ทำอาชีพให้ปังด้วยตัวเอง

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ทำอาชีพให้ปังด้วยตัวเอง  (อ่าน 6 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
promiruntee
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19636


ดูรายละเอียด










« เมื่อ: กรกฎาคม 22, 2018, 05:33:19 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ขายตัวเองให้ปัง ตังค์มาเอง
ผมเชื่อว่าคุณมักจะได้ยินเซียนนักขายหรือกูรูด้านการขายคนจำนวนไม่น้อยชี้แนะคุณว่า
"หากคุณอยากขายดี ควรขายตัวเองก่อนที่จะเริ่มขายสินค้า"
เรื่องนี้สำคัญมากๆครับ ถ้าเกิดคุณเป็นนักขายแบบ B2B (Business-to-Business) คุณจึงควร "ขายตัวเอง" ให้ออกตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้เจอหน้าลูกค้า สิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณก็คือสมการนี้ขอรับ
....วิธีขายตัวเอง = การเพิ่มความน่าไว้ใจ....
ซึ่งสิ่งนั้นในฐานะนักขายเป็นสิ่งที่คุณจำต้องทำขึ้นมาเอง รวมทั้งมีคุณเพียงแค่นั้นที่จะทำให้ลูกค้าไว้เนื้อเชื่อใจและก็ซื้อสินค้าจากคุณ ยิ่งคุณขายตัวเองกระทั่งลูกค้าไว้ใจ เชื่อใจคุณ ถูกใจคุณเยอะขึ้นเรื่อยๆมากแค่ไหน คุณยิ่งมีโอกาสปิดแนวทางการขายและก็ได้เงินจากลูกค้ามากขึ้นเพียงแค่นั้นครับผม
ในเมื่อมีความรู้และมีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องการขายตัวเองเบื้องต้นกันแล้ว ต่อไปนี้ลองมาดูขั้นตอนการขายตัวเองที่คืนดีกันนะครับ
1) คุยเก่ง ไม่ได้แปลว่าขายตัวเองเก่ง
การขายตัวเองไม่มีความจำเป็นต้องเป็นคนพูดเก่ง (ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับกล่าวไม่เก่ง) คุณไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นคนกะล่อน คารมดี มีมุกตลกโปกฮามาก คุยเรื่องข้อมูล ภูมิอากาศ อื่นๆอีกมากมาย กับลูกค้าได้ ผมจะกล่าวว่ามันไม่จำเป็นเลยครับผม ยิ่งคุณพูดนอกเรื่องกับลูกค้ามากเท่าไหร่ คุณยิ่งเขยิบออกการปิดแนวทางการขายเพิ่มมากขึ้นเพียงแค่นั้น แถมยังหลงหัวข้อ
เพราะเหตุว่าจริงๆแล้วคุณนั่นแหละที่คิดไปเองว่าการคุยเก่งกับลูกค้า ทราบทุกเรื่อง เป็นการขายตัวเองที่ดีและลูกค้าจะต้องชอบแน่ๆเรื่องจริงก็คือลูกค้าจะจัดคุณอยู่ในหมวดเซลล์ขี้โม้ อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีโอกาสซื้อคุณบ้าง แม้กระนั้นก็ไม่แน่เสมอถ้าเกิดสินค้าไม่ตอบโจทย์จริง
2) จงเป็นนักฟังและถามคำถามที่ดี
อย่างที่บอกขอรับว่าถึงแม้ว่าจะคุณพูดเก่ง พูดเก่ง แต่ไม่ฟังและไม่เคยถามลูกค้าก็ไร้สาระ ทดลองกลับไปเช็คตนเองกันนะครับว่าเวลาโทรไปคุยกับคู่หู คุณหรือสหาย ใครกันแน่เป็นคนที่คุยมากกว่ากัน หากคุณคุยมากยิ่งกว่า มีอะไรก็เล่าให้ฟังหมด เวลาเพื่อนฝูงกล่าวบ้างคุณก็คันปากต้องการจะพูดขัดจังหวะ คุณอาจจะคิดว่าสหายคุณมิได้คิดอะไร แต่ว่าความเป็นจริงก็คือสหายคุณอาจจะหงุดหงิดได้ขอรับ ก็แค่ไม่บอกเฉยๆ
จงระวังเรื่องนี้กับลูกค้าให้มากๆครับผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการคันปากอยากแทรกลูกค้าโดยทันที (เข้าใจขอรับ ผมก็เป็น) สิ่งที่คุณควรทำเป็นฟังลูกค้ากล่าวให้จบทุกหน พร้อมกับถามคำถามที่ตลอดจากสิ่งที่ลูกค้ากล่าว ดังเช่นว่าถ้าลูกค้าเล่าว่าระบบเครื่องปรับอากาศฯ ที่ใช้อยู่เป็นแบบทองแดงธรรมดา คุณอาจจะถามแบบต่อเนื่องว่าค่าไฟเท่าไร เพราะคุณกำลังคอยให้เค้าตอบเพื่อเสนอสิ่งที่ดีมากยิ่งกว่าคือระบบ Inverter ซึ่งออมค่าไฟกว่า แบบงี้คือการถามเพื่อใส่ความอยากได้ของลูกค้าแล้วก็เป็นการถามอย่างฉลาดขอรับ คุณขายตัวเองประเด็นนี้ได้แล้ว
3) อยู่เฉยๆก็ขายตัวเองได้ ด้วยการแต่งกายที่ดี
First Impression ก็ยังคงเป็นคำที่ทรงอำนาจอยู่เป็นประจำ ราวกับตอนที่คุณไปเที่ยวผับหรือไปพารากอนแล้วเจอเพศหญิงแต่งตัวดี ชวนมอง งามๆเชื่อเถอะว่าเผลอๆคุณนั่นแหละที่ต้องการพุ่งเข้าไปชนแก้วหรือขอเบอร์เลย (ฮา)
การแต่งตัวที่ดีเป็นเรื่องง่ายๆสำหรับการเพิ่มความน่าไว้วางใจ คุณจะต้องจัดแจงอยู่เสมอตั้งแต่หัวถึงเท้า มีกาละเทศะ เมื่อเข้าไปเจอลูกค้าคุณจะได้รับเกียรติจากลูกค้าตั้งแต่ตอนแรกเจอโดยที่ยังไม่ทันพูดแนะนำตัวเลยล่ะขอรับ ไม่เชื่อทดลองดูพนักงานที่มีหน้าที่ขายรถเบนซ์หรือบีเอ็มครับพวกเขาจะแต่งตัวดีเยี่ยม พูดจาดี ให้เกียรติคุณ จนบางโอกาสคุณเองต้องเป็นฝ่ายเกรงใจ รวมทั้งได้โอกาสซื้อสูงมากมาย (หากมีตังค์นะ)
4) ความเป็นมืออาชีพคือแนวทางการขายตัวเองที่ดีเยี่ยมที่สุด
สิ่งที่สำคัญมากกว่าการพูดก็คือการกระทำครับ คุณต้องมีความเป็นมืออาชีพสูงตั้งแต่การตามเวลา ตามงานดี มีวินัย การทำงานตอบสนองด้วยความเร็ว การสัญญาลูกค้าและก็มีลายลักษณ์อักษร การขายสินค้าในราคาที่ชอบธรรม การจัดการกับปัญหาหลังวิธีขาย การดูแลลูกค้าหลังวิธีขาย ฯลฯ สิ่งกลุ่มนี้คุณจำเป็นต้องทำให้เร็วรวมทั้งลงมือทำทันที เพียงเท่านี้คุณก็จะถูกยกฐานะเป็นนักขายมืออาชีพที่ไว้ใจได้
ควรทำสิ่งกลุ่มนี้ให้ดีเพราะว่านี่แหละครับที่ผมกำลังจะบอกทุกคนว่าเป็นแนวทางการขายตนเองที่ยอดเยี่ยมสำหรับการได้เรื่องน่าไว้วางใจของลูกค้า ถ้าเกิดคุณทำเป็น ไม่ว่าคุณจะขายอย่างอื่นหรือย้ายบริษัท ลูกค้าก็จะตามคุณไป ถึงแม้ว่าจะคุณขายสินค้าของคู่แข่งขัน ลูกค้าก็ยินดีที่จะซื้อคุณอยู่ดีนะครับ เพราะเขาไว้ใจคุณ ไม่ใช่ด้วยเหตุว่าคุณอวดเก่งใดๆทั้งนั้น
5) Social Proof ก็ขายตัวเองได้เช่นกันนะ
Social Proof แปลตรงๆก็คือพิสูจน์กับสังคมมาแล้ว ในชีวิตจริงเรื่องนี้ส่งผลมากมายทีเดียว แบบอย่างกล้วยๆเป็นต้นว่า ยุคเรียนมหาลัย คุณเคยมีเพื่อนฝูงที่ป๊อปในหมู่ผู้หญิงมั้ยนะครับ บางครั้งบางคราวเค้าหน้าไม่เท่าไหร่ แม้กระนั้นมีแต่สาวสวยๆระดับพริตตี้ มาเป็นแฟน ผู้หญิงเค้าจะมีเซนส์ครับว่าถ้าเกิดเพศชายใครมีคู่รักสวย มีความหมายว่าผู้ชายคนนั้นน่าจะมีของ น่าสนใจ ยิ่งถ้าชายหนุ่มคนนั้นเจ้าชู้นิดๆก็ชอบมีแนวโน้มว่ามีสตรีอยากเข้ามาเล่นกับไฟมากยิ่งขึ้น พวกเค้าจะป๊อปมากมายๆด้วยเหตุว่ามี Social Proof แล้ว
ในเชิงธุรกิจ คุณสามารถใช้หัวข้อนี้ได้ แถมดูเป็นมืออาชีพ ไม่ขี้โอ่ด้วยการใช้ Social Proof ในส่วนของผลงานที่เสร็จกับธุรกิจที่ใกล้เคียงกับลูกค้า (เอาง่ายๆก็คือพอเพียงร์ท) ยิ่งถ้าเป็นคู่ปรปักษ์โดยตรงก็ยิ่งดี ลูกค้าจะรู้สึกว่าสังคมพิสูจน์แล้วว่าสินค้าเราดีจัง ยิ่งถ้าตัวเค้าเองใช้ช้ายิ่งเสียผลตอบแทน ตามไม่ทันคู่ปรับหรือเจ้าอื่นๆมากยิ่งขึ้นเพียงแค่นั้น เป็นตัวกระตุ้นการซื้อชั้นยอดเลยล่ะครับผม แถมยังหล่ออีกด้วยถ้า Success Story ของคุณเจ๋งพอ !
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ธุรกิจออนไลน์

Tags : ธุรกิจออนไลน์,ธุรกิจส่วนตัว



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ