รากเหง้า Huawei P Series

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รากเหง้า Huawei P Series  (อ่าน 209 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
asianoned
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5614


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: สิงหาคม 17, 2018, 06:14:27 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ถ้าหากกล่าวถึง Huawei พวก P Series ตัวแรกที่คิดถึงเลย ก็น่าจะหลบหนีไม่พ้น Huawei P9 เพราะว่าช่วงที่เปิดตัวรุ่นนี้ออกมาเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2559 ถือว่าเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะว่าความเป็นกล้องถ่ายภาพคู่ที่ได้รับการประสานของเทคโนโลยีที่ร่วมพัฒนากับ LEICA จึงทำให้ Huawei P9 ที่สามารถถ่ายรูปที่มีรายละเอียดสูงได้อย่างสวยงาม และยังได้รับความชื่นชมอยู่ในปัจจุบันนี้ วันนี้เราจะพาไปย้อนรอยเรื่องกล้องของ Huawei P9 อีกครั้ง ไปดูกันครับ
 
 Huawei P9 มีกล้องถ่ายภาพส่วนหลัง 2 กล้องถ่ายภาพที่ทาง Huawei ได้ร่วมแรงร่วมใจกับทาง LEICA ซึ่งเป็นบริษัทกล้องถ่ายรูปขั้นตำนานมาร่วมออกแบบกล้องถ่ายรูปให้กับทาง Huawei P9 โดยบริเวณกล้องหลังจะมีข้อความกำกับไว้ว่า LEICA ซึ่งใต้ LEICA จะเขียนไว้ว่า Summarit H 1:2.2/27 APSH ซึ่ง Summarit เป็นการบ่งบอกช่วงขนาดรูรับแสงของเลนส์ LEICA ส่วนเลขต่อท้าย 1:2.2 คือเลนส์มีรูรับแสงขนาด 2.2 และเลข 27 คือทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 27mm ซึ่งนับว่าเป็นระยะที่ให้มุมกว้างที่กำลังดีเลยเชียว
 
 โดยกล้องตัวแรกของ Huawei P9 เป็นกล้องถ่ายภาพที่มีเซนเซอร์รับภาพสี (RGB) ในขณะกล้องตัวที่ 2 จะเป็นกล้องถ่ายรูปที่ใช้เซ็นเซอร์รับภาพขาว-ดำ (Monochrome) ซึ่งให้ภาพที่คมชัดกว่า สามารถรับแสงได้มากกว่าปกติ และการที่รับแสงได้มากกว่า นั่นหมายถึงปริมาณ noise ที่น้อยกว่านั่นเอง จึงได้คุณภาพของไฟล์ภาพที่ดีกว่า แต่กล้องถ่ายรูปทั้งสองตัวก็มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดพิกเซล 1.25 ไมครอน, ไฟแฟลช LED แบบ Dual-Tone และระบบการโฟกัสภาพแบบ Hybrid Autofocus แบบเดียวกันเลย อีกอย่างแม้จะแยกเป็นกล้อง RGB กับ กล้องถ่ายภาพ Monochrome แต่ว่ากล้องทั้งสองตัวจะทำงานด้วยกันอยู่แล้ว จึงเป็นเหตุให้ภาพที่ได้มีสีสัน และรายละเอียดปลีกย่อยในส่วนสีขาว-ดำกระจ่างมากกว่าการถ่ายด้วยกล้องถ่ายรูปทั่วๆ ไป รวมทั้งสามารถปรับโฟกัสหลังจากทำการถ่ายภาพได้ด้วยเช่นกัน

 ส่วนกล้องถ่ายรูปหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง 2.4 ซึ่งก็ยังจัดว่ายังทำออกมาได้ดีถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ LEICA แล้วก็ตาม และสามารถปรับระดับความฟรุ้งฟริ้งกิงก่องแก้ว หรือ Beauty Mode ได้ถึง 10 ระดับเลยทีเดียว ที่สำคัญคือกล้องถ่ายรูปด้านหน้าของ Huawei P9 สามารถวัดแสงและชดเชยออกมาได้ค่อนข้างจะสว่าง ใบหน้าขาวใส ถ้าใครที่นิยมชมชอบถ่ายภาพตัวเอง ก็ไม่ควรพลาด อีกทั้งยังสามารถถ่ายได้แม้ในที่แสงสว่างน้อย ก็ยังทำได้ดีอีกเช่นกัน ตัวอย่างเช่นคุณไปงานเลี้ยงยามค่ำคืน แต่ว่าอยากเซลฟี่ ท่านก็สามารถถ่ายได้ทุกที่ โดยไม่ต้องมองหาแสงจากที่ไหน เพราะว่าหน้าจอของ Huawei P9 จะส่องสว่างทันทีที่ท่านลั่นชัตเตอร์ ซึ่งทำงานเหมือนแฟลชข้างหน้าเลยทีเดียว
 
 และถ้าล้วงลึกไปทีละโหมดการใช้งาน ก็คงจะเริ่มที่โหมดอัตโนมัติ ซึ่งเป็นโหมดที่ใช้งานสะดวกที่สุด ก็เพราะว่าแค่เพียงยก Huawei P9 ขึ้นมาแล้วกดชัตเตอร์เท่านั้น เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยอยากปรับอะไรมาก หรือผู้ที่ฝึกถ่ายภาพ แต่ต้องการรูปถ่ายที่สวยงาม โหมดออโต้ก็สามารถตอบโจทย์ส่วนนี้ได้ดี ถัดมาเป็นโหมดโปร เหมาะกับผู้ที่มีพื้นฐานการถ่ายภาพอยู่บ้าง โดยท่านสามารถเลือก ISO / WB / Shutter Speed แต่ไม่สามารถปรับรูรับแสงได้ โดยตัวเครื่องจะกำหนดพื้นฐานที่ 2.2 และในโหมดโปรสามารถเลือกบันทึกภาพเป็นแบบ raw file ได้ด้วย ถ้าหากใครอยากนำไปแก้ไขในโปรแกรมต่างๆ ต่อ แต่ก็ไม่ได้มีฤทธิ์เดชในการแต่งเยอะมากมาย ด้วยขีดจำกัดเรื่องขนาดเซนเซอร์นั่นเอง
 
 ถัดมาเป็นโหมดขาว-ดำ ในกล้อง Monochrome ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นเลยก็ว่าได้ เนื่องด้วยเป็นแบรนด์เริ่มแรกที่มีกล้องถ่ายรูปเพื่อถ่ายขาวดำโดยเฉพาะซึ่งจะสามารถเก็บรายละเอียดความต่างแสง (Dynamic range) ได้มากกว่าถ่ายแบบสี ซึ่งได้ภาพที่กระจ่าง สวยงามมาก เหมือนยังกับมาจาก LEICA ซะเองเลย และอีกโหมดที่น่าสนใจคือ โหมด Wide Aperture ซึ่งเป็นโหมดหน้าชัดหลังเบลอนั่นเองซึ่งในโหมดนี้เป็นการจำลองรูรับแสง ซึ่งสามารถปรับต่ำสุดได้ที่ F 0.95 และสูงสุดที่ F 16 ซึ่งคงจะทำได้ไม่ดีเหมือนกล้องถ่ายภาพใหญ่อย่าง DSLR เนื่องมาจากมีขนาด Sensor ที่เล็กกว่านั่นเอง แต่ก็ไม่ได้ทำออกมาจนน่าเกลียด
 
 และโหมดสุดท้ายที่ไม่แนะนำไม่ได้ นั่นคือ โหมดถ่ายกลางคืน หรือว่า Night mode นั่นเอง ซึ่งถ้าหากว่าคุณมีขาตั้งอีกตัว ภาพที่คุณจะได้นี่เสมอเหมือนกล้องถ่ายภาพใหญ่ๆได้เลยนะ เพราะว่าถ้าปราศจากขาตั้งกล้อง อาจจะเป็นเหตุให้ภาพสั่นไหวได้ และโหมดนี้คุณสามารถเลือก ISO ได้สูงสุดที่ 1600 และ Shutter Speed เลือกเปิดได้นานถึง 32 วินาทีเลยเทียว แต่หากไม่อยากเปลี่ยนแปลงอะไร ก็สามารถให้ระบบเลือกให้อัตโนมัติได้เลย
 
 นี่เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นของ Huawei P9 ซึ่งยังมีสาระสำคัญ สเปคการใช้งานอื่นๆ ที่น่าศึกษาอีกจำนวนมาก แต่อย่างที่เสนอไปในข้างต้น ว่า Huawei เชื้อสาย P Series นั้น มีสาระสำคัญที่กล้องอยู่แล้ว ซึ่งหากว่าใครที่ชอบการถ่ายรูป และอยากได้ภาพถ่ายที่ค่อนข้างมีคุณภาพเทียมเท่ากล้องถ่ายรูปใหญ่ๆ อีกทั้งยังสามารถติดตัวได้อย่างง่ายดายมากกว่าพกกล้องถ่ายรูปจริงๆ เสียอีก ก็ขอแนะนำเครื่องนี้เลย ซึ่งเดี๋ยวนี้ Huawei P9 ราคาได้ลดลง ซึ่งเริ่มต้นเพียง 7,300 บาทเท่านั้น ซึ่งแต่ละเว็บไซต์ หรือร้านค้า ราคาอาจจะแตกต่างกันออกไป ยังไงก็ลองสำรวจราคากันอีกครั้งนะขอรับกระผม
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : รีวิว Huawei P9

Tags : Huawei p9,Huawei p9 ราคา,รีวิว Huawei P9



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


Related Topics
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
เทือกเถาเหล่ากอ Huawei P Series
สินค้าอื่นๆ
asianoned 0 218 กระทู้ล่าสุด กรกฎาคม 03, 2018, 04:29:42 pm
โดย asianoned
เทือกเถาเหล่ากอ Huawei P Series
สินค้าอื่นๆ
uchaiyawat 0 181 กระทู้ล่าสุด สิงหาคม 22, 2018, 09:01:58 am
โดย uchaiyawat
ต้นตระกูล Huawei P Series
สินค้าอื่นๆ
asianoned 0 165 กระทู้ล่าสุด สิงหาคม 31, 2018, 11:50:23 pm
โดย asianoned
ต้นตระกูล Huawei P Series
สินค้าอื่นๆ
uchaiyawat 0 173 กระทู้ล่าสุด กันยายน 09, 2018, 02:05:34 pm
โดย uchaiyawat
รากเหง้า Huawei P Series
สินค้าอื่นๆ
uchaiyawat 0 174 กระทู้ล่าสุด กันยายน 14, 2018, 10:05:57 am
โดย uchaiyawat
บรรพบุรุษ Huawei P Series
สินค้าอื่นๆ
mmhaloha 0 168 กระทู้ล่าสุด กันยายน 19, 2018, 08:57:56 am
โดย mmhaloha
เทือกเถาเหล่ากอ Huawei P Series
สินค้าอื่นๆ
uchaiyawat 0 181 กระทู้ล่าสุด กันยายน 24, 2018, 03:38:56 am
โดย uchaiyawat
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ