รู้ไหมว่ากระเทียมนั้นมีสรรพคุณ-เเละประโยชน์อย่างมากๆ

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รู้ไหมว่ากระเทียมนั้นมีสรรพคุณ-เเละประโยชน์อย่างมากๆ  (อ่าน 24 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
teareborn
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 743


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: สิงหาคม 11, 2018, 10:43:33 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

[/b]
กระเทีย[/size][/b]
กระเทียมกับคุณประโยชน์ต่อร่างกาย
[url=http://www.disthai.com/16488280/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1]กระเทีย[/b] เป็นไม้ล้มลุกที่มีหัวลักษณะเป็นทรงกระเปาะอยู่ใต้ดินเหมือนกับหัวหอม ซึ่งแต่ละหัวจะมี 6-10 กลีบ นิยมนำมาใช้เป็นเครื่องปรุงประกอบอาหาร กระเทียมเป็นพืชที่ออกจะแตกต่างจากพืชทั่วไป เนื่องจากอุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์ในจำนวนมาก ยิ่งไปกว่านี้กระเทียมประกอบไปด้วยสารอาหารฯลฯ ได้แก่ อาร์จีนีน (Arginine) โอลิโกแซ็คคาไรด์ (Oligosaccharides) ฟลาโวนอยด์ (Flavoniods) รวมทั้งซีลีเนียม (Selenium) ซึ่งล้วนเป็นสารอาหารที่มีสาระต่อสุขภาพ
กระเทียม
ผู้คนจำนวนมากอาจจำกระเทียมได้จากกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งมีสาเหตุจากสารอัลลิสิน (Allicin) นอกเหนือจากการที่จะทำให้กระเทียมมีกลิ่นที่สะดุดตาแล้ว อัลลิสินยังเป็นสารออกฤทธิ์หลักที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย แล้วก็อาจมีส่วนช่วยรักษาโรคหรือทำให้อาการต่างๆ โดยที่หลายคนมั่นใจว่าการกินกระเทียมอาจช่วยทุเลาอาการที่เกี่ยวข้องกับหัวใจรวมทั้งหลอดเลือด ความดันโลหิต คอเลสเตอรอล บรรเทาหวัด รวมทั้งใช้น้ำมันกระเทียมเป็นยาทาภายนอกเพื่อรักษาอาการติดเชื้อโรคทางผิวหนัง เล็บ หรือช่วยรักษาอาการผมร่วงอีกด้วย
ดังนี้สิ่งพิสูจน์หรือหลักฐานทางด้านการแพทย์มีมากน้อยเพียงใดที่จะช่วยรับรองคุณประโยชน์ คุณประโยชน์ แล้วก็ความปลอดภัยของการรับประทานกระเทียมที่มีหน้าที่หรือส่วนช่วยสำหรับเพื่อการรักษาโรคกลุ่มนี้
ความดันเลือดสูง อัลลิสินซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่พบได้ในกระเทียมสดหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาการที่มีส่วนประกอบของกระเทียม อาจมีส่วนช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อเรียบที่เรียงหน้าในเส้นเลือดรวมทั้งส่งผลให้เส้นโลหิตขยายตัวแล้วก็ทำให้ระดับความดันเลือดลดลดน้อยลง ซึ่งสอดคล้องกับการทดสอบชิ้นหนึ่งให้คนเจ็บที่หรูหราความดันเลือดสูงโดยที่มีค่าความดันซิสโตลิก (Systolic Blood Pressure: SBP) มากกว่าหรือพอๆกับ 140 ไม่ลลิตรปรอท รับประทานกระเทียมบ่มสกัด (Aged Garlic Extract: AGE) ขนาด 960 มก. เป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่าค่าความดันซิสโตลิกลดลดลงมากกว่าเมื่อเทียบกับคนไข้ที่รับประทานยาหลอก ก็เลยอาจพูดได้ว่าการกินกระเทียมบ่มสกัดอาจมีสมรรถนะสำหรับการรักษาคนไข้ความดันโลหิตสูงได้ดีมากว่ายาหลอก
ต่อให้มีการทดสอบอีก 2 ชิ้นที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถของกระเทียมสำหรับในการลดความดันเลือดได้ดียิ่งไปกว่าการใช้ยาหลอก แม้กระนั้นเพราะว่าผลการทดลองอาจยังไม่ถูกต้องแม่นยำพอเพียงที่จะสรุปคุณภาพของกระเทียมได้ว่าสามารถรักษาหรือลดการเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและเส้นโลหิตในคนป่วยความดันโลหิตสูง ก็เลยยังจำเป็นจะต้องศึกษาเล่าเรียนเพิ่มอีกเพื่อยืนยันประสิทธิภาพที่เด่นชัดยิ่งขึ้น
โรคมะเร็ง ความสัมพันธ์ของการบริโภคกระเทียมรวมทั้งความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งยังกำกวมและยังคงเป็นที่แย้งกันอยู่ ซึ่งจะมองเห็นได้จากการวิจัยชิ้นหนึ่งที่ให้คนจีนทั้งปวงศชายรวมทั้งผู้หญิงที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหารปริมาณกว่า 5,000 คน กินสารอัลลิทริดินขนาด 200 มิลลิกรัมต่อวัน ร่วมกับสารซีลีเนียมขนาด 100 ไมโครกรัมวันเว้นวัน ซึ่งล้วนเป็นสารสกัดที่ได้จากกระเทียม โดยการทำการทดลองตรงเวลา 5 ปี รวมทั้งเมื่อเปรียบเทียบกับกรุ๊ปที่รับประทานยาหลอกแล้วพบว่ากลุ่มที่รับประทานสารอัลลิทริดินร่วมกับสารซีลีเนียมมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดเนื้องอกต่ำลง 33 เปอร์เซ็นต์ แล้วก็เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหารลดน้อยลงถึง 52 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ดี มีการศึกษาวิจัยอีก 19 ชิ้นแสดงให้เห็นว่า ยังไม่เจอหลักฐานที่น่าไว้วางใจพอดีจะช่วยสนับสนุนความข้องเกี่ยวของการบริโภคกระเทียมต่อการเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งทรวงอก โรคมะเร็งปอด หรือโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก และก็มีหลักฐานที่ออกจะจำกัดที่สนับสนุนว่าการบริโภคกระเทียมอาจช่วยลดการเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก โรคมะเร็งหลอดอาหาร โรคมะเร็งกล่องเสียง มะเร็งในช่องปาก หรือโรคมะเร็งรังไข่
ทั้งนี้สถาบันโรคมะเร็งแห่งชาติสหรัฐฯ (NCI) ได้พูดว่ากระเทียมเป็นผักประเภทหนึ่งที่อาจมีคุณสมบัติต่อต้านมะเร็ง แต่ยังมีต้นสายปลายเหตุอื่นๆดังเช่นว่า ลักษณะของสินค้าที่ทำมาจากกระเทียม หรือปริมาณความเข้มข้นที่นานาประการ อาจจะทำให้พิสูจน์ถึงความสามารถของกระเทียมได้ยาก และเมื่อเวลาผ่านไปหรือเก็บไว้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ก็อาจก่อให้ประสิทธิภาพของกระเทียมหมดลงไปได้เช่นกัน
แก้หวัด คนไม่ใช่น้อยเชื่อว่ากระเทียมมีฤทธิ์ต้านทานเชื้อจุลินทรีย์และเชื้อไวรัส รวมทั้งมีการนำมาใช้เพื่อป้องกันแล้วก็ทุเลาอาการหวัดมาอย่างยาวนาน ซึ่งสอดคล้องกับการเรียนชิ้นหนึ่งที่ให้อาสาสมัครปริมาณ 146 คน รับประทานสารสกัดจากกระเทียมรูปแบบเม็ดซึ่งประกอบไปด้วยสารอัลลิซินขนาด 180 มก.วันละ 1 ครั้ง ตรงเวลา 12 อาทิตย์ แล้วให้อาสาสมัครจดบันทึกอาการเมื่อเป็นหวัด พบว่าในกรุ๊ปที่รับประทานสารสกัดจากกระเทียมมีรายงานการเป็นหวัดปริมาณ 24 ครั้ง ซึ่งน้อยกว่าเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่กินยาหลอกที่มีรายงานการเป็นหวัดปริมาณ 65 ครั้ง ทั้งยังยังพบว่าระยะเวลาของการเป็นหวัดในกรุ๊ปที่รับประทานสารสกัดจากกระเทียมมีจำนวนวันที่น้อยกว่า แม้กระนั้นช่วงเวลาการฟื้นตัวจากอาการหวัดของทั้งยัง 2 กลุ่มมีความแตกต่างกันเพียงนิดหน่อย ถึงผลของการทดสอบข้างต้นจะแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกระเทียม แต่หลักฐานการทดลองทางสถานพยาบาลยังไม่พอรวมทั้งจะต้องศึกษาเล่าเรียนเพิ่มอีกเพื่อยืนยันประสิทธิภาพของกระเทียมให้เด่นชัดเพิ่มขึ้น
ลดน้ำหนักรวมทั้งมวลไขมัน ในคนเจ็บสภาวะไขมันพอกตับ ที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ แม้กระนั้นมักมีต้นเหตุมาจากโรคอ้วน โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ความดันเลือดสูง แล้วก็ไขมันในเลือดสูง ซึ่งการรักษาด้วยการรับประทานยา การผ่าตัด หรือลดความอ้วนบางทีอาจน้อยเกินไป หากไม่ดูแลหัวข้อการกินอาหารพร้อมกันไปด้วย การกินกระเทียมก็เลยอาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าดึงดูด เนื่องจากกระเทียมเป็นพืชสมุนไพรที่อุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์แล้วก็สารอาหารอื่นๆที่อาจมีคุณลักษณะคุ้มครองป้องกันภาวการณ์อ้วน ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยชิ้นหนึ่งที่ให้ผู้ป่วยไขมันพอกตับที่มิได้เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ทั้งเพศชายและก็ผู้หญิง อายุตั้งแต่ 20-70 ปี จำนวนทั้งมวล 110 คน กินกระเทียมผงชนิดแคปซูลขนาด 400 มิลลิกรัม ซึ่งด้านในประกอบไปด้วยสารอัลซิลินขนาด 1.5 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง ตรงเวลา 15 อาทิตย์ โดยสามารถทานอาหารได้ตามปกติ แต่รับประทานกระเทียมได้ไม่เกินอาทิตย์ละ 2 กลีบ จากผลการทดลองแสดงให้เห็นว่า น้ำหนักแล้วก็มวลร่างกายลดน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอก ก็เลยอาจจะกล่าวว่าการกินกระเทียมบางทีอาจช่วยลดจำนวนไขมันในตับและคุ้มครองป้องกันหรือชะลอการเกิดภาวะไขมันพอกตับที่ไม่ได้มีสาเหตุจากการดื่มแอลกอฮอล์ แต่การเรียนในอนาคตยังจำต้องออกแบบการทดสอบให้และควรจะเพิ่มระยะเวลาสำหรับเพื่อการทดสอบเพื่อยืนยันสมรรถนะของกระเทียมให้กระจ่างแจ้งเพิ่มขึ้น
ลดระดับคอเลสเตอรอล หลักฐานเกี่ยวกับความสามารถของกระเทียมต่อการลดระดับคอเลสเตอรอลยังคงมีความขัดแย้ง จึงทำให้ยังไม่สามารถสรุปได้อย่างชัดเจน ซึ่งสอดคล้องกับการทดสอบรวมทั้งการศึกษาโดยการทบทวนงานศึกษาวิจัยที่เกี่ยวปริมาณ 29 ชิ้น ได้ชี้ให้เห็นว่า การกินกระเทียมอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวมได้น้อย แต่ว่าไม่ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลจำพวกที่ดี (High-Density Lipoprotein: HDL) เพิ่มสูงขึ้น ไหมทำให้ระดับคอเลสเตอรอลจำพวกที่ไม่ดี (Low-Density Lipoprotein: LDL) ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจลดน้อยลงแต่อย่างใด ก็เลยยังจำเป็นจะต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อหาบทสรุปและก็รับรองความสามารถของ[url=http://www.disthai.com/16488280/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1]กระเทียม
ต่อระดับคอเลสเตอรอลที่เด่นชัดยิ่งขึ้น
[/b]
ความปลอดภัยในการรับประทานกระเทียม
การรับประทานกระเทียมออกจะไม่มีอันตรายถ้ารับประทานในจำนวนที่สมควร แต่ว่าอาจจะเป็นผลให้เป็นผลข้างเคียงได้ อย่างเช่น ปากเหม็น มีกลิ่นตัว รู้สึกแสบร้อนที่รอบๆปากหรือที่กระเพาะ แสบร้อนกลางอก ท้องขึ้น คลื่นไส้ คลื่นไส้ หรือท้องเดิน อาการเหล่านี้บางทีอาจทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อกินกระเทียมสด ทั้งการใช้กระเทียมสดทาหรือสัมผัสที่รอบๆผิวหนังอาจทำให้เกิดอาการแสบร้อนรวมทั้งระคายได้
ข้อพึงระวังในการรับประทานกระเทียมโดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลในกลุ่มต่อไปนี้
ผู้ที่กำลังตั้งท้องหรือคนที่อยู่ในตอนให้นมบุตร การกินกระเทียมในตอนการตั้งครรภ์ค่อนข้างไม่เป็นอันตรายถ้าเกิดกินเป็นอาหารหรือในจำนวนที่เหมาะสม แต่ว่าบางทีอาจไม่ปลอดภัยถ้ารับประทานกระเทียมเป็นยารักษาโรค ทั้งยังยังไม่มีช้อมูลที่น่าไว้ใจพอเพียงเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทากระเทียมที่รอบๆผิวหนังในตอนการมีครรภ์หรือให้นมบุตร
เด็ก การรับประทานกระเทียมในจำนวนที่เหมาะสมรวมทั้งในระยะสั้นๆบางทีอาจปลอดภัยสำหรับเด็ก แต่การใช้กระเทียมทาบริเวณผิวหนังอาจจะส่งผลให้กำเนิดอาการแสบร้อนและระคายเคือง
คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะหรือการย่อยของอาหาร อาจจะเป็นผลให้เกิดการเคืองพื้นที่เดินของกินได้
คนที่มีความดันโลหิตต่ำ การกินกระเทียมอาจส่งผลให้ระดับความดันโลหิตลดลดน้อยลงมากกว่าปกติ
คนที่คิดแผนเข้ารับการผ่าตัด ควรจะหยุดกินกระเทียมก่อนจะมีการผ่าตัดอย่างต่ำ 2 สัปดาห์เพราะว่าอาจทำให้เลือดออกมากแล้วก็มีผลต่อความดันโลหิตในระหว่างการผ่าตัด รวมทั้งคนที่มีสภาวะเลือดออกผิดปกติไม่ควรรับประทากระเทียม[/url] โดยยิ่งไปกว่านั้นกระเทียมสด เนื่องจากว่าบางทีอาจเพิ่มการเสี่ยงให้เลือดออกได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น
คนที่อยู่ในระหว่างการกินยารักษาโรค เช่น ไอโซไนอะซิด ด้วยเหตุว่ากระเทียมบางทีอาจลดการดูดซึมของยาภายในร่างกายและก็ส่งผลต่อสมรรถนะแนวทางการทำงานของยา รวมถึงไม่สมควรรับประทานกระเทียมในระหว่างใช้ยาดังนี้
ยารักษาการติดเชื้อโรคเอชไอวีหรือโรคภูมิคุมกันบกพร่อง
ยาคุมกำเนิด
ยาต้านทานการแข็งตัวของเลือด
ยาต้านเกล็ดเลือด
http://www.disthai.com/[/b][/size][/b]



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ