ส้มป่อยมีสรรพคุณเเละประโยชน์อย่างน่าทึ่ง

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ส้มป่อยมีสรรพคุณเเละประโยชน์อย่างน่าทึ่ง  (อ่าน 7 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
watamon
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 654


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: มิถุนายน 02, 2018, 04:48:00 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ส้มป่อย
ชื่อสมุนไพร ส้มป่อย
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น  ส้มขอน , ส้มคอน (ไทยใหญ่,แม่ฮ่องสอน) , ส้มพอดิบพอดี (อีสาน) , ผ่อชิละ ผ่อชิบูทู (กะเหรี่ยง)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Acacia concinna (Willd.) DC.
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Acacia rugata (Lam.) Merr., Mimosa concinna (Willd.) DC.
ตระกูล FABACEAE
บ้านเกิด ส้มป่อ[/b] เป็นพืชที่มีชื่อเสียงดันดีในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคเหนือที่จัดว่าส้มป่อยเป็นพืชที่มีความมงคล โดยมีความคิดว่าถ้าเกิดบ้านใดมีต้นส้มป่อยในบ้าน จะช่วยคุ้มครองป้องกันเพศภัยและเคราะห์ต่างๆให้ปล่อยออกไปจากบ้านดังชื่อของส้มป่อย รวมทั้งฝักของส้มป่อยก็ใช้แช่น้ำเชื่อว่าจะก่อให้เป็นน้ำที่มีความศักดิ์สิทธิ์ใช้ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายต่างๆได้ ซึ่งส้มป่อยนี้เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของทวีปเอเชีย ได้แก่ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นต้นว่า ประเทศไทย , ประเทศพม่า , ลาว , เขมร , มาเลเซีย , และก็ประเทศในทวีปเอเชียใต้ อาทิเช่น อินเดีย ศรีลังกา บังคลาเทศ เป็นต้น  ส้มป่อยเป็นไม้ที่มีความคงทนต่อสภาพแล้งเจริญ พบได้บ่อยขึ้นตามป่าคืนสภาพ ป่าดงดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ ที่ราบตีนเขา และที่รกร้างทั่วๆไป  ในประเทศไทยสามารถเจอได้ทุกภาคของประเทศ
ลักษณะทั่วไป ส้มป่อยจัดเป็นไม้พุ่มรอคอยเลื้อยซึ่งจะ พิงพันต้นไม้อื่นได้โดยประมาณ สูง 3-6 เมตร เถามีเนื้อแข็ง ผิวเรียบสีน้ำตาล ขนาดใหญ่ มีหนามเล็กแหลมตามลำต้น กิ่งก้านและก็ใบ ไม่มีมือเกาะจะเลื้อยพิงพันต้นไม้อื่น เถาอ่อนสีน้ำตาลแดง มีขนผ้ากำมะหยี่หรือขนสั้นหนานุ่ม ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกสองชั้น เรียงสลับ ช่อใบย่อย 5-10 คู่ ใบย่อย 10-35 คู่ ต่อช่อ ใบย่อยรูปขอบขนาน ขนาดเล็ก ออกเรียงตรงข้าม ปลายใบมนหรือแหลม ที่ปลายเป็นติ่งหนามแหลมอ่อนโค้ง โคนใบตัด ขอบใบหนาเรียบ แผ่นใบเรียบ ก้านใบยาว 3.6-5.0 เซนติเมตร มีขนสั้นนุ่มและหนาแน่น พบก้อนนูนสีน้ำตาลคล้ายต่อม 1 อัน อยู่ที่โคนก้านใบ แกนกลางยาว 6.6-8.5 เซนติเมตร ก้านใบย่อยสั้นมากมาย ยาว 0.5 มม. หรือน้อยกว่า เกลี้ยง แล้วก็มีขนนุ่มหนาแน่น ดอกเป็นช่อกลุ่มกลม ออกตามซอกใบข้างลำต้น 1-3 ช่อดอกต่อข้อ ขนาด 0.7-1.3 ซม. มี 35-45 ดอก ก้านช่อดอกยาว 2.5-3.2 มิลลิเมตร มีขนนุ่มหนาแน่น ใบแต่งแต้มดอก 1 อัน รูปแถบ ยาวไม่เกิน 1 มม. โคนสอบเรียว สีแดง มีขนกระจายทั่วไป ดอกขนาดเล็กอัดแน่นอยู่เป็นแกนดอก กลีบเป็นหลอด สีขาวนวล กลีบเลี้ยงและกลีบอย่างละ 5 กลีบ กลีบเลี้ยง หลอดกลีบกว้าง 1.0-1.5 มม.ยาว 2.5-3.0 เซนติเมตร ปลายแหลม สีแดง อาจมีสีขาวผสมนิดหน่อย กลีบดอก หลอดกลีบกว้าง 1.0-1.5 มิลลิเมตร ยาว 3.5-4.0 มิลลิเมตร มีขนบางส่วนที่ปลายกลีบ เกสรเพศผู้ 200-250 อัน ยาว 4-6 มิลลิเมตร เกสรเพศเมีย รังไข่ยาว 1 มม. มี 10-12 ออวุล มีก้านรังไข่ยาว 1 มม. ก้านและยอดเกสรเพศเมียยาว 2.5-3.5 มม. สีขาวอมเหลืองหรือสีเขียวอมเหลือง ผลเป็นฝักรูปขอบขนาน แบนยาว หนา ขนาด กว้าง 1.3-1.4 เซนติเมตร ยาว 7.0-9.3 ซม. ฝักอ่อนเปลือกสีเขียวอมแดง เมื่อแก่สีน้ำตาลเข้ม ผิวฝักเป็นลอนคลื่นเป็นข้อ ปลายฝักมีหางแหลม สันฝักหนา ผิวร่นมากมายเมื่อแห้ง ก้านผลยาว 2.8-3.0 เซนติเมตร แต่ละผลมี 5-12 เม็ด เมล็ดสีดำ แบนรี ผิวมัน กว้าง 4-5 มิลลิเมตร ยาว 7-8 มิลลิเมตร มีดอกราวเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม ติดผลพฤษภาคมถึงต.ค.
การขยายพันธุ์ ส้มป่อยมักจะเจอได้ในป่าเบญจพรรณและก็ป่าดิบแล้วบริเวณที่ราบเชิงเขาส่วนการขยายพันธุ์  ส้มป่อยนั้นสามารถทำได้ด้วยแนวทางการเพาะเมล็ดและการปักชำ แต่ว่าแนวทางที่เป็นที่นิยมกันมากเป็นการปักชำ โดยตัดกิ่งแก่ให้ยาวราวๆ 50 ซม.มาปักชำในกระถางหรือในรอบๆที่ต้องการจะเพาะชำ ซึ่งในกระถางหรือบริเวณดังกล่าต้องมีความชุ่มชื้นมากมาย รวมทั้งรดน้ำทุกวี่วันจนกระทั่งกิ่งที่ชำเกิดรากแล้วจึงย้ายลงหลุมที่จะปลูกถัดไป ในการปลูกส้มป่อยนั้นควรปลูกไว้ในที่แจ้งหรือที่ๆมีแสงสว่างมาก สามารถปลูกได้ในดิน      Malic acid ที่มา : Wikipedia     ทุกประเภทที่มีการระบายน้ำก้าวหน้า ด้วยเหตุว่าส้มป่อยถูกใจความชุ่มชื้นปานกลางถึงน้อยและก็ถูกใจแสงอาทิตย์มาก ส่วนการรักษานั้น ส้มป่อยไม่ค่อยมีโรครวมทั้งศัตรูพืชมาก แต่ควรจะตัดแต่งกิ่งหรือทำค้างให้ลำต้นของส้มป่อยพันเลื้อยขึ้นไปเพื่อสะดวกสำหรับในการเก็บเกี่ยวผลิตผลของส้มป่อย
องค์ประกอบทางเคมี ฝักมีสารซาโปนิน 20.8% อาทิเช่น acasinin       Tannin   ที่มา : Wikipedia
A, B, C, D และก็ E   azepin , tannin , malic  acid , concinnamide, lupeol , machaerinic acid , menthiafolic, sonuside, sitosterol ส่วนคุณประโยชน์ทางโภชนาการของส้มป่อยมีดังนี้
คุณประโยชน์ทางโภชนาการ ส้มป่อย 100 กรัม มี  น้ำ 85.6  กรัม  แคลเซียม 95 มก. ไทอะมีน 0.04 มก. เบต้าแคโรทีน 6568 ไมโครกรัม ไนอะซิน 1.1 มก. วิตามินเอรวม 1095 RE วิตามินซี 6 มก. วิตามินอี 6.7 มิลลิกรัม                                 
ผลดี/สรรพคุณ ยอดอ่อน รวมทั้งใบอ่อน ของส้มป่อย ใช้กินเป็นผักรวมทั้งเครื่องปรุงรส ช่วยทำให้ของกินมีรสเปรี้ยว และก็ช่วยขจัดกลิ่น คาวปลา ยอดนำมาทำกับข้าวได้หลายอย่าง เช่น machaerinic acid ที่มา : Wikipedia  แกงส้ม ต้มปลา ต้มน้ำกะทิปลาเค็ม น้ำของฝักส้มป่อย ใช้ขัดเครื่องเงิน เครื่องทองหยองให้เงางามได้ ฝักแก่แห้งเอามาต้มเอาน้ำใช้สระผมแก้รังแค แก้อาการคันศีรษะ บำรุงเส้นผม ทำให้ผมเปียกชื้นเป็นเงางาม เป็นยาปลูกผม แล้วก็คุ้มครองผมหงอกก่อนวัย  ใบส้มป่อยสามารถเอามาสกัดทำเป็นสีย้อมเส้นไหมได้ โดยสีที่ได้เป็นสีเขียวอ่อน สีเหลืองอ่อน สีน้ำตาลอ่อน หรือสีครีม  ในด้านของความศรัทธาส้มป่อยถือเป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์ของชาวล้านนา โดยประชาชนจะใช้ฝักในพิธีการทำน้ำมนต์เพื่อสะเดาะเคราะห์ ใช้ในงานมงคล ทำน้ำมนต์รดน้ำดำหัวคนแก่ในตอนเทศกาลวันสงกรานต์  หรือใช้รดน้ำพระพุทธปฏิมา  อีกทั้งส้มป่อยยังจัดเป็นพืชที่มีความเป็นสิริมงคลของชาวไทย โดยมั่นใจว่าการปลูกส้มป่อยจะช่วยขับไล่ไสส่งภูตผีปีศาจแล้วก็สิ่งเลวร้ายไม่ให้มารบกวน ช่วยเสริมหรือคืนอำนาจให้ผู้มีถลาค้างอาคม โดยกำหนดให้ปลูกไว้ทางทิศเหนือ  ส่วนสรรพคุณทางยาของส้มป่อยนั้นมีดังนี้
ใบ แก้โรคตา จ่ายมูกมันในไส้ ยาถ่ายเสลด ถ่ายระดูขาว แก้บิด ฟอกล้างโลหิตเมนส์ ประคบให้เส้นเอ็นหย่อนยาน ใบใช้ในสูตรยาอบสมุนไพร มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆช่วยชะล้างสิ่งสกปรก เพิ่มความต้านทานโรคให้กับผิวหนัง บำรุงผิวพรรณ แก้หวัด แก้ปวดเมื่อย สูตรยาลูกประคบสมุนไพร ช่วยบำรุงผิว แก้โรคผิวหนัง ลดความดัน  ใบตำห่อผ้าประคบเส้นให้เส้นอ่อน ใช้ใบอ่อน ต้มเอาน้ำผสมกับน้ำผึ้ง กินเป็นยาขับเยี่ยว ฝัก มีรสเปรี้ยว เป็นยาถ่าย ขับเสลด แก้ไอ แก้บิด แก้ไข้จับสั่น ฝักปิ้งให้เหลือง ชงน้ำจิบแก้ไอ ขับเสมหะ แก้น้ำลายเหนียว เป็นยาถ่ายทำให้คลื่นไส้ แก้ซางในเด็ก ใช้สระผม ทำให้ผมเปียกชื้นเป็นเงาสวย ไม่มีรังแค ต้มน้ำอาบหลังคลอด ฝักตำพอกหรือชุบสำลีปิดแผลโรคผิวหนัง เปลือกฝัก รสขมเปรี้ยวเผ็ดปร่า เจริญอาหาร กัดเสมหะ แก้ไอ ต้น รสเปรี้ยวฝาด เป็นยาระบาย แก้โรคตาแดง แก้น้ำตาทุพพลภาพ  ยอดอ่อน เอามาต้มน้ำ และผสมกับน้ำผึ้งดื่มเป็นยาช่วยขับฉี่ หรือนำมาตำรวมกับขมิ้นอ้อย แล้วใส่น้ำมันพืชน้อย หมกไฟเพียงพออุ่น นำไปพอกแก้ฝี ดอก รสเปรี้ยว ฝาด มัน แก้เอ็นที่พิการให้สมบูรณ์ ใบและฝัก ต้มอาบ ชำระล้าง บำรุงผิว ราก รสขม แก้ไข้
บัญชียาจากสมุนไพร: ที่มีการใช้ตามองค์ความรู้เริ่มแรก ตามประกาศ คณะกรรมการแห่งชาติด้านยา (ฉบับที่ 5)    ปรากฏการใช้ใบแล้วก็ฝักส้มป่อย ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆในตำรับ เป็นยารักษากรุ๊ปอาการทางระบบทางเดินอาหาร ตำรับ “ยาถ่ายดีเกลือฝรั่ง” ประกอบด้วย ดีเกลือฝรั่ง ยาดำ ใบมะกา ใบมะขาม ใบส้มป่อย ฝักคูน รากขี้กาแดง รากขี้กาขาว รากโคนงแตก ฝักส้มป่อย สมอไทย สมอดีงู เถาวัลย์เปรียง ขี้เหล็ก หัวหอม ต้นหญ้าไทร ใบไผ่ป่า คุณประโยชน์ แก้อาการท้องผูก กรณีที่ใช้ยาอื่นแล้วไม่เป็นผล
รูปแบบ/ขนาดวิธีการใช้   แก้ไอ ด้วยการใช้ฝักนำมาปิ้งให้เหลืองแล้วชงกับน้ำจิบรับประทานเป็นยา หรือจะใช้เปลือกนำมาแช่กับน้ำกินทำให้เปียกแฉะคอแก้ไอได้  เมล็ดนำมาคั่วให้ไหม้เกรียมแล้วบดให้ละเอียด ใช้เป่าจมูก ทำให้คันจมูกรวมทั้งทำให้จามได้  ยอดอ่อนหรือใบอ่อนเอามาต้มกับน้ำ แล้วก็ผสมกับน้ำผึ้งใช้ดื่มกินเป็นยาช่วยขับปัสสาวะ  ยอดอ่อนนำมาตำผสมกับขมิ้นอ้อย แล้วใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย หมกไฟพออุ่น และจากนั้นจึงนำไปพอกจะช่วยแก้ฝี แก้พิษฝี ทำให้ฝีแตกเร็วหรือยุบไป ส่วนอีกการใช้รากส้มป่อยเอามาฝนใส่น้ำปูนใสทาบริเวณที่เป็นฝี  ใบใช้ตำประคบหรือตำห่อผ้าประคบเส้นช่วยทำให้เอ็นอ่อน แก้เส้นเอ็นพิการ ปวดเมื่อย  ช่วยให้สตรีมีท้องคลอดได้ง่าย ด้วยการใช้ฝักส้มป่อยโดยประมาณ 3-7 ข้อ นำมาต้มกับน้ำอาบตอนเวลาเย็น โดยให้อาบยังไม่ครบกำหนดคลอด 2-3 วัน แต่ห้ามอาบมากมายเนื่องจากจะก่อให้รู้สึกร้อน
การเรียนทางเภสัชวิทยา

  • ฤทธิ์ต้านเชื้อรา สารสกัดน้ำจากผล ความเข้มข้น 20 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อรา Epidermophyton floccosum ในหลอดทดสอบ แต่ว่าไม่มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อรา Trichophyton rubrum และก็ Microsporum gypseum เหมือนกับสารสกัดอัลกอฮอล์จากผล ความเข้มข้น 100 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร ไม่มีฤทธิ์ต้านทานเชื้อรา T. rubrum, M. gypseum รวมทั้ง E. floccosum
  • ฤทธิ์ต่อต้านเชื้อยีสต์ สารสกัดน้ำ และก็สารสกัดอัลกอฮอล์จากผล ความเข้มข้น 100 รวมทั้ง 200 มิลลิกรัม/มล. เป็นลำดับ และก็สารสกัดน้ำจากส้มป่อย (ไม่ระบุส่วนที่ใช้และความเข้มข้น) ไม่มีฤทธิ์ต้านทานเชื้อยีสต์ Candida albicans
  • ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย สารสกัดน้ำแล้วก็สารสกัดอัลกอฮอล์จากผล ความเข้มข้น 100 รวมทั้ง 200 มก./มล. เป็นลำดับ และก็สารสกัดน้ำจากส้มป่อย (ไม่เจาะจงส่วนที่ใช้และก็ความเข้มข้น) ไม่มีฤทธิ์ต้านทานเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus aureus
  • เมื่อปี คริสต์ศักราช2006 ที่ประเทศอินเดีย ได้กระทำทดสอบสารสกัดจากดอกส้มป่อยกับหนูเพศผู้ โดยการให้สารสกัดในขนาด 50 มิลลิกรัมต่อกก. โดยใช้ระยะเวลาการทดสอบนาน 3 อาทิตย์ ผลการทดลองพบว่า ค่าคอเลสเตอรอลในเลือดของตัวทดลองลดลง ไตรกลีเซอไรด์ต่ำลง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และก็สารสกัดจากส้มป่อยยังมีผลลดอสุจิแล้วก็ endometrial glands ในมดลูก มีการเปลี่ยนแปลงในชั้นเซลล์ในมดลูก สรุปว่าสมุนไพรส้มป่อยสามารถใช้เป็นยาคุมได้ด้วย
  • สารสกัดซาโปนินจากเปลือกส้มปอยแล้วก็สารสกัดเอทานอลและก็น้ำ ในอัตราส่วน 1:1 มีฤทธิ์ทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงแตก โดยค่าดรรชนีการทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงเท่ากับ 1,350
การศึกษาเล่าเรียนทางพิษวิทยา  หลักฐานความเป็นพิษและก็การทดลองความเป็นพิษ
          เมื่อให้สารสกัดจากใบและลำต้น (ไม่กำหนดสารสกัดที่ใช้) และสารสกัดเอทานอล:น้ำ (1:1) จากใบแล้วก็ลำต้น ขนาด 10 กรัม/กก. ทางสายยางให้อาหารหนูถีบจักร ไม่พบพิษ เมื่อฉีดสารสกัดจากใบและลำต้น (ไม่กำหนดสารสกัดที่ใช้) ขนาด 10 กรัม/กก. เข้าใต้ผิวหนังหนูถีบจักร ไม่เจอพิษเหมือนกัน และก็เมื่อฉีดสารสกัดเอทานอล:น้ำ (1:1) จากส่วนเหนือดินเข้าท้องหนูถีบจักร มีค่า LD50พอๆกับ 125 มิลลิกรัม/กก.
          ส่วนสกัดซาโปนินจากเปลือก (ไม่ระบุความเข้มข้น) แล้วก็สารสกัดเอทานอล:น้ำ (1:1) (ไม่เจาะจงส่วนที่ใช้) มีฤทธิ์ทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงแตก ค่าดรรชนีการทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงเท่ากับ 1,350
          สาร acacic acid จากเปลือก (ไม่เจาะจงความเข้มข้น) มีฤทธิ์ฆ่าสเปิร์ม แล้วก็ส่วนสกัดซาโปนินจากเปลือก ความเข้มข้น 0.004% มีฤทธิ์ฆ่าสเปิร์มในคนเพศชาย
          สารสกัดเอทานอล:น้ำ (1:1) จากส่วนเหนือดิน ไม่เป็นพิษต่อเซลล์ CA-9KB ขนาดของสารที่เป็นพิษต่อเซลล์ครึ่งเดียว มากกว่า 20 มคกรัม/มิลลิลิตร สารสกัดเมทานอล 75% จากผลเป็นพิษต่อเซลล์ Fibrosarcoma HT-1080 ความเข้มข้นของสารที่เป็นพิษต่อเซลล์ครึ่งเดียวพอๆกับ 2.1 มคกรัม/มล. โดยมีสารที่ออกฤทธิ์เป็น Kinmoonosides A, B และก็ C มีขนาดของสารที่เป็นพิษต่อเซลล์ครึ่งเดียวพอๆกับ  4.89,  1.43,  รวมทั้ง  1.87 มคก./มล. ตามลำดับ  ส่วนสารสกัดเมทานอล  ส่วนสกัดที่ละลายน้ำ  สารสกัดเมทานอล:เอทานอล (1:1) จากผล เป็นพิษต่อเซลล์ Fibrosarcoma HT-1080 อย่างอ่อน ความเข้มข้นของสารที่เป็นพิษต่อเซลล์กึ่งหนึ่งพอๆกับ 10, 17.9 รวมทั้ง 21.5 มคกรัม/มิลลิลิตร เป็นลำดับ สารสกัดคลอโรฟอร์ม สารสกัดอะซีโตน ส่วนสกัดที่ละลายน้ำ สารสกัดเมทานอลและก็สารสกัดเมทานอล:เอทานอล (1:1) จากผล เป็นพิษต่อเซลล์ CA-Colon-26-L5 อย่างอ่อน
ข้อเสนอแนะ/สิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวัง ในขณะนี้ไม่มีข้อมูลในด้านข้อพึงระวังสำหรับเพื่อการใช้ส้มป่อยแต่ว่าถึงอย่างไรก็ตามส้มป่อยก็ยังเป็นราวกับสมุนไพรจำพวกอื่นๆที่จะต้องมีการระมัดระวังสำหรับเพื่อการรับประทานถ้าเกิดรับประทานเป็นของกินหรือส่วนประกอบของอาหารคงปลอดภัยแต่อย่างใด แต่หากจะใช้เพื่อสรรพคุณทางยานั้นควรที่จะใช้แต่พอดิบพอดี ไม่ใช้ในปริมาณที่มากและไม่ควรใช้ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานานด้วยเหตุว่าอาจเกิดโทษต่อสุขภาพได้
เอกสารอ้างอิง

  • มงคล โมกขะสมิต กมล สวัสดีมงคล ประยุทธ สาตราวาหะ.  การศึกษาพิษของสมุนไพรไทย.  วารสารกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 2514;13:36-66.
  • [url=http://www.disthai.com/16913772/%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2]ส้มป่อย.ฐานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.
  • หนังสือสมุนไพรไทย เล่ม 1.  (ดร.นิจศิริ เรืองรังษี, ธวัชชัย มังคละคุปต์).  “ส้มป่อย (Som Poi)”.  หน้า 282.
  • วันดี อวิรุทธ์นันท์ แม้นสรวง วุฒิอุดมเลิศ.  ฤทธิ์ต้านเชื้อราของพืชสมุนไพร.  วารสารเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล 2536;10(3):87-9.
  • Banerji R, Prakash D, Misra G, et al.  Cardiovascular and hemolytic activity of saponins.  Indian Drugs 1981;18(4):121-4.
  • วไลพร พงวิรุฬห์ วีณา ถือวิเศษสิน วีณา จิรัจฉริยากูล และคณะ.  ดัชนีการทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงในมาตรฐานสมุนไพรไทย.  โครงการพิเศษ ม.มหิดล, 2531-2532.
  • ส้มป่อย.ฐานข้อมูลเครื่องยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. http://www.disthai.com/[/b]
  • หนังสือสมุนไพรสวนสิรีรุกขชาติ.  (คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล).  “ส้มป่อย”.  หน้า 33.
  • Avirutnant W, Pongpan A.  The antimicrobial activity of some Thai flowers and plants.  Mahidol Univ J Pharm Sci 1983;10(3):81-6.
  • ส้มป่อย.สมุนไพรที่มีการใช้ในผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.
  • หนังสือสมุนไพรลดไขมันในเลือด 140 ชนิด.  (เภสัชกรหญิง จุไรรัตน์ เกิดดอนแฝก).  “ส้มป่อย”  หน้า 178.
  • Mokkhasmit M, Swatdimongkol K, Satrawaha P.  Study on toxicity of Thai medicinal plants.  Bull Dept Med Sci 1971;12(2/4):36-65.
  • Banerji R, Nigam SK.  Chemistry of Acacia concinna and a Cassia bark.  J Indian Chem Soc 1980;57:1043-4.
  • Ikegami F, Sekine T, Hjima O, Fujii Y, Okonogi S, Murakoshi I.  Anti-dermatophyte activities of “tea seed cake” and “pegu – catechu”.  Thai J Pharm Sci 1993;17(2):57-9.
  • ส้มป่อย.ฐานข้อมูลความปลอดภัยของสมุนไพรที่มีการขึ้นทะเบียนยาแผนโบราณ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.
  • Tezuka Y, Honda K, Banskota AH, Thet MM, Kadota S.  Kinmoonosides A-C, three new cytotoxic saponins from the fruits of Acacia concinna, a medicinal plant collected in Myanmar.  J Nat Prod 2000;63:1658-64.
  • Banergi R, Srivastava AK, Misra G, Nigam SK, Singh S, Nigam SC, Saxena RC.  Steroid and triterpenoid saponins as spermicidal agents.  Indian Drugs 1979;17(1):6-8.
  • Bhakuni DS, Dhar ML, Dhar MM, Dhawan BN, Gupta B, Srimali RC.  Screening of Indian plants for biological activity. Part III.  Indian J Exp Biol 1971;9:91.



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ