ส้มป่อยมีสรรพคุณเเละประโยชน์อย่างน่าทึ่ง

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ส้มป่อยมีสรรพคุณเเละประโยชน์อย่างน่าทึ่ง  (อ่าน 32 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์
Jr. Member
**

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 86


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2018, 04:06:42 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ส้มป่อย
ชื่อสมุนไพร ส้มป่อย
ชื่ออื่นๆ/ชื่อเขตแดน  ส้มขอน , ส้มคอน (ไทยใหญ่,แม่ฮ่องสอน) , ส้มพอดิบพอดี (อีสาน) , ผ่อชิละ ผ่อชิบูทู (กะเหรี่ยง)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Acacia concinna (Willd.) DC.
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Acacia rugata (Lam.) Merr., Mimosa concinna (Willd.) DC.
วงศ์ FABACEAE
ถิ่นเกิด ส้มป่อ[/b] เป็นพืชที่เป็นที่รู้จักดันดีในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคเหนือที่จัดว่าส้มป่อยเป็นพืชที่มีความมงคล โดยมีความเชื่อว่าถ้าบ้านใดมีต้นส้มป่อยในบ้าน จะช่วยคุ้มครองเพศภัยและเคราะห์ต่างๆให้ปล่อยออกไปจากบ้านดังชื่อของส้มป่อย และก็ฝักของส้มป่อยก็ใช้แช่น้ำเชื่อว่าจะทำให้เป็นน้ำที่มีความศักดิ์สิทธิ์ใช้ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายต่างๆได้ ซึ่งส้มป่อยนี้เป็นพืชที่มีบ้านเกิดเมืองนอนในเขตร้อนของทวีปเอเชีย เช่น เอเซียอาคเนย์ อาทิ เมืองไทย , ประเทศพม่า , ลาว , เขมร , มาเลเซีย , และก็ประเทศในทวีปเอเชียใต้ ดังเช่นว่า ประเทศอินเดีย ศรีลังกา บังคลาเทศ ฯลฯ  ส้มป่อยเป็นไม้ที่มีความทนทานต่อภาวะแล้งได้ดิบได้ดี พบได้ทั่วไปขึ้นตามป่าคืนสภาพ ป่าดงดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ ที่ราบตีนเขา และก็ที่รกร้างว่างเปล่าทั่วไป  ในประเทศไทยสามารถเจอได้ทุกภาคของประเทศ
ลักษณะทั่วไป ส้มป่อยจัดเป็นไม้พุ่มรอเลื้อยซึ่งจะ พิงพันต้นไม้อื่นได้โดยประมาณ สูง 3-6 เมตร เถามีเนื้อแข็ง ผิวเรียบสีน้ำตาล ขนาดใหญ่ มีหนามเล็กแหลมตามลำต้น แขนงรวมทั้งใบ ไม่มีมือเกาะจะเลื้อยพาดพันต้นไม้อื่น เถาอ่อนสีน้ำตาลปนแดง มีขนผ้ากำมะหยี่หรือขนสั้นหนานุ่ม ใบเป็นใบประกอบแบบขนสองชั้น เรียงสลับ ช่อใบย่อย 5-10 คู่ ใบย่อย 10-35 คู่ ต่อช่อ ใบย่อยรูปขอบขนาน ขนาดเล็ก ออกเรียงตรงข้าม ปลายใบมนหรือแหลม ที่ปลายเป็นติ่งหนามแหลมอ่อนโค้ง โคนใบตัด ขอบของใบหนาเรียบ แผ่นใบเรียบ ก้านใบยาว 3.6-5.0 เซนติเมตร มีขนสั้นนุ่มและก็หนาแน่น เจอก้อนนูนสีน้ำตาลเหมือนต่อม 1 อัน อยู่ที่โคนก้านใบ แกนกลางยาว 6.6-8.5 เซนติเมตร ก้านใบย่อยสั้นมากมาย ยาว 0.5 มิลลิเมตร หรือน้อยกว่า หมดจด และก็มีขนนุ่มหนาแน่น ดอกเป็นช่อกระจุกกลม ออกตามซอกใบข้างลำต้น 1-3 ช่อดอกต่อข้อ ขนาด 0.7-1.3 เซนติเมตร มี 35-45 ดอก ก้านช่อดอกยาว 2.5-3.2 มม. มีขนนุ่มหนาแน่น ใบประดับดอก 1 อัน รูปแถบ ยาวไม่เกิน 1 มิลลิเมตร โคนสอบเรียว สีแดง มีขนกระจายทั่วไป ดอกขนาดเล็กอัดแน่นอยู่เป็นแกนดอก กลีบดอกเป็นหลอด สีขาวนวล กลีบเลี้ยงรวมทั้งกลีบดอกอย่างละ 5 กลีบ กลีบเลี้ยง หลอดกลีบกว้าง 1.0-1.5 มม.ยาว 2.5-3.0 เซนติเมตร ปลายแหลม สีแดง อาจมีสีขาวคละเคล้าบางส่วน กลีบ หลอดกลีบกว้าง 1.0-1.5 มม. ยาว 3.5-4.0 มม. มีขนบางส่วนที่ปลายกลีบ เกสรเพศผู้ 200-250 อัน ยาว 4-6 มม. เกสรเพศเมีย รังไข่ยาว 1 มม. มี 10-12 ออวุล มีก้านรังไข่ยาว 1 มิลลิเมตร ก้านและก็ยอดเกสรเพศเมียยาว 2.5-3.5 มิลลิเมตร สีขาวอมเหลืองหรือสีเขียวอมเหลือง ผลเป็นฝักรูปขอบขนาน แบนยาว ดก ขนาด กว้าง 1.3-1.4 เซนติเมตร ยาว 7.0-9.3 เซนติเมตร ฝักอ่อนเปลือกสีเขียวอมแดง เมื่อแก่สีน้ำตาลเข้ม ผิวฝักเป็นลอนคลื่นเป็นข้อ ปลายฝักมีหางแหลม สันฝักครึ้ม ผิวย่นมากมายเมื่อแห้ง ก้านผลยาว 2.8-3.0 เซนติเมตร แต่ละผลมี 5-12 เม็ด เม็ดสีดำ แบนรี ผิวมัน กว้าง 4-5 มิลลิเมตร ยาว 7-8 มม. มีดอกราวมกราคมถึงพฤษภาคม ติดผลเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม
การขยายพันธุ์ ส้มป่อยมักจะพบได้ในป่าเบญจพรรณและก็ป่าดงดิบแล้วบริเวณที่ราบเชิงเขาส่วนการขยายพันธุ์  ส้มป่อยนั้นสามารถทำได้ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดและก็การปักชำ แต่ว่าแนวทางที่เป็นที่นิยมกันมากมายคือการปักชำ โดยตัดกิ่งแก่ให้ยาวราว 50 ซม.มาปักชำในกระถางหรือในบริเวณที่ต้องการจะเพาะชำ ซึ่งในกระถางหรือบริเวณดังกล่าควรมีความชื้นมากมาย แล้วก็รดน้ำวันแล้ววันเล่าจนถึงกิ่งที่ชำกำเนิดรากแล้วจึงย้ายลงหลุมที่จะปลูกต่อไป สำหรับเพื่อการปลูกส้มป่อยนั้นควรปลูกลงในที่โล่งหรือที่ๆมีแสงสว่างมาก สามารถปลูกได้ในดิน      Malic acid ที่มา : Wikipedia     ทุกชนิดที่มีการระบายน้ำเจริญ ด้วยเหตุว่าส้มป่อยชอบความชุ่มชื้นปานกลางถึงน้อยแล้วก็ชอบแสงอาทิตย์มากมาย ส่วนการรักษานั้น ส้มป่อยไม่ค่อยมีโรครวมทั้งศัตรูพืชมากมาย แต่ควรจะตัดแต่งกิ่งหรือทำค้างให้ลำต้นของส้มป่อยพันเลื้อยขึ้นไปเพื่อสบายสำหรับเพื่อการเก็บเกี่ยวผลผลิตของส้มป่อย
องค์ประกอบทางเคมี ฝักมีสารซาโปนิน 20.8% ดังเช่น acasinin       Tannin   ที่มา : Wikipedia
A, B, C, D และ E   azepin , tannin , malic  acid , concinnamide, lupeol , machaerinic acid , menthiafolic, sonuside, sitosterol ส่วนค่าทางโภชนาการของส้มป่อยมีดังนี้
คุณประโยชน์ทางโภชนาการ ส้มป่อย 100 กรัม มี  น้ำ 85.6  กรัม  แคลเซียม 95 มก. ไทอะมีน 0.04 มก. เบต้าแคโรทีน 6568 ไมโครกรัม ไนอะซิน 1.1 มิลลิกรัม วิตามินเอรวม 1095 RE วิตามินซี 6 มิลลิกรัม วิตามินอี 6.7 มก.                                 
คุณประโยชน์/คุณประโยชน์ ยอดอ่อน รวมทั้งใบอ่อน ของส้มป่อย ใช้กินเป็นผักและก็เครื่องปรุงรส ช่วยทำให้ของกินมีรสเปรี้ยว แล้วก็ช่วยขจัดกลิ่น คาวปลา ยอดนำมาทำกับข้าวได้หลายชนิด ได้แก่ machaerinic acid ที่มา : Wikipedia  แกงส้ม ต้มปลา ต้มกะทิปลาเค็ม น้ำของฝักส้มป่อย ใช้ขัดเครื่องเงิน เครื่องทองหยองให้เงาสวยได้ ฝักแก่แห้งนำมาต้มเอาน้ำใช้สระผมแก้รังแค แก้อาการคันศีรษะ บำรุงเส้นผม ทำให้ผมชุ่มชื้นเป็นเงาสวย เป็นยาปลูกผม และก็คุ้มครองผมหงอกก่อนวัย  ใส้มป่อย
สามารถนำมาสกัดทำเป็นสีย้อมเส้นไหมได้ โดยสีที่ได้คือสีเขียวอ่อน สีเหลืองอ่อน สีน้ำตาลอ่อน หรือสีครีม  ในด้านของความศรัทธาส้มป่อยถือเป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์ของชาวล้านนา โดยประชาชนจะใช้ฝักในพิธีบูชาทำน้ำมนต์เพื่อสะเดาะเคราะห์ ใช้ในงานมงคล ทำน้ำมนต์รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ในตอนเทศกาลวันสงกรานต์  หรือใช้รดน้ำพระพุทธปฏิมากร  อีกทั้งส้มป่อยยังจัดเป็นพืชที่มีความมงคลของคนประเทศไทย โดยมั่นใจว่าการปลูกส้มป่อยจะช่วยขับไล่ไสส่งภูตผีปีศาจแล้วก็สิ่งเลวร้ายไม่ให้มารบกวน ช่วยเสริมหรือคืนอำนาจให้ผู้มีถาติดอยู่เวทมนตร์คาถา โดยกำหนดให้ปลูกไว้ทางทิศเหนือ  ส่วนคุณประโยชน์ทางยาของส้มป่อยนั้นมีดังนี้
ใบ แก้โรคตา ชำระมูกมันในลำไส้ ยาถ่ายเสมหะ ถ่ายตกขาว แก้บิด ขัดล้างโลหิตประจำเดือน ประคบให้เอ็นหย่อนยาน ใบใช้ในสูตรยาอบสมุนไพร มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆช่วยชำระล้างสิ่งสกปรก เพิ่มความต้านทานโรคให้กับผิวหนัง บำรุงผิวพรรณ แก้หวัด แก้ปวดเมื่อย สูตรยาลูกประคบสมุนไพร ช่วยบำรุงรักษาผิว แก้โรคผิวหนัง ลดความดัน  ใบตำห่อผ้าประคบเส้นให้เส้นอ่อน ใช้ใบอ่อน ต้มเอาน้ำผสมกับน้ำผึ้ง กินเป็นยาขับปัสสาวะ ฝัก มีรสเปรี้ยว เป็นยาถ่าย ขับเสมหะ แก้ไอ แก้บิด แก้ไข้จับสั่น ฝักปิ้งให้เหลือง ชงน้ำจิบแก้ไอ ขับเสลด แก้น้ำลายเหนียว เป็นยาถ่ายทำให้อาเจียน แก้ซางในเด็ก ใช้สระผม ทำให้ผมชุ่มชื้นเป็นเงาสวย ไม่มีรังแค ต้มน้ำอาบหลังคลอด ฝักตำพอกหรือชุบสำลีปิดแผลโรคผิวหนัง เปลือกฝัก รสขมเปรี้ยวเผ็ดปร่า เจริญอาหาร กัดเสลด แก้ไอ ต้น รสเปรี้ยวฝาด เป็นยาระบาย แก้โรคตาแดง แก้น้ำตาพิการ  ยอดอ่อน เอามาต้มน้ำ รวมทั้งผสมกับน้ำผึ้งดื่มเป็นยาช่วยขับฉี่ หรือนำมาตำรวมกับขมิ้นอ้อย แล้วใส่น้ำมันพืชน้อย หมกไฟพอเพียงอุ่น นำไปพอกแก้ฝี ดอก รสเปรี้ยว ฝาด มัน แก้เส้นเอ็นที่พิการให้สมบูรณ์ ใบแล้วก็ฝัก ต้มอาบ ทำความสะอาด บำรุงผิว ราก รสขม แก้ไข้
บัญชียาจากสมุนไพร: ที่มีการใช้ตามองค์ความรู้ดั้งเดิม ตามประกาศ คณะกรรมการแห่งชาติด้านยา (ฉบับที่ 5)    ปรากฏการใช้ใบรวมทั้งฝักส้มป่อย ร่วมกับสมุนไพรจำพวกอื่นๆในตำรับ เป็นยารักษากลุ่มอาการทางระบบทางเดินอาหาร ตำรับ “ยาถ่ายดีเกลือฝรั่ง” ประกอบด้วย ดีเกลือฝรั่ง ยาดำ ใบมะกา ใบมะขาม ใบส้มป่อย ฝักคูน รากขี้กาแดง รากขี้กาขาว รากโคนงแตก ฝักส้มป่อย สมอไทย สมอดีงู เถาวัลย์เปรียง ขี้เหล็ก หัวหอม ต้นหญ้าไทร ใบไผ่ป่า คุณประโยชน์ แก้ท้องผูก กรณีที่ใช้ยาอื่นแล้วไม่ได้ผล
แบบอย่าง/ขนาดวิธีใช้   แก้ไอ ด้วยการใช้ฝักเอามาปิ้งให้เหลืองแล้วชงกับน้ำจิบกินเป็นยา หรือจะใช้เปลือกนำมาแช่กับน้ำดื่มทำให้เปียกคอแก้ไอได้  เมล็ดเอามาคั่วให้เกรียมแล้วบดอย่างละเอียด ใช้เป่าจมูก ทำให้คันจมูกรวมทั้งทำให้จามได้  ยอดอ่อนหรือใบอ่อนเอามาต้มกับน้ำ แล้วก็ผสมกับน้ำผึ้งใช้ดื่มกินเป็นยาช่วยขับฉี่  ยอดอ่อนนำมาตำผสมกับขมิ้นอ้อย แล้วใส่น้ำมันพืชบางส่วน หมกไฟเพียงพออุ่น แล้วค่อยนำไปพอกจะช่วยแก้ฝี แก้พิษฝี ทำให้ฝีแตกเร็วหรือยุบไป ส่วนอีกวิธีใช้รากส้มป่อยนำมาฝนใส่น้ำปูนใสทาบริเวณที่เป็นฝี  ใบใช้ตำประคบหรือตำห่อผ้าประคบเส้นช่วยทำให้เส้นเอ็นอ่อน แก้เส้นเอ็นพิการ ขัดยอก  ช่วยทำให้สตรีมีครรภ์คลอดได้ง่าย ด้วยการใช้ฝักส้มป่อยราว 3-7 ข้อ เอามาต้มกับน้ำอาบตอนค่ำ โดยให้อาบก่อนคลอด 2-3 วัน แต่ว่าห้ามอาบมากด้วยเหตุว่าจะทำให้รู้สึกร้อน
การเรียนรู้ทางเภสัชวิทยา

  • ฤทธิ์ต้านทานเชื้อรา สารสกัดน้ำจากผล ความเข้มข้น 20 มก./มิลลิลิตร มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อรา Epidermophyton floccosum ในหลอดทดสอบ แต่ไม่มีฤทธิ์ต้านทานเชื้อรา Trichophyton rubrum และก็ Microsporum gypseum เหมือนกันกับสารสกัดอัลกอฮอล์จากผล ความเข้มข้น 100 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร ไม่มีฤทธิ์ต้านเชื้อรา T. rubrum, M. gypseum แล้วก็ E. floccosum
  • ฤทธิ์ต่อต้านเชื้อยีสต์ สารสกัดน้ำ และก็สารสกัดอัลกอฮอล์จากผล ความเข้มข้น 100 รวมทั้ง 200 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร เป็นลำดับ และก็สารสกัดน้ำจากส้มป่อย (ไม่ระบุส่วนที่ใช้รวมทั้งความเข้มข้น) ไม่มีฤทธิ์ต้านทานเชื้อยีสต์ Candida albicans
  • ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย สารสกัดน้ำรวมทั้งสารสกัดอัลกอฮอล์จากผล ความเข้มข้น 100 แล้วก็ 200 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร ตามลำดับ รวมทั้งสารสกัดน้ำจากส้มป่อย (ไม่กำหนดส่วนที่ใช้และความเข้มข้น) ไม่มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus aureus
  • เมื่อปี คริสต์ศักราช2006 ที่อินเดีย ได้กระทำทดสอบสารสกัดจากดอกส้มป่อยกับหนูเพศผู้ โดยการให้สารสกัดในขนาด 50 มก.ต่อกก. โดยใช้ช่วงเวลาการทดลองนาน 3 สัปดาห์ ผลการทดสอบพบว่า ค่าคอเลสเตอรอลในเลือดของตัวทดลองลดลง ไตรกลีเซอไรด์น้อยลง อย่างเป็นจริงเป็นจังทางสถิติ และก็สารสกัดจากส้มป่อยยังมีผลลดอสุจิและ endometrial glands ในมดลูก มีการเปลี่ยนแปลงในชั้นเซลล์ในมดลูก สรุปว่าสมุนไพรส้มป่อยสามารถใช้เป็นยาคุมได้ด้วย
  • สารสกัดซาโปนินจากเปลือกส้มปอยและสารสกัดเอทานอลและก็น้ำ ในอัตราส่วน 1:1 มีฤทธิ์ทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงแตก โดยค่าดรรชนีการทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงพอๆกับ 1,350
การศึกษาเล่าเรียนทางพิษวิทยา  หลักฐานความเป็นพิษรวมทั้งการทดสอบความเป็นพิษ
          เมื่อให้สารสกัดจากใบและก็ลำต้น (ไม่เจาะจงสารสกัดที่ใช้) แล้วก็สารสกัดเอทานอล:น้ำ (1:1) จากใบและลำต้น ขนาด 10 กรัม/กก. ทางสายยางให้อาหารหนูถีบจักร ไม่พบพิษ เมื่อฉีดสารสกัดจากใบแล้วก็ลำต้น (ไม่กำหนดสารสกัดที่ใช้) ขนาด 10 ก./กิโลกรัม เข้าใต้ผิวหนังหนูถีบจักร ไม่เจอพิษเช่นกัน และก็เมื่อฉีดสารสกัดเอทานอล:น้ำ (1:1) จากส่วนเหนือดินเข้าท้องหนูถีบจักร มีค่า LD50พอๆกับ 125 มก./กิโลกรัม
          ส่วนสกัดซาโปนินจากเปลือก (ไม่ระบุความเข้มข้น) แล้วก็สารสกัดเอทานอล:น้ำ (1:1) (ไม่เจาะจงส่วนที่ใช้) มีฤทธิ์ทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงแตก ค่าดรรชนีการทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงพอๆกับ 1,350
          สาร acacic acid จากเปลือก (ไม่กำหนดความเข้มข้น) มีฤทธิ์ฆ่าสเปิร์ม และส่วนสกัดซาโปนินจากเปลือก ความเข้มข้น 0.004% มีฤทธิ์ฆ่าสเปิร์มในคนผู้ชาย
          สารสกัดเอทานอล:น้ำ (1:1) จากส่วนเหนือดิน ไม่เป็นพิษต่อเซลล์ CA-9KB ขนาดของสารที่เป็นพิษต่อเซลล์ครึ่งเดียว มากกว่า 20 มคก./มล. สารสกัดเมทานอล 75% จากผลเป็นพิษต่อเซลล์ Fibrosarcoma HT-1080 ความเข้มข้นของสารที่เป็นพิษต่อเซลล์ครึ่งเดียวเท่ากับ 2.1 มคก./มล. โดยมีสารที่ออกฤทธิ์เป็น Kinmoonosides A, B รวมทั้ง C มีขนาดของสารที่เป็นพิษต่อเซลล์ครึ่งหนึ่งพอๆกับ  4.89,  1.43,  และ  1.87 มคก./มิลลิลิตร ตามลำดับ  ส่วนสารสกัดเมทานอล  ส่วนสกัดที่ละลายน้ำ  สารสกัดเมทานอล:เอทานอล (1:1) จากผล เป็นพิษต่อเซลล์ Fibrosarcoma HT-1080 อย่างอ่อน ความเข้มข้นของสารที่เป็นพิษต่อเซลล์ครึ่งหนึ่งเท่ากับ 10, 17.9 รวมทั้ง 21.5 มคก./มล. ตามลำดับ สารสกัดคลอโรฟอร์ม สารสกัดอะซีโตน ส่วนสกัดที่ละลายน้ำ สารสกัดเมทานอลรวมทั้งสารสกัดเมทานอล:เอทานอล (1:1) จากผล เป็นพิษต่อเซลล์ CA-Colon-26-L5 อย่างอ่อน
คำแนะนำ/สิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวัง ถึงแม้ในตอนนี้ไม่มีข้อมูลในด้านข้อควรตรึกตรองสำหรับเพื่อการใช้ส้มป่อยแต่ว่าถึงอย่างไรก็ตามส้มป่อยก็ยังเป็นเหมือนสมุนไพรจำพวกอื่นๆที่ควรมีการระวังในการกินถ้าหากรับประทานเป็นของกินหรือส่วนประกอบของอาหารอาจจะไม่มีอันตรายอะไร แม้กระนั้นถ้าเกิดจะใช้เพื่อคุณประโยชน์ทางยานั้นควรใช้แม้กระนั้นพอดี ไม่ใช้ในปริมาณที่มากและไม่ควรจะใช้ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาที่ยาวนานเนื่องจากบางทีอาจทำให้เกิดโทษและส่งผลเสียรวมทั้งไม่ดีต่อสุขภาพได้
เอกสารอ้างอิง

  • มงคล โมกขะสมิต กมล สวัสดีมงคล ประยุทธ สาตราวาหะ.  การศึกษาพิษของสมุนไพรไทย.  วารสารกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 2514;13:36-66.
  • ส้มป่อย.ฐานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.
  • หนังสือสมุนไพรไทย เล่ม 1.  (ดร.นิจศิริ เรืองรังษี, ธวัชชัย มังคละคุปต์).  “ส้มป่อย (Som Poi)”.  หน้า 282.
  • วันดี อวิรุทธ์นันท์ แม้นสรวง วุฒิอุดมเลิศ.  ฤทธิ์ต้านเชื้อราของพืชสมุนไพร.  วารสารเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล 2536;10(3):87-9.
  • Banerji R, Prakash D, Misra G, et al.  Cardiovascular and hemolytic activity of saponins.  Indian Drugs 1981;18(4):121-4.
  • วไลพร พงวิรุฬห์ วีณา ถือวิเศษสิน วีณา จิรัจฉริยากูล และคณะ.  ดัชนีการทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงในมาตรฐานสมุนไพรไทย.  โครงการพิเศษ ม.มหิดล, 2531-2532.
  • ส้มป่อย.ฐานข้อมูลเครื่องยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. http://www.disthai.com/[/b]
  • หนังสือสมุนไพรสวนสิรีรุกขชาติ.  (คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล).  “ส้มป่อย”.  หน้า 33.
  • Avirutnant W, Pongpan A.  The antimicrobial activity of some Thai flowers and plants.  Mahidol Univ J Pharm Sci 1983;10(3):81-6.
  • ส้มป่อย.สมุนไพรที่มีการใช้ในผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.
  • หนังสือสมุนไพรลดไขมันในเลือด 140 ชนิด.  (เภสัชกรหญิง จุไรรัตน์ เกิดดอนแฝก).  “ส้มป่อย”  หน้า 178.
  • Mokkhasmit M, Swatdimongkol K, Satrawaha P.  Study on toxicity of Thai medicinal plants.  Bull Dept Med Sci 1971;12(2/4):36-65.
  • Banerji R, Nigam SK.  Chemistry of Acacia concinna and a Cassia bark.  J Indian Chem Soc 1980;57:1043-4.
  • Ikegami F, Sekine T, Hjima O, Fujii Y, Okonogi S, Murakoshi I.  Anti-dermatophyte activities of “tea seed cake” and “pegu – catechu”.  Thai J Pharm Sci 1993;17(2):57-9.
  • ส้มป่อย.ฐานข้อมูลความปลอดภัยของสมุนไพรที่มีการขึ้นทะเบียนยาแผนโบราณ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.
  • Tezuka Y, Honda K, Banskota AH, Thet MM, Kadota S.  Kinmoonosides A-C, three new cytotoxic saponins from the fruits of Acacia concinna, a medicinal plant collected in Myanmar.  J Nat Prod 2000;63:1658-64.
  • Banergi R, Srivastava AK, Misra G, Nigam SK, Singh S, Nigam SC, Saxena RC.  Steroid and triterpenoid saponins as spermicidal agents.  Indian Drugs 1979;17(1):6-8.
  • Bhakuni DS, Dhar ML, Dhar MM, Dhawan BN, Gupta B, Srimali RC.  Screening of Indian plants for biological activity. Part III.  Indian J Exp Biol 1971;9:91.


Tags : ส้มป่อย



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ