บุก สมุนไพรไทย เพื่อหลีกไกล เรื่องอ้วนๆ

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: บุก สมุนไพรไทย เพื่อหลีกไกล เรื่องอ้วนๆ  (อ่าน 17 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
giulp54252
หัดขับ
*

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: สิงหาคม 03, 2018, 02:50:58 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

[/b]
บุก สมุนไพรไทย เพื่อหลีกไกล เรื่องอ้วนๆ
บุก มาแล้ว ! บุกมาแล้ว !  รีบหนีเร็ว  เอ๊ะยังไงนี่ พวกเรากำลังดูหนังการศึกอยู่หรอ เปล่าครับผม บุกในที่นี้ไม่ได้ถึงศัตรูบุก แต่หมายถึงหัวบุก สมุนไพรไทยบ้านพวกเรา ต่างหาก และที่จำต้องหนี ไม่ใช่ใครที่ใด แต่ว่าเป็นโรคฮอตฮิตในปัจจุบันอย่างโรคอ้วน เบาหวาน ต่างหากที่จำต้องหนีไป
บุก ส่วนที่มองเห็นเป็น หัวบุก ตอนแรกเรื่องของบุกในประเทศไทย มันก็มิได้แพร่หลายหรือเป็นยอดนิยมเสมือนทุกๆวันนี้เพราะจริงๆทีแรกมันก็เป็นพืชพื้นบ้านอยู่ดี  คนในแคว้นก็นำบุกมาปรุงอาหาร เสมือนเผือก เสมือนมันทั่วไปพอเริ่มมีคนมาวิจัย   คุณประโยชน์ต่างๆของมัน เลยเปลี่ยนเป็นพืชสมุนไพรไทยที่ได้รับความนิยม มีการแปรรูปเป็นแบบต่างๆตั้งแต่สารสกัด บุกผง วุ้นบุก และก็อื่นๆอีกมาก วันนี้เองก็คงจะไม่ช้าเหลือเกินที่จะนำทุกท่านมารู้จัก พืชสมุนไพรไทย ที่เรียกว่าบุกกันแบบถึงกึ๋นมารู้จักบุกกัน
ชื่อไทย   บุก
ชื่อสามัญ  Konjac ,  devil’s tongue  (ลิ้นอสุรกาย  น่าสยดสยองนะครับชื่อนี้ คาดว่ามาจากรูปแบบของดอกบุก )   , shade palm, umbrella arum
ชื่อวิทยาศาสตร์      Amorphophallus rivieri Durieu cv. Konjac
ชื่อตระกูล    ARACEAE
ชื่อตามเขตแดน  :  บุกคุงคก (จังหวัดชลบุรี) เบีย เบือ (แม่ฮ่องสอน) มันซูรัน (ภาคดลาง)  หัวบุก (ปัตตานี) บุกคางคก  (ภาคกึ่งกลาง, เหนือ) บุกหนาม บุกหลวง (แม่ฮ่องสอน)  กระบุก (อิสาน)
เราเจอบุกเหมาะไหน
บุกเป็นพืชป่าล้มลุกที่เจอทั่วไปทุกภาคของประเทศ โดยขึ้นอยู่ตาม ป่าเขา รวมทั้งครั้งคราวก็เจอตามพื้นที่ ทำไร่ทำนา เช่นที่ปทุมธานี และจังหวัดนนทบุรี เป็นต้น บุกขึ้นได้ในภาวะดินทุกชนิด แม้กระนั้นจะเจริญเติบโตเจริญให้หัวขนาด ใหญ่ได้ในดินที่ร่วนซุย น้ำไม่ขังรวมทั้งดินที่มีฮิวมัส หรืออินทรียวัตถุสูง
รูปแบบของต้นบุก
รูปแบบของต้น บุก บ่งบอกถึงองค์ประกอบคือใบบุก รวมทั้งหัวบุกลำต้นใต้ดิน  บุกมีลำต้นใต้ดินหรือที่พวกเราเรียกแบบง่ายๆก็คือ หัวบุก  ชนิดเดียวกันกับเรียกหัวเผือก หัวมัน ขนาดอยู่ที่ประมาณ 25 ซม. (บางพันธ์อาจเล็กกว่านี้ )ทรงกลมแป้นลักษณะทรงเดียวกับลูกฟักทอง แม้กระนั้นบางสายพันธ์มีลักษณะพิเศษต่างกันออกไป  ซึ่งส่วนนี้เอง เป็นใช้ที่สะสมอาหารของบุก
 ใบบุก  ลักษณะเสมือนใบมะละกอ มีสีเขียวเข้ม บางประเภทมีก้านใย เป็นลวดลายบางประเภทมีหนามอ่อนๆ หรือบางเวลาบุกบางประเภทก็มีใบมีจุดแบบไข่ปลาสีขาวข้างบน  จะมีความคิดเห็นว่าใบบุกมีใบลักษณะที่หลากหลายมาก  แม้กระนั้นที่เด่นๆดูง่ายว่าเป็บุกเป็น จะมีก้านตรงจากกลางของหัว เมื่อโผล่จากดินแล้วแผ่กางออก 3 ทาง มีรูปทรงแผ่กว้างแบบร่ม แต่ว่าบาง ชนิดจะแปลกตรงที่กลับขึ้นด้านบนเสมือนหงายร่ม ฉะนั้นรูปแบบของใบบุก มีหลายแบบขึ้นอยู่กับประเภทของบุก
ดอกของบุกลักษณะดอกดอกคล้ายต้นหน้าวัว แต่ละชนิดมีขนาด สี และก็รูป ทรงแตกต่างกัน บางจำพวกมีดอกใหญ่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุกคางคก ดอกบุกมีกลิ่น เหม็นราวกับเนื้อสัตว์เน่า บุกจำพวกอื่นๆมีดอกเล็กก้านดอกจะโผล่ขึ้นตรง จากกลางหัวบุก เหมือนกันกับก้านใบ บุกชอบมีดอกในช่วงปลายหน้าแล้ง แต่ว่าบุกสามารถมีดอกได้ในช่วง เวลาต่างๆกัน ช่วงเวลาสำหรับการแก่เต็มที่ ของดอกที่จะติดผลก็ไม่เหมือนกัน
 ผลบุ[/b](อย่างงงันกับหัวบุกนะ ) หลังจากดอก สืบพันธุ์ก็จะเป็นผล ผลอ่อนของบุก มีสีขาวอมเหลือง เพียงพออายุ ได้ 1-2 เดือน จะส่งผลสีเขียวเข้ม มีจุดดำที่ปลายคล้ายผลกล้วย ผล ของบุกส่วนมากจะมีลักษณะคล้ายๆกัน แม้กระนั้นเม็ดข้างในต่างกัน พบว่าส่วนใหญ่มีเมล็ดเป็นทรงอูมยาว  บุกบางจำพวกก็มีเมล็ดในกลม   ผลแก่ของบุกจะมีสีแดงหรือแดงส้ม
[url=http://www.disthai.com/16488234/%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%81]
[/b]
บุกกับการนำมาเตรียมอาหาร
เป็นพืชของกินประจำถิ่นซึ่งคนประเทศไทยนำเอาก้านใบมาแกงส้ม ลวกจิ้มน้ำพริก     ส่วนหัวบุกมีการนำไปปรับเปลี่ยนตามแต่ละภูมิภาค ดังเช่นทางภาคอีสาน มีการทำขนมที่เรียกว่าขนมบุก แกงบวชมันบุก แกงอีสาน (แกงลาว)   ภาคทิศตะวันออกจะมีการฝาน หัวบุกเป็นแผ่น บางบาง แล้วเอามานึ่งกินกับข้าว ทางภาคเหนือโดยเฉพาะชาวดอย มักเอามา ปิ้งกิน ภาคกึ่งกลางมักนำหัวบุกที่ฝานเป็นชิ้นบางๆมาแช่น้ำปูน แช่น้ำก่อนล้างหลายๆครั้งแล้วหลังจากนั้นก็ให้นำไปทำเป็นอาหารว่าง
*บุกมีหลายชนิดหลายประเภท บางทีอาจขมและก็เป็นพิษ ทุกชนิดมีผลึกแคลเซียมออกซาเลต (calcium oxalate) ในขณะที่ก้านใบและหัว ซึ่งอาจก่อให้คัน ก่อนนำมาประกอบอาหารจำต้องต้มซะก่อน ไม่อย่างนั้นกินเข้าไปทำให้คันปากและก็ลิ้นพอง
ของกินที่ดัดแปลงมาจากบุก
ปัจจุบันมีการนำบุกมาดัดแปลง อีกทั้งในรูปแบบของเส้นบุก ซึ่งเป็นสินค้าแปรรูปจากส่วนหัวบุก มีแบบเส้นใส สามารถเอามาปรุงเป็นอาหารจานอร่อยได้ ผมว่าผู้ใดกันแน่เคยไปรับประทานเนื้อย่างคงเคยพบบ้าง นอกจากเส้นบุกแล้วมีการนำมาผสมเครื่องดื่มต่างๆเอาแบบฮิตๆสมัยเก่าเป็นเจเล่ ผสมผงบุก หากจำไม่ผิดอันนี้เขามาทำเป็นรายแรก (เจ้าของบริษัทผ่านมาอ่านขอค่าใช้จ่ายในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ด้วยครับผม)
คุณประโยชน์ของบุก
จากการเรียนรู้พบว่า  แป้งบุกเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน พวกกลูโคแมนแนน (glucomannan) เป็นสารโมเลกุลใหญ่ (polysaccharides)ที่มีน้ำตาล 2 ชนิดหมายถึงดี-กลูโคส (D-glucose) รวมทั้ง (D-mannose) เป็นสารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพในรูปของใยอาหาร (dietary fiber)  ซึ่งดูดน้ำได้มาก แม้กระนั้นร่างกายสลายตัวได้ยาก ซับได้ช้า จึงให้พลังงานและสารอาหารน้อย เหลือกากมาก ทำให้ระบบขับถ่ายปฏิบัติงานดี ผู้ที่ต้องการลดหุ่นนิยมรับประทานอาหารจากแป้งบุก ดังเช่นว่า วุ้นเส้นบุก เส้นหมี่แป้งหัวบุก เนื่องจากว่ากินอิ่มได้ ระบายท้อง แต่ว่าไม่ทำให้อ้วน
นอกเหนือจากนั้นเองเจ้า สารกลูวัวแมนแนนนี้ สามารถลดจำนวนน้ำตาลในเลือดได้ ก็เพราะว่าความเหนี่ยว ซึ่งยั้งการดูดซึมของกลูวัวลสจากทางเดินอาหาร ยิ่งเหนียวหนืดมาก็ยิ่งมีผลลดการดูดซึมกลูโคลส เพราะฉะนั้น กลูโคแมนแนนช่วยลดน้ำตาลได้ดีมาก ปัจจุบันจึงใช้แป้งเป็นวุ้นเป็นอาหารสำหรับผู้เจ็บป่วยเป็นโรคโรคเบาหวาน และก็สำหรับคนป่วยเป็นโรคมีไขมันในเลือดสูง
นี่แหละครับผมเป็นคุณประโยชน์จากบุก ทดลองหามาทานกันครับ มีประโยชน์ขนาดนี้ สมัยปัจจุบันนี้ไม่หายากแล้วเดินไปห้าง ก็ได้บุกเส้นแล้ว แนะนำมามายำแบบยำวุ้นเส้นนะครับ รับรองอร่อยแท้ๆ http://www.disthai.com/[/b]

Tags : สมุรไพรบุก



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ