Advertisement
รู้จักโรคพุ่มพวง (SLE) โรคร้ายที่อยู่ใกล้ตัวมากกว่าที่เราคิด
โรคพุ่มพวงมีชื่อตามทางแพทย์ว่า SLE (Systemic Lupus Erythematosus - SLE) มีอีกชื่อหนึ่งเรียกว่าโรคลูปัส เป็นโรคที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายที่มีความผิดธรรมดาในการปฏิบัติงาน โดยต้านแล้วก็ทำลายเยื่อและก็อวัยวะต่างๆจนนำมาซึ่งการอักเสบเรื้อรังตามอวัยวะต่างๆยกตัวอย่างเช่น ข้อรวมทั้งไขกระดูก ผิวหนัง เส้นผม ไต ตับ ปอด ระบบเลือด หัวใจระบบประสาทและสมอง รวมถึงสามารถที่จะเกิดขึ้นได้ทุกอวัยวะภายในร่างกาย โรคพุ่มพวงเป็นโรคเรื้อรังที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้แต่ว่าถ้าหากว่าควบคุมรวมทั้งดูแลตัวเองอย่างใกล้ชิดตามคำสั่งแพทย์ก็สามารถที่มีชีวิตได้ตามเดิมราวกับคนทั่วๆไป ,kรู้จักกับข้อควรจะทราบต่างๆและลักษณะโรคพุ่มพวงให้มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลและรักษาแล้วก็ทำตัวให้สามารถควบคุมอาการเกิดขึ้นอีกรวมทั้งแผ่ขยายของโรคพุ่มพวง หรือ SLE
บุคคลที่มีความเสี่ยงสำหรับการเป็นโรคพุ่มพวง
สำหรับบุคคลที่มีความเสี่ยงสำหรับในการเป็นโรคพุ่มพวงหรือ
โรค SLE นั้นจำนวนมากจะมีแนวโน้มที่เกิดขึ้นมาจากกรรมพันธุ์ รวมไปปัจจัยอื่นๆที่จะมากระตุ้นให้มีการเสี่ยงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นต้นว่าผู้ที่จะต้องอยู่ท่ามกลางความร้อน แสงอาทิตย์เป็นระยะเวลานานติดต่อกัน ผู้ที่มีความเครียดมาก รวมถึงฮอร์โมนต่างๆข้างในตัวของผู้ป่วย ซึ่งโรคพุ่มพวงมีผู้เจ็บป่วยส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงที่อายุตั้งแต่ 20 ไปจนถึง 45 ปี มีการเล่าเรียนพบว่าหญิงได้โอกาสที่จะเป็นมากกว่าเพศชายถึง 10 เท่า โรคพุ่มพวงสามารถตรวจเจอได้ทุกเชื้อชาติและก็ทั่วทั้งโลก เกิดกับหญิงผิวดำและก็ผิวเหลืองมากกว่าผิวสีขาว จะมีเจอคนเจ็บมากเป็นพิเศษ ในกรุ๊ปประเทศทวีปเอเชียตะวันออก อาทิเช่น ไทย,จีน,ฮ่องกง,สิงคโปร์ ฯลฯ
อาการโรคพุ่มพวง
ส่วนใหญ่ผู้ที่เป็นโรคพุ่มพวง หรือโรค SLEจะมีลักษณะที่ปวดตามข้อกระดูกต่างๆกล้ามเนื้อและก็เอ็น ที่สามารถมักพบสูงที่สุด และบางทีอาจมีอาการอักเสบ หรือกำเนิดอาการปวดแสบปวดร้อนบริเวณข้อด้วย ส่วนทางอาการผิวหนังที่พบได้บ่อยแล้วก็นับได้ว่าเป็นเครื่องหมายของโรคนี้อย่างยิ่งจริงๆ คือผื่นผีเสื้อ ที่มีการอักเสบบริเวณผิวหนังเป็นผื่นขึ้นตามแก้มทั้ง 2 ข้างแล้วก็บริเวณสันจมูกมีลักษณะคล้ายกับผีเสื้อ นอกจากนี้ก็จะมีผื่นอีกหลายประเภท ดังเช่นว่า ผื่นแดงราบ ผื่นที่มีสะเก็ดฯลฯ ยิ่งไปกว่านี้ผู้เจ็บป่วยยังมีอาการผมหล่นมากยิ่งกว่าธรรมดาและหนังหัวที่มีลักษณะอาการอักเสบ รวมถึงอาการบวมที่บริเวณท้อง แขนขา ใบหน้า ที่บ่งบอกว่าคุณกำลังจะมีความเปลี่ยนไปจากปกติที่รอบๆไต และอาการมึน ปวดศรีษะ ทำให้เกิดอาการชักที่เกิดจากการไม่ดีเหมือนปกติของระบบประสาทแล้วก็สมอง
สำหรับท่านใดที่มีลักษณะไม่ดีเหมือนปกติเกิดขึ้นคล้ายกับอาการของโรคพุ่มพวงหรือโรค SLE ควรจะรีบพบหมอตั้งแต่เนิ่นๆเพื่อเป็นการรักษาและควบคุมการยืนขึ้นลามได้อย่างทันทีทันควัน
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
รักษาโรค SLEเครดิตบทความจาก :
[url]http://lupus-sle.lnwshop.com/[/url]
Tags : โรค SLE
