Advertisement
เลือกยางรถยนต์และดูแลอย่างไรให้ลดเสี่ยงอุบัติเหตุ
ข้อควรรู้ในการเลือกยางรถยนต์ รวมถึงการตรวจสอบและ
ดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสียหายที่เกิดขึ้น
กับยางหรือเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ จากกระทรวง
มหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)
ยางรถยนต์ เป็นส่วนสำคัญอย่างมากสำหรับรถยนต์ซึ่ง
ขาดไม่ได้และไม่ควรปล่อยให้เกิดความผิดพลาด เพราะ
ส่งผลต่อความปลอดภัยในการเดินทาง ซึ่งบ่อยครั้งพบว่า
มักเกิดอุบัติเหตุจากยางระเบิด โดยมีสาเหตุมาจากยาง
เสื่อมสภาพ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย
โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้แนะข้อ
ควรรู้เกี่ยวกับการเลือกใช้ ตรวจสอบและดูแลรักษายางรถ
ยนต์ ดังนี้
1. การเลือกใช้ยางรถยนต์
ควรเลือกใช้ยางที่เหมาะสมกับสภาพรถ การใช้งาน
และเส้นทาง รวมถึงมีขนาดเดียวหรือกับยางมาตรฐานที่
ติดตั้งมากับรถ และควรเลือกยี่ห้อ รุ่น ขนาดยางให้เหมือน
กันทั้ง 4 เส้น (ไม่ควรคิดเปลี่ยนทีละคู่ เพื่อหวังประหยัด)
เปลี่ยนยางทุก ๆ 2 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร เพราะถึงแม้
ดอกยางจะเหลือมาก แต่เนื้อยางอาจแข็งตัวหรือหมดอายุ
ไปแล้ว ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนลดลง
ถ้าเป็นไปได้ควรใช้ยางที่มีขนาดตรงกับมาตรฐาน
เดิมจากโรงงาน หากเปลี่ยนเป็นล้อเล็กลงจากเดิม ให้เพิ่ม
ขนาดแก้มยาง แต่หากใช้ล้อใหญ่ขึ้น ให้ลดขนาดแก้มยาง
ลง โดยให้เส้นรอบวงใกล้เคียงกับล้อมาตรฐานมากที่สุด
กรณีใช้งานรถยนต์บนถนนเรียบ ควรเลือกยางที่
มีดอกยางละเอียด ร่องยางแคบและถี่ เพื่อจะได้มีผิวหน้า
ยางสัมผัสถนนมากที่สุด คอยช่วยยึดเกาะถนนและมี
ประสิทธิภาพในการรีดน้ำมากขึ้น หากใช้งานบนถนนขรุ
ขระหรือลุยโคลนเป็นประจำ ควรเลือกยางที่มีดอกยาง
ขนาดใหญ่และร่องห่าง เพื่อช่วยสกัดโคลน หิน และไม่
ติดตามร่องยา
928bet[/url]
2. การเติมแรงดันลมยางรถยนต์
หมั่นตรวจสอบแรงดันลมยางเป็นประจำทุกสัปดาห์
หรืออย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง กรณีเดินทางไกลควรเติม
ลมยางให้มากกว่าปกติ 3-5 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว (ขึ้นอยู่
กับจำนวนผู้โดยสารและน้ำหนักบรรทุก) และไม่ควรปล่อย
ให้ลมยางอ่อนกว่ามาตรฐาน เพราะจะทำให้เกิดความร้อน
สูงมากและขยายตัวจนเป็นอันตรายได้) แต่ในการใช้งาน
โดยทั่วไปอาจไม่มีความจำเป็นต้องเติมแรงดันลมยางเกิน
กว่าผู้ผลิตแนะนำ
ตรวจสอบแรงดันลมยางด้วยเกจ์วัดลมที่ได้มาตรฐาน
ไม่ควรตรวจสอบลมยางด้วยสายตา เพราะอาจคลาด
เคลื่อนสูง นอกจากนี้ควรเติมลมยางอะไหล่ให้อยู่ใน
สภาพพร้อมใช้งานมากกว่ามาตรฐานสัก 3-4 ปอนด์ต่อ
ตารางนิ้ว เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้นำออกมาใช้งานได้ทันที
แล้วค่อยลดแรงดันลมยางให้อยู่ในค่า
ปกต
928bet[/url]
การเติมลมยางควรทำขณะยางเย็นตัว เพราะจะได้
ค่าแรงดันลมยางที่ถูกต้อง หากเติมหลังขับรถหรือขณะที่
ยางยังมีความร้อน จะได้ค่าแรงดันลมยางสูงกว่าปกติ และ
ไม่เติมลมยางหรือปล่อยให้ลมยางต่ำกว่ามาตรฐาน
เพราะหน้ายางจะยุบตัวและสัมผัสพื้นผิวถนนมากเกินไป
ทำให้แก้มยางฉีกขาด ไหล่ยางเกิดความร้อนสูง อีกทั้งยัง
สึกหรอเร็วกว่าส่วนอื่น รวมถึงส่งผลให้การบังคับควบคุม
ด้อยล
928bet[/url]