Advertisement
ครั้นความอลเวงเข้าครอบงำ เป็นเหตุให้เจ้ารู้สึกอารมณ์เสีย หรืออารมณ์เสียไปหมดซะทุกอย่าง ตัวอย่างเช่นเรื่องงานที่ปฏิบัติงานนั้นมิได้ดั่งใจ เรื่องเพื่อนร่วมงานที่เอาแต่เม้าท์ดังลั่นจนกระทั่งเป็นเหตุให้คุณไม่เป็นอันทำงานทำการ หรือเรื่องอะไรก็แล้วแต่ แต่เพียงแค่เจ้าลองใส่หูฟังแล้วเปิดดนตรีที่เธอถูกใจ เชื่อเลยว่าเสียงเพลงจักต้องทำให้ท่านหวนอารมณ์ดีอย่างแน่นอน แต่ก่อนที่จะความรู้สึกดีได้นั้น ก็จำเป็นจะต้องขึ้นกับหูฟังที่เลือกใช้เหมือนกัน ฉะนั้น เรามาทำความรู้จักหูฟังในแต่ละสไตล์ แต่ละชนิดกันดีกว่า เพราะเธอจะได้ทราบว่าหูฟังอย่างไหน ที่จะทำให้เธออารมณ์ดีขึ้นได้ ไปดูกัน
มั่นใจว่าใครก็ตามคงจะเคยเห็นหูฟังที่เค้าจำหน่ายตามท้องตลาดกันอยู่แล้ว ซึ่งประเภทหูฟังที่คุ้นๆ และฮิตจะมีด้วยกันหลักๆ คือ หูฟังเอียร์บัด (Earbuds), หูฟังแบบเสียบหู (In-Ear) และหูฟัง Headphone (Full-Size) ซึ่ง Headphone ชนิดนี้ก็จะถูกแบ่งออกมาอีก 2 ประเภทคือ หูฟังแนบหู (On-ear) และหูฟังครอบหู (Over-ear)
โดยประเภทแรกที่จะมาแนะนำคือ หูฟังเอียร์บัด (Earbuds) คือหูฟังทุกคนต้องชินเป็นอย่างดีแน่นอน โดยนำมาใช้อย่างแพร่หลายในช่วงปี 1980 ที่ ใน ครั้งนั้น กำลังมาแรงพร้อมกับ Sony Walkman และก็มาได้รับความนิยมอีกครั้งในชื่อ “หูฟังไอโฟน” ที่มาพร้อมกับเครื่อง iPhone นั่นเอง ต่อจากนั้นก็มียี่ห้ออื่นๆ ผลิตขึ้นมาอย่างมากมาย และสิ่งที่ทำให้หูฟังประเภทเอียร์บัด (Earbuds) เป็นที่นิยมก็เพราะว่า ค่อนข้างมีราคาค่อนข้างไม่แพงแต่ก็ให้เสียงที่มีคุณภาพที่ดี สามารถหาจับจ่ายได้ตลอด และง่ายในการพกพา ส่วนในเรื่องของเสียงนั้นค่อนข้างจะโปร่ง ฟังง่าย เก็บรายละเอียดปลีกย่อยได้พอประมาณ ถึงกระนั้นไม่สามารถกันเสียงจากข้างนอกได้ และอีกอย่างก็คือ ยามใส่นานๆ แล้ว จะให้ความรู้สึกว่าปวดหู และยังร่วงง่ายมากๆ เพราะฉะนั้นถ้าหากจะใช้เพื่อบริหารร่างกายแล้วละก็ ไม่แนะนำเป็นอย่างมากเลย และแม้ว่าในปัจจุบันนี้หูฟังเอียร์บัด (Earbuds) จะไม่ค่อยได้รับความนิยมชมชอบอย่างครั้งก่อน แต่ก็ยังมีหูฟังเอียร์บัด (Earbuds) ที่ให้คุณภาพเสียงดีกรีเทพที่กลุ่มคนยังให้ความสนใจกันอยู่ เช่น VE Monk PLUS เพราะนอกจากจะได้รับการยินยอมที่ยอดเยี่ยมจากทั้งไทยและต่างแดนแล้ว ยังได้ถูกลงคะแนนให้เป็นหูฟังเอียร์บัด (Earbuds) Highest Rate อันดับ 1 ของเว็บโด่งดังอย่าง Headfi อีกด้วย เพราะฉะนี้จึงมาพร้อมกับเสียงคุณภาพเลิศ ยิ่งกว่านั้นยังมีไมโครโฟนที่รองรับทั้ง iOS, Android ทำให้สนทนาปราศรัยได้อย่างไม่ติดๆ ขัดๆอีกด้วย
ต่อมาเป็นหูฟังแบบเสียบหู (In-Ear) โดยจัดว่าคือหูฟังที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้เลยเชียว ด้วยความที่สบายต่อการพกพา และยังสามารถสกัดกั้นสัญญาณรบกวนจากรอบข้างได้ดีมากๆ อีกด้วย เนื่องจากมีจุกยาง หรือจุกโฟมหลายขนาด ที่ทำให้กำลังดีกับรูหูของแต่ละบุคคล จึงทำให้ปิดรูหูสนิท ทำให้สวมได้พอเหมาะพอดี แถมหลุดได้ยากอีกด้วย ด้านข้อดีของเรื่องเสียงนั้นทำได้เยี่ยมเลยทีเดียว ให้รายละเอียดปลีกย่อยค่อนข้างจะกระจ่าง แต่ข้อพึงระวังของหูฟังประเภทนี้คือ เรื่องความปลอดภัย เหตุเพราะหูฟังลักษณะนี้สามารถป้องกันเสียงได้ดี จึงเป็นเหตุให้เราไม่ค่อยได้ยินเสียงจากภายนอก จนบางทีอาจเป็นเหตุให้เกิดผลร้ายขึ้นมาได้ และสำหรับคนที่ชอบเปิดเสียงดังมากๆ ก็จะเป็นอันตรายต่อหูได้เหมือนกัน ส่วนหากว่าย้อนถามว่าแล้วจะเลือกแบรนด์อะไรดี บอกเลยว่าแนะนำลำบากมาก เนื่องด้วยวันนี้นี้มักทำออกมามากหน้าหลายตาแบรนด์ และแต่ละแบรนด์ก็เน้นหนักการใช้งานที่แตกต่างกันออกไปอีก ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากคุณเป็นคนที่ชอบฟังเพลง แต่ก็ยังชื่นชอบเล่นเกมด้วย ดังนั้นควรเลือกหูฟังที่เป็นหูฟัง gaming ไปเลย เพราะว่าดีไซน์มาเพื่อการเล่นเกมเป็นพิเศษ ที่จะให้เธอได้ยินเสียงทุกรายละเอียดปลีกย่อย และหากอยากจะฟังเพลง ก็ยังต้องให้เสียงที่คุณภาพเริ่ดด้วย
เข้าแบบสุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุด นั่นก็คือ หูฟัง Headphone (Full-Size) ที่เป็นประเภทที่มีมาอย่างช้านานมาก ซึ่งอย่างที่กล่าวไปในตอนต้นว่า Headphone ชนิดนี้จะแบ่งแยกออกมาอีก 2 ประเภทคือ หูฟังแนบหู (On-ear) และหูฟังครอบหู (Over-ear) ซึ่งดิฉันจะมาพูดถึงหูฟังแนบหู (On-ear) กันก่อนเลย ซึ่ง
หูฟังแบบนี้จะติดแน่นเข้ารูปที่ใบหูเมื่อใส่ตัวฟองน้ำ จึงทำให้ได้เสียงที่กว้างขึ้น ให้เสียงฟังราบรื่น เวทีเสียงกว้าง เป็นธรรมชาติ แต่อาจจะได้คุณภาพเสียงที่แย่ลง เพราะเป็นหูฟัง Full-size ที่ถูกย่อสัดส่วนให้เล็กลง ทว่าข้อดีก็คือมีน้ำหนักเบา ทำให้สามารถติดตัวไปไหนมาไหนได้อย่างราบรื่น แต่ก็มีจุดบกพร่องนิดนึงตรงที่ด้วยความที่มีฟองน้ำแนบอยู่กับหู ซึ่งเมื่อสวมไปนานมาก จะทำให้ใบหูมักจะร้อน และมีเหงื่อเปียก
และมาถึงตอนหลังสุดจริงๆ นั่นก็คือ หูฟัง Headphone (Full-Size) แบบหูฟังครอบหู (Over-ear) โดยนับเป็นลักษณะหูฟังที่นักฟังเพลงตัวจริงนิยมชมชอบกันมากๆ ด้วยความที่เป็นหูฟังแบบครอบหู จึงทำให้ใส่สบายดี สามารถฟังได้เป็นเวลายาวนาน และก็ได้คุณภาพที่พิเศษ เสียงที่เป็นธรรมชาติสมจริง เวทีเสียงกว้างขวางมากมาย ฟังง่าย แต่ก็ต้องการจะพกพายุ่งยากไปนิดนึง ด้วยความที่มีขนาดค่อนข้างจะใหญ่ เพราะฉะนั้นจึงเหมาะสมกับการใช้งานคงที่มากกว่า และข้อเด่นของหูฟังประเภทนี้คือ บางตัวมักจะต้องการแอมป์มาช่วยขับเพื่อเพิ่มศักยภาพขอ
หูฟัง[/url]เพื่อให้ได้เสียงที่ดีทีสุดนั่นเอง
จะเห็นได้ว่า หูฟังแต่ละแบบก็จะมีคุณสมบัติแปลกกันไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพเสียง ไม่ก็เรื่องของการพกพา อีกทั้งเรื่องของราคา โดยทุกชนิดนั้นสามารถช่วยให้เธอหายประสาทเสียจากภาวะแวดล้อมจากข้างนอกแน่นอน แล้วจะรออะไร ไปหาเลือกจับจ่ายอย่างที่ท่านปรารถนาได้เลย!!
Tags : หูฟัง,headphone,หูฟัง ยี่ห้อไหนดี
