บุก สมุนไพรไทย เพื่อหลีกไกล เรื่องอ้วนๆ

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: บุก สมุนไพรไทย เพื่อหลีกไกล เรื่องอ้วนๆ  (อ่าน 12 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
าร
หัดขับ
*

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 36


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: สิงหาคม 02, 2018, 12:53:51 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

[/b]
บุก สมุนไพรไทย เพื่อหลีกไกล เรื่องอ้วนๆ
บุก มาแล้ว ! บุกมาแล้ว !  รีบหนีเร็ว  เอ๊ะยังไงนี่ เรากำลังดูหนังการสู้รบอยู่หรอ เปล่านะครับ บุกในที่นี้ไม่ได้ถึงศัตรูบุก แม้กระนั้นหมายคือหัวบุก สมุนไพรไทยบ้านเรา ต่างหาก แล้วก็ที่จะต้องหนี ไม่ใช่ใครกันแน่ที่ไหน แม้กระนั้นเป็นโรคฮอตฮิตในตอนนี้อย่างโรคอ้วน เบาหวาน ต่างหากที่จำเป็นต้องหนีไป
บุก ส่วนที่เห็นเป็น หัวบุก ทีแรกเรื่องของบุกในเมืองไทย มันก็มิได้แพร่หลายหรือเป็นยอดนิยมราวกับปัจจุบันนี้เนื่องจากว่าจริงๆตอนแรกมันก็เป็นพืชประจำถิ่นอยู่ดี  คนภายในเขตแดนก็นำบุกมาทำอาหาร ราวกับเผือก เสมือนมันทั่วๆไปพอเริ่มมีคนมาศึกษาค้นคว้า   คุณประโยชน์ต่างๆของมัน เลยกลายเป็นพืชสมุนไพรไทยยอดนิยม มีการดัดแปลงเป็นแบบอย่างต่างๆตั้งแต่สารสกัด บุกผง วุ้นบุก รวมทั้งอื่นๆอีกมาก วันนี้เองก็คงไม่ช้าเหลือเกินที่จะนำทุกคนมารู้จะ พืชสมุนไพรไทย ที่เรียกว่าบุกกันแบบลึกซึ้งมารู้จักบุกกัน
ชื่อไทย   บุก
ชื่อสามัญ  Konjac ,  devil’s tongue  (ลิ้นภูตผีปิศาจ  น่าสะพรึงกลัวครับผมชื่อนี้ คาดว่ามาจากลักษณะของดอกบุก )   , shade palm, umbrella arum
ชื่อวิทยาศาสตร์      Amorphophallus rivieri Durieu cv. Konjac
ชื่อตระกูล    ARACEAE
ชื่อตามแคว้น  :  บุกคุงคก (ชลบุรี) เบีย เบือ (แม่ฮ่องสอน) มันซูรัน (ภาคดลาง)  หัวบุก (จังหวัดปัตตานี) บุกคางคก  (ภาคกลาง, เหนือ) บุกหนาม บุกหลวง (แม่ฮ่องสอน)  กระบุก (อิสาน)
เราพบบุกพอดีไหน
บุกเป็นพืชป่าล้มลุกที่พบทั่วๆไปทุกภาคของประเทศ โดยขึ้นอยู่ตาม ป่าเขา และบางโอกาสก็เจอตามพื้นที่ ปลูกข้าว อาทิเช่นที่ปทุมธานี แล้วก็จังหวัดนนทบุรี เป็นต้น บุกขึ้นได้ในภาวะดินทุกชนิด แต่จะเจริญเติบโตได้ดิบได้ดีให้หัวขนาด ใหญ่ได้ในดินที่ร่วนซุย น้ำไม่ขังและก็ดินที่มีฮิวมัส หรือสารอินทรีย์สูง
ลักษณะของต้นบุก
รูปแบบของต้น บุก ชี้ให้เห็นส่วนประกอบคือใบบุก และหัวบุกลำต้นใต้ดิน  บุกมีลำต้นใต้ดินหรือที่พวกเราเรียกแบบง่ายๆก็คือ หัวบุก  ชนิดเดียวกันกับเรียกหัวเผือก หัวมัน ขนาดอยู่ที่โดยประมาณ 25 เซนติเมตร (บางพันธ์บางทีอาจเล็กกว่านี้ )ทรงกลมแป้นลักษณะทรงเดียวกับลูกฟักทอง แต่ว่าบางสายพันธ์มีลักษณะพิเศษแตกต่างออกไป  ซึ่งส่วนนี้เอง เป็นใช้ที่สะสมอาหารของบุก
 ใบบุก  ลักษณะเหมือนใบมะละกอ มีสีเขียวเข้ม บางประเภทมีก้านใย เป็นลวดลายบางจำพวกมีหนามอ่อนๆ หรือบางโอกาสบุกบางจำพวกก็มีใบมีจุดแบบไข่ปลาสีขาวด้านบน  จะเห็นว่าใบบุกมีใบลักษณะที่นานัปการมากมาย  แต่ที่เด่นๆสังเกตง่ายว่าเป็บุกคือ จะมีก้านตรงจากกลางของหัว เมื่อโผล่จากดินแล้วแผ่กางออก 3 ทาง มีทรงแผ่กว้างแบบร่ม แม้กระนั้นบาง จำพวกจะแปลกตรงที่กลับขึ้นข้างบนราวกับหงายร่ม ด้วยเหตุนั้นลักษณะของใบบุก มีหลายแบบอย่างขึ้นอยู่กับจำพวกของบุก
ดอกของบุกลักษณะดอกดอกเหมือนต้นหน้าวัว แต่ละจำพวกมีขนาด สี และรูป ทรงแตกต่าง บางประเภทมีดอกใหญ่มาก โดยยิ่งไปกว่านั้นบุกคางคก ดอกบุกมีกลิ่น เหม็นเสมือนเนื้อสัตว์เน่า บุกจำพวกอื่นๆมีดอกเล็กก้านดอกจะโผล่ขึ้นตรง จากกึ่งกลางหัวบุก เหมือนกับก้านใบ บุกชอบมีดอกในช่วงปลายฤดูแล้ง แต่ว่าบุกสามารถออกดอกได้ในช่วง เวลาต่างๆกัน ระยะเวลาสำหรับในการแก่เต็มกำลัง ของดอกที่จะติดผลก็ไม่เหมือนกัน
 ผลบุ[/b](อย่างงมากกับหัวบุกนะ ) หลังจากดอก สืบพันธุ์ก็จะเป็นผล ผลอ่อนของบุก มีสีขาวอมเหลือง เพียงพออายุ ได้ 1-2 เดือน จะส่งผลสีเขียวเข้ม มีจุดดำที่ปลายเหมือนผลกล้วย ผล ของบุกส่วนใหญ่จะมีลักษณะคล้ายกัน แต่เมล็ดข้างในต่างกัน พบว่าส่วนมากมีเมล็ดเป็นรูปทรงอูมยาว  บุกบางชนิดก็มีเมล็ดในกลม   ผลแก่ของบุกจะมีสีแดงหรือแดงส้ม
[url=http://www.disthai.com/16488234/%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%81]
[/b]
บุกกับการนำมาปรุงอาหาร[/size][/b]
เป็นพืชอาหารประจำถิ่นซึ่งชาวไทยนำเอาก้านใบมาแกงส้ม ลวกจิ้มน้ำพริก     ส่วนหัวบุกมีการนำไปดัดแปลงตามแต่ละภูมิภาค ได้แก่ทางภาคอีสาน มีการทำขนมที่เรียกว่าของหวานบุก แกงบรรพชามันบุก แกงอีสาน (แกงลาว)   ภาคตะวันออกจะมีการฝาน หัวบุกเป็นแผ่น บางบาง แล้วเอามานึ่งรับประทานกับข้าว ทางภาคเหนือโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวเขา มักเอามา ปิ้งรับประทาน ภาคกึ่งกลางมักนำหัวบุกที่ฝานเป็นชิ้นบางๆมาแช่น้ำปูน แช่น้ำก่อนล้างหลายๆครั้งและหลังจากนั้นก็ค่อยนำไปทำเป็นของหวาน
*บุกมีหลายประเภทหลายชนิด บางทีอาจขมและก็เป็นพิษ ทุกชนิดมีผลึกแคลเซียมออกซาเลต (calcium oxalate) ทั้งๆที่ก้านใบและก็หัว ซึ่งอาจจะทำให้คัน ก่อนเอามาปรุงอาหารจำเป็นต้องต้มซะก่อน มิเช่นนั้นกินเข้าไปทำให้คันปากรวมทั้งลิ้นพอง
ของกินที่แปรรูปมาจากบุก
เดี๋ยวนี้มีการนำบุกมาแปรรูป อีกทั้งในลักษณะของเส้นบุก ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปจากท่อนหัวบุก มีแบบเส้นใส สามารถเอามาปรุงเป็นของกินจานอร่อยได้ ผมว่าคนไหนกันเคยไปกินเนื้อย่างอาจเคยเจอบ้าง นอกจากเส้นบุกแล้วมีการเอามาผสมเครื่องดื่มต่างๆเอาแบบฮิตๆแต่ก่อนหมายถึงเจเล่ ผสมผงบุก ถ้าหากจำไม่ผิดอันนี้เขามาทำเป็นรายแรก (เจ้าของบริษัทผ่านมาอ่านขอค่าโฆษณาด้วยครับผม)
สรรพคุณของบุก
จากการเรียนรู้พบว่า  แป้งบุกเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน พวกกลูโคแมนแนน (glucomannan) เป็นสารโมเลกุลใหญ่ (polysaccharides)ที่ประกอบด้วยน้ำตาล 2 ชนิดหมายถึงดี-กลูโคส (D-glucose) แล้วก็ (D-mannose) เป็นสารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายในรูปของใยอาหาร (dietary fiber)  ซึ่งดูดน้ำได้มาก แม้กระนั้นร่างกายเสื่อมสภาพได้ยาก ดูดซับได้ช้า ก็เลยให้พลังงานและสารอาหารน้อย เหลือกากมาก ทำให้ระบบขับถ่ายดำเนินการดี คนที่อยากได้ลดความอ้วนนิยมรับประทานอาหารจากแป้งบุก ดังเช่นว่า วุ้นเส้นบุก เส้นหมี่แป้งหัวบุก ด้วยเหตุว่ากินอิ่มได้ ระบายท้อง แม้กระนั้นไม่ทำให้อ้วน
นอกนั้นเองเจ้า สารกลูวัวแมนแนนนี้ สามารถลดปริมาณน้ำตาลในเลือดได้ ก็เพราะเหตุว่าความเหนี่ยว ซึ่งยับยั้งการดูดซึมของกลูโคลสจากทางเดินอาหาร ยิ่งหนืดมาก็ยิ่งมีผลลดการดูดซึมกลูโคลส ฉะนั้น กลูโคแมนแนนช่วยลดน้ำตาลก้าวหน้ามาก เดี๋ยวนี้จึงใช้แป้งเป็นวุ้นเป็นของกินสำหรับคนป่วยเป็นโรคโรคเบาหวาน แล้วก็สำหรับผู้เจ็บป่วยเป็นโรคมีไขมันในเลือดสูง
นี่แหละนะครับคือคุณประโยชน์จากบุก ทดลองหามาทานกันนะครับ มีประโยชน์ขนาดนี้ ปัจจุบันนี้ไม่หายากแล้วเดินไปห้าง ก็ได้บุกเส้นแล้ว เสนอแนะมามายำแบบยำวุ้นเส้นครับผม รับรองอร่อยแท้ๆ http://www.disthai.com/[/b]



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ