5 แนวทาง ธุรกิจขนาดเล็กจะรอดได้ยังไงในยุคที่ เทคโนโลยีไล่ฆ่าธุรกิจ

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: 5 แนวทาง ธุรกิจขนาดเล็กจะรอดได้ยังไงในยุคที่ เทคโนโลยีไล่ฆ่าธุรกิจ  (อ่าน 9 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Bigbombboomz
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 25813


ดูรายละเอียด










« เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2018, 02:28:06 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ปัญหาใหญ่ในการทำธุรกิจ ไม่ใช่กล่าวถึงเพียงแค่คำว่าทำยังไงให้ “รุ่ง” ทำเช่นไรให้ “รวย” แล้วหละครับผม ด้วยเหตุว่าสิ่งที่เราจำต้องโฟกัสคือ “ทำยังไงให้รอด” เพราะเหตุว่าหา“รอด” ได้มันก็ “รุ่ง” ได้แต่ถ้าเกิด“รอด” ไม่ได้มันก็ “ร่วง” อย่างเดียวจะทำอย่างไรให้รอด วันนี้พวกเรามาช่วยกันนึกถึงตัวการที่เราจะทำแล้ว “หล่น” ปิดข้อบกพร่องนั้น เพื่อทำให้ธุรกิจเรา “รอด” ให้ได้
1.รู้จักตัวเองดีหรือยัง ทำธุรกิจรู้จักตัวเองดีหรือยัง หรือว่าเอาอย่างสหาย คิดตามสหาย เห็นใครกันแน่ทำอะไรแล้วร่ำรวย คนใดกันทำอะไรแล้วรุ่งต้องการจะทำธุรกิจนั้นด้วยขอร่ำรวยด้วยคน!!หากเป็นในลักษณะนี้คุณกำลังมาไม่ถูกเลน….แล้วหละนะครับ !!!กลับไปพบข้อดีของตัวเอง กลับไปพบสิ่งที่เราเองถนัด กลับไปสู่เลนของตัวเองให้ไวที่สุด ด้วยเหตุว่าหากขืนวิ่งผิดเลนไปแบบนี้ นอกจากธุรกิจคุณจะ “ไม่รุ่ง” แล้วชีวิตคุณก็จะยัง “ไม่มีความสุข” อีกด้วย
2.รู้จักลูกค้าเยอะแค่ไหน ลูกค้าพวกเราเป็นผู้ใดกันแน่…กันแน่ ? พวกเรารู้จัก ทราบจริง รู้ใจ ลูกค้าพวกเราดีพอหรือยัง หรือทราบเพียงว่า เขาเพศอะไร อายุมากแค่ไหน ค่าตอบแทนรายเดือนเท่าใด คนที่จะชนะและก็อยู่รอดในธุรกิจไม่ใช่คนที่แค่เพียง “ขาย” สินค้าได้ครับผม แต่เป็นสามารถ “ซื้อ” ดวงใจลูกค้าได้ครับถ้าพวกเราไม่เคยทราบลูกค้าเราจริงๆก็ยากที่จะ “ได้ใจ” ลูกค้าครับ ทดลองตั้งหลักจริงๆจังๆกับเรื่องลูกค้าดูสักรอบสิขอรับ หาตะแกรงมาร่อนว่าตามที่เป็นจริงแล้วลูกค้าเราเป็นคนใดกัน ถูกใจอะไร นิสัยยังไง มีความต้องการอะไร มีปัญหาอะไร …แล้วก็ เราช่วยตอบปัญหาอะไรให้เขาได้
3.เริ่มที่รอดไม่ใช่ร่ำรวยอย่าตกอยู่ภายใต้ของ “ความโลภละโมบ” ที่มักจะชักจูงให้เราไปหลงกับ “ความมั่งคั่ง” แค่เพียงมีคนใดกันกวักมือว่า “มาทางนี้สิ !! ร่ำรวย”ทำธุรกิจประกอบด้วย 2 สิ่งจำเป็นคือ1.ความฝันและแผนการที่แจ้งชัด2.แนวทาง เหตุและก็ผลโดยส่วนใหญ่เราชอบขาด “เหตุรวมทั้งผล” สำหรับในการทำธุรกิจ เรามักจะโดนล่อไปตรงเป้าด้วย “ความฝัน” ที่ขาด “เหตุ” ส่งเสริมเริ่มที่ปัญหาว่า “ทำอย่างไรให้รอด (ปากเหยี่ยว ปากกา)” น่าจะเป็นสิ่งที่พวกเราควรโฟกัส เนื่องจากถ้าหากรอดมันก็ร่ำรวย…แต่ว่าถ้าเกิดไม่รอด…มั่งคั่งก็อาจเป็นร่ำรวยแม้กระนั้นเขือ แล้วหละครับผม
4.มองดูไกลแต่ว่าทำใกล้ทำธุรกิจมันควรมีวิสัยทัศน์ แล้วคำว่า “วิสัยทัศน์” นี่มันยังไง คำตอบกล้วยๆสำหรับผมคือ ต้องรู้ดีว่าจะเป็นอะไรบ้างที่อยู่ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า มันยังไม่ใช่แค่นี้จะต้องประมาณบริบทสิ่งแวดล้อมต่างๆที่จะเกิดขึ้นได้ด้วยในอีก 3-5 ปีข้างหน้าไม่ใช่เห็นเพียงว่า “เราจะไปถึงไหน” แต่จำต้องคำนึงเพราะว่า เทคโนโลยีในเวลานั้นมันจะเป็นอย่างไร พฤติกรรมผู้บริโภคจะแปรไปอย่างไร นี่แหละครับ“วิสัยทัศน์”มองเห็นให้ไกล แต่จำต้องทำให้ใกล้ คือทำในวันนี้ให้เยี่ยมที่สุด ทำเวลานี้ให้เหมาะสมที่สุด ด้วยเหตุว่าหากทำวันนี้ไม่ดี ไม่เหมาะ จะมีวิสัยทัศน์ดีแค่ไหน คมขนาดไหน แต่วันนี้ยังเอาดีไม่ได้ มีวิสัยทัศน์ดีไปก็แค่นั้นครับสิ่งที่คือปัญหาหลักที่ทำให้เรา “ร่วง” คือพวกเราเป็นจำพวก “ดูใกล้แม้กระนั้นทำไกล” คือมันกลับหัวกันทำ คิดอะไรแบบสั้นๆแม้กระนั้นดังทำอะไรให้มัน “เว่อร์” เกินพอดี ทำอะไรเกินกำลัง เกินกำลัง ไปๆมาๆกผมยกตัวอย่างให้เห็นภาพการ “มองไกล แต่ ทำใกล้” ให้เห็นภาพชัดเยอะขึ้น พวกเราคงจะเคยดูการกีฬายกน้ำหนักโอลิมปิคกันบ้างนะครับคุณว่ามันเป็นได้ไหมที่อยู่ดีๆจะมีใครกันแน่ยืนขึ้นมาแล้วยกลูกเหล็กหนักเป็นร้อยกิโลแบบสบายๆ?คงจะไม่มี ฝันไปเถอะ !! เออใช่ครับผม….นักกีฬายกน้ำหนักเขาจำเป็นต้องฝึกหัดยกตั้งแต่หลัก 10 โล พอเพียงอยู่ตัวก็เบาๆเพิ่มน้ำหนักขึ้นไป ค่อยๆเอาชนะข้อจำกัดตัวเองไปนิดแต่ว่าวิธีการทำธุรกิจคนไม่ใช่น้อยเพียรพยายามเอาชนะขีดจำกัดตัวเองแบบ…เว่อร์เกินไป ตัวเองยกน้ำหนักได้ 20 กิโลแล้วลงแข่งขันชู 80 กิโลกรัม อย่างนี้มันจะสู้กันได้ที่ไหน ยิ่งขาดการฝึกหัดอีก มันก็สู้ไม่ได้
5.เพื่อนฝูงช่วยเพื่อนพ้องเราไม่สามารถที่จะ “เอาตัวรอดผู้เดียว” ได้ครับผมอย่างคิดเพียงว่า “กูรอด” แล้ว “แกร่วง” ช่างหัวมัน ทำแบบนี้รับประกันนะครับไม่มีผู้ใดรอดอย่างยั่งยืนอย่าง แน่ๆผมยังจำเรื่องราวครั้งตอนสมัยเรียนมหาลัยได้อย่างดีเยี่ยม ในเวลานั้นอยู่ที่ลาดกระบัง เช่าห้องเดือนละ 7,000 บาท หากผมบอกเพียงนี้เพื่อนอาจจะรู้สึกว่าเฮ่ย !! ผมมีตังก์อะดิ ไม่เลยครับ บ้านข้างหลังนี้อยู่กัน 10-12 คนเลยทีเดียวมี 3 ห้องนอน 1 ห้องครัว และห้องรับแขกซึ่งก็เป็นห้องนอนได้อีกห้องเลยลองดีดจำนวนดูสินะครับ ค่าเช่าบ้าน ค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าน้ำและค่าไฟฟ้า ตกเดือนไม่เกิน 8,500 แล้วช่วยกันแชร์พอๆกับว่าจ่ายค่าบ้านเพียงเดือนละ 700 กว่าบาทต่อคนเท่านั้นเองและเราก็พากันรอดจบมหาลัยมาด้วยกันทำธุรกิจถ้าหากจะรอดมันต้องช่วยกันแบบ “เพื่อนฝูงช่วยเพื่อน” ครับ เองมีดีอะไร ข้ามีดีอะไรพอช่วยกันได้ไหม มาช่วยกันปิดจุดบอด ข้อเสียของกันและกันได้ไหม ช่วยกันทำตลาดได้ไหมแต่ข้อตกลงนี้จะสำเร็จได้จำเป็นต้องรู้เรื่องคำว่า“เพื่อนพ้อง”อย่างชัดเจนนะครับ ด้วยเหตุว่าบ่อยครั้งการช่วยที่เจือด้วยผลประโยชน์มักจบลงไม่สวยเท่าไหร่แต่ว่าถ้าช่วยแบบเพื่อนตกระกำลำบาก ผมว่าสุดท้ายธุรกิจมันจบลงแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งอย่างแน่ๆผมยกตัวอย่างหนทางช่วยกัน “รอด” ของธุรกิจขนาดเล็กในสมัยที่เทคโนโลยีไล่ฆ่าธุรกิจ ไว้ 5 ประเด็นก่อนครับ ยังมีแนวทางที่เราสามารถช่วยเหลือกันคิดช่วยเหลือกันทำเพื่อธุรกิจพวกเรารอดไปร่วมกันได้ครับต้องการเชิญชวนเพื่อๆนะครับ วันอาทิตย์ 22 ม.ค 59 เวลา 13.00-17.00 น. มาร่วมสนทนา เสวนาช่วยกันคิดช่วยเหลือกันเสนอเพื่อหาทางออกให้กับ SMEs เล็กๆอย่างพวกเราครับค่าใช้จ่าย 750 บาทถือเป็นค่าอาหารสักมื้อด้วยกันแชร์ที่จะมีโอกาสได้ทราบจะกับเพื่อนฝูงร่วม “หัวใจเดียวกัน” ขอรับมาเริ่มสร้างธุรกิจแบบพึ่งพาอาศัยกันและกัน สร้างชุมชนของคนทำธุรกิจตามวิถีทางของพ่อหลวงของเราไปด้วยกันครับผม
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : นักธุรกิจรุ่นใหม่

Tags : ธุรกิจหน้าใหม่



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ