ขิง เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณอันน่าทึ่ง

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ขิง เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณอันน่าทึ่ง  (อ่าน 17 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
boiopil020156889
หัดขับ
*

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 28


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: สิงหาคม 02, 2018, 10:33:51 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

[/b]
ขิ[/size][/b]
ขิง เป็นพืชที่มีเหง้าใต้ดิน ข้างนอกเหง้าเป็นน้ำตาลแกมเหลือง เนื้อในสีขาวหรือเหลืองอ่อน มักนำมาประกอบอาหารเนื่องจากส่งกลิ่นหอม ยิ่งไปกว่านี้ ขิงยังใช้เป็นองค์ประกอบในเครื่องดื่ม สบู่ แล้วก็เครื่องแต่งหน้าทั้งหลายแหล่ด้วยเหมือนกัน ด้านคุณประโยชน์ต่อร่างกาย มีความเชื่อเกี่ยวกับการใช้ขิงรักษาโรคหลายประเภทมาอย่างนาน ตัวอย่างเช่น โรคเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารอย่างท้องเสีย มีแก๊สในกระเพาะ อาหารไม่ย่อย อาการเมารถเมาเรือ คลื่นไส้ ไม่อยากอาหาร
คุณสมบัติของขิงเชื่อว่ามีสารที่บางทีอาจช่วยลดอาการคลื่นไส้แล้วก็ลดการอักเสบ โดยนักวิจัยส่วนใหญ่คาดว่าเป็นสารที่ออกฤทธิ์ในกระเพาะอาหารรวมทั้งลำไส้ แล้วก็สารนี้บางทีอาจส่งผลต่อสมองหรือระบบประสาทส่วนที่ควบคุมอาการอาเจียนด้วย แต่ข้อสันนิษฐานดังกล่าวข้างต้นยังไม่ชัดเจนนัก แล้วก็คุณสมบัติด้านอื่นๆมีข้อมูลน้อยกว่า ซึ่งคุณประโยชน์ของขิงต่อสุขภาพที่เราเชื่อกันนั้น ในช่วงเวลานี้ด้านวิทยาศาสตร์มีข้อมูลอธิบายไว้ดังนี้
การรักษาที่บางทีอาจได้ผล
อาการอาเจียนคลื่นไส้ที่เกิดจากการใช้ยาต้านไวรัสไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องหรือเอดส์ สรรพคุณบรรเทาอาการอ้วกอาเจียนของ[url=http://www.disthai.com/16488302/%E0%B8%82%E0%B8%B4%E0%B8%87]ขิง
อาจมีคุณประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคนี้ที่เอาแต่ได้รับผลกระทบจากการใช้ยารักษาโรค โดยจากการศึกษาคนเจ็บจำนวน 102 คน แบ่งให้กลุ่มหนึ่งกินขิง 500 กรัม อีกกรุ๊ปรับประทานยาหลอกวันละ 2 ครั้ง ในช่วง 30 นาทีก่อนที่จะได้รับยารักษาโรคโรคภูมิคุมกันบกพร่องอย่างยาต่อต้านรีโทรเชื้อไวรัส เป็นเวลาทั้งสิ้น 14 วัน พบว่าขิงช่วยลดอาการอาเจียนคลื่นไส้ที่เกิดจากการดูแลและรักษาโรคติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องได้
อาการอาเจียนอาเจียนภายหลังการผ่าตัด ขิงบางทีอาจช่วยทุเลาอาการอ้วกรวมทั้งคลื่นไส้จากการผ่าตัดได้สิ่งเดียวกัน โดยการศึกษาเล่าเรียนทางวิทยาศาสตร์โดยมากชี้ว่าการกินขิง 1-1.5 กรัม ในตอน 1 ชั่วโมงก่อนจะมีการผ่าตัดนั้นดูเหมือนจะช่วยลดอาการอ้วกอาเจียนที่อาจเกิดขึ้นในระหว่าง 24 ชั่วโมงข้างหลังได้รับการผ่าตัด
งานค้นคว้าวิจัยหนึ่งทดลองแบ่งผู้ป่วยจำนวน 122 คนที่รับการผ่าตัดต้อกระจกให้กินแคปซูลขิง 1 กรัม และอีกกลุ่มได้รับแคปซูลขิง 500 มิลลิกรัมแม้กระนั้นแบ่งให้ 2 ครั้งก่อนผ่าตัด ซึ่งคำตอบพบว่าคนไข้ในกลุ่มหลังมีลักษณะอาการอาเจียนอ้วกน้อยครั้งรวมทั้งมีความร้ายแรงของอาการน้อยกว่า โดยงานวิจัยนี้พบว่าการใช้ขิงนั้นน่าจะให้สมรรถนะสูงสุดเมื่อกินบ่อยๆและก็เป็นประจำโดยแบ่งปริมาณการใช้
ยิ่งกว่านั้น การทดสอบทาน้ำมันขิงบริเวณข้อมือของผู้ป่วยก่อนเข้ารับการผ่าตัด พบว่าช่วยคุ้มครองอาการอาเจียนในผู้ป่วยโดยประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์จากผู้เข้ารับการผ่าตัดทั้งปวง แต่ว่าการใช้ขิงช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมกับยาลดอ้วกอาเจียนนั้นอาจให้ผลได้ไม่ดีนัก และก็การใช้ขิงกับคนเจ็บที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการอ้วกอ้วกน้อยอยู่รวมทั้งบางทีอาจไม่เป็นผลเช่นเดียวกัน
อาการแพ้ท้อง การกินขิงอาจมีส่วนช่วยทุเลาอาการแพ้ท้อง ได้แก่ คลื่นไส้ คลื่นไส้ หรือเวียนหัว ผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยชิ้นหนึ่งที่ช่วยยืนยันคุณสมบัตินี้เป็นการทดสอบในหญิงที่มีอายุครรภ์ต่ำยิ่งกว่า 20 สัปดาห์ จำนวน 120 คน ซึ่งเผชิญอาการแพ้ท้องทุกเมื่อเชื่อวันนานขั้นต่ำ 1 สัปดาห์ และไม่รู้สึกดีขึ้นแม้ว่าจะแปลงการกินอาหารและตาม หลังจากกินสารสกัดจากขิง 125 มก. ซึ่งเทียบเท่ากับขิงแห้ง 1.5 กรัม วันละ 4 ครั้ง 4 วัน คำตอบได้ชี้ให้เห็นว่าขิงอาจสามารถนำมาใช้คุณประโยชน์ในฐานะการรักษาช่องทางต่ออาการแพ้ท้องได้
ถือว่าสอดคล้องกับอีกงานค้นคว้าก่อนหน้าที่ชี้ว่าการรับประทานขิง 1 กรัมต่อวัน ติดต่อนาน 4 วัน สามารถช่วยลดความรุนแรงของอาการคลื่นไส้คลื่นไส้ในหญิงตั้งครรภ์ที่มีอาการแพ้ท้องได้ อย่างไรก็ดีการใช้ขิงสำหรับคุณค่าด้านนี้อาจเห็นการรักษาได้ช้ากว่าหรือได้ผลดีไม่เทียบเท่าการใช้ยาแก้อาเจียนอ้วก นอกจากนี้ การเรียนรู้เกี่ยวกับคุณลักษณะช่วยลดอาการแพ้ท้องของขิงยังมีความจำกัดแล้วก็เจอคำตอบที่ไม่บ่อยนัก โดยมีบางการทดสอบที่ชี้ว่าขิงอาจมิได้มีส่วนช่วยสำหรับในการลดอาการแพ้ท้องเช่นกัน
อาการหน้ามืดศีรษะ อาการที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งการอาเจียนนี้บางทีอาจบรรเทาให้ได้ด้วยการใช้คุณค่าจากขิง จากงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยที่ทดสอบด้วยการให้ผู้ที่มีลักษณะอาการบ้านหมุน และตากระเหม็นตุกจากการกระตุ้นโดยใช้อุณหภูมิรับประทานผงเหง้าขิง ปรากฏว่าเหง้าขิงช่วยลดอาการวิงเวียนหัวได้อย่างเป็นจริงเป็นจังเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่กินยาหลอก แต่ว่ามิได้ช่วยลดระยะเวลาหรือชะลอการกระตุกของตามากนัก
โรคข้อเสื่อม มีการเล่าเรียนบางงานที่ชี้ว่าขิงอาจมีสรรพคุณลดลักษณะของการเจ็บที่เกิดจากโรคข้อเสื่อม จากการทดสอบหนึ่งที่ให้ผู้เจ็บป่วยกินสารสกัดจากขิงชนิดหนึ่ง (Zintona EC) ในจำนวน 250 กรัม วันละ 4 ครั้ง พบว่าช่วยลดอาการปวดข้อเข่าหลังจากการดูแลและรักษาตรงเวลา 3 เดือน ส่วนอีกงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยที่ใช้สารสกัดจากขิงผสมกับข่า พบว่าได้ผลลัพธ์สำหรับในการช่วยลดลักษณะของการเจ็บขณะยืน อาการเจ็บข้างหลังเดิน และอาการข้อติด
นอกนั้น มีการเล่าเรียนเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่างขิงและก็ยาพารา โดยให้ผู้เจ็บป่วยโรคข้ออักเสบในกระดูกบั้นท้ายรวมทั้งข้อหัวเข่ารับประทานสารสกัดขิง 500 มก.ทุกวัน วันละ 2 ครั้ง ขิงให้ผลบรรเทาลักษณะของการปวดได้เสมอกันกับการใช้ยาไอบูโพรเฟน 400 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง รวมทั้งยังมีงานค้นคว้าที่แนะนำว่าการนวดด้วยน้ำมันที่มีส่วนผสมของขิงและส้มอาจช่วยบรรเทาอาการปวดรวมทั้งอ่อนล้าที่เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆของผู้เจ็บป่วยที่มีลักษณะเจ็บเข่าได้ด้วย
อาการปวดรอบเดือน เว้นเสียแต่ลักษณะของการปวดจากโรคข้อเสื่อม การเรียนรู้บางงานยังชี้ว่าขิงอาจมีคุณสมบัติช่วยทุเลาอาการปวดประจำเดือน เช่น การทดสอบในนิสิตมหาวิทยาลัย 120 คน โดยให้รับประทานผงเหง้าขิงครั้งละ 500 มก. วันละ 3 ครั้งในตอน 2 วันก่อนเริ่มมีประจำเดือนต่อเนื่องไปจนกระทั่ง 3 วันแรกของการมีประจำเดือน รวมยอดเป็น 5 วัน พบว่าผงเหง้าขิงมีส่วนช่วยลดความรุนแรงของลักษณะของการปวดเมนส์ได้อย่างมีนัยสำคัญด้านการศึกษาเปรียบคุณภาพของขิงรวมทั้งยาลดลักษณะของการปวดประจำเดือนอย่างเมเฟนามิค (Mefenamic acid) หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) 400 มก. ในอาสาสมัคร 150 คน โดยแบ่งกลุ่มกินแคปซูลขิงหรือยาแต่ละชนิดในปริมาณ 250 มก. วันละ 4 ครั้ง นาน 3 วัน โดยเริ่มตั้งแต่มีประจำเดือน ผลลัพธ์ปรากฏไปในทิศทางเดียวกันกับงานค้นคว้าแรกหมายถึงขิงมีคุณภาพทุเลาความร้ายแรงของอาการปวดรอบเดือนไม่ได้แตกต่างกับการใช้ยาเมเฟนามิคหรือไอบูโพรเฟน
การดูแลและรักษาที่บางทีอาจไม่ได้เรื่อง
อาการเมารถแล้วก็เมาเรือ นับเป็นคุณประโยชน์ของขิงที่มีการกล่าวถึงกันมากมาย แต่ถึงแม้ขิงบางทีอาจจะช่วยลดอาการเวียนหัวได้ แต่ว่าสำหรับในการวิงเวียนอ้วกที่เกิดจากการเดินทางนั้น งานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยส่วนมากกล่าวว่าขิงอาจไม่มีส่วนช่วยได้จริง เป็นต้นว่า การแบ่งกรุ๊ปให้เด็กนักเรียนนายเรือ 80 คนที่ไม่คุ้นเคยกับการออกเรือท่ามกลางทะเลที่มีคลื่นแรง กินเหง้าขิง 1 กรัม เทียบกับอีกกลุ่มที่รับประทานยาหลอก ปรากฏว่ากลุ่มที่รับประทานขิงนั้นมีลักษณะอาเจียนแล้วก็เวียนหัวลดลงจริงแต่ว่าอยู่ในระดับน้อยเท่านั้น หรือในอีกงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยที่ชี้ว่าการกินผงขิงในจำนวน 500 กรัม 1,000 กรัม หรือเหง้าขิงสด 1,000 มก. ต่างไม่มีส่วนช่วยสำหรับเพื่อการคุ้มครองปกป้องอาการเมารถหรือการทำงานของกระเพาะที่เกี่ยวเนื่องกับอาการเมารถที่เกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญแต่ประการใด
การรักษาที่ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอต่อการกำหนดสมรรถนะ
อาการอาเจียนอาเจียนจากแนวทางการทำเคมีบรรเทา อีกหนึ่งสรรพคุณคือลดอาการอ้วกแล้วก็อ้วก ซึ่งมีการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ แต่ว่าหลักฐานเกี่ยวกับการใช้ขิงในคนไข้ที่รับเคมีบำบัดนั้นยังเป็นที่แย้งกันอยู่ว่าจะมีส่วนช่วยได้ใช่หรือไม่ การเรียนรู้หนึ่งที่ชี้ถึงผลดีข้อนี้ของขิง โดยให้คนเจ็บรับประทานแคปซูลขิงที่มีขิง 0.5-1.5 กรัม เทียบกับยาหลอก ตั้งแต่ 3 วันก่อนวันทำเคมีบรรเทานานสม่ำเสมอตรงเวลา 6 วัน พบว่า มีระดับความร้ายแรงของอาการอาเจียนที่เกิดขึ้นภายหลังการดูแลและรักษาน้อยกว่ากลุ่มที่มิได้รับประทานแคปซูลขิง แต่ว่าได้ผลได้ชัดในกลุ่มที่ใช้แคปซูลขิง 0.5 กรัม กับ 1 กรัมเท่านั้น ส่วนกรุ๊ปที่รับประทานแคปซูลขิง 1.5 กรัมกลับสำเร็จน้อยกว่า แสดงว่าการรับประทานขิงในปริมาณมากก็เลยบางทีอาจไม่ได้ทำให้อาการอาเจียนอย่างที่น่าจะเป็น
แต่ มีหลักฐานที่ปะทะคารมข้อช่วยเหลือดังที่กล่าวผ่านมาแล้วซึ่งเป็นงานศึกษาวิจัยที่เปิดเผยว่าการรับประทาขิง[/url]ไม่ได้มีประสิทธิภาพดีไปกว่าการใช้ยาแก้คลื่นไส้ ดังนี้ ผลการศึกษาวิจัยที่ขัดแย้งกันนี้ คาดว่าอาจมีมูลเหตุมาจากจำนวนขิงที่ใช้ทดสอบนั้นต่างกัน รวมถึงช่วงเวลาที่เริ่มรักษาโดยใช้ ขิงจะนำมาใช้ประโยชน์ทางด้านการแพทย์ในด้านนี้แล้วได้ผลไหมคงต้องมีการยืนยันเพิ่มเติมอีกต่อไป
เบาหวาน คุณลักษณะของขิงต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้เจ็บป่วยเบาหวานในตอนนี้ยังส่งผลการศึกษาวิจัยที่ไม่แน่นอน งานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยหนึ่งพบว่าการกินขิง 2 กรัม นาน 12 อาทิตย์ สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสม ระดับไขมันในเลือด และสารมาลอนไดอัลดีไฮด์ที่แสดงถึงระดับอนุมูลอิสระในผู้ป่วยเบาหวานจำพวกที่ 2 แล้วก็อาจช่วยลดการเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังบางชนิดจากเบาหวานได้ ในขณะเดียวกัน มีงานศึกษาเรียนรู้วิจัยอื่นๆที่แนะนำว่าขิงนั้นส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดจริง แต่ไม่เป็นผลต่อระดับอินซูลิน หรือบางงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยกล่าวว่าขิงส่งผลกับอินซูลิน แต่กลับไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดน้อยลง ซึ่งผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยที่ไม่เหมือนกันนั้นอาจมาจากจำนวนขิงหรือระยะเวลาที่ผู้ป่วยได้รับการวิเคราะห์ว่าเป็นโรคโรคเบาหวานในแต่ละการทดลองนั้นแตกต่างกันนั่นเอง
ของกินไม่ย่อย มีการวิจัยศึกษาเล่าเรียนคุณภาพของขิงในผู้เจ็บป่วยที่มีลักษณะอาหารไม่ย่อยปริมาณ 11 คน โดยให้กินแคปซูลที่มีขิง 1.2 กรัมภายหลังจากการงดเว้นของกิน 8 ชั่วโมง ผลปรากฏว่าขิงช่วยกระตุ้นให้กระเพาะเกิดการย่อยอาหารรวมทั้งมีการบีบตัวของกระเพาะส่วนปลาย แต่ว่าการกินขิงนั้นไม่มีผลต่ออาการที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหารหรือสารเปปไทด์ในลำไส้ อย่างไรก็ตาม ผู้ร่วมการทดลองนี้มีจำนวนน้อย ทำให้ไม่อาจกำหนดได้อย่างเห็นได้ชัดว่าขิงช่วยลดอาการอาหารไม่ย่อยได้แน่นอนเท่าใด
อาการเมาค้าง เช้าใจกันว่าการกินน้ำขิงจะสามารถช่วยทุเลาอาการแฮงค์ซึ่งเป็นผลข้างๆจากการดื่มแอลกอฮอล์ได้ สำหรับประโยชน์ข้อนี้มีงานศึกษาเรียนรู้วิจัยแต่ก่อนที่ชี้แนะว่าการผสมขิงกับเปลือกภายในของส้มเขียวหวาน รวมทั้งน้ำตาลทรายแดงก่อนดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยลดอาการเมาค้างในภายหลัง รวมถึงอาการคลื่นไส้ อ้วกและก็ท้องเดิน อย่างไรก็แล้วแต่ การเรียนรู้ดังกล่าวข้างต้นยังถือว่าไม่กระจ่างอยู่มากมายและไม่อาจยืนยันได้ว่ามีต้นเหตุจากขิงจริงๆหรือส่วนผสมอื่นๆที่ใช้ประกอบ
ลดคอเลสเตอรอล คุณลักษณะของขิงซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลนั้นได้มีการทดลองโดยให้คนไข้ที่มีภาวการณ์ไขมันในเลือดสูงกินแคปซูลขิงวันละ 3 ครั้ง ทีละ 1 กรัม ผลลัพธ์บอกว่าเมื่อเทียบกับคนเจ็บกลุ่มที่กินยาหลอก ขิงมีคุณภาพช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลลงได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง ซึ่งการใช้ขิงลดระดับคอเลสเตอรอลจะให้ผลดีจนสามารถนำมาใช้รักษาผู้เจ็บป่วยภาวการณ์นี้ได้หรือไม่อาจจำเป็นต้องรอการเรียนในอนาคตที่ชัดแจ้งกันต่อไป
อาการเจ็บกล้ามหลังออกกำลังกาย คุณลักษณะด้านการบรรเทาปวดและก็ลดการอักเสบของขิงจะช่วยลดอาการเจ็บจากการบริหารร่างกายได้ด้วยหรือเปล่านั้นยังคงไม่กระจ่างและเป็นที่ปะทะคารมกันอยู่เช่นกัน จากการทดลองหนึ่งที่ให้ผู้เข้าร่วมกินขิงสดหรือขิงที่ทำให้สุกด้วยความร้อนแล้ว 2 กรัมอย่างต่อเนื่องนาน 11 วัน พบว่าอีกทั้งขิงสดและก็ขิงสุกต่างมีส่วนช่วยลดลักษณะการเจ็บกล้ามจากการออกกำลังกายแบบหดยืดกล้ามเนื้อได้ในระดับปานกลางไปจนถึงระดับมากมาย
แต่ว่าอีกงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยหนึ่งกลับเจอผลลัพธ์ตรงกันข้าม จากการให้ผู้เข้าร่วมการทดลองที่ทำกิจกรรมออกกำลังกายยืดหดกล้ามเนื้อเหมือนกัน รับประทานขิง 2 กรัมในตอน 24 ชั่วโมงและก็ 48 ชั่วโมงภายหลังการบริหารร่างกาย พบว่ามิได้ทำให้ลักษณะการเจ็บกล้ามเนื้อ การอักเสบ หรือเจ็บที่เกิดขึ้นจากการบริหารร่างกายน้อยลง แม้กระนั้นผู้ศึกษาวิจัยพบว่าการกินขิงบางทีอาจช่วยทำให้ลักษณะของการเจ็บกล้ามค่อยๆในทุกวัน อาจมองไม่เห็นผลตอบแทนในทันที
อาการปวดศีรษะไมเกรน มีการศึกษาเล่าเรียนกับผู้ป่วย 100 คน ที่เคยมีลักษณะปวดหัวไมเกรนฉับพลันโดยให้รับผงขิงหรือยารักษา http://www.disthai.com/[/b]

Tags : สมุนไพรขิง



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ