ความเป็นมาเรื่องราวเครื่องใช้น้ำหอม (Perfume) ที่ประธาน

[iAmtoto007]

Advertisement

ความเป็นมาภูมิหลังข้าวของน้ำหอม (Perfume) ที่ประธาน
      รู้ยังตำหนิติเตียน น้ำหอมที่ข้าพเจ้าชดใช้กันอยู่ทุกวันนี้ มีความเป็นมานานถึง 4,000 ปี ไปของกลางถนนตำนานทำเนียบสดภาพจิตกรรมฝาผนังที่วิหารของพระราชินี Hatshepsut เมือง Thebes เมือง Egypt ซึ่งในภาพจะจัดแสดงให้เห็นว่ารุ่นชาวอียิปกำลังชโลมน้ำหอมลงบนกระหม่อมของตัวเอง นั่นก็สาธิตให้เห็นว่า ได้มีการเริ่มใช้น้ำหอมในยุคนั้น พร้อมกับเราจะตั้งต้นแจกแจงปกรณ์สรรพสิ่งน้ำหอมกันตั้งแต่ในช่วงเวลาประเดิมกันเลยนะคะ

น้ำหอมในกาลสมัยแต่แรก (คราวเมโสโปเตเมีย)
     น้ำหอมผู้หญิงแห่งสมัยเบื้องต้นเริ่มจากณสมัยเมโสโปเตเมีย  ซึ่งภายในกาลสมัยทีแรกนั้นคนแห่งจะกินน้ำหอมได้คือฟาร์โร พร้อมด้วยเหล่าบรรพชิตที่จะนำน้ำหอมไปชำระคืนในการทำพิธีพลีกรรมแค่นั้น ซึ่งจะชดใช้การเผาให้เสวยพระชาติกลิ่นไอ คล้าย การเผายางไม้ ขี้ผึ้ง หรือเปลือกต่าง ๆ และคำว่า "Perfume" คำนี้ก็มีรากศัพท์มาจากคำพูดละติน ที่แปลว่า "ควัน" จึงเป็นที่มาของน้ำหอม นักบวชจะนำไปใช้ในขนมธรรมเนียมการสังเวยต่าง ๆ ที่เป็นขนบประเพณีของของรัฐ และนอกเหนือจากการใช้ในพระราชพิธี ก็ยังมีการใช้พรหมทาที่ร่าง ที่อยู่ ดรณี ไม่ใช่หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยง พร้อมกับราชินีแห่งอิยิปต์ที่มีพระนามว่า Hatshepsut   ทรงมีความชอบน้ำหอมมาก จึงเกื้อให้มีการคุ้ยหาไม้ต้น มาลัยที่มีกลิ่นหอม เนื่องด้วยนำมาปฏิบัติงานคือน้ำหอมกลิ่นไอต่าง ๆ ตอนหลังเมื่อพระนาง Hatshepsut สวรรคต ชาวอียิปต์ก็ได้นฤมิตสวนดอกไม้ด้วยกันสร้างแผ่นหินจารึกเรื่องต่างๆ ไว้เพราะด้วยเป็นการสดุดีอีกด้วย พร้อมกับพระนางคลีโอพัตราก็ยังยกให้ทาน้ำหอมที่ใบเรือพร้อมด้วยตัวเรือทั่วถึงกันก่อนที่จะตระเวนไปรับนักการเมืองชาวโรมัน เป็นเหตุให้เหล่าชาวโรมันที่รอการมาของพระนาง เก่งได้กลิ่นน้ำหอมขนมจากเรือสำเภาที่ทรงนั่งมาเพรงที่จะเห็นตัวทูกของพระนางด้วยซ้ำ   
น้ำหอมผู้หญิงเวลาพอควร   

ในกาลเวลานี้ขั้นตอนในการหยุดจะแหวกแนวจากช่วงเวลาแต่แรก เพราะว่าชาวอาหรับหาได้กระทำคิดค้นเคล็ดลับการกลั่นนํ้าหอมได้บังเกิดผล พร้อมด้วยมีการกินแอลกอฮอร์มาเป็นตัวทำละลาย และน้ำหอมกลิ่นปฐมที่ได้ทำการขวางเชิงคือกลิ่นไอกุหลาบ และหลังจากนั้น นำ้หอมก็ได้แรมรอนเข้าสู่ศตพรรษที่ 14 เพราะว่าการเข้าสู่ทวีปยุโรธ กับคนชาติประถมแห่งได้นำน้ำหอมเข้ามายุโรปรวมความว่าชาวฮังกาเรี่ยน ติดตามคำบัญชาของพระราชินี Elizabeth แห่งฮังการี่ จึงเรียกน้ำหอมกลิ่นนี้ว่า น้ำฮังการรี่ ซึ่งเป็นตัวอย่างของใช้น้ำหอมในคราวต่อ ๆ มา


          น้ำหอมยุคใหม่ (ช่วงปัจจุบัน)   
 น้ำหอมได้ไปสู่กระบวนการผลิตแบบอุตสาหกรรมแบบจริงๆเมื่อศตวรรษที่ 19 และได้นำไปสู่วงการแฟชันอย่างเต็มฝีจักร เมื่อศักราช คศ. 1920  เพราะว่ามีชาวรัสเซียที่ชื่อเล่นว่า Ernest Beaux ซึ่งดำรงฐานะนักทำน้ำหอมเดินทางมาที่ปารีส กับได้เล่าน้ำหอมที่ตัวเองทำให้กับ Gabrielle Bonheur Chanel ซึ่งก็เปลี่ยนแปลงมาเป็นแบรนด์ Chanel  ในช่วงปัจจุบัน ด้วยกันได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี กับกลิ่นที่ขายคล่องพร้อมทั้งลือชามัตถกะ คือ Chanel NO.5 และตั้งแต่นั้นมา อุตสาหกรรมด้านน้ำหอมก็ได้วิวัฒน์ขึ้นอย่างคล่องแคล่ว และมีใช้แพร่ขยาย ในคนทุกชั้น ชั้นจนมาถึงปัจจุบัน
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : นำ้หอมผู้ชาย

ขอบคุณบทความจาก : [url]http://www.psv9.net/board/index.php?topic=564098.new#new[/url]

Tags : นำ้หอม