5 วัน 4 คืน งบไม่เกิน 10,000 แบกกระเป๋าตะลุยคนเดียว เที่ยวประเทศสิงคโปร์ในมุมที่

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: 5 วัน 4 คืน งบไม่เกิน 10,000 แบกกระเป๋าตะลุยคนเดียว เที่ยวประเทศสิงคโปร์ในมุมที่  (อ่าน 10 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Narongrit999
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 21927


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2018, 05:47:33 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

สิงคโปร์ เกาะเล็กๆใกล้บ้านเราที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวไทยให้ท่องเที่ยวอยู่เป็นประจำ ด้วยเหตุว่ามีสิ่งน่าดึงดูด การพัฒนาใหม่ๆที่ทำให้พวกเราจำเป็นต้องตื่นตาตื่นใจทุกหน รีวิวนี้จะมาเล่ากล่าวความเป็นสิงคโปร์ในรูปแบบใหม่ๆ“vibrant city” ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน สีสันของวัฒนธรรมที่ประสมประสานกันอย่างพอดีกับความโมเดิร์นของอาคารและสถาปัตยกรรม พร้อมชี้แนะสถานที่เด็ดๆกิจกรรมที่เมื่อไปประเทศสิงคโปร์แล้วห้ามพลาด ของกินที่จะต้องลองลอง แอปฯ ช่วยเหลือในสิงคโปร์ แล้วก็เรื่องราวของคนเราที่ทำงานหญิงคนหนึ่งที่โดนเทกลางอากาศที่ท่าอากาศยาน แต่ก็ทำด้วยตัวเองไปเที่ยวประเทศสิงคโปร์ได้แบบงามๆเอาละ Let’s the show beginFirst jobber แบบเรา ปฏิบัติงานมาได้ครู่หนึ่งก็อยากหาเวลาสั้นๆไปเที่ยวเติมพลังบ้าง พวกเราเลยชักชวนเพื่อนท่องเที่ยวกัน หาสถานที่กันอยู่นานจนกระทั่งมาพอดีที่สิงคโปร์เนื่องจากว่าอยู่ใกล้ๆไทย ที่สำคัญค่าตั๋วเครื่องบินไม่แพง การเดินทางง่าย อาหารราคาเพียงพอรับไหว เราเลยสบโอกาสกลับไปสัมผัสสิงคโปร์อีกที ไม่ได้ไปสิงคโปร์มา 8 ปีแล้ว จะมีอะไรเปลี่ยนไปแค่ไหนกัน ต้องตามไปดู
เตรียมพร้อมก่อนเริ่มเดินทาง
จองตั๋วเครื่องบิน
การเตรียมการครั้งนี้ก็เริ่มจากการจองตั๋วเครื่องบินไปประเทศสิงคโปร์ เราพากเพียรควบคุมค่าตั๋วเครื่องบินให้ได้ราคาถูกที่สุด ด้วยเหตุว่าจะได้เซฟเงินไปช็อป ไปรับประทานให้สุดกำลัง เราก็เลยเลือกจองกับ Traveloka เว็บไซต์จองตั๋วเรือบินรวมทั้งที่พักที่เราเชื่อใจให้เป็นเพื่อนเที่ยวเสมอ เนื่องจากว่าจองง่าย ไร้ค่าขนบธรรมเนียมประเพณีเพิ่ม ไม่ต้องมีบัตรเครดิตก็จองออนไลน์ได้ ที่สำคัญมีโปรโมชั่นเยอะ ใช้ส่วนลดในแอปฯ ก็ลดเพิ่มเติมอีก ข้อดีครบขนาดนี้ กดจองได้เลย! เราได้ตั๋วเรือบินไปกลับประเทศสิงคโปร์-จังหวัดกรุงเทพ (28 เดือนมีนาคม – 1 เมษายน 2561) ในราคา 3,249 บาท (ใช้รหัสส่วนลด ลดเพิ่มไปอีก 200 อิอิ) ขาไปเป็น NOKSCOOT เที่ยวกลับเป็น JETSTAR
จองที่พัก
จองตั๋วเครื่องบินไปสิงคโปร์เสร็จและจากนั้นก็จองที่พักกันต่อเลย และแน่ๆว่าก็จองกับ Traveloka ด้วยเหมือนกัน เนื่องจากว่าประเทศสิงคโปร์เป็นเกาะ ที่พักจะแพงมากมาย และก็คราวนี้เป็นทริปท่องเที่ยวแบบจำกัดงบ พวกเราเลยระบุพักโฮสเทลและโรงแรม 1-2 ดาว ลองหาข้อมูลไปเรื่อยจนมาพบ City Inn Mackenzie ราคาที่พักโอเค หารกับเพื่อนฝูงแล้วตกคนละ 900 บาท (รวม 3,600 บาท) แถมยังใกล้ MRT Little India มากมายๆแบบเดิน 5 นาทีก็ถึงแล้ว สบาย เลยจองโลด
เราแลกเงินสิงคโปร์ไปโดยประมาณ 7,000 บาท (เผื่อจ่ายตลาดฝาก ซื้อของหวาน) และพกบัตรเดบิตไปเผื่อ ซึ่งบอกเลยว่า เงินสดเหลือนะเอ้องบ นี่ขึ้นอยู่กับแต่ละคนเลยว่าจะใช้โดยประมาณไหน ชี้แนะว่าควรจะซื้อSIM ไปด้วยเพื่อสบายสำหรับการติดต่อ พวกเราเลือก AIS Sim2fly 399 บาทเน็ตไม่จำกัด ใช้ได้ 7 วัน เพื่อความอุ่นใจ มีเน็ต ไม่ตายแน่นอน
เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมและได้เวลาไปลุยโดดเดี่ยวท่องเที่ยวประเทศสิงคโปร์กันแล้ว
ชี้แนะแอปฯ สำหรับเพื่อการเดินทางและก็การกินของกิน
การเดินทาง
การเดินทางในสิงคโปร์สะดวกมากตรงที่ดูเหมือนจะทุกแลนด์มาร์คพวกเราสามารถเดินทางด้วย MRT ได้ แถมค่าพาหนะก็ถูก รอบละประมาณ 2 SGD (ประมาณ 46 บาท)
เราแนะนำว่าให้ซื้อ EZ-ink (12 SGD = 276 บาท เงินในบัตรใช้ได้ 7 SGD) และหลังจากนั้นก็ค่อยเติมเงินเอาดียิ่งกว่า หากเราไม่ได้ hop ไปมาระหว่าง MRT ขนาดนั้น เราเพิ่มเงินไป 25 SGD สำหรับเดินทางสี่วัน เงินเหลือด้วย
แต่สำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย ต้องการไปเที่ยวทุกสถานที่ ใช้ MRT มาก ต้องการแวบไปนู่นมานี่เสมอๆก็ชี้แนะให้ใช้ Tourist Pass แบบ 3 วัน 20 SGD (โดยประมาณ 600 บาท) ก็คุ้มกว่า
ถ้าหากใครเคยไปเกาหลี ประเทศญี่ปุ่นมา MRT สิงคโปร์ก็จัดว่าเดินทางได้ง่าย ไม่สลับซับซ้อน มีแผนการที่ฟรีให้ถือตาม MRT มาก หรือหากไม่ได้อยากต้องการพกแผนที่เราก็มีแอปฯ มาเสนอแนะ
วันที่ 1 (ดอนเมือง – สิงคโปร์)
ทริปนี้เป็นทริปที่จำไม่รู้ลืม วันแรกก็เจอดีเลยจ้ะ นั่งรถเมล์ A1 มาชิลล์ๆธรรมดาใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง วันนี้รถติดมากมาย ติดอยู่ในท่าอากาศยานเกือบครึ่งชั่วโมง แล้วที่ห่วยแตกกว่านั้นเป็นจะลงเดินก็ไม่ได้ เพราะว่าเป็นทางรถยนต์หมดเลย สายจ้ะ สาย! นั่งมองนาฬิกาเป็นเหลืออีกไม่ถึงสิบนาทีเกทจะปิด แต่ว่ารถยังเคลื่อนไปไม่ถึงขาออกเลยจ้ะ ลุ้นมากมาย พอเพียงรถหยุดปุ๊บ วิ่งเข้าเกทกันแทบไม่ทัน พวกเรากับสหายเช็คอินสายไปเกือบสิบนาที เป็นสองคนสุดท้าย! นอกเหนือจากนั้น พวกเราก็งงงัน เฮ้ย ทำไมเช็คอินนานจัง ธรรมดาแค่เช็คหนังสือเดินทาง กระเป๋าโหลดก็ไม่มี คงจะเสร็จได้แล้ว เคานท์เตอร์ก็บอกว่า มีผู้โดยสารคนนึงไปมิได้นะคะ พวกเราก็แบบ อ้าว เพราะอะไรล่ะ เขาก็พูดว่า “หนังสือเดินทางของผู้โดยสารมีอายุเหลือไม่ถึง 6 เดือนจ้ะ พวกเราไม่สามารถให้ผู้โดยสารขึ้นเรื่องได้ค่ะ เพราะเป็นกฎของประเทศสิงคโปร์ ผู้โดยสารอีก 1 คนต้องเลือกนะคะ ว่าจะไปด้วยกัน หรือจะทิ้งตั๋ว” ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจท่องเที่ยวประเทศสิงคโปร์คนเดียวเพราะเหตุว่าเสียดายเงินจะมาทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไปมันก็ดับฝันกันไปหน่อย (ร้องไห้ในใจ T___T)
แม้ว่าจะเหงาหงอยๆแต่เพื่อนพ้องก็รอโทรฯ มาถามตลอดว่าโอเคไหม ซึ่งก็ทำให้เราอุ่นใจขึ้นแบบเดียวกัน เมื่อถึง Changi Airport พวกเราก็แวะซื้อแซนด์วิช Paris Baguette ซึ่งอร่อยมากถ้าเกิดผู้ใดยังไม่เคยทดลองรับประทานเราขอชี้แนะ แล้วก็ซื้อบัตร EZ-ink นั่ง MRT เข้าเมือง ลงสถานี Little India เพื่อไปยังโฮเต็ล City Inn Mackenzie ใช้เวลาราวๆครึ่งชั่วโมง โชคดีที่โฮเต็ลอยู่ใกล้ MRT มากๆแบบเดินไปถนน Mackenzie แล้วก็พบเลย สีแดงเป็นสง่า โฮเต็ลเป็นราวกับโฮสเทลเล็กๆตกแต่งน่ารักดี ห้องขนาดพอเหมาะพอควร ที่สำคัญคือ location ดีเยี่ยม ข้างๆโฮเต็ลมีศูนย์อาหารอยู่ด้วย เริ่ด! ศูนย์อาหารประเทศสิงคโปร์คือที่ๆจำต้องไปโดนนะจ๊ะ นอกเหนือจากที่จะถูกแล้วทีนี้คือของกินดีมาก บอกเลย พวกเราฝากท้องมื้อยามเช้าไว้แทบทุกวัน
วันแรกก็เริ่มด้วยการโดนเท แล้วก็กลับมานอนเซที่โรงแรมนะคะ
วันที่ 2 (CHINA TOWN – MARINA BAY)
เริ่มเช้าวันใหม่ด้วยมื้อยามเช้าแบบชาวประเทศสิงคโปร์หมายถึงKaya Toast กับชาอุ่นๆวันนี้เราก็เลยไปตามรอยร้านดัง Yakun Kaya Toast สาขาเจ้าตำรับกันถึง Far East Square MRT China Town จ้ะ
Yakun Kaya Toast เป็นร้านค้าที่ชาวสิงคโปร์แวะเวียนมาฝากท้องมื้อยามเช้ากันเป็นประจำ เหมือนโกปี๊บ้านเรา บรรยากาศร้านก็จะเป็นร้านกาแฟเจ้าตำรับจีนๆมีเมนูให้เลือกหลายชนิด การบริการก็จะรวดเร็วทันใจและเร่งรีบ 555 เนื่องจากว่าคนออกจะมาก มีคุณลุงคนนึงสวยมาก มารับออเดอร์และถามคำถามว่าเรามาจากไหน เราก็กล่าวว่าเป็นคนประเทศไทย คุณลุงก็เลยชี้แนะรายการอาหาร Original คือขนมปังกรอบทาเนยแล้วก็สังขยา พร้อมไข่ลวก รวมทั้งเราก็สั่งชาร้อนมาอีกแก้วนึง
วิธีการกิน Kaya Toast คือ เราจะต้องคนไข่ลวก ปรุงรสตามชอบ (คุณลุงมากระซิบ พูดเป็นภาษาไทยว่า ใส่ซีอิ๊ว พริกไทยนิดๆคนเบาๆน่ารักมาก แม้ว่าจะไม่ชัดเจน แต่ถูกใจมาก) และจากนั้นก็เอาขนมปังสังขยาจิ้มกับไข่ลวก จิบชาไปด้วย ฟินมาก! ชาเข้มมากมาย แล้ว Kaya Toast ก็อร่อยมาก หวานๆมันๆต้องมาทดลอง
กินเสร็จก็เดินเที่ยว China Town ไปพลางๆย่านนี้จะเป็นอารมณ์ China Town Vibes อาคารสีสัน ตะเกียงสีแดงตกแต่งเต็มไปหมด แถมร้านอาหารจีนเจ้าตำรับ บะกุ๊ดเต๋เอ่ย ติ่มซำเอย ร้านอร่อยเด็ดๆอีกมาก ถ่ายภาพงามมาก เป็นอีกเขตนึงที่พวกเราชอบมากมายๆเลย
ก่อนที่จะจบรีวิวพวกเราขอสรุปค่าใช้จ่ายอย่างคร่าวๆนะคะ แต่ละวันพวกเราสามารถคุมค่าครองชีพได้ภายใน 1,000 บาทต่อวันค่ะ รับประทานข้าว food court บ้าง คาเฟ่บ้าง ส่วนค่าเดินทางจะครอบคลุมแล้ว พวกเราใช้แค่ 25 SGD = 575 บาทจ้ะ
ถึงเวลา say good bye ประเทศสิงคโปร์แล้วนะคะ อยากจะกล่าวว่าสิงคโปร์ยังมีอะไรให้เที่ยว ให้ไปลองทำ ให้ไปลองกินอีกเยอะ เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีค่าใช้จ่ายไม่เยอะมาก
ที่สำคัญพวกเราลด budget ได้ถ้าจองตั๋วโปรฯ ได้รหัสส่วนลดที่พัก อย่างพวกเราที่ได้จองตั๋วเรือบินและก็ที่พักผ่าน Traveloka ราคาไม่แพง แถมจ่ายได้หลายช่องทาง สะดวกจริงๆค่ะ

Tags : ท่องเที่ยวไทย,เที่ยวต่างประเทศ



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ