สุขภาพแข็งแรงสำคัญมากกว่าความร่ำรวยอย่างแน่นอนมาดูแลสุขภาพกันดีกว่า

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สุขภาพแข็งแรงสำคัญมากกว่าความร่ำรวยอย่างแน่นอนมาดูแลสุขภาพกันดีกว่า  (อ่าน 8 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Narongrit999
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 21927


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: กันยายน 02, 2018, 05:30:22 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

สิ่งที่เราควรจะใส่ใจไว้เสมอว่า มั่งมีสุขภาพแข็งแรงกว่ารวยเงิน อีกทั้งสุขภาพที่เกี่ยวข้องทางร่างกายและสุขภาพจิตความสำเร็จด้านการเงินจะไม่เป็นประโยชน์อะไรเลยหากเสียสุขภาพไป แล้วก็ครั้งคราวจะต้องนำเงินที่หามาได้จ่ายเป็นค่ารักษาจนถึงหมดคนบางคนเพียรพยายามคิดบัญชีมาตลอดชีพ แต่ปล่อยให้สุขภาพย่ำแย่ แล้วหลังจากนั้นก็พบว่าเงินทั้งหมดทั้งปวงที่หามาไม่อาจจะซื้อสุขภาพไว้ได้จึงต้องเสียชีวิตไปอย่างทรมานโดยปกติแม้ได้รับพรดีเลิศ 3 ข้อให้อธิษฐานได้ตามความฝันสิ่งที่มนุษย์เรามักจะอธิษฐานกันก็คือขอให้มีสุขภาพดีจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตขอให้มีครอบครัวที่ดีแล้วก็ขอให้ร่ำรวยแต่ถ้าหากมีพรให้เลือกอธิษฐานได้เพียงแต่ข้อเดียวสิ่งที่ต้องเลือกเป็นลำดับที่หนึ่งเป็นการมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง เนื่องจากว่าหากมีโรครุมเร้า การจะมีคู่ที่ดีหรือมีเงินมีทองแค่ไหนก็ไม่มีสาระ ซ้ำยังเป็นภาระหน้าที่ให้คู่รักหรือครอบครัวจะต้องมาคอยดูแลอีกสุขภาพที่ดี คือการบรรลุผลที่ประมาณมูลค่าไม่ได้ แม้กระนั้นหาได้น้อยมากที่คนใดจะหันมาดูแลสุขภาพอย่างจริงจัง จวบจนกระทั่งจะป่วยหนักขึ้นมาแล้วก็ค่อยเริ่มรู้สึกแม้กระนั้นก็ชอบสายเหลือเกินความสำเร็จในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านคู่ครอง การเล่าเรียนงานการ การเงิน อื่นๆอีกมากมาย จะไร้ค่าอะไรเลยหากไม่มีสุขภาพที่ดี ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพสามารถทำลายการบรรลุผลทุกสิ่งที่เคยมีมาไดภายในระยะเวลาอันเร็ว
ความสบายของยังอยู่ในโลกของโลกียะก็คือ ความสำราญที่ได้มาจากการเร้าประสาทสัมผัสนั่นเอง ทั้งรูป รส กลิ่นเสียง สัมผัส หรือนามธรรมทั้งหลายแหล่ที่เข้ามากระทบ ตา หู จมูก ลิ้น กาย จิตใจ ก่อให้เกิดสุขเวทนา กิเลส อุปาทานดังนั้นเมื่อทวารใดทวารหนึ่งเสียหาย ความสบายที่ได้รับจากทวารนั้นจะหมดไปโดยทันที จะมีสาระอะไรถ้ามีเงินซื้อจอแอลซีดี (LCD) สามมิติราคาหลายแสนบาทแม้กระนั้นตามองมองไม่เห็นจะมีสาระอะไรกับการท่องเที่ยวต่างถิ่น ช่วงเวลาที่ตัวเองเดินมิได้ จะมีสาระอะไรกับการมีครอบครัวที่อบอุ่น หากตัวเองมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน
สุขภาพที่แข็งแรง เป็นการบรรลุเป้าหมายที่สำคัญที่สุดคนร่างกายแข็งแรงจะดูมีชีวิตชีวา เค้าหน้าผ่องใส มีพลังกายพลังใจสูง ซึ่งจะมีผลทางอ้อมไปสู่การบรรลุผลด้านอื่น ๆ อีกด้วยมนุษย์เรามักไม่ค่อยรู้ว่า สิ่งที่ตัวเองครอบครองอยู่มีค่าเท่าไรจวบจนกระทั่งจะสูญเสียมันไป สุขภาพเป็นของล้ำค่าที่สุดในชีวิต แต่บางคนไม่เคยถนอมกล่อมเกลี้ยงแล้วก็ดูแลเลย จนกระทั่งเมื่อเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมาจึงค่อยตระหนัก แต่ว่าเมื่อถึงเวลานั้นก็ยากเกินที่จะแก้ไขหรือแม้ว่าจะเยียวยารักษาได้ ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายไปเยอะๆบางเวลาบางทีอาจเป็นเงินเก็บตลอดชีพเลยก็ได้
หากว่าโรคภัยไข้เจ็บบางประเภทจะมีสาเหตุจากกรรมพันธุ์ ซึ่งมียีนแฝงที่กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดโรคแอบซ่อนอยู่ (Initiator Gene) แต่ยีนนี้จะไม่ทำงาน ถ้าปราศจากการกระตุ้นจากสภาพแวดล้อม (Promoter) ยกตัวอย่างเช่น คนที่มียีนโรคมะเร็งปอดซ่อนเร้นอยู่ แต่หากดำเนินชีวิตอย่างมีสติไม่สูบบุหรี่ เพียรพยายามหลบหลีกควันพิษ ไอระเหยต่าง ๆ ทานอาหารที่มีประโยชน์ บริหารร่างกายอย่างสม่ำเสมอ ยีนโรคมะเร็งที่มีอยู่ก็จะฝ่อไปในที่สุด ไม่อาจจะแสดงผลลัพธ์ได้ โรคโดยมากมิได้ส่งผลมาจากกรรมพันธุ์อีกทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ สิ่งแวดล้อมก็เป็นต้นเหตุก่อโรคได้เช่นเดียวกัน ถ้าหากรู้สึกตัวว่ามีการเสี่ยงที่จะเป็นโรคใดโรคหนึ่ง เป็นต้นว่า เบาหวาน ความดัน หัวใจ ไต ตับ หรือแม้กระทั้งโรคประสาท เพราะมีประวัติคนภายในครอบครัวเจ็บป่วยก็ต้องเฝ้าระวัง มานะเรียนหาข้อมูลการกระทำตน เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะกระตุ้นให้เกิดโรค หากแม้มีโรคประจำตัวที่หลีกเลี่ยงมิได้ก็สามารถผ่อนหนักให้เป็นเบาได้เรื่องจริงแล้วธรรมชาติสร้างอวัยวะให้เราไว้อย่างกล้าแกร่งมาก ยก อาทิเช่น “ฟัน” สามารถบดบดได้เป็นเวลา 70 ปีโดยที่จะเกิดการสึกเพียงเล็กน้อย ถ้าหากนำเหล็กขนาดเท่ากับฟันมาสีกัน เชื่อได้ว่าไม่เกิน 2 ปีเหล็กนั้นจะกุดจนหมดไป แต่กระนั้นเวลานี้ก็มีบุคคลที่ฟันผุ ฟันเสียกันเยอะแยะ ไม่ใช่เพราะธรรมชาติออกแบบมาไม่ดี แต่ว่าเพราะเหตุว่าคนที่ใช้ละเลยดูแลรักษา เหมือนกับอวัยวะอื่น ๆ หัวใจ ไต ตับ ปอด หรือแม้แต่เส้นโลหิต นับได้ว่าเป็นประติมากรรมขั้นสูงสุดของธรรมชาติที่สร้างมาให้ใช้งานได้อย่างน้อย 100 ปี แต่ว่าด้วยการดำรงชีพอย่างประมาท ทำให้อายุขัยของอวัยวะสั้นลง
อีกสิ่งหนึ่งซึ่งสามารถทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้ทันทีทันใดกะทันหันเป็นอุบัติเหตุแม้จะมีสุขภาพที่แข็งแรงเพียงใดแต่เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น จะมีปัญหาด้านที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพในทันที แล้วก็บางครั้งบางคราวถึงกับขนาดสูญเสียอวัยวะ เป็นพระราชโอรสนิทรา เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ฯลฯ การดำรงชีวิตอย่างมีสติสัมปชัญญะจะช่วยปกป้องได้ เพียรพยายามหมั่นฝึกรุ่งเรืองสติอยู่เป็นประจำ ๆ อุบัติเหตุต่าง ๆที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญแม้กระนั้นเกิดขึ้นจากกรรมเก่า คนเราสามารถเอาชนะบาปได้ด้วยสติ ตามที่หลวงพ่อชาเคยกล่าวไว้ว่า “เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือกฎแห่งกรรมยังมีวิปัสสนากรรมฐาน”ตามแนวคิดของ อับราฮัม มาสโลว์ ปรมาจารย์ทางจิตวิทยาบอกไว้ว่า มนุษย์จะมีความต้องการทางด้านร่างกายเป็นขั้นแรก อาทิเช่น อาหาร ยารักษาโรค การหายใจ การขับถ่ายการนอนหลับ อื่นๆอีกมากมาย ตราบใดที่ความต้องการในระดับค่อนข้างต่ำสุดนี้ยังมิได้รับการตอบสนอง จะไม่มีความฝันไปถึงความมุ่งหมายในระดับที่สูงขึ้น รวมทั้งแม้ว่าจะประสบผลสำเร็จในชีวิตแค่ไหน ถ้าหากความอยากเบื้องต้นนี้ไม่ได้รับการตอบสนองก็จะใส่ความสุขมิได้ อาทิเช่น มาริลีน มอนโร, เอลวิส เพรสลีย์, ไมเคิล แจ็กสัน ฯลฯ ที่ล้วนเสียชีวิตด้วยการกินยานอนหลับเกินขนาด จะเห็นได้ว่า แม้แต่ความจำเป็นขั้นต้นอย่างการนอนให้หลับยังทำไม่ได้ การรวยเป็นพันล้านแต่ว่ามีปัญหาสุขภาพไม่ว่ากายหรือใจ สุดท้ายเงินที่มีก็ซื้อความสำราญมิได้
ความสำราญที่จริงจริงมาจากร่างกายที่แข็งแรง ซึ่งคำว่า “สุขภาพ” แปลตรงตัวก็ได้ความหมายว่า ภาวะแห่งสุข เมื่อแก่ขึ้นจะทราบดีว่าสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงมีค่ามากกว่าสิ่งอื่นใดทั้งหมด แม้มีชีวิตที่มิได้มั่งคั่งอะไร แต่ว่ามีสุขภาพดีก็จะสุขสบาย การดำรงชีวิตของคนเราในตอนนี้ หากเทียบเคียงแล้ว สะดวกสบายแล้วก็ดีมากกว่าฮ่องเต้ในสมัยก่อนด้วย ยุคนั้นไม่มีส้วมแบบบ้านในปัจจุบัน จำเป็นต้องใช้กระโถน ไม่มีระบบท่อ พัดลม เครื่องปรับอากาศ ทีวี คอมพิวเตอร์ อื่นๆอีกมากมาย ยารักษาโรคยิ่งไม่ต้องพูดถึง มีแม้กระนั้นสมุนไพรซึ่งได้ผลการดูแลและรักษาไม่แน่นอนซึ่งผู้ที่ทุกข์ยากลำบากที่สุดในโลกปัจจุบันก็ยังสามารถเข้าถึงยารักษาโรคที่มีคุณภาพได้มากกว่าใครๆก็ต้องการมีสุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว แล้วก็มองอ่อนกว่าวัย จึงคัดเลือกเคล็ดวิธีสำหรับการชะลอวัย แล้วก็เสริมความแข็งแรงด้วยวิธีต่างๆนานา ในเวลาที่ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยบางทีอาจตั้งคำถามว่า ที่พวกเรากินวิตามินหรืออาหารเสริมเข้าไปมากมายก่ายกองนั้น แท้จริงแล้วเราได้รับวิตามินมากเกินไป หรือวิตามินนั้นไปเสริมส่วนที่ขาดใช่หรือไม่ขอทําความรู้ความเข้าใจก่อนว่า ความนิยมสำหรับการรับประทานวิตามินเริ่มขึ้นในยุโรปและก็อเมริกา เพราะผู้คนมีความประพฤติการกินอาหารที่ไม่เหมาะกับสุขภาพ จนถึงมีผู้เจ็บป่วยล้นหลาม ก็เลยเท่ากับเปิดช่องทางให้บริษัทอาหารเสริมทั้งหลายแหล่ใช้จุดอ่อนนี้เป็นแผนการตลาด โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายคนเจ็บโดยตรง และก็สุดท้ายจึงขยายมาสู่ฝูงชนปกติทั่วไป โดยกล่าวถึงว่าต้องได้รับอาหารเสริมแค่นั้นเท่านี้เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง โดยไม่พูดว่าที่มาที่ไปของวิตามินพวกนั้นมาจากการกินของกินอะไรบ้าง เมื่อหลายปีที่ผ่านมาก่อนหน้านี้คุณอาจจะเคยทราบข่าวสารสั่นสะเทือนแวดวงอาหารเสริมในอเมริกาเป็นอย่างมาก เมื่อนักกีฬาซีอดังเสียชีวิตไม่รู้ต้นเหตุขณะฝึกฝน ซึ่งเขาแก่เพียงแค่ 23 ปีเท่านั้น รวมทั้งพบอาหารเสริมชนิดหนึ่งที่มีส่วนผสมของ Ephedro อยู่ในล็อกเกอร์ของเขา จึงทําให้หน่วยงานอาหารรวมทั้งยา ทบทวนการใช้อาหารเสริมดังที่กล่าวผ่านมาแล้วฉะนั้น ถ้าหากคุณอยากได้กินอาหารเสริมก็อย่าได้เชื่อเพียงแค่คำโฆษณาชวนเชื่อถึงผลดีอันมากมาย ควรจะระมัดระวังผลข้างเคียงด้วย เนื่องจากว่าหากกินมากมายและก็กินติดต่อนานเกินความจำเป็น บางทีอาจเป็นโทษได้ ยกตัวอย่างการกินวิตามินบี 6 ทุกวี่ทุกวันเกินวันละ 10 มิลลิกรัม อาจทําให้สูญเสียความรู้สึกที่มือและเท้าได้ หรือรับประทานสารเบต้าแคโรที่มีขนาดสูง โดยกินติดต่อกันเป็นเวลานานๆก็บางทีอาจกระตุ้นมะเร็งในผู้ดูดบุหรี่ได้แบบเดียวกัน อย่างที่เราเข้าใจกันอยู่ว่าแม้รับประทานอาหารให้หลากหลาย จะพบว่าการขาดสารอาหารนั้นมีน้อยมาก แล้วก็แทบไม่มีความจําเป็นในการรับประทานอาหารเสริมเลย ตอนที่ฝูงชนที่ขาดสารอาหาร มักเกิดในกรุ๊ปผู้มีรายได้น้อย เพราะเหตุว่าไม่สามารถที่จะเลือกรับประทานอาหารได้ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือบางรายก็ทานอาหารเดิมๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารจานด่วนทั้งหลาย
มาถึงตรงนี้หลายท่านบางทีอาจคิดสงสัยว่า แล้วพวกเราจะทราบได้เช่นไรว่าร่างกายของพวกเราควรได้รับวิตามินใดบ้าง ง่ายสุดเลยก็ต้องพิเคราะห์จากอาหารที่พวกเราเลือกกิน ควรกินให้นานัปการ รวมทั้งผักสดรวมทั้งผลไม้ (แนวทางกล้วยๆรับประทานให้ครบ 5 สี) แต่หากไม่สามารถที่จะเลือกได้ ก็ให้เลือกกินวิตามินที่ไม่สะสมในร่างกาย เนื่องจากหากเกินความจำเป็นจะสามารถขับทิ้งได้ เช่น วิตามิน B และก็ C แต่ว่าวิตามินที่กินแล้วสะสมได้ก็คือวิตามิน A, D, E, K จ้ะ
สำหรับคนที่รับประทานวิตามินเป็นประจํา อย่าลืมทดลองดูปริมาณที่ควรจะกินต่อวันด้วย เช่น วิตามินซีในจำนวน 500-1,000 มก.ต่อวัน เป็นขนาดพอเหมาะที่ร่างกายควรได้รับในทุกวัน หรือแคลเซียม 2000 มิลลิกรัมต่อวัน เหมาะสมสําหรับสตรีวัยหมดประจําเดือน เพราะเหตุว่าช่วยคุ้มครองกระดูกพรุนได้ หรือสาวขึ้นมาอีกนิดรวมทั้งกําลังท้อง เสนอแนะว่าให้กิน 1,500 มิลลิกรัมกำลังดีค่ะ ส่วนธาตุเหล็กนั้น โดยทั่วไปในคนปกติควรจะได้รับ วันละ 8-15 มิลลิกรัม ส่วนผู้ป่วยโลหิตจางที่ขาดธาตุเหล็ก ควรจะได้รับวันละ 50-100 มิลลิกรัมค่ะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : กินอาหารเสริมก่อนนอนดีไหม

เครดิต : [url]https://thaihealth108.wixsite.com/mysite[/url]

Tags : สุขภาพ,สาระสุขภาพ



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ