Advertisement
[/b]
บัวบ[/size][/b]
ใบบัวบก เป็นพืชสมุนไพรที่เติบโตในแถบอินเดีย แอฟริกา รวมทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใบรวมทั้งลำต้นนำมาใช้เป็นยารักษาโรคตามหมอแผนโบราณของประเทศอินเดียและจีนมาอย่างยาวนาน ใช้รักษาหลายโรค เช่น โรคซิฟิลิส โรคหอบหืด หรือโรคสะเก็ดเงิน และก็ยังนำมาทำครัวได้อีกด้วย
ใบบัวบกใบ
[url=http://www.disthai.com/16913509/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%81]บัวบกมีสารออกฤทธิ์หลักที่มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายอยู่หลายอย่าง เช่น ซาโปนิน (Saponin) หรือสามเทอร์พีนอยด์ (Triterpenoids) ทวีปเอเชียตำหนิวัวไซด์ (Asiaticoside) กรดทวีปเอเชียว่ากล่าวก (Asiatic Acid) มาเดแคสโซไซด์ (Madecassoside) รวมทั้งกรดมาดีค้างสสิค (Madecassic Acid) จึงทำให้นำมาใช้ในทางการแพทย์ โดยเชื่อว่ามีสรรพคุณหลายประเภท ตัวอย่างเช่น ทุเลาอาการอักเสบ แม้ใช้รับประทานอาจมีคุณลักษณะช่วยลดระดับความดันโลหิตในหลอดโลหิตดำ รวมทั้งประยุกต์ใช้รักษาโรคหรืออาการที่เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการต่อว่าดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือปรสิตต่างๆเช่น หวัด ไข้หวัดใหญ่ การตำหนิดเชื้อที่ระบบทางเท้าฉี่ โรคงูสวัด โรคเรื้อน อหิวาต์ โรคบิด โรคเท้าช้าง วัณโรค โรคพยาธิใบไม้ในเลือด เป็นต้น นอกเหนือจากนี้ ยังมีความคิดว่าแม้ใช้ใบบัวบกทาที่ผิวหนังบางทีอาจช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนซึ่งเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการสมานบาดแผล ลดเลือนรอยแผลเป็น รวมถึงปัญหาท้องลายที่มีต้นเหตุมาจากการตั้งครรภ์ แต่ว่าสิ่งที่ใช้ในการพิสูจน์หรือหลักฐานทางการแพทย์มีมากน้อยมีมากน้อยเท่าใดที่จะช่วยยืนยันความเลื่อมใส คุณประโยชน์ แล้วก็ความปลอดภัยของใบบัวบกสำหรับเพื่อการรักษาโรคพวกนี้
การดูแลรักษาด้วยใบบัวบกที่บางทีอาจได้ผลเส้นโลหิตขอด มีการเรียนชิ้นหนึ่งแถลงการณ์ว่าใบบัวบกอาจมีส่วนช่วยบำรุงแล้วก็สร้างสมดุลในการเติบโตของเยื่อเกี่ยวข้อง (Connective Tissues) เพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นเลือด ส่งผลต่อความดันในเส้นเลือดฝอยรวมทั้งเส้นโลหิตขอด ลดอัตราการกรองของเส้นเลือดฝอยโดยแก้ไขการไหลเวียนของเลือด นอกจากนี้ ยังมีการเรียนโดยการทบทวนการค้นคว้าที่เกี่ยวโยง 8 ชิ้นเกี่ยวกับการรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบกในผู้เจ็บป่วยที่มีปัญหาเส้นเลือดขอดเรื้อรัง พบว่าอาการปวดขา ขาหนัก และก็อาการบวมน้ำทุเลาลงอย่างเป็นจริงเป็นจัง แม้สารสกัดจากใบบัวบกอาจช่วยทุเลาอาการคนเจ็บเส้นเลือดขอดเรื้อรังลงได้ แต่ว่าจากงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยกล่าวว่าบทสรุปข้างต้นจำเป็นต้องตีความหมายด้วยความระวังเพราะว่าความจำกัดต่างๆของงานศึกษาวิจัย แล้วก็ยังจำเป็นที่จะต้องศึกษาเพิ่มเติมอีกเพื่อหาหลักฐานที่มีความถูกต้องและก็มีคุณภาพมากพอสำหรับการประเมินประสิทธิภาพการดูแลรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบก
การรักษาด้วยใบบัวบกที่เป็นไปได้ แต่ยังมีหลักฐานเกื้อหนุนน้อยเกินไปโรคเส้นโลหิตแดงแข็ง (Atherosclerosis) ใบบัวบกบางทีอาจช่วยสำหรับเพื่อการลดจำนวนไขมันในเส้นเลือดได้ จากการศึกษาชิ้นหนึ่งโดยให้อาสาสมัครโรคเส้นเลือดแดงแข็งที่ไม่แสดงอาการกรุ๊ปหนึ่งกินอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกตรงเวลา 6 เดือน แล้วก็อีกกรุ๊ปไม่รับประทาน แล้วตรวจค้นความหนาแน่นของไขมันหรือพลัค (Plagues) ที่เกาะอยู่ตามเยื่อบุของเส้นโลหิต พบว่า ระดับคอเลสเตอรอลของอาสาสมัคร 2 กรุ๊ปไม่ได้มีความแตกต่างกัน แม้กระนั้นในกลุ่มที่รับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกพบว่า อนุมูลอิสระในเลือดต่ำลง จำนวนไขมันหรือพลัคที่เส้นโลหิตแดงใหญ่ที่คอแล้วก็ขาลดลง รวมถึงรูปแบบของพลัคทั้งความครึ้มแล้วก็ความยาวก็ต่ำลงด้วยเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังไม่พบอาการที่ไม่พึงปรารถนา สามารถทนต่ออาการใกล้กันได้ แล้วก็มีการบันทึกผลการตรวจเลือดบ่อยๆ เพราะเหตุว่าหลักฐานสนับสนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อโรคเส้นเลือดแดงแข็งยังไม่พอ จึงจะต้องศึกษาต่อไป
ปกป้องลิ่มเลือด การกินใบบัวบกอาจช่วยปกป้องการเกิดลิ่มเลือดที่ขาซึ่งมีต้นเหตุมาจากการโดยสารเครื่องบินเป็นระยะเวลานาน จากหลักฐานที่ได้รับการพัฒนาชี้แนะว่าใ
บัวบก[/url]อาจช่วยลดของเหลวและเพิ่มการไหลเวียนเลือดในคนที่ขึ้นรถเครื่องบินติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง แม้กระนั้น ยังไม่เป็นที่กระจ่างแจ้งว่าการเรียนชิ้นนี้จะหมายถึงการลดการสั่งสมของลิ่มเลือด เพราะว่าหลักฐานสนับสนุนคุณสมบัติของใบบัวบกต่อการคุ้มครองลิ่มเลือดยังน้อยเกินไป จึงจำเป็นจะต้องศึกษาต่อไป
กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ในผู้เจ็บป่วยโรคเบาหวาน งานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยหนึ่งให้คนไข้เบาหวานที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นเลือดฝอยปริมาณ 50 คน รับประทานสารสกัดจากใบบัวบกซึ่งมีสารตรีเทอร์พีนอยด์เป็นข้อสำคัญ ขนาด 60 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวันตรงเวลา 6 เดือน เปรียบเทียบกับกรุ๊ปที่กินยาหลอก พบว่าสารตรีเทอร์พีนอยด์ของใบบัวบกมีประโยชน์ต่อการไหลเวียนของโลหิตในหลอดเลือดฝอยของผู้ป่วยโรคเบาหวาน แต่หลักฐานส่งเสริมคุณสมบัติของใบบัวบกต่อการไหลเวียนเลือดยังน้อยเกินไป จึงจึงควรศึกษาต่อไป
แผลโรคเบาหวาน มีการทำการศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับประสิทธิภาพและผลกระทบของการกินสารสกัดจากใบบัวบกต่อแผลโรคเบาหวาน โดยแบ่งคนเจ็บเบาหวานจำนวน 200 คนออกเป็น 2 กรุ๊ป โดยกรุ๊ปหนึ่งรับประทานสารเอเชียตำหนิโคไซด์ซึ่งเป็นสกัดจากใบบัวบกขนาด 50 มิลลิกรัม และอีกกรุ๊ปรับประทานยาหลอกปริมาณ 2 แคปซูลหลังมื้ออาหารวันละ 3 ครั้ง และก็มีการให้คะแนนทุก 7 วัน พบว่าแผลของผู้เจ็บป่วยที่กินสารสกัดจากใบบัวบกมีการหดรั้ง (Wound Contraction) ที่ดีกว่าและไม่พบผลข้างเคียง หรือบอกได้ว่าสารสกัดจากใบ
บัวบกอาจมีความสามารถสำหรับในการรักษาแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น แล้วก็สามารถใช้ได้โดยสวัสดิภาพโดยไม่เกิดผลใกล้กัน แม้กระนั้นเพราะเหตุว่าหลักฐานช่วยเหลือคุณลักษณะของใบบัวบกต่อการดูแลและรักษาแผลโรคเบาหวานยังไม่เพียงพอ จึงควรต้องศึกษาต่อไป
แผล สารออกฤทธิ์ของใบบัวบก ได้แก่ ทวีปเอเชียติโคไซด์ กรดทวีปเอเชียติก มาเดแคสโซไซด์ และก็กรดมาดีคาสสิค เป็นสารช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในร่างกายรวมทั้งอาจมีคุณภาพสำหรับเพื่อการรักษาแผลต่างๆทั้งยังแผลขนาดเล็ก แผลไฟลุก แผลเป็นจากโรคสะเก็ดเงินหรือโรคหนังแข็ง รวมถึงแผลแบบนูน ซึ่งจากงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยชิ้นหนึ่งได้แนะนำว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกรอบๆผิวหนังภายหลังเย็บแผลแล้ว 2 ครั้งต่อวัน ตลอดนาน 6-8 สัปดาห์ บางทีอาจช่วยลดการเกิดแผลได้ รวมถึงแผลแบบนูนหรือคีลอยด์ แต่เพราะเหตุว่าหลักฐานเกื้อหนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อแผลเป็นยังไม่พอ ก็เลยต้องศึกษาต่อไป
ท้องลาย จากการท้อง ได้มีงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยเสนอแนะให้ผู้ที่กำลังตั้งท้องทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี แล้วก็คอลลาเจน เสมอๆแต่ละวันในช่วง 6 เดือนสุดท้ายก่อนจะมีการคลอด ซึ่งบางทีอาจช่วยปัญหารอยแตกได้ ยิ่งไปกว่านี้ ยังมีการทดสอบโดยให้หญิงมีครรภ์จำนวน 100 คน ทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี รวมทั้งคอลลาเจน-อีลาสติน ไฮโดรไลเซท ทาบริเวณผิวหนังที่มีรอยแตกเปรียบเทียบกับการใช้ยาหลอก พบว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของใบบัวบกอาจก่อให้กำเนิดรอยแตกหรือท้องลายน้อยกว่าในกรุ๊ปที่ใช้ยาหลอก แม้กระนั้นเนื่องมาจากหลักฐานเกื้อหนุนคุณสมบัติของใบบัวบกต่อรอยแตกหรือท้องลายยังไม่แน่นอน ก็เลยจะต้องศึกษาต่อไป
ลดความรู้สึกกังวล การดูแลรักษาแบบแพทย์แผนจีนมีการนำใบบัวบกมาใช้เพื่อทุเลาอาการเซื่องซึมและความรู้สึกกังวล ซึ่งสอดคล้องกับการเล่าเรียนทดสอบชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับสมรรถนะของใบบัวบกสำหรับในการลดความกลุ้มใจ โดยสุ่มให้อาสาสมัครรับประทานใบบัวบกในปริมาณ 12 กรัมหรือรับประทานยาหลอก จากผลของการทดสอบทำให้เห็นว่าใบบัวบกมีฤทธิ์ต้านทานความไม่สบายใจ ช่วยลดความตึงเครียด แม้กระนั้นยังคงจำต้องเล่าเรียนเสริมเติมต่อไปถึงสมรรถนะของใบบัวบกสำหรับการรักษาโรคกังวล
โรครวมทั้งอาการอื่นๆดังเช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ต่อมทอนซิลอักเสบ เป็นลมเป็นแล้งแดด การติดเชื้อฟุตบาทฉี่ โรคตับอักเสบ โรคดีซ่าน ท้องเสีย ของกินไม่ย่อย ซึ่งยังจึงควรทำการวิจัยหาสมรรถนะและก็ความปลอดภัยในการรักษาถัดไป
[/b]
ความปลอดภัยในการรับประทานใบบัวบก การใช้สารสกัดจากใบ
บัวบกทาบริเวณผิวหนังอาจมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แม้กระนั้นการรับประทานใบบัวบกอาจไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ผู้ที่กำลังท้อง หรือผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมลูก เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานด้านการแพทย์เพียงพอที่จะเกื้อหนุนถึงเรื่องความปลอดภัยอีกทั้งต่อเด็ก คุณแม่ หรือทารกในท้อง
การรับประทานใบบัวบกบางทีอาจเป็นสาเหตุให้เกิดความย่ำแย่ต่อตับ ด้วยเหตุดังกล่าวคนที่เป็นโรคตับหรือมีปัญหาเกี่ยวกับตับไม่ควรรับประทานใบบัวบก เพราะว่าอาจก่อให้อาการต่างๆแย่ลงได้ รวมถึงไม่สมควรกินใบบัวบกร่วมกับยาที่มีผลต่อตับในกรุ๊ปเหล่านี้ ยกตัวอย่างเช่น พาราเซตามอล อะมิโอดาโรน คาร์บามาซีป่ายปีน ไอโซไนอะซิด ซิมวาสแตติเตียนน ฯลฯ
การรับประทานใบบัวบกในจำนวนมากอาจส่งผลให้รู้สึกง่วงงุนได้มากกว่าธรรมดา หรือแม้รับประทานร่วมกับยานอนหลับหรือยาความหนักใจน้อยลง อาทิเช่น โคลนาซีแพม ลอราซีแพม ฟิโนบาร์บิทอล รวมทั้งโซลพิเดม
ควรหยุดรับประทานใบ
บัวบกขั้นต่ำ 2 สัปดาห์สำหรับผู้ที่วางแผนเข้ารับการผ่าตัด เนื่องจากบางทีอาจเกิดปฏิกิริยากับยาที่ใช้เพื่อการผ่าตัดและอาจส่งผลให้รู้สึกง่วงงุนได้มากขึ้น
ควรขอคำแนะนำหมอก่อนกินใบบัวบก ถ้าหากอยู่ในตอนการใช้ยาหรืออาหารเสริมประเภทอื่นๆอยู่เป็นประจำ เนื่องจากว่าอาจจะก่อให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่ปรารถนาถ้าหากรับประทานใบบัวบกในระหว่างการรักษาของคนป่วยโรคกังวล ผู้เจ็บป่วยโรคเบาหวาน ผู้ที่มีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ผู้เจ็บป่วยอัลไซเมอร์ รวมทั้งคนที่ใช้ยานอนหลับหรือยาความกลุ้มอกกลุ้มใจลดลง รวมทั้งผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจจะก่อให้กดประสาทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
http://www.disthai.com/[/b]