรวมทั้งเปลี่ยนอยู่เสมอ วิธีการหนึ่งของการคุ้มครองป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในงานก่อสร้างที่สามารถแบ่งความปลอดภัยในงานก่อสร้างออกเป็น 3 ส่วน คือ
ความปลอดภัยในสถานที่
สถานที่ทำการก่อสร้าง หมายถึง อาณาเขตทั้งปวงที่เกี่ยวกับการก่อสร้างมิใช่เฉพาะรอบๆที่กำลังจัดการก่อสร้างเท่านั้น แม้กระนั้นรวมถึงบริเวณที่จัดเก็บอุปกรณ์ โรงเก็บของเก็บวัสดุ เครื่องจักร แล้วก็อื่นๆเป็นต้น ควรต้องมีกฎเกณฑ์ละแนวปฏิบัติในสถานที่ทำการก่อสร้างขึ้นเพื่อให้มีความปลอดภัยกับคนงาน ดังนี้
- แนวทางการทำรั้วกั้นรอบๆบริเวณก่อสร้างทั้งผอง เพื่อป้องกันผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในเขตก่อสร้างหากเป็นอาคารสูงอยู่ใกล้ชุมชน นอกจากการทำรั้วกันแล้วควรทำหลังคาคลุมทางเท้าที่ติดรั้วกันนั้นด้วย เพื่อป้องกันเศษอุปกรณ์ตกใส่ผู้เดินทางไปมาด้านนอก
- ในสถานที่ทำการก่อสร้างควรมีการแบ่งเขตก่อสร้างอย่างชัดเจนโดยแบ่งเขตที่อยู่ที่อาศัยออกมาจากบริเวณก่อสร้างที่จัดเก็บเครื่องไม้เครื่องมือ เครื่องจักร ที่เก็บวัสดุแล้วก็วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้แล้วหรือยังไม่ใช้ออกเรียบร้อย
- ป้ายเครื่องหมาย หรือป้ายบอกเตือนภัยต่างๆสถานที่ที่อันตรายทุกหย่อมหญ้าในเขตก่อสร้าง จะต้องมีป้ายแสดงอันตรายหรือข้อควรปฏิบัติสำหรับผู้จะเข้าไปในบริเวณดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ซึ่งป้ายสัญลักษณ์นี้จะต้องมีขนาดพอเหมาะพอควรและก็เห็นได้ชัดเจน ภาพแสดงแล้วก็ตัวอักษรต้องเป็นสื่อสากลที่ทุกคนสามารถเข้าใจได้ง่าย
- รอบกายอาคารมีแผ่นกั้นกันวัตถุตกลงมารวมทั้งมีตาข่ายปกคลุมอีกชั้น
- ตึกขณะก่อสร้างในที่มีช่องเปิดหรือที่ไม่มีแผงกั้น ควรจะทำราวกัน และก็มีตาข่ายเสริมเพื่อคุ้มครองการตก
ความปลอดภัยสำหรับเพื่อการใช้วัสดุเครื่องจักร
เครื่องไม้เครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้เพื่อการก่อสร้างมีหลายชิ้นมายตั้งแต่ขนาดใหญ่มากมาย อย่างเช่น ปั้นจั่น รถชู เคริ่องตอกเสาเข็ม จนถึงขนาดเล็ก ดังเช่นว่า เครื่องเจียร สว่านไฟฟ้า ค้อน ฯลฯ อันตรายที่เกิดขึ้นมาจากการใช้งานเครื่องมือหรือเครื่องจักร จึงมีมากตามจำนวนเครื่องมือรวมทั้งปริมาณผู้ใช้ ความปลอดภัยในการใช้เครื่องไม้เครื่องมือเครื่องจักรก็เลยเป็นสิ่งจำเป็นซึ่งพนักงานควรใช้อย่างถูกต้อง ดังเช่น
- การใช้จะต้องไม่ผิดวัตถุประสงค์ของเครื่องไม้เครื่องมือ หรือเครื่องไม้เครื่องมือ เครื่องจักรนั้น อาทิเช่น พบได้บ่อยว่ามีการใช้ปั้นจั่นไปใช้สำหรับในการดึงหรือลากของที่มีน้ำหนักมากๆหรือการใช้ลิฟท์ส่งสิ่งของสำหรับการขึ้นลงของคนงานซึ่งเป็นเรื่องไม่สมควรปฏิบัติเป็นอย่างมาก ในทางปฏิบัติการใช้อุปกรณ์วัสดุเครื่องจักรอย่างเหมาะสมและก็ถูกตามชนิดของงาน จะก่อให้กำเนิดประสิทธิผล และไม่เผชิญอันตรายจากการใช้เครื่องไม้เครื่องมือ เครื่องมือ เครื่องจักรนั้น
- วัสดุเครื่องจักรที่ใช้ไฟฟ้า หรือน้ำมันเชื้อเพลิง ข้อควรปฏิบัติอุปกรณ์เครื่องจักรที่จำต้องใช้กระแสไฟฟ้านั้น จะต้องมีการเดินสายไฟอย่างปลอดภัย มีฉนวนหุ้มโดยตลอด รวมทั้งถ้าเกิดจำต้องปฏิบัติงานใกล้กับรอบๆที่มีไฟฟ้ารู้ทุกหน เพื่อจัดการคุ้มครองอันตรายซึ่งบางทีอาจเกิดขึ้น หรือบริเวณที่มีการเก็บเชื้อเพลิง ห้ามจุดไฟ หรือดูดบุหรี่โดยเด็ดขาด
- วัสดุเครื่องจักร ควรจะมีการ์ด ระบบความปลอดภัย ห้ามถอดหรือปิดระบบความปลอดภัยดังกล่าวมาแล้วข้างต้นถ้าหากเครื่องมือเครื่องจักรใดยังไม่มี ควรจะจัดให้มีการ์ดและก็ระบบความปลอดภัยอย่างเหมาะควรทันที
- ก่อนและหลังการใช้งานเครื่องมือเครื่องจักรทุกครั้งต้องมีการพิจารณาและปรับปรุงแก้ไขซ่อนแซมปรับแก้หลังหรือก่อนการใช้ทุกหน
ความปลอดภัยเฉพาะบุคคล
ต้นสายปลายเหตุหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุขึ้นในการก่อสร้างนั้นมาจากผู้ปฏิบัติการ การควบคุมรวมทั้งการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นนั้น ต้องให้ผู้ปฏิบัติการในรอบๆทำการก่อสร้างปฏิบัติให้ถูกตามระเบียบและระเบียบปฏิบัติที่ระบุขึ้น โดยเฉพาะแนวการกระทำในงานก่อสร้างในเรื่องของ
- การแต่งกายของพนักงานหรือคนงานควรจะเป็นชุดที่รัดกุมไม่ปลดปล่อยชายเสื้อหรือแขนเสื้อหลุดลุ่ย การใส่ผ้าถุง (คนงานหญิง) ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดการเกี่ยวสะดุด หรือการดึงเข้าไปในเครื่องจักรได้ และก็การไม่สวมรองเท้าหรือใส่อย่างไม่เหมาะสม เช่น รองเท้าแตะ ฯลฯ
- การปล่อยทิ้งหรือการไม่สวมใส่เครื่องไม้เครื่องมือคุ้มครองปกป้องความปลอดภัยส่วนบุคคลให้สมควรในการก่อสร้าง ผู้ปฏิบัติการทุกคนควรจะใส่อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยส่วนบุคคลอย่างเหมาะควร ดังเช่น หมวกนิรภัย ทุกคนควรสวมอยู่เป็นประจำ เข็มขัดนิรภัยเมื่อคนงานปฏิบัติงานบนที่สูง ใส่รองเท้ายางห่อหุ้มแข็งและใส่ถุงมือยางในการผสมคอนกรีต ฯลฯ
- ห้ามดื่มสุรา หรือเสพเครื่องดองของมึนเมา ห้ามเล่นหรือเย้าแหย่กันในระหว่างการปฏิบัติงานอย่างเด็ดขาด ผู้ฝ่าฝืนควรได้รับการลงอาญา เพราะเหตุว่าเป็นต้นเหตุหนึ่งที่ทำให้มีการเกิดอุบัติเหตุอย่างนึกไม่ถึง
- จัดให้มีการอบรมผู้ปฏิบัติการให้ตระหนักถึงอันตราย กรรมวิธีการปฏิบัติโดยสวัสดิภาพ กฎข้อบังคับ ข้องบังคับรวมทั้งข้อควรกระทำที่ควรจะรู้ แล้วก็สิ่งสำคัญยิ่งคือการสร้างจิตสำนึก ความปลอดภัยให้เกิดขึ้นในคนงานทุกคน ไม่ว่าจะปฏิบัติงานอะไรก็ตามความปลอดภัยสำหรับการปฏิบัติงานจำต้องมาเป็นขั้นตอนแรกเสมอ
- ตรวจสุขภาพคนงาน และตรวจประจำปีเพื่อทดสอบความพร้อมเพรียงของร่างกายคนงานและเพื่อเป็นการขวางโรคจากการทำงานซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ สำหรับคนที่จำเป็นต้องปฏิบัติงานภายใต้ความกดดันอากาศสูงต้องให้หมอกระทำตรวจวิเคราะห์ว่าแข็งแรงสมบูรณ์ และมีคุณสมบัติเหมาะสมก่อนเข้าปฏิบัติงานทุกหน
- จัดให้มีหน่วยงานรักษาพยาบาลเบื้องต้น แล้วก็หน่วยเร่งด่วนขึ้นด้านในหน่วยก่อสร้าง เพื่อเป็นการช่วยเหลือคนที่บาดเจ็บ และเพื่อเป็นการหยุดเหตุอันตรายต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งบางทีอาจทวีความร้ายแรงไปยังบริเวณใกล้เคียงได้
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบและให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐทุกหัวระแหงถือทำตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่ นร.0250/7877 ลงวันที่ 28 เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2543 ประกอบด้วย
1. อนุมัติ แนวทางให้หน่วยงานรัฐบาลและก็รัฐวิสาหกิจ กำหนดให้มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับระบบจัดการความปลอดภัยในการดำเนินงานก่อสร้างใน โครงการของเมือง
2. กำหนดให้ผู้รับเหมาทำการก่อสร้างยื่นซองประกวดราคา ทำเอกสารแนบท้ายเอกสารประกวดราคาเกี่ยวกับ “ระบบการจัดการความปลอดภัยในการดำเนินการก่อสร้าง” โดยให้กำหนดเฉพาะจำพวกของการก่อสร้าง คือ งานตึกขนาดใหญ่ ที่มีพื้นที่อาคารรวมกันทุกชั้นหรือชั้นหนึ่งชั้นใดในหลังเดียวกัน เกิน 2,000 ม2 หรืออาคารที่มีความสูงตั้งแต่ 15.00 มัธยม ขึ้นไป และมีพื้นที่ตึกรวมกันทุกชั้นหรือชั้นหนึ่งชั้นใดในข้างหลังเดียวกันเกิน 1,000 ม2 แม้กระนั้นไม่เกิน 2,000 ม2
งานสะพานที่มีความยาวช่วงเกิน 30.00 มัธยม หรืองานสะพานข้ามทางแยก หรือทางยกระดับ หรือสะพานกลับรถยนต์ หรือทางแยกต่างระดับงานขุด หรือ ซ่อม หรือ รื้อถอนระบบสาธารณูปโภค ที่ลึกเกิน 3.00 มัธยมงานอุโมงค์ หรือ ทางลอด การก่อสร้างที่มีงบประมาณค่าก่อสร้างเกิน 300 ล้านบาท
3. ระบุ ให้ลูกจ้าง หรือผู้รับเหมาทำการก่อสร้าง ทำแผนปฏิบัติงานความปลอดภัยในการทำงานให้รอบคอบรวมทั้งกระจ่าง ให้สอดคล้องกับระบบการจัดการความปลอดภัยสำหรับในการปฏิบัติงานก่อสร้าง แล้วยื่นต่อผู้ว่าจ้าง หรือเจ้าของแผนการฯ ก่อนที่จะมีการปฏิบัติการก่อสร้างข้างใน 30 วัน นับตั้งแต่วันเริ่มลงนามว่าจ้าง
4. ระบุ ให้ผู้คุมงานของผู้ว่าจ้าง หรือของแผนการฯ เป็นผู้ควบคุม ดูแลรวมทั้งวิเคราะห์การปฏิบัติงานในหน่วยงานก่อสร้าง โดยให้ลูกจ้างกระทำตามแผนปฏิบัติงานความปลอดภัยสำหรับการปฏิบัติงานตามข้อ 3
5. กำหนดให้ลูกจ้าง หรือผู้รับเหมาทำการก่อสร้าง จะต้องดำเนินการตามแผนปฏิบัติงานก่อสร้างตามข้อ 3 อย่างเคร่งครัด และก็สอดคล้องกับข้อบังคับ แล้วก็ระเบียบปฏิบัติที่กำหนดไว้
ระบบการจัดการความปลอดภัยสำหรับเพื่อการทำงานก่อสร้าง
1. กำหนดนโยบายความปลอดภัย และก็พลานามัยในการดำเนินการ
2. การจัดองค์กรความปลอดภัยฯ ในงานก่อสร้าง รวมทั้งหน้าที่ความ รับผิดชอบ
3. ข้อบังคับ และก็กฎระเบียบต่างๆที่เกี่ยวเนื่อง
4. การฝึกอบรมด้านความปลอดภัยฯ
5. กำหนดมาตรการคุ้มครองและควบคุมอันตราย
6. การตรวจความปลอดภัยสำหรับการปฏิบัติงานก่อสร้าง
7. ระบุกฎความปลอดภัยสำหรับการดำเนินการก่อสร้าง
8. การควบคุม ดูแลความปลอดภัยฯ ของผู้รับเหมาช่วง
9. การวิเคราะห์ และการตำหนิดตามผลความปลอดภัยฯ
10.การรายงานอุบัติเหตุ และก็ไต่สวน พินิจพิจารณาอุบัติเหตุ
11.การรณรงค์ผลักดันความปลอดภัยฯ
12.การปฐมพยาบาล
13.การวางเป้าหมายฉุกเฉิน
14.การจัดเก็บเอกสารที่เกี่ยวโยง
15.อื่นๆ
อันตรายที่เกิดขึ้นสำหรับการก่อสร้าง คือ อันตรายที่เกิดขึ้นในการก่อสร้างที่เป็นตึกใหม่ และก็มาจากความเคลื่อนไหวปรับแต่งหรือซ่อมแซมอาคารสถานที่เดิม ได้แก่ งานทาสี งานตกแต่ง หรืองานรื้อถอนสิ่งก่อสร้าง ทั้งนี้ผู้ทำการก่อสร้าง ผู้รับเหมาก่อสร้างช่วง หรือผู้แทนผู้ครอบครองโครงการ รวมทั้งวิศวกรที่ปรึกษาต้องตระหนักถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น และมุ่งเน้นให้มีการป้องกันอันตรายตลอดจนเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยแก่คนงาน และก็ผู้ปฏิบัติงานงานภาคสนามที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมซึ่งผิดถูกหลักอนามัยรวมทั้งเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย ให้มีสุขภาพอนามัยรวมทั้งความปลอดภัยในชีวิตของผู้ปฏิบัติงานหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง แทนที่จะตามจัดการกับปัญหาเมื่ออุบัติเหตุหรือเรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นแล้ว เพราะว่าผลพวงและความเสื่อมโทรมที่ตามมาจะมีมากมาย
ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างมีหลักสำคัญที่จะจะต้องพินิจในประเด็นการป้องกันอุบัติเหตุ และการดูแลและรักษาความปลอดภัยในงานก่อสร้าง ดังนี้
1. ต้องกำหนดให้ผู้ทำการก่อสร้างจัดเตรียมมาตรการป้องกันความปลอดภัยสำหรับการทำงานก่อสร้างรวมทั้งรักษาระเบียบปฏิบัติต่างๆเรื่องความปลอดภัยอย่างเคร่งครัดรวมทั้งสม่ำเสมอ
2. ต้องกำหนดให้มีการสำรวจภาวะหน้างานตลอดจนวัสดุอุปกรณ์และเครื่องจักรต่างๆที่ใช้โดยตลอดและก็ตลอดระยะเวลา ทั้งยังต้องมอบหมายให้พนักงานที่มีความรู้ความสามารถด้านความปลอดภัยในการก่อสร้างเป็นผู้จะรับผิดชอบควบคุม ดูแลให้เป็นไปตามข้อบังคับแล้วก็มาตรฐานระบุตลอดเวลาการก่อสร้าง
3. จำเป็นต้องจัดสรรเครื่องกล เครื่องมือเครื่องใช้เครื่องมือต่างๆให้ถูกเหมาะสมกับการใช้งาน ตามประเภทและลักษณะงานนั้นๆ
4. จำต้องฝึกอบรมช่างผู้ปฏิบัติการให้สามารถใช้เครื่องจักรรวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆได้อย่างถูกแนวทาง
สาเหตุของอันตรายที่เกิดขึ้นในการก่อสร้างมีอยู่ 4 ประการ คือ
1. การกระทำงานที่ไม่ปลอดภัย (Unsafe Acts) เกิดอันตรายที่เกิดขึ้นมาจากการกระทำงานของคนงาน
ก่อสร้างอย่างไม่คิดถึงความปลอดภัย อุบัติเหตุจำนวนมากเกิดขึ้นเพราะเหตุว่าปัจจัยนี้ ซึ่งผู้มีส่วนร่วมรับผิดชอบเป็น หัวหน้างานและก็ตัวคนงานเอง เช่น การใช้งานเครื่องมือ เครื่องจักรดำเนินงานโดยพลการ หรือเปล่าได้รับมอบหมาย ไม่เข้าใจการใช้งานอุปกรณ์เครื่องจักรอย่างถูกต้อง ไม่สนใจคำตักเตือนต่างๆประมาทเผอเรอ เล่นหรือหยอกล้อกันขณะปฏิบัติการ ฯลฯ
2. สภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัย (Unsafe Conditions) อาทิเช่น ข้อแม้ต่างๆนอกจากตัวบุคคลที่อาจจะก่อให้ทำให้เป็นอันตรายสำหรับการปฏิบัติงาน ที่สามารถแย
Tags : อนุสรณ์