Mac ที่ เหมาะกับทุกการทำงาน

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: Mac ที่ เหมาะกับทุกการทำงาน  (อ่าน 15 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
mmhaloha
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5645


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: ตุลาคม 08, 2018, 03:58:33 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ในบริษัท Apple ที่มีมากมายกลุ่มการผลิตรวมถึงหลากหลายสินค้าเช่นพวกสำหรับ Mac ที่มีทั้ง iMac , iMac Pro , Macbook , Macbook Pro รวมทั้ง Macbook Air แล้วก็มีสายสินค้าสำหรับ iPhone , iPad และเครื่องมือเพิ่มเติมอีกมากมาย โดยที่ Apple ก็มักจะใส่รายการหรือว่ารูปแบบสินค้าล่าสุด เข้าไปในแทบประเภทที่ออกมาเพื่อจะตอบรับความต้องการรวมถึงรูปแบบการใช้งานสำหรับผู้ซื้อให้ได้ที่สุด
ส่วนตระกูลสินค้าของ Mac ที่น่าสนใจก็คือ Macbook ที่ผลิตออกจำหน่ายถึง 3 ประเภทให้เลือกใช้กันได้ตามสะดวกโดยทุกรุ่นก็ประกอบด้วยลักษณะการใช้งานไม่เหมือนกันไปตามรูปแบบ มาที่รุ่นแรกเป็น Macbook Air โดยแม็คบุ๊คตัวนี้ดังมากช่วงระหว่างที่ออกจำหน่ายทีแรกเพราะว่ารูปลักษณ์ภายนอกที่บาง น้ำหนักน้อย อีกทั้งมีสัดส่วนพอเหมาะช่วยให้เหมาะเพื่อการพกไปไหนมาไหน แต่นอกจากนั้นแล้วคุณสมบัติภายในก็น่าสนใจไม่ต่างกัน อย่างแรกเลยก็คือเรื่องของแบตเตอรี่ที่ทนอย่างมาก ในขนาดจอ 11 นิ้ว สามารถใช้งานได้ถึง 9 ชั่วโมง กับสัดส่วนหน้าจอ 13 นิ้ว สามารถใช้ได้ถึง 12 ชั่วโมง นอกจากนั้นแล้วยังมี Power Nap ที่หลังจากพับจอเพื่อให้ไปยังโหมด Sleep ยังปรับปรุงข้อมูลพร้อมทั้งเครื่องโดยต่อเนื่องเพราะว่ากินไฟต่ำมากเลยช่วยให้ไม่เปลืองไฟฟ้าในส่วนของการดีไซน์แม็คบุ๊คเครื่องนี้ขึ้นรูปจากอลูมิเนียมหนึ่งชิ้นจึงไม่มีรอยเชื่อมของตัวเครื่อง รวมทั้งฮาร์ดดิสใช้งานเป็นแบบ Flash Storage จึงส่งผลให้ตัวเครื่องออกมาบางแบบที่เห็น Trackpad เองก็ใช้งานได้มีประสิทธิภาพอีกทั้งควบคุมได้ง่ายจนแทบไม่จำเป็นจะต้องใช้เมาส์กับใช้งานเลย ส่วนหมวดหมู่การเชื่อมต่อก็มีที่เสียบ USB ไว้ให้ 2 ช่อง Thunderbolt , Headphone ชนิดละช่อง มีพอร์ตสำหรับชาร์จไฟรวมถึงระบบเชื่อมไร้สายมาให้ โดย Macbook Air ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานด้วยโปรแกรมหนักๆ เพราะถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างสะดวก ทำงานไม่หนักมาก รวมทั้งพกพาคล่องตัว
            รุ่นที่ 2 ก็คือ Macbook แบบนี้ที่เปิดตัวออกจำหน่ายเรียกได้ว่ามีคุณสมบัติใหม่อยู่หลายอย่างเลย อย่างแรกคือเกี่ยวกับความบางที่บางมากกว่าแม็คบุ๊คทุกๆแบบที่ได้มีมา ต่อมาก็คือคีย์บอร์ดเป็นคีย์บอร์ดประเภทใหม่ที่พัฒนามาเพื่อที่จะรองรับน้ำหนักในการจิ้มแป้นพิมพ์และช่วยให้เที่ยงตรงในการกดเพิ่มมากขึ้น จอแสดงผลในรุ่นนี้จะเป็นแบบ Retina ความละเอียด 2304 x 1440 พิกเซล รวมทั้งใช้ไฟฟ้าน้อยลงมากกว่า จอรูปแบบเดิมมากถึง 30%  ในส่วน Trackpad ใน MacBook แบบนี้ ถูกการออกแบบใหม่ ที่เรียกว่า Force Touch trackpad โดยที่สามารถใช้งานระบบการสัมผัส แทนการจิ้มลักษณะทั่วๆ ไป เพราะจะประกอบด้วยเซ็นเซอร์ที่ตรวจน้ำหนักในการสัมผัสเกี่ยวกับสัมผัสแรง หรือแตะเบา  แบบนี้นับว่าเป็นตัวแรกของ MacBook ที่ไร้พัดลมระบายความร้อน เนื่องจากมีการออกแบบให้ Logic Board มีสัดส่วนเล็กลง ทำให้เล็กกว่า Logic Board ณ MacBook Air ถึง 67% รวมถึงพื้นที่ที่เหลือกลายเป็นที่ของแบตเตอรี่ทั้งหมด ช่วยให้อาจจะทำงานได้นานถึง 10 ชั่วโมงเลยทีเดียว สุดท้ายก็คือออกมาพร้อมพอร์ตชนิดล่าสุด ก็คือ พอร์ต USB Type C (USB-C) เพียงแค่อย่างเดียว แต่ว่าใช้งานได้แบบหลายอย่าง อย่างเช่น ชาร์จแบตเตอรี่ , USB, DisplayPort , HDMI หรือ VGA
            อย่างหลังสุดที่จะกล่าวถึงก็คือ Macbook Pro รุ่นล่าสุดได้มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์หลายอย่าง เช่น สัญลักษณ์ Apple ที่ฝาข้างหลังที่กลายเป็นอลูมิเนียมสะท้อนแสงแบบกระจกแทน ทำแม็คบุ๊คขึ้นรูปลักษณะยูนิบอดี้ในสไตล์ของ Apple โดยที่มีอีกสิ่งที่ปรับเปลี่ยนเทียบจากแต่ก่อนคือ แถบสันเครื่องที่จากแม็คบุ๊ครุ่นก่อนเป็นพลาสติกสีดำ เพื่อที่จะให้เป็นสิ่งที่รองรับสัญญาณ ได้ถูกเปลี่ยนมาเป็นอลูมิเนียมสีเดียวกับตัวเครื่องก็ยังมีคีย์บอร์ดที่ใช้งานโครงสร้างลักษณะผีเสื้อ (Butterfly) แบบสอง โดยที่ได้รับการแก้ไขให้แต่ละปุ่มมีช่องว่างการจิ้มมากขึ้นกว่าของ MacBook 12 นิ้ว ทำให้การจิ้มเข้าไปรู้สึกเหมือนเป็นปุ่มมากกว่าเดิมช่วยให้ตอนที่พิมพ์งานต่อเนื่องนานๆ จะไม่รู้สึกล้าข้อนิ้ว ในส่วนพลังงานสามารถสามารถใช้ได้ต่อเนื่องนานในมาตรฐาน MacBook Pro สามารถชาร์จไฟเข้าได้เร็ว พร้อมทั้งชาร์จที่ USB-C ช่องไหนก็ได้ของแม็คบุ๊ค ประเภทของพอร์ต USB-C ที่สามารถใช้ Thunderbolt 3 ทำให้มีความรวดเร็วในการรับส่งข่าวสารมากที่สุด 40 Gbps ทำให้มันสามารถต่ออุปกรณ์หลายอัน โดยที่การใช้ USB-C ที่มาจากเครื่องเพียงแค่พอร์ตเพียงอย่างเดียว สุดท้ายก็คือในส่วนเกี่ยวกับ Touch Bar ที่เป็นแถบบังคับรูปแบบสัมผัสที่มาแทนที่ที่โซนสั่งงาน รวมถึงปุ่ม F1-F12 ดั้งเดิม พร้อมด้วยระบบ Touch ID หรือว่าเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ช่วยใช้ในแม็คบุ๊คได้คล่อง รวมทั้งเสถียรมากกว่าเดิม
จากข้างต้น แม็กบุ๊คมีให้เลือกใช้กันหลากหลายประเภทอย่างเช่น Macbook , Macbook Air รวมทั้ง Macbook pro เพราะฉะนั้นควรเช็คว่าสเปคของอย่างนั้นเหมาะสมกับการใช้งานตนเองหรือเปล่าก่อนที่จะตกลงใจซื้อ

Tags : Mac,แมคบุ๊ค,Macbook



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ