RENOVATE รับตกแต่งออกแบบสำนักงาน ร้านกาแฟ ภายใน ทำร้านสักคิ้ว มีภาพจำลอง3D ติดต่

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: RENOVATE รับตกแต่งออกแบบสำนักงาน ร้านกาแฟ ภายใน ทำร้านสักคิ้ว มีภาพจำลอง3D ติดต่  (อ่าน 31 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kittipong99010
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 15531


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: ตุลาคม 09, 2018, 04:28:06 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ให้บริการ - ค่าผลิต คิดตามจำนวนเฟอร์นิเจอร์ในแบบ ไม่มีขั้นต่ำ
Renovate, Innovate,  ออกแบบร้านกาแ

 
ชงกาแฟให้กลมกล่อม
กาแฟอาราบิก้า ชื่อวิทยาศาสตร์ Coffea arabica L. จัดอยู่ในวงศ์เข็ม (RUBIACEAE)
ต้นกาแฟอาราบิก้า เป็นพืชพื้นเมืองของทวีปอัฟริกา บริเวณประเทศเอธิโอเปีย แม้กระนั้นชาวอาหรับเป็นชาติแรกที่นำกาแฟมาชงดื่ม จึงทำให้ชื่อภาษาละตินของกาแฟใช้คำว่า “อาราบิก้า” (arabica) เป้าหมายถึงชาวอาหรับ โดยต้นกาแฟจัดเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ที่มีความสูงของต้นโดยประมาณ 2-4 เมตร ในขณะนี้เพาะปลูกกันมากมายในเขตร้อนชื้นและก็กึ่งเย็น
ใบกาแฟอาราบิก้า ใบเป็นใบคนเดียว ออกเรียงตรงกันข้าม รูปแบบของใบเป็นรูปขอบขนานหรือรูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบแหลมนิดหน่อย ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างราวๆ 8-12 เซนติเมตร แล้วก็ยาวประมาณ 15-20 ซม. แผ่นใบเรียบเป็นมัน บางครั้งเป็นคลื่น มีหูใบอยู่ระหว่างก้านใบ
ดอกกาแฟอาราบิก้า ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบ กลีบดอกไม้เป็นสีขาว ชิดกันเป็นหลอด ดอกมีกลิ่นหอมยวนใจ
ผลกาแฟอาราบิก้า ผลสำเร็จสด ลักษณะของผลเป็นรูปไข่แกมรูปทรงกลม โดยผลอ่อนจะเป็นสีเขียว แม้กระนั้นเมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีแดงจุดแข็งของกาแฟอาราบิก้าเป็นมีกลิ่นหอมรวมทั้งสารกาแฟสูง ทำให้เมื่อดื่มแล้วรู้สึกได้ถึงความกระฉับกระเฉง เบิกบานใจ โดยกาแฟประเภทนี้จะมีจำนวนของคาเฟอีนต่ำ เป็นกาแฟที่มีคุณภาพสูง มีความหอมไม่ด้อยกว่าคนไหนกัน ก็แค่ยังไม่มีชื่อเสียงมากสักเท่าไรนัก เพราะเหตุว่าขาดการผลักดันและการโปรโมทที่ดี ในประเทศไทยมีการปลูกกาแฟชนิดนี้กันมากมายทางภาคเหนือบนดอยสูง
กาแฟโรบัสต้า ชื่อสามัญ Robusta coffee
ชื่อวิทยาศาสตร์ Coffea canephora Pierre ex A.Froehner (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Coffea robusta L.Linden)
ต้นกาแฟโรบัสต้า ลำต้นเติบโตมาจากรากแก้ว มีลักษณะเป็นข้อและก็บ้อง โคนใบจะอยู่ตามข้อของลำต้น เมื่อต้นโตขึ้นใบจะร่วงหล่นไป โคนใบมีตา 2 ประเภทเป็นตาบนและตาล่าง ตาบนจะแตกกิ่งออกมาเป็นกิ่งกิ้งก้านที่ 1 ลักษณะเป็นกิ่งนอนขนานกับพื้นดินมีข้อรวมทั้งบ้อง แต่ละข้อจะมีกรุ๊ปตาดอกที่จะติดได้ผลกาแฟต่อไป ส่วนตาล่างจะแตกออกเป็นกิ่งตั้ง กิ่งจะตั้งตรงขึ้นไปเสมือนลำต้น และไม่ติดผล แต่สามารถสร้างกิ่งแขนงที่ให้ดอกผลได้ ซึ่งเรียกเป็นกิ่งแขนงที่ 1 เช่นกัน รวมทั้งกิ่งแขนงที่ 1 ยังสามารถแตกกิ่งกิ่งก้านสาขาต่อไปได้อีกเป็นกิ่งกิ่งก้านสาขาที่ 2 และกิ่งแขนงที่ 2 ก็สามารถแตกเป็นกิ่งแขนงที่ 3 ได้อีก โดยกิ่งแขนงพวกนี้จะเกิดในลักษณะเป็นคู่สลับเยื้องกันบนลำต้นหรือกิ่งตั้ง เมื่อมีการตัดลำต้นกาแฟ ตาล่างบประมาณนลำต้นจะแตกกิ่งตั้งมา กิ่งก็จะแตกเป็นกิ่งกิ่งก้านสาขาที่ 1, 2 และ 3 หลังจากนั้นก็จะมีการสร้างดอกรวมทั้งผลกาแฟถัดไป โดยต้นกาแฟนั้นจะสามารถเพาะพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเม็ด
ใบกาแฟ ใบเป็นใบเดี่ยว กำเนิดที่ข้อเป็นคู่ตรงข้ามกัน โคนใบรวมทั้งหลายใบเรียวแหลม ส่วนขอบใบหยักเป็นคลื่น กึ่งกลางใบกว้าง ผิวใบเรียบนุ่มวาว มีปากใบอยู่ด้านท้องใบ แต่ละใบจะมีปากใบประมาณ 3 ล้านถึง 6 ล้านรู โดยปากใบโรบัสต้าจะมีขนาดเล็กกว่าปากใบของกาแฟอาราบิก้า แม้กระนั้นจะมีเยอะมากๆกว่า อายุใบราว 250 วัน ส่วนก้านใบนั้นมีขนาดสั้น
ดอกกาแฟ ธรรมดาแล้วดอกกาแฟจะออกเป็นดอกคนเดียวบริบูรณ์เพศ มีกลีบดอกไม้ราวๆ 4-9 กลีบ ส่วนกลีบเลี้ยงมี 4-5 ใบ มีเกสร 5 อัน แล้วก็มีรังไข่ 2 ห้อง ในแต่ละห้องของรังไข่จะมีไข่ 1 ใบ ผลกาแฟจึงมีเมล็ด 2 เม็ด ดอกจะออกเป็นกลุ่มๆรอบๆโคนใบบนข้อของกิ่งแขนงที่1, 2 หรือ 3 กรุ๊ปดอกแต่ละข้อจะมีดอกราว 2-20 ดอก ดอกจะออกจากกิ่งกิ่งก้านสาขาจากข้อที่อยู่ใกล้กับลำต้นออกไปหาปลายกิ่งแขนง โดยทั่วไปแล้วต้นกาแฟจะมีดอกตามข้อของกิ่ง ข้อที่ออกดอกออกผลแล้วในปีต่อไปก็จะไม่ออกดอกและได้ผลอีก
ผลกาแฟ ผลมีลักษณะเป็นรูปทรงรี ก้านผลสั้น ผลดิบเป็นสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง สีส้ม และก็สีแดง ผลกาแฟจะมีเปลือก พื้นที่มีสีเหลือง (เมื่อสุกมีรสหวาน) และก็กะลาที่หุ้มห่อเมล็ด ตอนระหว่างกะลากับเมล็ดจะมีเยื่อบางๆที่หุ้มห่อเม็ดอยู่ ซึ่งพวกเราเรียกว่า “เยื่อห่อเม็ด” ในแต่ละผลจะมี 2 เมล็ดทาบกันกันอยู่ ก้านที่ประกบกันจะอยู่ภายในมีลักษณะแบน มีร่องตรงกลางเม็ด 1 ร่อง ส่วนข้างนอกโค้ง ลักษณะของเมล็ดจะเป็นเม็ดผู้เดียวหรือเม็ดโทน ในบางครั้งแม้การผสมเกสรไม่สมบูรณ์ จะมีผลให้ผลติดเมล็ดเพียงเมล็ดเดียว (คิดเป็นราวๆ 5-10%) ซึ่งจะมีลักษณะเป็นรูปกลมรีทั้งยังเม็ด มีร่องตรงกลาง 1 ร่อง เมล็ดจำพวกนี้จะเรียกว่า “พีเบอร์รี่“
จุดแข็งของกาแฟโรบัสต้า โดยส่วนใหญ่แล้วเราจะนำกาแฟโรบัสต้ามาผลิตเป็นกาแฟสำเร็จรูป หรือนำมาผสมกับกาแฟอาราบิก้าเล็กน้อย เพื่อผลิตเป็นกาแฟคั่วบดให้มีรสชาติที่ผิดแผกออกไป สำหรับกาแฟโรบัสต้านั้นมีคุณลักษณะเด่นในเรื่องของบอดี้ เมื่อดื่มแล้วจะรู้สึกได้ถึงความนุ่ม เปียกคอ กาแฟชนิดนี้จะมีจำนวนของคาเฟอีนสูงยิ่งกว่ากาแฟอาราบิก้าเป็น 2 เท่า กาแฟโรบัสต้าในประเทศไทยจะมีการเพาะกันมากมายทางภาคใต้บนที่ราบ ตัวอย่างเช่นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดชุมพร
Drip : แนวทางการนี้เกิดขึ้นมาราวปี ค.ศ. 1905 ในเยอรมันนีซึ่งต่อมาในปี คริสต์ศักราช 1908 ก็ได้เป็นที่รู้จักอย่างมากมายของลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ถูกใจชงกาแฟดื่มเองที่บ้าน
กรรมวิธีการชงกาแฟแบบ Drip : จะทำโดยการใช้น้ำร้อนหรือหยดน้ำร้อนผ่านกาแฟบด แล้วต่อจากนั้นให้ของเหลวผ่านกระดาษกรอกหรือ filter สำหรับที่ใช้ชงกาแฟแบบ drip ลงไปยังภาชนะรองรับ ซึ่งเมื่อผ่าน filter อาจจะมีการเสียรสชาติไปบ้างแม้กระนั้นไม่มาก ซึ่งนับว่าเป็นแนวทางที่ง่ายเหมาะกับทำที่บ้านได้ด้วยตัวเอง สามารถใช้ได้กับการชงกาแฟในปริมาณมากกว่า 1 แก้วได้อย่างสบาย โดยจะมีเครื่องต้มกาแฟ ชื่อ drip maker หรือ coffee machine ที่หาซื้อได้อย่างง่ายๆ
French Press : ขั้นตอนการนี้เกิดขึ้นราวปี 1850 โดยนักออกแบบชาวอิตาเลียน การชงกาแฟโดยแนวทางแบบนี้นั้น ควรจะมีเครื่องชงกาแฟแบบ French press ซึ่งหาซื้อได้อย่างไม่ยากเย็นตามตลาด ทำให้ได้รสของกาแฟที่แท้จริงแต่ยังไงก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลกับเศษหรือกากกาแฟที่หลุดลอดออกมานะเพราะโน่น คือเสน่ืห์ของวิธีนี้ ซึ่งกาแฟที่ได้จะไม่ clean เท่าแบบ Drip ก็ไม่ต้องตกใจ
กระบวนการชงกาแฟแบบ French Press : ก็ไม่ยุ่งยาก
ขั้นที่ 1 : เราควรมีกาแฟบดก่อนซึ่งจะต้องใช้กาแฟบดที่หยาบคายหน่อยนะเพราะหากเราบดละเอียดยิบเลย ผงกาแฟจะหลุดลอดตะแกรงของเครื่องชงได้
ขั้นที่ 2 : เพิ่มผงกาแฟบดลงไปในเครื่องชง ใช้กาแฟราวๆ 7 กรัม
ขั้นที่ 3 : เพิ่มน้ำร้อนลงไปโดยประมาณ 1/3 ของแก้วรอให้กาแฟซึมน้ำซัก 30-40 วินาที แล้วต่อจากนั้นเติมน้ำร้อนเข้าไปกระทั่งเต็ม
ขั้นที่ 4 : เอาฝามาปิด อย่าลืมนะก่อนปิดฝาให้ดึงที่กรองขึ้นจนสุดก่อน ปิดฝาทิ้งเอาไว้ราวๆ 4 นาที
ขั้นที่ 5 : กดที่กรองลงมาเพื่อดันเศษกาแฟลงไปข้างล่างแล้วหลังจากนั้นก็รินใส่ถ้วยกินได้ในทันทีเลย
Espresso : ขั้นตอนการนี้เกิดขึ้นราวปี คริสต์ศักราช 1901 ในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี หลายๆท่านบางครั้งอาจจะเคยชินกับชื่อนี้อย่างยิ่ง และก็อาจจะเกิดความสับสนราวกับผมในครั้งกระโน้นว่า มันคือ ชื่อประเภทกาแฟ หรือไม่ก็สูตรกาแฟดำที่ชื่อ เอสเปรสโซ่ ที่จริงแล้ว Espresso ชื่อนี้เป็นกรรมวิธีชงกาแฟ มาจากภาษาละตินที่มีความหมายว่า ดัน หรือ กด แล้วก็กาแฟที่ได้จากเครื่องนี้ก็จะเรียกว่า “กาแฟเอสเปรสโซ่” ซึ่งก็จะฯลฯทางของแนวทางการทำกาแฟสูตรต่างๆตัวอย่างเช่น Latte, Mocha, Cappuccino, Macchiato หรือ Espresso con Panna เป็นต้น
Chemex : วิธีการแบบนี้เกิดขึ้นในปี คริสต์ศักราช 1931 ซึ่ง ไม่ค่อยแพร่หลายเท่าไร โดย Chemexหมายถึงกรวยชงกาแฟ โดยลักษณะซึ่งคล้ายๆกับการ Drip ที่ใช้น้ำร้อนเทใส่ผงกาแฟและก็ผ่านกระดาษกรองลงไป แม้กระนั้นแนวทางการนี้เป็นศิลป์อย่างหนึ่งที่ทุกขั้นตอนจะทำด้วยมือตั้งแต่การบดจะไปถึงการเทน้ำร้อนใส่ผงกาแฟ
Cupping : แนวทางการนี้ใช้สำหรับนักลองกาแฟ หรือ Master Taster โดยก่อนที่ผู้ผลิตกาแฟจะส่งขายไปยังคนซื้อต้องมีการลองกาแฟก่อน ซึ่งผู้ลองกาแฟก็จะชงกาแฟด้วยวิธี Cupping คือ บดกาแฟที่อยากได้ชิมรสชาติ เป็นต้นว่า กาแฟ 1 จำพวกก็จะคั่ว 3 ระดับเป็น อ่อน กลาง และก็ เข้ม หลังจากนั้นก็เอามาบดแล้วใส่ผงกาแฟลงในถ้วยแก้ว 3 ถ้วยแล้วหลังจากนั้นก็เพิ่มน้ำร้อนลงไป พอถึงขั้นตอนการลอง เค้าก็จะเอาช้อนปาดหรือตักผงกาแฟที่ลอยอยู่ออกและเริ่มกระทำการชิมกาแฟได้เลย
สรรพคุณของกาแฟ

  • คาเฟอีนสามารถช่วยขยายหลอดเลือดแดงที่หล่อเลี้ยงหัวใจได้ จึงทำให้เลือดไปหล่อเลี้ยงหัวใจได้มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็มีฤทธิ์ทำให้เส้นเลือดแดงบริเวณศีรษะหดตัว ซึ่งก็เป็นการช่วยลดอาการปวดศีรษะจากไมเกรนได้อีกด้วย
  • ช่วยเพิ่มไขมันดี (HDL) ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย จากผลการวิจัยพบว่าผู้ที่ดื่มกาแฟบ่อย ๆ จะมีไขมันชนิดดีเพิ่มขึ้น ซึ่งไขมันชนิดนี้จะเป็นตัวช่วยขับไล่คอเลสเตอรอล และช่วยป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว
  • ดร.ดาร์ซี โรแบร์โตลิมา ผู้เชี่ยวชาญด้านเภสัชวิทยาของมหาวิทยาลัยริโอ เดอจาเนโร ได้เปิดเผยว่า ผู้ที่มีปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศอันเนื่องมาจากการดื่มสุรา จากภาวะซึมเศร้า จากอายุขัย หรือจากการเสพยา สามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการดื่มกาแฟในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวัน
ขั้นตอนกล้วยๆที่จะเป็นแนวทางสู่บ้านในฝัน
การออกแบบด้วยนักออกแบบนั้นนับเป็นสิ่งจำเป็นเป็นอย่างมากสำหรับในการสร้างบ้าน คนเขียนแบบที่เก่ง จะช่วยแก้ไขปัญหาการจัดสรรพื้นที่ ช่วยให้บ้านของเราสวยสดงดงาม มีสไตล์ แถมยังอยู่สบายสอดคล้องกับการใช้ชีวิตของผู้อาศัยในบ้าน แต่แม้อยากสร้างบ้านหลังเล็ก ย้ำการอาศัยอย่างง่าย การออกแบบบ้านด้วยตนเองเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่สามารถทำเป็น ประเด็นสำคัญคือการสื่อสารกับช่างก่อสร้างให้ได้ทราบถึงความปรารถนาของเราเอง และกระบวนการสื่อสารที่ง่ายที่สุดในการสร้างบ้าน นั่นเป็นการวาดแบบแปลนบ้านนั่นเองครับผม สำหรับวันนี้ “บ้านไอเดีย” ขอนำวิธีการวางแบบบ้านด้วยตัวเองอย่างง่าย โดยจะย้ำไปถึงการจัดสรรพื้นที่ พร้อมทั้งวาดแผนผังแบบแปลนภายในบ้านด้วยตัวเอง เพื่อนำแบบแปลนดังที่กล่าวมาแล้วไปให้ผู้รับเหมาก่อสร้าง หรืออาจส่งต่อให้สถาปนิกวาดแบบแบบแปลนมาตรฐาน เพื่อจะได้นำไปต่อยอดเป็นแปลนบ้านใช้งานจริงกันครับผม
1. ตรวจสอบที่ดิน : ก่อนจะถึงขั้นตอนการออกแบบบ้าน สิ่งแรกที่สำคัญมหาศาลเป็นการเรียนรู้แปลงที่ดินของพวกเราเองให้ละเอียด ที่ดินมีหน้ากว้างกี่เมตร ลึกกี่เมตร ทิศไหนอยู่ด้านไหนบ้าง การสำรวจแนวทางนี้เพื่อให้พวกเราได้วางผังบ้านได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องกับลักษณะของอากาศ ลมและก็แสงแดด ขนาดของที่ดินยังบอกถึงขนาดและทรงของบ้าน ยกตัวอย่างเช่น มีที่ดิน 40 ตร.มัธยม แม้กระนั้นอยากพื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม แน่นอนว่าต้องดีไซน์เป็นบ้าน 2 ชั้นเพียงแค่นั้น แล้วก็การออกแบบจะต้องเผื่อขอบเขตระยะร่นตามกฎหมายกำหนดไว้ (อ่านข้อบังคับระยะร่น)
2. ระบุสไตล์ : การเลือกสไตล์ของบ้าน เป็นการกำหนดขอบเขต จุดมุ่งหมาย เพื่อจินตนาการของสิ่งที่จำเป็นมีความกระจ่างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นักอ่านอาจขับรถท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆพักรีสอร์ท ยอดเยี่ยมบ้านเพื่อน หรือถ้าหากให้สะดวกหน่อยก็เพียงแค่คลิกเข้าชมเว็บบ้านไอเดีย ตัวอย่างบ้านเหล่านี้พวกเราสามารถนำมาประยุกต์ ระบุแนวทางการออกแบบบ้านในฝันของพวกเราได้ แต่ต้องขอย้ำให้ทราบกันก่อนว่า พวกเราสามารถนำดีไซน์มาประยุกต์ใช้ได้ แต่ว่าไม่สามารถไปลอกแบบได้นะครับ นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบ้านหรือเจ้าของแบบโดยตรง โดยปกติแล้วสไตล์ของบ้านมีออกจะนานาประการ อีกทั้งไทยประยุกต์ , Vintage , Loft , Minimal , Tropical , หรือบางทีอาจเลือกเอกลักษณ์ของบ้านจากต่างถิ่น อย่างเช่น บ้านสไตล์ทัสคานี เป็นต้น ทั้งสิ้นนี้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีส่วนประกอบที่เช่นกัน ไม่จำเป็นต้องเป๊ะ เราบางทีอาจประสมประสานรวมแต่ละสไตล์ เลือกจุดที่ชอบนำมาประยุกต์ใช้เพื่อให้แปลงเป็นสไตล์ของพวกเราเองได้เช่นกันครับผม เผชิญที่ใด ถ่ายภาพเก็บไว้ หรือถ้าหากถูกใจตัวอย่างแบบบ้านในเว็บบ้านไอเดีย ก็บางครั้งก็อาจจะเซฟลิงค์เก็บไว้ เผื่อตอนใช้งานจริงจะได้ค้นหาข้อมูลเจอ การเลือกสไตล์บ้านที่ดี เว้นแต่ความชื่นชอบส่วนตัวแล้ว สถานที่ทำการก่อสร้างเป็นสิ่งที่จำเป็น ควรวางแบบบ้านให้สมควร ใกล้เคียงหรือดูเข้ากับสถานที่ ชุมชนที่อยู่อาศัยด้วยขอรับ
3. เขียนความปรารถนาลงไป : ก่อนที่จะมีการดีไซน์ของจำเป็นอย่างยิ่ง เป็นการวิเคราะห์สิ่งที่จำเป็น ขั้นตอนนี้จำต้องคุยกันอีกทั้งครอบครัว มีสมาชิกกี่คน อยากได้อะไรบ้าง อยากได้แบบไหน มีเฉลียง ชานระเบียง มีกี่ห้องนอน กี่ส้วม เป็นคนชอบทำห้องครัวหรือเปล่า ห้องนั่งเล่น ห้องดูโทรทัศน์ ห้องทำงาน ปัญหาพวกนี้แต่ละบ้านย่อมมีความต่างกัน โดยยิ่งไปกว่านั้นความจำเป็นหลักเบื้องต้น ยกตัวอย่างเช่น ปริมาณห้องนอน ห้องสุขา เป็นต้น
4. กำหนดขนาด : เมื่อทราบสิ่งที่จำเป็นแล้ว กำหนดขนาดพื้นที่ใช้สอยของแต่ละห้องลงไป ต้องการให้กว้าง ยาว กี่เมตร การกำหนดขนาดแต่ละห้องจะช่วยทำให้สามารถพินิจพิจารณาหาพื้นที่ใช้สอยรวมทั้งหมดได้ ผลพินิจพิจารณานี้จะก่อให้การออกแบบบ้านชัดแจ้งเพิ่มขึ้น แล้วก็ยังช่วยให้พวกเราทราบอีกว่า เราควรจะก่อสร้างบ้านกี่ชั้นถึงจะเหมาะสม ถ้ามีที่ดินอยู่แล้วจำต้องออกแบบให้สอดคล้องกับที่ดิน แม้กระนั้นถ้ายังไม่มีที่ดิน การกำหนดขนาดพื้นที่ใช้สอย จะทำให้พวกเราหาซื้อที่ดินได้ตามขนาดที่ต้องการ การกำหนดขนาดนี้ยังสามารถนำไปอิงกับการประมาณราคาก่อสร้างได้อีกด้วยครับ
5. กำหนดตำแหน่ง แนวทาง : การออกแบบแผนผังบ้านที่ดีควรจะออกแบบให้สอดคล้องกับธรรมชาติ เพื่อให้การอยู่อาศัยในบ้านเป็นไปอย่างเหมาะควรที่สุด โดยรวมแล้วจะคิดถึงทิศทางของแสงอาทิตย์ และก็แนวทางลม โดยแสงแดดจะส่องมากในทิศตะวันตก ทิศใต้ ห้องที่ต้องการแสงมาก เป็นห้องที่ต้องการกำจัดความชื้น ได้แก่ สุขา ครัว ห้องล้าง ส่วนห้องที่อยากแสงพอเพียงเหมาะสม เช่น ห้องนอน , ห้องนั่งเล่น , ห้องทำงาน , ห้องดูหนัง เพราะแม้แสงสว่างมากเกินไปอาจเป็นความร้อนที่มากขึ้นเช่นเดียวกันนะครับ
6. สำหรับแนวทางลม ลมมีสองแนวทางหลัก ทิศเหนือแล้วก็ทิศใต้ขึ้นอยู่กับฤดู (ทิศใต้มีลมเข้า 8-9 เดือน ทิศเหนือ 2-3 เดือน) ซึ่งหากอ้างอิงร่วมกับแนวทางแดด แดดทางทิศใต้จะค่อนข้างจะแรงแทบตลอดทั้งวัน ส่วนทิศเหนือแดดจะร่มแทบตลอดทั้งวัน คนไทยก็เลยนิยมสร้างบ้านให้หันไปทางทิศเหนือ แต่ก็มีเยอะมากๆด้วยเหมือนกันที่เลือกหันหน้าไปทางทิศใต้ เพื่ออยากได้รับกระแสลมเกือบจะตลอดทั้งปี ดังนี้ก็มิได้เป็นความจำกัดอะไร เพราะว่าการใช้งานของแต่ละบ้านนั้นไม่เหมือนกัน บางคนบางทีอาจดีไซน์เพื่อเน้นย้ำการใช้ข้างบ้าน , ข้างหลังบ้าน ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานจริงด้วยครับ
7. ทดลองวาด : เครื่องไม้เครื่องมือฐานรากที่สุดที่ใช้สำหรับการวาดแปลนเป็นดินสอ + กระดาษ A4 หรือคนอ่านถนัดใช้เครื่องไม้เครื่องมือใดก็สามารถเลือกได้ตามอยาก ทั้งวาดด้วยมือหรือใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์มาช่วยก็สามารถทำได้เช่นกันครับ วิธีการวาดแปลน วาดเป็นมุมภาพ 2D โดยให้คิดถึงการมองรูปภาพจากบนหลังคาบ้าน ซึ่งอาจจำเป็นต้องทำความเข้าใจกับเครื่องหมายฐานรากกันนิดหน่อย ดังเช่น ประตู หน้าต่าง ส่วนห้องอื่นๆสามารถวาดเป็นสี่เหลี่ยมในแบบห้องทั่วๆไป ทั้งนี้แม้ผู้อ่านไม่เข้าใจเครื่องหมาย ก็ไม่คือปัญหาใด แค่เพียงวาดแล้วก็เขียนคำอธิบายประกอบร่วมด้วย ให้พอสื่อสารได้ตรงกัน เพียงเท่านี้ก็สามารถนำไปคุยกับช่างรับเหมาได้แล้วครับ
 
ข้อควรจะรู้ก่อนที่จะมีการก่อสร้างบ้าน
สถานที่ตั้งบ้าน ความสำคัญของสถานที่ตั้งบ้านนั้นเป็นความสำคัญขั้นแรกที่เราต้องคิดก่อนจะสร้างบ้าน ด้วยเหตุว่าพวกเราจึงควรคิดถึงการเดินทางระหว่าง บ้านไปยัง ที่ทำงาน,สถานที่เรียน ,ตลาด,ศุนย์กิจการค้า,สถานีรถไฟฟ้า,ราคาที่ดิน ฯลฯ ในสมัยก่อนทำเลที่ดีคือทำเลที่จำเป็นต้องอยู่กลางเมืองเนื่องจากว่าระบบรถยนต์สาธารณะยังไม่ครอบคลุมราวกับอย่างเดี๋ยวนี้ ทำให้ผู้คนต่างก็ไปกลุ่มกันอยู่ในเมืองเพียงอย่างเดียว ไม่ถูกกับปัจจุบันที่ทำเลที่ตั้งที่ดีคือทำเลที่อยู่ไกล้รถไฟฟ้า, ก่อนที่จะเราจะคิดถึงการสร้างบ้านเราควรต้องมองหาบริเวณที่เราสามาถเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะเหล่านี้ได้อย่างสะดวกที่สุด รวมถึงความปลอดภัยของบริเวณที่อยู่ที่จำเป็นต้องไม่มองเปลี่ยวจนถึงเกินความจำเป็น ในกลางคืนอีกด้วย ตัวอย่างเช่นการซื้อบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านบางครั้งก็อาจจะรู้สึกอุ่นใจกว่าการผลิตบ้านเดียวที่แต่ละข้างหลังตั้งอยู่ห่างกันไม่น้อยเลยทีเดียวฯลฯ และก็อย่าคาดหมายกับโครงงานต่างๆที่ยังไม่เคยทราบว่าจะกำเนิดเมื่อใดหรือกำเนิดจริงๆหรือเปล่าก็ไม่รู้จักเช่น บริเวณนั้นจะมีรถไฟฟ้าสายใหม่ๆผ่าน ทางด่วน หรือ ถนนหนทางผ่าน เนื่องจากพวกเราไม่บางทีอาจยืนยันได้ว่ามันจะเกิดเมื่อใด(นอกเหนือจากการซื้อเพื่อเก็งกำไร) ควรที่จะเลือกจากภาวะเดี๋ยวนี้ที่เยี่ยมที่สุด จะดีมากยิ่งกว่าครับผม
จะกลบดินสูงขนาดไหนดีนะ อันนี้เป็นปริศนายอดฮิตก่อนการก่อสร้างบ้านอย่างยิ่งจริงๆ บางคนบอก 50 ซม บ้างก็ว่า 30 ซม ก็พอแล้วบางคนบอก 1 เมตรไปเลย แล้วจริงๆมันควรถมเท่าใดหละ คำตอบของประเด็นนี้คือ สุดแท้แต่ความชื่นชอบขอรับไม่มีการกำหนดที่แน่นอนเพียงแต่มันจะต้องสูงขึ้นมากยิ่งกว่าระดับถนนหนทางคอนกรีตหรือถนนลาดยางหน้าบ้านพวกเรา โดยประมาณ 50 ซม ก็เพียงพอ แต่ถ้าหากถนนหน้าบ้านเป็นถนนดินแดงก็ให้เพิ่มความสูงของระดับดินถมเป็น 1 ม.เพื่อเป็นการรองรับความสูงของถนนหนทางที่จะเพิ่มสูงขึ้นจากการลาดยางหรือทำถนนคอนกรีตในอนาคตนั้นเอง อีกปัจจัยนึงเป็นระดับน้ำท่วมสูงสุดในบริเวณนั้น หากสามารถหาข้อมูลได้เราก็ควรจะถมที่ดินให้สูงขึ้นมากยิ่งกว่าระดับดังที่กล่าวถึงมาแล้วประมาณ 50 เซนติเมตรขึ้นไป
การถมดินเพื่อก่อสร้างบ้านเจ้าของบ้านต้องเผื่อการยุบตัวของดินด้วยนะครับ เป็นเพื่มปริมาณดินกลบสูงมากขึ้นไปอีก 30 % เพื่อเผื่อให้ดินได้เซ็ตตัวหรือยุบ นั้นเอง เป็นต้นว่า จะถมดินสูง 50 ซึม แม้กระนั้นให้ถมดินไว้ที่ระดับ65 ซมนั้นเอง รวมทั้งควรจะถมดินไว้ก่อนการสร้างบ้านอย่างน้อย 4-6 เดือนยิ่งทิ้งเอาไว้ผ่านหน้าฝนซักครั้งจะยิ่งทำให้ดินแน่นมากเพิ่มขึ้นทำให้ลดปัญหาดินทรุดข้างหลังก่อสร้างบ้านได้เป็นอย่างดี
ทิศทางแดดลม กับ การวางตำแหน่งบ้าน คนจำนวนไม่น้อยอาจจะคิดว่าไอ้เรื่องเหล่านี้ มันจะสำคัญอะไรล้นหลามนักจะปลูกเรือนที่ไหนมันก็มีลมทั้งนั้นแหละ และก็ที่สำคัญเราก็เปิดเครื่องปรับอากาศตลอดวันอยู่แล้วมองไม่เห็นมีอะไรน่ากังวล คนไหนกันเริ่มจะมีความคิดอย่างนี้มั้งครับ ถ้าเกิดมีแนะนำว่าให้อ่านเรื่องนี้ก่อนแล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยมาคิดอีกครั้งครับ
เพราะเหตุใดจำต้องมองแนวทางแดด-ลม ก่อนจะมีการวางตำแหน่งบ้าน ก็เนื่องจากพวกเราอาจไม่ต้องการนอนในห้องนอนที่แสนจะร้อนในช่วงกลางคืนหรือต้องอับอึดอัดอยู่ในบ้านที่ไม่มีลมระบายเลย เรื่องพวกนี้ออกจะวิจิตรบรรจง มีข้อสังเกตุหลายชนิดสำหรับในการวางตำแหน่งบ้านเพื่อให้บ้านทั้งยังข้างหลังเป็นบ้านที่อยู่อย่างสบาย เป็นสุข แล้วก็ลดการใช้พลังงาน
ธรรมดาแสงอาทิตย์ของบ้านเราจะวิ่งเป็นแนวทิศตะวันออกแล้วอ้อมโค้งไปทางใต้ก่อนที่จะตกในทิศตะวันตก จะมีผลให้ทิศใต้ไปจนถึงทิศตะวันตกได้รับแสงสูงที่สุดของวันเป็นตั้งแต่ข้างหลังเที่ยงตรงไปจนถึงห้านาฬิกาเย็น ด้านนี้จำเป็นจะต้องเป็นส่วนหลังบ้านและส่วนล้างหรือกิจกรรมอื่นที่อยากได้แสงมากไม่น้อยเลยทีเดียวๆส่วนทางทิศตะวันออกจะได้รับแสงสลัวๆในรุ่งอรุณแล้วก็แสงจะแรงมากเพียงแต่ตอน 10 โมงรุ่งเช้าจนถึงเที่ยงซึ่งก็เพียงแต่ 3 ดู ยิ่งทิศเหนือแล้วยิ่งได้รับแดดน้อยที่สุด 2 ด้านนี้ก็เลยเหมาจะวางตำแหน่งของห้องพักผ่อนที่ต้องการแสงสว่างก่อกวนน้อย เป็นต้นว่า ห้องนอนรวมทั้งห้องนั่งเล่น
เรานิยมวางแนวด้านแคบของตัวบ้านหันไปทางทิศทางรับแดด เพื่อฝาผนังที่รับแดดมีน้อยที่สุด ทำให้ผนังสามาถดูดกลืนความร้อนในปริมาณน้อยและก็ทำให้ด้านในภายไม่ร้อนจนกระทั่งเหลือเกินในช่วงกลางคืน เนื่องจากธรรมชาติของผนังปูนนั้นจะดูดความร้อนเมื่อแดดส่องแล้วก็จะถ่ายเทความร้อนออกมาในช่วงกลางคืน เพราะฉะนั้นถ้าหากฝาผนังบ้านถูกแดดตะวันตกน้อยก็จะก่อให้ความร้อนที่จะถ่ายออกมากลางคืนมีน้อยด้วยเหมือนกัน
ส่วนลมนั้นลมประจำฤดูของบ้านพวกเราจะพัดจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งจะพัดพาอากาศหนาวจากจีนมาในตอนหน้าหนาว และ จากทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่จะพัดพาความชื้นจากสมุทรมาในฤดูร้อนและก็ฤดูฝน บ้านที่ดีด้านยาวของบ้านจำเป็นต้องหันเข้าหาทิศทางลมเพื่อให้ลมธรรมชาติพัดเข้าตัวบ้านเพื่อระบายความร้อนออกไปให้ได้มากที่สุดและก็ส่งผลให้ออมค่าไฟฟ้าสำหรับแอร์ภายในบ้านเป็นต้น
 
 
ออกแบบ เพื่อนำเสนอห้าง
โครงการ : ร้านอาหาร / เครื่องดื่ม
style : cottage style

พื้นที่ใช้สอย : 40 ตร.ม.
ค่าออกแบบ : 220 บ./ตร.ม.


รับทำออกแบบ Design & RE-NOVATE BUILD มีจำลอง3D ติดต่อ
สาขากทม. 098 292 4496 หัวหิน 094 982 2636

ที่มา : [url=http://www.alldecorate.com/][url]http://www.alldecorate.com/
[/url]

Tags : รับออกแบบเคาน์เตอร์,ตกแต่งร้านกาแฟ,ออกแบบคอนโด



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


Related Topics
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
RENOVATE รับเหมาออกแบบ ต่อเติมบ้าน ตกแต่งร้านกาแฟ ภายใน ทำร้านสปาใหม่ คอนโดพักอา
สินค้าอื่นๆ
promiruntee 0 31 กระทู้ล่าสุด มีนาคม 16, 2017, 06:42:33 am
โดย promiruntee
คอมพลีทโฮม ต่อเติมบ้าน ที่อยู่อาศัย renovate บ้าน ราคาคุยได้
สินค้าอื่นๆ
thawadol2006 0 33 กระทู้ล่าสุด เมษายน 10, 2017, 10:10:56 pm
โดย thawadol2006
RENOVATE ร้านกาแฟ ออกแบบสำนักงาน ตกแต่งภายใน ทำร้านร้านเล็บ คอนโดพักอาศัย
สินค้าอื่นๆ
iAmtoto007 0 61 กระทู้ล่าสุด กันยายน 03, 2017, 02:33:01 am
โดย iAmtoto007
RENOVATE ร้านกาแฟ ออกแบบสำนักงาน ตกแต่งภายนอก ทำร้านเครื่องสำอางค์ คอนโดพักอาศัย
สินค้าอื่นๆ
ttads2522 0 88 กระทู้ล่าสุด กันยายน 26, 2017, 08:57:47 am
โดย ttads2522
งานซ่อมโครงสร้างแตกร้าว บ้าน อาคาร ต้อง home-renovate เท่านั้น ไม่เช่นนั้นอย่าหา
พูดคุยทั่วไป
pruksa 0 36 กระทู้ล่าสุด มีนาคม 01, 2023, 08:35:24 pm
โดย pruksa
งานซ่อมโครงสร้างแตกร้าว บ้าน อาคาร ต้อง home-renovate เท่านั้น ไม่เช่นนั้นอย่าหา
พูดคุยทั่วไป
pruksa 0 33 กระทู้ล่าสุด กรกฎาคม 22, 2023, 10:32:18 pm
โดย pruksa
งานซ่อมโครงสร้างแตกร้าว บ้าน อาคาร ต้อง home-renovate เท่านั้น ไม่เช่นนั้นอย่าหา
พูดคุยทั่วไป
pruksa 0 33 กระทู้ล่าสุด กรกฎาคม 22, 2023, 10:44:39 pm
โดย pruksa
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ