Advertisement
ตะลุยไปในช่วงฤดูหนาว ณ จุดศูนย์กลางญี่ปุ่น ท่องเที่ยว Kanazawa แวะ Shirakawago ดูสองเมืองงามบรรยากาศอันเปี่ยมมนต์ขลังของประเทศญี่ปุ่น ยืนยันความงดงามด้วยความเป็นมรดกโลก ที่คุณจะหลงรักแบบไม่รู้ตัวขอพาทุกคนไปเที่ยวหน้าหนาวกันต่อกับ รีวิวทริปฤดูหนาวศูนย์กลางญี่ปุ่น ตอนที่ 4 ซึ่งตอนนี้เราเดินทางจากเมืองทาคายาม่าที่ท่องเที่ยวกันต่อที่สองเมืองสวยอย่าง Kanazawa (คานาซาว่า) เมืองบรรยากาศเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยสีสัน รวมทั้งเมืองแห่งหมู่บ้านมรดกโลกอย่าง Shirakawago (ชิราคาวาโกะ) แลนด์มาร์กแสนสวยงาม อันเป็นจุดหมายที่หมายคนต้องการมาเที่ยวให้ได้สักครั้ง
ในการเดินทางไปเมืองคานาซาว่าแล้วก็ชิราคาวาโกะในครั้งนี้ เราเดินทางจากเมืองทาคายาม่าไปยังชิราคาวาโกะก่อน เพราะว่าระยะใกล้กว่ารวมทั้งเป็นทางผ่าน พวกเราก็เลยใช้ พาสสุดคุ้มอย่าง SHORYUDO Highway Bus Ticket สำหรับการขึ้นรถบัสนั่งชิลล์ๆจากสถานีรถไฟ Takayama ยาวไปถึงชิราคาวาโกะได้เลย โดยใช้เวลาเพียงแต่ 53 นาที รถบัสจะพาเราเข้าไปถึงหมู่บ้าน gassho-zukuri (กัสโซซูปะทุริ ) อันเป็นจุดมุ่งหมาย
Shirakawago ท่องเที่ยวหมู่บ้านในฝัน มรดกโลกทรงเสน่ห์
Shirakawago เป็นเลิศในสถานที่เที่ยวที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น มีความสวยสดงดงามแบบเป็นเอกลักษณ์จนได้รับการเยินยอให้เป็นมรดกของโลก และก็เป็นที่ชื่นชอบมากมายในช่วงฤดูหนาว เพราะว่าบรรยากาศของหมู่บ้านกัสโซในฤดูหนาวนั้นจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ เปลี่ยนเป็นทิวทัศน์ที่งามเห็นแล้วรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในดินแดนแห่งความฝันก็ไม่ปาน
เมื่อรถบัสหยุดลงในบริเวณหน้าหมู่บ้านกัสโซที่ชิราคาวาโกะ เราก็ได้เจอกับทิวภาพสีขาวโผนกับงามของหิมะที่ตัดกับสีน้ำตาลเข้มของอาคารบ้านเรือนทรงดั้งเดิมสไตล์โบราณที่ถูกทำขึ้นมาตั้งแต่ในอดีตแล้วก็ได้รับการอนุรักษ์ดูแลคงสภาพดั้งเดิมไว้ได้มาจนปัจจุบันนี้
หมู่บ้านกัสโซเดิมเป็นหมู่บ้านเล็กๆของเหล่าชาวนาที่อาศัยอยู่่ในช่องเขา มีชื่อเสียงสำหรับในการทำไร่ทุ่งนาแบบดั้งเดิม รวมทั้งบ้านบางหลังของที่นี่มีอายุนานกว่า 250 ปี
บ้านแต่ละข้างหลังในหมู่บ้านกัสโซแห่งนี้ไม่ว่าจะเป็นร้านหรือที่อยู่อาศัยล้วนเป็นบ้านญี่ปุ่นแบบเริ่มแรก คำว่า ‘กัสโซ’ นั้นมีความหมายว่า ยกมือขึ้นไหว้ ซึ่งหลังคาของบ้านสไตล์กัสโซนั้นจะมีความชันถึง 60 องศา จนมองคล้ายกับการประนมมือเข้าพบกันนั่นเอง สำหรับสิ่งของที่นำมาใช้ก่อสร้างบ้านนั้นล้วนเอามาจากธรรมชาติ ตัวบ้านจะไม่มีการตอกตะปูอะไรก็แล้วแต่ทั้งใช้ต้นหญ้าที่หมู่บ้านปลูกเอาไว้ในการมุงหลังคาอีกด้วย
เราไปถึงชิราคาวาโกะประมาณเก้านาฬิกาเช้าตรู่ แม้กระนั้นเหมือนจะเช้าไปหน่อยสำหรับที่นี่่ เนื่องจากร้านด้านในหมู่บ้านพึ่งเริ่มเปิด ในเวลาที่พวกเรากำลังดูบริเวณหมู่บ้านเพลินๆนั้น สายตาก็เหลือบไปมองเห็นคุณลุงกำลังโกยหิมะลงจากบนหลังคาบ้าน และถึงแม้ว่าหลังคาจะชันขนาดไหนคุณลุงก็ดูช่ำชอง โกยหิมะได้อย่างว่องไว
เดินเที่ยวในหมู่บ้านสักพัก เราก็ได้เห็นร้านขายของที่เริ่มเปิดให้บริการ ภายในหมู่บ้านที่นี้จะมีอีกทั้งห้องอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และก็ที่พักโฮมสเตย์ที่เปิดให้เราได้ค้างแรมแล้วก็สัมผัสบรรยากาศงามๆในหมู่บ้านแห่งนี้ได้อย่างเต็มรูปแบบ
และในฤดูหนาวยังเป็น ช่วงเวลาที่หมู่บ้านแห่งนี้มีการเปิดไฟเพิ่มความสวยงามให้แก่วิวเวลากลางคืนซะด้วย หรือที่เรียกกันว่า Shirakawago Winter Light Up คนใดกันแน่ที่ต้องการมาดูอีเว้นท์นี้ก็ลองดูตารางการจัดงานกับทางเว็บการท่องเที่ยวของเมืองนี้ไว้ให้ดี
เว้นแต่เทศกาลสุดพีคในช่วงหน้าหนาวแล้ว ข้างในหมู่บ้านยังมีศาลเจ้าให้เราไปขอพรพระ รวมถึงพิพิธภัณฑสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง พูดได้ว่าพวกเราสามารถเดินเล่นในหมู่บ้านที่นี้ได้ตลอดทั้งวัน ไม่น่าเบื่อตัวเราเองแม้ว่าจะไม่ได้อยู่มองการแสดงไฟตอนกลางคืน แม้กระนั้นก็อิ่มอกอิ่มใจไปกับบรรยากาศภายในหมู่บ้าน และรู้สึกเสมือนกำลังอยู่ในหมู่บ้านที่ความฝัน เนื่องจากว่ามองดูไปทางไหนทิวทัศน์ก็สวยทุกมุม เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่คนรักญี่ปุ่นจะต้องมาเยือน ผู้ใดกันจะมาช่วงหน้าหนาวแบบเราอย่าลืมเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือกันหนาวมาให้พร้อมนะเนื่องจากว่าที่น่ะหนาวไม่ใช่เล่น
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
เที่ยวต่างประเทศTags : เที่ยวยุโรป,เที่ยวต่างประเทศ
