ร่างกายแข็งแรงสำคัญมากกว่าความร่ำรวยอย่างแน่นอนมาดูแลสุขภาพกันเลยดีกว่า

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ร่างกายแข็งแรงสำคัญมากกว่าความร่ำรวยอย่างแน่นอนมาดูแลสุขภาพกันเลยดีกว่า  (อ่าน 15 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
jackbaristaa
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14329


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: มิถุนายน 03, 2018, 09:47:35 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

สิ่งที่เราควรจะตระหนักไว้เสมอว่า มั่งคั่งสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงกว่ามั่งคั่งเงิน ทั้งสุขภาพด้านร่างกายรวมทั้งสุขภาพที่เกี่ยวข้องทางจิตการบรรลุเป้าหมายทางการเงินจะไม่มีสาระอะไรเลยหากสุขภาพย่ำแย่ไป และก็บางครั้งบางคราวจำเป็นต้องนำเงินที่หามาได้จ่ายเป็นค่าพยาบาลกระทั่งหมดคนบางคนเพียรพยายามคิดบัญชีมาชั่วชีวิต แต่ว่าปล่อยให้สุขภาพชำรุดทรุดโทรม แล้วหลังจากนั้นก็พบว่าเงินทั้งผองที่หามาไม่อาจจะซื้อสุขภาพไว้ได้จึงต้องเสียชีวิตไปอย่างปวดร้าวทรมาณโดยธรรมดาถ้าเกิดได้รับพรวิเศษ 3 ข้อให้อธิษฐานได้ตามความฝันสิ่งที่คนเรามักจะอธิษฐานกันก็คือขอให้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตขอให้มีครอบครัวที่ดีและขอให้มั่งคั่งแต่ถ้ามีพรให้เลือกอธิษฐานได้เพียงแค่ข้อเดียวสิ่งที่ต้องเลือกเป็นลำดับต้นๆคือการมีสุขภาพที่แข็งแรง เพราะว่าหากมีโรครุมเร้า การจะมีคู่ที่ดีหรือมั่งมีแค่ไหนก็ไร้สาระ ซ้ำยังเป็นภาระให้คู่สมรสหรือครอบครัวจำเป็นต้องมาคอยดูแลรักษาอีกสุขภาพที่แข็งแรง คือความสำเร็จที่ตีราคาไม่ได้ แม้กระนั้นหาได้น้อยมากที่คนใดกันแน่จะหันมาดูแลรักษาสุขภาพร่างกายอย่างเป็นจริงเป็นจัง จนกว่าจะป่วยหนักขึ้นมาจึงค่อยเริ่มรู้สึกแต่ว่าก็มักจะสายเกินความจำเป็นการบรรลุเป้าหมายในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านคู่สามีภรรยา การเล่าเรียนงานการ การคลัง ฯลฯ จะไม่มีคุณค่าอะไรเลยถ้าหากปราศจากสุขภาพที่แข็งแรง ปัญหาสุขภาพสามารถทำลายความสำเร็จทุกๆอย่างที่เคยมีมาไดภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว
ความสุขของยังอยู่ในโลกของโลกียะก็คือ ความสบายที่ได้มาจากการเร่งเร้าประสาทสัมผัสนั่นเอง รูป รส กลิ่นเสียง สัมผัส หรือนามธรรมทั้งหลายที่เข้ามากระทบ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นำไปสู่สุขสงสาร ตัณหา อุปาทานด้วยเหตุดังกล่าวเมื่อทวารใดทวารหนึ่งเสียหาย ความสุขที่ได้รับจากทวารนั้นจะหมดไปทันที จะมีสาระอะไรถ้าเกิดมีเงินซื้อจอแอลซีดี (LCD) สามมิติราคาหลายแสนบาทแต่ตามองไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไรกับการท่องเที่ยวต่างประเทศ ช่วงเวลาที่ตนเองเดินไม่ได้ จะเป็นประโยชน์อะไรกับการมีครอบครัวที่อบอุ่น หากตัวเองมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน
สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เป็นการบรรลุผลที่สำคัญที่สุดคนสุขภาพแข็งแรงจะมองสดชื่น เค้าหน้าผ่องใส มีพลังกายพลังใจสูง ซึ่งจะส่งผลทางอ้อมไปสู่ความสำเร็จด้านอื่น ๆ อีกด้วยมนุษย์เรามักไม่ค่อยรู้ดีว่า สิ่งที่เราเองครอบครองอยู่มีค่ามากแค่ไหนจนกระทั่งจะสูญเสียมันไป สุขภาพเป็นของที่มีราคาที่สุดในชีวิต แม้กระนั้นบางบุคคลไม่เคยบำรุงรวมทั้งดูแลรักษาเลย จนเมื่อป่วยขึ้นมาแล้วก็ค่อยใส่ใจ แต่ว่าเมื่อถึงเวลานั้นก็ยากเกินที่จะแก้ไขหรือแม้ว่าจะบำบัดรักษาได้ ก็จำต้องเสียค่าใช้จ่ายไปจำนวนไม่ใช่น้อยบางคราวอาจเป็นเงินเก็บตลอดชีพเลยก็ได้
แม้ว่าโรคภัยไข้เจ็บบางประเภทจะมีต้นเหตุจากพันธุกรรม ซึ่งมียีนซ่อนเร้นที่ก่อให้เกิดโรคหลบซ่อนอยู่ (Initiator Gene) แต่ยีนนี้จะไม่ทำงาน ถ้าไม่มีการกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อม (Promoter) ดังเช่นว่า มียีนโรคมะเร็งปอดแอบแฝงอยู่ แต่ถ้าเกิดดำเนินชีวิตอย่างมีสติสัมปชัญญะไม่ดูดบุหรี่ พากเพียรหลบหลีกควันพิษ ไอระเหยต่าง ๆ ทานอาหารที่มีคุณประโยชน์ บริหารร่างกายอย่างสม่ำเสมอ ยีนโรคมะเร็งที่มีอยู่ก็จะฝ่อไปท้ายที่สุด ไม่สามารถที่จะแสดงผลได้ โรคจำนวนมากไม่ได้มีผลมาจากพันธุกรรมร้อยเปอร์เซ็นต์ สิ่งแวดล้อมก็เป็นสาเหตุก่อโรคได้ด้วยเหมือนกัน หากรู้ตัวว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคใดโรคหนึ่ง ตัวอย่างเช่น เบาหวาน ความดัน หัวใจ ไต ตับ หรือแม้แต่โรคประสาท เพราะว่ามีประวัติคนภายในครอบครัวเจ็บไข้ก็ต้องเฝ้าระวัง เพียรพยายามเรียนหาข้อมูลการกระทำตน เพื่อหลบหลีกสิ่งที่จะทำให้เกิดโรค ถึงแม้มีโรคประจำตัวที่หลบหลีกไม่ได้ก็สามารถผ่อนหนักให้เป็นค่อยได้การจริงแล้วธรรมชาติสร้างอวัยวะให้เราไว้อย่างแกร่งมากมาย ยก ดังเช่นว่า “ฟัน” สามารถบดบดได้เป็นเวลา 70 ปีโดยที่จะเกิดการสึกเพียงแค่เล็กๆน้อยๆ ถ้าหากนำเหล็กขนาดพอๆกับฟันมาสีกัน น่าเชื่อถือว่าไม่เกิน 2 ปีเหล็กนั้นจะกุดจนกระทั่งหมดไป ถึงกระนั้นทุกๆวันนี้ก็มีคนที่ฟันผุ ฟันเสียกันเยอะมาก ไม่ใช่เพราะว่าธรรมชาติดีไซน์มาไม่ดี แต่ว่าเพราะคนที่ใช้ละเลยรักษา เหมือนกันกับอวัยวะอื่น ๆ หัวใจ ไต ตับ ปอด หรือแม้แต่เส้นเลือด นับว่าเป็นประติมากรรมลำดับสูงสุดของธรรมชาติที่สร้างมาให้ใช้งานได้อย่างต่ำ 100 ปี แม้กระนั้นด้วยการดำเนินชีวิตอย่างประมาท ทำให้อายุขัยของอวัยวะสั้นลง
อีกสิ่งหนึ่งที่สามารถมีผลเสียต่อร่างกายได้ทันทีทันใดปัจจุบันทันด่วนเป็นอุบัติเหตุแม้จะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงเพียงใดแต่เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น จะมีปัญหาด้านของสุขภาพทันที รวมทั้งบางครั้งบางคราวถึงขั้นสูญเสียอวัยวะ เป็นพระราชโอรสนิทรา เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ฯลฯ การดำนงชีพอย่างมีสติสัมปชัญญะจะช่วยคุ้มครองปกป้องได้ อุตสาหะหมั่นฝึกหัดรุ่งเรืองสติอยู่เสมอ ๆ อุบัติเหตุต่าง ๆที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่ว่ามีต้นเหตุมาจากกรรมเก่า คนเราสามารถเอาชนะบาปได้ด้วยสติ ดังที่หลวงพ่อชาเคยกล่าวไว้ว่า “เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือกฎแห่งกรรมยังมีวิปัสสนากรรมฐาน”ตามแนวคิดของ อับราฮัม มาสโลว์ ปรมาจารย์ด้านจิตวิทยาบอกไว้ว่า มนุษย์จะมีความต้องการทางด้านร่างกายเป็นขั้นแรก ยกตัวอย่างเช่น อาหาร ยารักษาโรค การหายใจ การขับถ่ายการนอนหลับ อื่นๆอีกมากมาย ตราบเท่าที่ความปรารถนาในระดับค่อนข้างต่ำสุดนี้ยังไม่ได้รับการโต้ตอบ จะไม่มีความปรารถนาไปถึงความมุ่งหมายในระดับที่สูงขึ้น แล้วก็แม้ว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิตแค่ไหน หากสิ่งที่ต้องการขั้นพื้นฐานนี้ไม่ได้รับการโต้ตอบก็จะหาความสุขไม่ได้ ดังเช่น มาริลีน มอนโร, เอลวิส เพรสลีย์, ไมเคิล แจ็กสัน อื่นๆอีกมากมาย ที่ล้วนเสียชีวิตด้วยการกินยานอนหลับเกินขนาด จะเห็นได้ว่า แม้แต่ความจำเป็นเบื้องต้นอย่างการนอนให้หลับยังทำไม่ได้ การมีเงินมีทองเป็นพันล้านแต่มีปัญหาสุขภาพไม่ว่ากายหรือจิตใจ ท้ายที่สุดเงินที่มีก็ซื้อความสุขมิได้
ความสำราญที่จริงจริงมาจากร่างกายที่แข็งแรง ซึ่งคำว่า “สุขภาพ” แปลตรงตัวก็ได้ความหมายว่า สภาพที่สุข เมื่อแก่ขึ้นจะทราบดีว่าสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงมีค่ามากยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดทั้งปวง ถึงแม้มีชีวิตที่มิได้ร่ำรวยอะไร แต่มีสุขภาพแข็งแรงก็จะเป็นสุข ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในขณะนี้ ถ้าเกิดเทียบแล้ว สะดวกรวมทั้งดีมากยิ่งกว่าฮ่องเต้ในโบราณกาลด้วย ยุคนั้นไม่มีสุขาแบบบ้านในปัจจุบัน จำเป็นต้องใช้กระโถน ไม่มีระบบท่อ พัดลม แอร์ ทีวี คอมพิวเตอร์ ฯลฯ ยารักษาโรคยิ่งไม่ต้องเอ๋ยถึง มีแต่ว่าสมุนไพรซึ่งให้ผลการดูแลและรักษาไม่แน่นอนซึ่งลำบากที่สุดในโลกปัจจุบันนี้ก็ยังสามารถเข้าถึงยารักษาโรคที่มีคุณภาพได้มากกว่าใครๆก็อยากมีร่างกายแข็งแรง อายุยืนยาว รวมทั้งดูอ่อนกว่าวัย ก็เลยสรรหาเคล็ดวิธีสำหรับเพื่อการชะลอวัย และก็เสริมความแข็งแรงด้วยแนวทางต่างๆนานา ในตอนที่หลายท่านบางทีอาจตั้งปัญหาว่า ที่พวกเรากินวิตามินหรืออาหารเสริมเข้าไปมหาศาลนั้น แท้จริงแล้วพวกเราได้รับวิตามินมากเกินไป หรือวิตามินนั้นไปเสริมส่วนที่ขาดใช่หรือไม่ขอทําความรู้ความเข้าใจก่อนว่า ความนิยมชมชอบสำหรับในการรับประทานวิตามินเริ่มขึ้นในยุโรปแล้วก็อเมริกา เพราะว่าผู้คนมีพฤติกรรมการกินอาหารที่ไม่เหมาะกับสุขภาพ จนกระทั่งมีผู้เจ็บป่วยเยอะแยะ จึงพอๆกับเปิดทางทางให้บริษัทอาหารเสริมทั้งหลายใช้ข้อเสียนี้เป็นกลยุทธ์ตลาด โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ป่วยโดยตรง แล้วก็ท้ายที่สุดจึงขยายมาสู่ฝูงชนปกติทั่วๆไป โดยกล่าวถึงว่าต้องได้รับอาหารเสริมเพียงแค่นั้นเท่านี้เพื่อสุขภาพที่ดี โดยไม่กล่าวว่ามูลเหตุของวิตามินเหล่านั้นมาจากการกินอาหารอะไรบ้าง เมื่อหลายปีก่อนคุณอาจจะเคยได้ยินข่าวสะเทือนแวดวงอาหารเสริมในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างยิ่ง เมื่อนักกีฬาซีอดังเสียชีวิตไม่ทราบปัจจัยขณะฝึก ซึ่งเขาแก่เพียง 23 ปีเพียงแค่นั้น แล้วก็เจออาหารเสริมชนิดหนึ่งที่มีส่วนผสมของ Ephedro อยู่ในล็อกเกอร์ของเขา ก็เลยทําให้หน่วยงานอาหารแล้วก็ยา ทวนการใช้อาหารเสริมดังที่กล่าวมาแล้วด้วยเหตุนี้ หากคุณอยากได้รับประทานอาหารเสริมก็อย่าได้หลงเชื่อเพียงคำโฆษณาชวนเชื่อถึงคุณประโยชน์อันมาก ควรระมัดระวังผลเสียด้วย เพราะเหตุว่าหากรับประทานมากมายและก็รับประทานติดต่อนานเกินไป อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ยกตัวอย่างการกินวิตามินบี 6 ทุกๆวันเกินวันละ 10 มิลลิกรัม อาจทําให้สูญเสียความรู้สึกที่มือและเท้าได้ หรือกินสารเบต้าแคโรที่มีขนาดสูง โดยรับประทานติดต่อกันนานๆก็อาจกระตุ้นโรคมะเร็งในผู้ดูดบุหรี่ได้เช่นกัน อย่างที่เราทราบกันดีว่าแม้รับประทานอาหารให้มากมาย จะพบว่าการขาดสารอาหารนั้นมีน้อยมาก รวมทั้งแทบจะไม่มีความจําเป็นสำหรับในการกินอาหารเสริมเลย ช่วงเวลาที่ฝูงคนที่ขาดสารอาหาร มักเกิดในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เพราะไม่สามารถเลือกทานอาหารได้ครบ หรือบางรายก็ทานอาหารเดิมๆโดยยิ่งไปกว่านั้นอาหารจานด่วนทั้งหลายแหล่
มาถึงที่ตรงนี้หลายคนบางทีอาจคิดสงสัยว่า แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าร่างกายของพวกเราควรได้รับวิตามินใดบ้าง ง่ายสุดเลยก็จำต้องไตร่ตรองจากอาหารที่เราเลือกกิน ควรรับประทานให้นานัปการ แล้วก็ผักสดและผลไม้ (แนวทางง่ายๆกินให้ครบ 5 สี) แต่ว่าถ้าเกิดไม่อาจจะเลือกได้ ก็ให้เลือกรับประทานวิตามินที่ไม่สะสมในร่างกาย ด้วยเหตุว่าถ้าเกิดเกินความอยากจะสามารถขับทิ้งได้ เช่น วิตามิน B และก็ C แต่ว่าวิตามินที่รับประทานแล้วสะสมได้ก็คือวิตามิน A, D, E, K จ้ะ
สำหรับผู้ที่รับประทานวิตามินเป็นประจํา อย่าลืมลองพิจารณาจำนวนที่ควรจะรับประทานต่อวันด้วย ตัวอย่างเช่น วิตามินซีในปริมาณ 500-1,000 มก.ต่อวัน เป็นขนาดพอเหมาะพอควรที่ร่างกายควรจะได้รับในวันแล้ววันเล่า หรือแคลเซียม 2000 มก.ต่อวัน เหมาะสําหรับสตรีวัยหมดประจําเดือน ด้วยเหตุว่าช่วยคุ้มครองปกป้องกระดูกพรุนได้ หรือสาวขึ้นมาอีกนิดรวมทั้งกําลังมีครรภ์ แนะนำว่าให้รับประทาน 1,500 มิลลิกรัมกำลังพอดีค่ะ ส่วนธาตุเหล็กนั้น โดยทั่วไปในคนธรรมดาควรได้รับ วันละ 8-15 มก. ส่วนคนป่วยโลหิตจางที่ขาดธาตุเหล็ก ควรได้รับวันละ 50-100 มก.จ้ะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : กินอาหารเสริมก่อนนอนดีไหม

Tags : สุขภาพ



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ