Advertisement
บริษัท Complete Home
รับเหมาต่อเติมบ้าน ตอกเสาเข็ม สปันไมโครไพล์
โทรต่อ Fax:02-611-6462
ต้องการ ซ้อมบ้านร้าว รับต่อเติมบ้านหรือไม่?สิ่งที่ควรทราบก่อนสร้างบ้านในพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหวสวัสดีครับผมคนเขียนได้เจอหนังสือของกรมโยธาธิการเกี่ยวกับการสร้างตึกขนาดเล็กในพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหวซึ่งมีสาระมากมายๆสำหรับเพื่อนฝูงเพื่อนพ้องที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหวเป็นต้นว่าหลายจังหวัดทางภาคเหนือ ภาคกึ่งกลางบางส่วน แล้วก็ภาคใต้นิดหน่อยที่จริงแล้วนักเขียนว่าไม่ว่าจะอยู่ในจังหวัดไหนในประเทศพวกเราควรทราบข้อมูลเบื้องต้นนี้ไว้ดีเยี่ยมที่สุด
1 ตำแหน่งของอาคารในพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหว
บริเวณที่ไม่สมควรก่อสร้างอาคารตัวอย่างเช่นบริเวณที่เป็นเชิงลาดรอบๆใกล้แนวลอยเลื่อนและบริเวณที่ใกล้กับต้นไม้ใหญ่ดังที่แสดงในรูป
2 รูปทรงและก็รูปแบบของอาคารในพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหว
การออกแบบทรงรูปแบบของตึกในพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหวควรจะกำหนดให้เป็นแบบเรียบง่าย ตัวอย่างเช่น อาคารทรงสี่เหลี่ยมหรือทรงกลมฯลฯ ควรจะหัวข้อการปลูกสร้างอาคารที่มีลักษณะเป็นมุมหัก
3 ช่องเปิดของตึกในพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหว
สำหรับช่องเปิดของอาคารแม้ว่างขนาดและตำแหน่งของช่องเปิดไม่เหมาะสมจะกำเนิดการกระทำการพิบัติของเสาสั้นหรือตึกเล็กน้อยมีการเคลื่อนตัวมากเกินความจำเป็นทำให้มีการเกิดการแตกกันอย่างเช่นลักษณะตามรูปด้านล่างกรรมวิธีแก้ไขควรทำเสาร์เอ็นรวมทั้งคาน / ข้างหลังคอนกรีตขนมลอดช่องเปิดต่างๆให้มีความดกพอๆกับความดกของผนัง รวมทั้งขนาดความกว้างไม่น้อยกว่า 15 ซม.เพื่อคุ้มครองปกป้องการแตกกันจากการสั่นสั่นสะเทือน
4 ระบบโครงสร้างของตึกในพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหว
4.1 รากฐาน
กรณีทีใช้ฐานรากเสาเข็มจะต้องมีการเชื่อมยึด ที่เพียงพอระหว่างฐานรากและก็เสาเข็ม และก็พิจารณาถึงความรู้ความเข้าใจสำหรับการรับแรงข้างๆของเสาเข็มแต่ละต้นด้วย ตัวอย่างรายละเอียดการเสริมเหล็กในโครงสร้างรองรับเสาเข็ม
ในกรณีที่ใช้รากฐานแผ่จะต้องตั้งอยู่บนชั้นดินเดิมที่มีกำลังหามทานสูง รวมทั้งควรจะมีความยั่งยืนและมั่นคงแข็งแรงเพียงพอที่จะสามารถระบายน้ำาหนักจากโครงสร้างอาคารส่วนบนสู่ดินรากฐานได้อย่างปลอดภัย โดยขนาดความดกอย่างน้อยสุดของโครงสร้างรองรับแผ่จำเป็นต้องไม่น้อยกว่า 0.20 เมตร รวมทั้งมีระดับความลึกที่ฝังในดินจากระดับผิวดินถึงระดับต่ำาสุดของรากฐานไม่น้อยกว่า 1.00 เมตร
4.2 เสาตอหม้อ
พื้นชั้นล่างของอาคารอยู่อาศัยบางหลังมีการยกพื้นให้สูงขึ้น และก็ส่วนใต้ประจำถิ่นชั้นล่างมีลักษณะเป็นใต้ถุนเปิดเตียนโล่ง ไม่มีการก่อฝาผนังปิด ทำาให้เสาเสาหลักของอาคารที่อยู่ระหว่างโครงสร้างรองรับแล้วก็พื้นชั้นล่างไม่มีการยึดโยง
ที่พอเพียง เมื่ออาคารเกิดการโยกตัวอย่างรุนแรงจากแผ่นดินไหว ถ้าเกิดเสาเสาไม่สามารถที่จะทนต่อการโยกได้ก็บางทีอาจเกิดความย่ำแย่เป็นอันตราย การออกแบบจึงต้องมีการเสริมเหล็กให้เพียงพอในเสาตอหม้อ รวมทั้งอาจจัดตั้ง ตัวยึดโยงหรือกำาแพงคอนกรีตเสริมเหล็กเพื่อเสาตอม่อตึกอาศัยมีเสถียรภาพเยอะขึ้นเรื่อยๆ
4.3 เสา
สำหรับเสาของตึกขนาดเล็กหรืออาคารอาศัยคอนกรีตเสริมเหล็กที่มีขนาดเล็กและก็สูงไม่เกิน 2 ชั้นขนาดของเสาไม่สมควรน้อยกว่า 20 เซนติเมตร และพื้นที่หน้าตัดเหล็กเสริมตามยาวของเสาไม่สมควรน้อยกว่าจำนวนร้อยละ 1 และไม่ควรมากยิ่งกว่าร้อยละ 6 ของพื ้นที ่หน้าตัดทั ้งหมดของเสา เหล็กเสริมตามแนวยาวไม่ควรมีขนาดเล็กกว่า 12 มิลลิเมตร จำนวนมากกว่า 4 เส้นรวมทั้งมีการเสริมเหล็กปลอกคราว ่มีระยะห่างไม่เกิน 10 ซม. ที ่รอบๆโคนเสาทั ้งด้านบน แล้วก็ข้างล่าง ของอเหล็กปลอกควรเป็นของอ 135 องศา
4.4 คาน
สำาหรับคานของอาคารขนาดเล็กหรือตึกอาศัยที่มีความยาวไม่เกิน 5 เมตร หน้ากว้างของคานไม่สมควรน้อยกว่า 15 ซม. เหล็กเสริมตามแนวยาวไม่ควรมีขนาดเล็กกว่า 12 มิลลิเมตร และก็มีการเสริมเหล็กปลอก
ที่มีระยะห่างไม่เกินกว่า 10 เซนติเมตร ที่รอบๆปลายคานทั้งสองข้าง รวมถึงส่วนปลายของอของเหล็กปลอกควรจะมีระยะยื ่นไม่น้อยกว่า 6 เท่าของเส้นผ่านศูนย์กลางของเหล็กปลอก ของอเหล็กปลอกต้องเป็นของอ 135 องศา
4.5 ข้อต่อระหว่างเสาแล้วก็คาน
เหล็กเสริมตามแนวยาวรวมทั้งเหล็กปลอกของเสาและคานจะต้องมีจำนวนเพียงพอในบริเวณข้อต่อระหว่างเสาและคานที่จะรัดรอบแกนคอนกรีต ดังนี้เพื่อให้เกิดความเหนียวและสามารถต้านทานแรงเชือดที่เกิดขึ้น
จากแรงสะเทือนของแผ่นดินไหวได้ โดยระยะเรียงของเหล็กปลอกในเสาและในคานบริเวณข้อต่อดังที่กล่าวมาข้างต้นไม่สมควรเกิน 10 ซม. แล้วก็ควรเพิ่มเหล็กปลอกในเสาบริเวณข้อต่ออีก 3 ปลอก ดังตัวอย่างในรูป
4.6 โครงหลังคา
การยึดส่วนต่างๆของโครงหลังคา ไม่ว่าจะเป็นหลังคา แป จันทัน อกไก่ หรืออเส ควรจะมีการยึดอย่างมั่นคงยิ่งไปกว่านี้ควรทำยึดโยง (Bracing) โครงหลังคาให้มีเสถียรภาพสำหรับเพื่อการต้านแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว เหมือนตามตัวอย่างในรูป
5 ผนังก่ออิฐของอาคารในพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหว
การก่อสร้างฝาผนังก่ออิฐของอาคารต้องมีการยึดส่วนผนังเข้ากับส่วนที่เป็นส่วนประกอบตึก อย่างมั่นคง แล้วก็เป็นไปตามข้อกำหนดทางช่างที่ถูกต้อง ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้
(1) ก่อนที่จะก่อผนังให้ราดน้ำบนอิฐที่จะก่อให้เปียกแฉะ เพื่อไม่ให้อิฐดูดซึมน้ำจากปูนก่อเยอะเกินไป จนเป็นเหตุให้เนื้อปูนร่วนได้
(2) ผนังครั้ง ่ก่อจะต้องได้แนวทั ้งในแนวนอนแล้วก็ในแนวดิ ่ง โดยการถ่ายระดับน้ำ กางเชือกเอ็น รวมทั้งใช้ตรงทุกความสูงไม่เกิน 50 ซม. การก่ออิฐแต่ละครั้งไม่สมควรสูงไปกว่า 1.00 เมตร แล้วก็ปล่อยทิ้งเอาไว้ขั้นต่ำ 3 ชั่วโมงก็เลยจะก่อต่อไปได้
(3) ปูนก่อระหว่างก้อนอิฐควรจะมีความครึ้มราวๆ 1 เซนติเมตร โดยปูนก่อต้องก่อเต็มหน้าแผ่นอิฐและก็แต่งแนวให้เรียบ
(4) ผนังที่ก่อชนเสาจะต้องมีการยึดฝาผนังก่ออิฐกับเสา โดยตระเตรียมให้มีการฝังเหล็กเสริมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 มม. ไว้ภายในเสาทุกระยะ ห่างไม่เกิน 60 เซนติเมตร ยาวจากขอบเสาไม่น้อยกว่า 30 เซนติเมตร (ดังแสดงในรูป) ถ้าหากไม่ได้มีการจัดแจงฝังเหล็กเสริมไว้หรือฝังเหล็กเสริมไว้แต่ว่าไม่ตรงแนวฝาผนัง ให้เจาะรูสำหรับแทงเหล็กเสริมโดยรูที่เจาะมีความลึกไม่น้อยกว่า 5 เซนติเมตรแล้วก็เสียบเหล็กโดยใช้น้ำยาเคมีหรือกาวอีพ็อกซี่ ห้ามไม่ให้เจาะรูโดนเหล็กเสริมในเสา
(5) ผนังก่ออิฐที่ยาวเกินกว่า 3.00 เมตร จะต้องมีเสาเอ็น แล้วก็ฝาผนังก่ออิฐที่มีความสูงเกินกว่า 2.50 เมตรจะต้องมีคานทับหลัง โดยเสาเอ็นแล้วก็คานทับหลังต้องมีความกว้างไม่น้อยกว่า 15 ซม. มีความครึ้ม
เท่ากับความดกของฝาผนังที่ก่อ และเสริมเหล็กตามแนวยาวขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 9 มม. จำนวน2 เส้น และเหล็กปลอก (ลูกโซ่) ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 6 มม. ทุกระยะห่างไม่เกินกว่า 20 ซม. เหล็กเสริมตามยาวของเสาเอ็นหรือคานทับหลังให้ฝังลึกในโครงสร้างพื้ น คาน หรือเสา ซึ่งอาจทำเป็นโดยการฝังเหล็กเสริมในส่วนประกอบจัดแจงไว้ก่อนที่จะเทคอนกรีต หากมิได้มีการฝังเหล็ก เสริมดังที่กล่าวถึงแล้วจัดเตรียมไว้ ให้ใช้แนวทางจากที่ระบุใน (4)
(6) มุมฝาผนังก่ออิฐ หรือปลายฝาผนังที่ก่อไม่ชนกับเสาหรือท้องคาน จะต้องมีเสาเอ็นหรือคานทับหลัง ที่มี ขนาดรวมทั้งเนื้อหาการเสริมเหล็กตามเจาะจงใน (5)
(7) ไม่สมควรก่อผนังก้อนอิฐที่จั่วหลังคา ควรจะใช้ผนังที่ผลิตจากวัสดุอื่นที่มีน้ำาหนักค่อยกว่า อาทิเช่น ไม้ ไม้สังเคราะห์ หรือ กระเบื้องแผ่นเรียบ
(
การก่อผนังคอนกรีตบล็อก คอนกรีตจำพวกมวลเบา หรือฝาผนังสำเร็จรูปต่างๆให้เป็นไปตามมาตรฐาน หรือข้อเสนอแนะของผู้ผลิตอุปกรณ์นั้นๆ
6 วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างตึก
วัสดุก่อสร้างตึกโดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนโครงสร้างจะต้องมีความแข็งแรงแล้วก็ทนทาน โดยปกติอาคาร ที่มีน้ำาหนักน้อยจะได้รับผลกระทบจากแรงแผ่นดินไหวน้อยกว่าอาคารที่มีน้ำหนักมากมาย ยิ่งไปกว่านี้จำต้องคิดถึง จุดเชื่อมต่างๆให้มีความรู้ในการถ่ายแรงได้อย่างสมบูรณ์ด้วย
สิ่งที่ควรรู้ก่อนคิดเพิ่มเติมบ้าน1. ใจความสำคัญด้านกฎหมาย
การเพิ่มเติมแต่งหรือดัดแปลงแก้ไขอาคาร ตามรายละเอียดต่อแต่นี้ไป จึงควรได้รับการอนุญาตจากทางการ
การขยายพื้นที่ชั้นหนึ่งชั้นใด ตั้งแต่ 5 ตำรวจม.
เปลี่ยนหลังคา หรือขยายหลังคาให้ปกคลุมพื้นที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม
เพิ่ม – ลด ปริมาณ หรือแปลงเสา คาน บันได และผนัง
อาคารจะต้องมีระยะถอยร่นจากเส้นเขตที่ดิน ดังต่อไปนี้
สำหรับทาวน์เฮ้าส์และก็ห้องแถว พื้นที่ว่างด้านหลังกว้าง 2 ม. ต้องเว้นว่างไว้ เพื่อเป็นทางหนีไฟ
ผนังด้านที่เปิดประตู หน้าต่าง ที่สูงไม่เกิน 9 มัธยม จำเป็นต้องอยู่ห่างจากเขตที่ดินไม่น้อยกว่า 2.0 ม. สำหรับที่สูงเกิน 9.0 มัธยม ต้องห่าง 3.0 ม. ผนังที่ไม่มีช่องเปิดจะต้องห่างจากเขตที่ดินไม่น้อยกว่า 0.50 ม. ยกเว้นแต่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของที่ข้างเคียง
จะมองเห็นได้ว่าตามข้อบังคับนั้น ทาวน์เฮ้าส์รวมทั้งตึกแถวแทบไม่อาจจะเพิ่มเติมใดๆได้ตามกฎหมาย ยกเว้นแต่ว่ามีพื้นที่เหลือข้างหลังมากๆแต่ว่าแต่แม้อยากได้เพิ่มเติมอย่างถูกต้องก็ต้องมีการยื่นขอก่อสร้างด้วย แม้กระนั้นที่มีความคิดเห็นว่ามีการก่อสร้างต่อเติมอยู่ทั่วไปก็เพราะทางราชการผ่อนผันให้ ถ้าหากว่าไม่มีปัญหาใดๆก็ตามกับบ้านใกล้กัน
2. หัวข้อการขัดกันกับบ้านใกล้กัน
จากหลักสำคัญที่ 1 จะมองเห็นได้ว่าการที่จะสามารถต่อเติมได้อย่างไม่มีปัญหานั้น จะต้องมีการคุยกับบ้านข้างเคียงก่อนว่าจะมีการเพิ่มเติมบ้าน ด้วยเหตุว่าถ้าเกิดบ้านข้างๆไม่ยินยอม และก็ไปร้องทุกข์กับทางราชการก็จะมีปัญหาตามมาค่อนข้างจะมาก
แต่ว่าถ้าบ้านใดมีพื้นที่มากพอจนถึงสามารถยื่นขออนุญาตก่อสร้างได้ เจ้าของบ้านก็ยังคงต้องรับผิดชอบต่อความเสื่อมโทรมที่อาจจะเกิดขึ้นจากการก่อสร้างต่อบ้านใกล้กันด้วย ยกตัวอย่างเช่น แรงสั่นจากการตอกเสาเข็ม, การเคลื่อนจากการขุดดิน, ปัญหาเสียงหรือฝุ่นผง ซึ่งถ้าเกิดมีปัญหาจนกระทั่งบ้านข้างๆรับมิได้ บางทีอาจมีการฟ้องร้อง ให้หยุดการก่อสร้าง และก็สามารถเรียกร้องค่าใช้สอยในกรณีที่เกิดความเสื่อมโทรมได้
3. การเพิ่มเติมบ้าน
เป็นงานที่จำต้องอาศัยวิศวกรเป็นผู้ออกแบบงานส่วนต่อเติมให้ เนื่องมาจากพื้นที่ส่วนที่ต่อเติมมักเป็นพื้นที่จำกัด และจำเป็นต้องพิจารณาถึงสภาพเดี๋ยวนี้ของอาคาร ตลอดจนภาวะพื้นที่ในส่วนที่จะอยากต่อเติม ซึ่งมีข้อกำหนดสำหรับในการทำงาน, การเลือกใช้ระบบของเสาเข็ม, การขนย้ายวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้าง ตลอดจนการแก้ไขปัญหาน้ำรั่วรอบๆรอยต่อของตึกเดิมและส่วนต่อเพิ่ม
แง่คิดก่อนเพิ่มเติมบ้านการเพิ่มเติมแต่งบ้านเป็นสิ่งที่แทบเลี่ยงไม่ได้สำหรับผู้ที่ซื้อบ้านในโครงการแบ่งสรรทั่วไป เนื่องจากผู้ประกอบกิจการจำเป็นจะต้องทุ่นค่าใช้จ่ายสำหรับการก่อสร้างให้เยอะที่สุด ด้วยเหตุผลดังกล่าว พื้นที่บ้านก็เลยมักไม่เป็นที่พอใจของผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนไทยที่ต้องทำกับข้าวไทย ซึ่งมักจะจำเป็นต้องกระทำการต่อเติมครัวเพิ่มเติมอีกเสมอ ซึ่งมักสร้างปัญหาตามมาอย่างมากมาย ดังนั้น ก่อนจะมีการต่อเติมบ้าน อยากให้ท่านเจ้าของบ้านพิจารณาถึงเรื่องดังที่จะกล่าวต่อไปนี้
1. แบบทางด้านสถาปัตยกรรม
1.1 พื้นที่ส่วนต่อเพิ่ม ควรมีแบบอย่างสอดคล้องกับตัวบ้านเดิม ทั้งยังด้านอุปกรณ์และก็ใบหน้าของตึก โดยสามารถให้ผู้ออกแบบจัดทำรูป 3 มิติ เพื่อชี้ให้เห็นว่าหลังจากต่อเติมแล้วต้นแบบบ้านจะเปลี่ยนไปเช่นไร เจ้าของบ้านพอใจหรือเปล่า เพราะว่าถ้าเจ้าของบ้านมองแบบไม่เป็น เมื่อเพิ่มเติมแล้วบางทีอาจจำเป็นต้องทนอยู่ในบ้านที่เพิ่มเติมจนน่าขยะแขยงไปอีกตลอดชาติ
1.2 ต้องพิจารณาถึงการถ่ายเทอากาศภายในบ้านหลังต่อเติม ส่วนมากการเสริมชอบไปปิดโอกาสระบายอากาศของตัวบ้าน โดยยิ่งไปกว่านั้นอาคารจำพวกทาวน์เฮ้าส์และก็ตึกแถว เมื่อต่อเติมข้างหลังบ้านแล้ว ลมไม่สามารถพัดจากหน้าบ้านไปออกหลังบ้านได้ ทำให้อากาศข้างในบ้านร้อนมาก กระทั่งไม่สามารถที่จะอยู่ได้ ถ้าเกิดว่าไม่มีระบบปรับอากาศ ด้วยเหตุนั้น การเพิ่มเติมต้องอุตสาหะหาช่องให้ลมสามารถระบายได้ ซึ่งจำเป็นต้องขอคำแนะนำผู้ออกแบบ
1.3 แสงไฟจากธรรมชาติ การเพิ่มพื้นที่ชอบไปปิดช่องแสงที่จะเข้าสู่ตัวบ้าน ทำให้ฟุตบาทส่วนกลางและช่องบันไดมืดตลอดระยะเวลา ทำให้ต้องเปิดไฟตลอดทั้งวัน โดยเหตุนี้ การต่อเติมจำเป็นต้องพิจารณาถึงการเปิดช่องแสงสว่างไว้ด้วย
2. ปัญหาด้านกฎหมายและผลกระทบกับบ้านข้างเคียง
โดยปกติการเพิ่มเติมบ้าน สำหรับอาคารการค้าขาย, ทาวน์เฮ้าส์ หรือแม้กระทั้งบ้านเดี่ยว ที่มีพื้นที่ไม่มากสักเท่าไรนัก ผิดกฎหมายดูเหมือนจะทุกหลัง เพราะโดยชอบด้วยกฎหมายได้ระบุพื้นที่ว่างไว้สำหรับอาคารแต่ละจำพวก ซึ่งการก่อสร้างก็มักจะก่อสร้างเต็มพื้นที่ดังที่กล่าวถึงแล้วแล้ว เพราะฉะนั้น ท่านเจ้าของบ้านต้องระมัดระวังเรื่องดังที่กล่าวถึงแล้วไว้บ้าง ซึ่งธรรมดาเจ้าหน้าที่ก็รู้ถึงสิ่งที่ต้องการดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นก็เลยชอบไม่เข้ามาวุ่นวาย เว้นเสียแต่กรณีที่มีผู้ร้องเรียน ดังนั้นก่อน ที่ท่านจะเพิ่มเติมก็ควรบอกกล่าวบ้านใกล้กันให้ทราบว่าท่านจะต่อเติม รวมทั้งจะต่อแบบใด เพื่อไม่ให้ กระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของบ้านข้างๆ ยกตัวอย่างเช่น อย่าต่อเติมจนถึงชิดกับข้างบ้าน หรือเพิ่มเติมแล้วเปิดหน้าต่าง หรือช่องสำหรับเพื่อระบายลมไปใกล้ข้างบ้านจนถึงเสียง, แสง หรือกลิ่นในห้องครัวไปก่อกวนข้างบ้าน การระบายน้ำฝนจากส่วนต่อเพิ่มก็ต้องมีรางน้ำ อย่าให้น้ำตกไปฝั่งข้างบ้าน โดยการเอาหัวใจเขามาใส่ใจเราบ้างว่า ถ้าข้างบ้านทำกับเราแบบนี้ เราจะยอมรับได้หรือไม่
3. แบบสำหรับการเพิ่มเติม
ก่อนหาผู้รับเหมา แม้ท่านเจ้าของบ้านไม่มีความรู้ทางด้านวิศวกรรมเลย ควรศึกษาเรียนรู้หาข้อมูลไว้บ้าง หรือทางที่ดีหาวิศวกรเป็นที่ปรึกษาซักคน จากนั้นก็หาผู้ออกแบบงานสถาปัตยกรรมและก็งานองค์ประกอบให้เป็นระเบียบ ทำแบบและก็เนื้อหาของงานให้ครบ เพื่อเป็นแถวทางให้ผู้รับเหมาประเมินราคา รวมทั้งก่อสร้างไปตามแบบที่ท่านอยากได้
4. การหาผู้รับเหมาก่อสร้าง
การเลือกผู้รับเหมาก่อสร้าง ไม่ใช่มองเพียงแค่ราคาที่เสนอเพียงแค่นั้น เนื่องจากว่าบ่อยมากผู้รับเหมาจะใช้แนวทางเสนอราคาที่ต่ำเพื่อได้งาน แล้วมานะลดประสิทธิภาพงาน, ประเมินราคาเพิ่มหรือร้ายสุดเป็นทิ้งงาน ด้วยเหตุดังกล่าว ทางในการหาผู้รับเหมา คือหาที่พบเจอผลงาน คือถามจากคนรู้จักชี้แนะ แล้วตามไปดูผลงาน ไต่ถามจากเจ้าของบ้านว่าผู้รับเหมาก่อสร้างรายนี้คืออะไรบ้าง การพูดคุยกันต่อรองราคา รวมทั้งการแบ่งงวดงาน ควรต้องอาศัยวิศวกรมาช่วยคุยเพื่อไม่ให้โดนหลอก
ข้อเสนอแนะสำหรับท่านที่คิดจะต่อเติมบ้าน ทั้งๆที่ยื่นและไม่ยื่นขออนุญาตมีดังนี้เอาใจใส่คนอื่นๆเหมือนกับเอาใจใส่ตัวเองบ้างว่าข้างบ้านจะตกระกำลำบากจากการต่อเติมของเราบ้างหรือไม่ ทั้งยังขณะต่อเติม จะกำเนิดเสียง ฝุ่น ก่อกวนตลอดระยะเวลา รวมถึงภายหลังต่อเติมแล้ว จะไปบังแดด บังลม หรือทำให้น้ำฝนไหลไปท่วมข้างบ้านหรือไม่
ถึงแม้ว่าจะขอถูก การก่อสร้างเพิ่มเติมถ้าไปทำความตกที่นั่งลำบากกับบ้านข้างๆ ก็อาจถูกร้องเรียน หรือฟ้องศาลให้หยุดการก่อสร้างได้
ควรจะผูกสัมพันธ์กับข้างบ้านไว้ให้ดี เพื่อลดความขัดแย้ง ซึ่งจะมีผลให้การก่อสร้างสามารถดำเนินงานให้เสร็จตามที่อยากได้
ก่อนทำการต่อเติม ควรแจ้งเพื่อนบ้านใกล้กันให้รับทราบว่าพวกเราจะต่อเติมอย่างไร จะเสร็จเมื่อไร เพื่อลดการขัดกัน
งานการต่อเติมบ้าน จึงควรอาศัยช่างที่มีความเชี่ยวชาญ ฉะนั้น การคัดเลือกผู้รับเหมาต้องมองให้ดี อย่าใช้ราคาที่เสนอเป็นตัวตัดสิน เนื่องจากอาจมีปัญหาที่แก้กันไม่จบได้ในตอนหลัง
วิถีทางด้านองค์ประกอบ
วิธีการสำหรับในการต่อเติมจะต้องแยกโครงสร้างส่วนต่อเพิ่มใหม่ให้เป็นองค์ประกอบต่างหาก ซึ่งสามารถอยู่ได้โดยตัวเอง การแยกองค์ประกอบจะต้องให้แยกขาดจริงๆโดยจำต้องเว้นให้เกิดช่องว่างระหว่างอาคาร ถ้าเกิดมีพื้นที่เพียงพอ แม้กระนั้นถ้าไม่มีก็ให้กันด้วยโฟม เพื่อไม่ให้มีการเชื่อมต่อของส่วนประกอบเดิมกับโครงสร้างใหม่ ซึ่งรวมทั้งห้ามเชื่อมต่อสิ่งของปูผิว แล้วก็ผนังก็ควรจะเว้นช่องไว้ แล้วอุดด้วยสิ่งของยาแนวจำพวกโพลียูรีเทน เพื่อคุ้มครองป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึม ส่วนหลังติดอยู่ก็ให้ทำปีกนอกยึดติดกับตัวตึกเดิม ยื่นมาหุ้มอาคารที่เพิ่มเติม เพื่อป้องกันน้ำรั่วบริเวณรอยต่อ
เรามีทีมช่างตกแต่งภายในทีมีความชำนาญ จากช่างไม้ที่มีประสบการณ์กว่า30ปี ซึ่งพร้อมที่จะสร้างงานไม้ให้สวยงามเหมาะกับห้องและความต้องการของคุณ เช่น ตู้บิ้วอิน
(1).jpg)
ให้บริการครบวงจรเรื่องบ้าน รับสร้างบ้าน ซ่อมบ้าน ราคาถูก
อีกทั้ง ตกแต่งร้านค้า ตั้งอยู่ที่ Bangkok Thailandใช้บริการกับเราสิ รับแก้ทุกปัญหา ต่อเติม ตกแต่งภานใน renovate บประกันงาน ออกแบบบ้าน ร้านค้า สำนักงาน ตกแต่งภายนอก ต่อรองราคาได้ ราคาถูก
ปัญหาคาใจต่อเติมครัวแล้วทรุดหนึ่งในบรรดาปัญหาบ้านทรุดที่มักคาใจเจ้าของบ้านคือ ภายหลังต่อเติมครัวแล้ว ปานกลางงานไปสักระยะหนึ่ง ห้องครัวส่วนต่อเพิ่มมักจะทรุดหลุดออกมาจากตัวบ้าน...
1. เพราะอะไรจึงทรุด?
บ้านธรรมดามักลงเสาเข็มยาวลึกถึงชั้นดินแข็งจึงได้รับแรงประคอง 2 ส่วนคือ “แรงเสียดทานจากดินอ่อน” และก็ “แรงกดดันจากชั้นดินแข็ง” ในช่วงเวลาที่ครัวส่วนต่อเติมมักลงแค่เสาเข็มสั้น จึงมีแรงประคองเพียงส่วนเดียวเป็นแรงเสียดทานจากดินอ่อนเพียงแค่นั้น รวมทั้งนี่คือเหตุผลหลักที่ทำให้ครัวส่วนต่อเพิ่มยุบเร็วกว่าบ้าน
นอกเหนือจากนี้ แม้กำเนิดเหตุให้ชั้นดินอ่อนยุบตัวเร็ว ตัวอย่างเช่น ความดันน้ำลดลดลงกว่าธรรมดา (มักเกิดรอบๆจ.กรุงเทพฯและก็พื้นที่บริเวณ) ผิวดินพร้อมส่วนต่อเพิ่มที่ลงเสาเข็มสั้นไว้ก็จะทรุดและก็ตามด้วยเช่นกัน
2. ทรุด ร้าว รั่ว
การต่อเติมครัวหรือส่วนต่อเติมอะไรก็ตามนอกเหนือจากการที่จะจำเป็นต้องแยกองค์ประกอบออกมาจากตัวบ้านแล้วควรจะจบงานรอยต่อพื้นแล้วก็ฝาผนังให้ถูกต้องด้วยข้อผิดพลาดที่พบบ่อยคือ ช่างมักก่อฝาผนังหรือหล่อพื้นชนเชื่อมติดกับบ้านเกิด ถัดมาเมื่อพื้นดินทรุดลงจากน้ำหนักกดทับของส่วนต่อเพิ่มเติม (อาจรวมทั้งสาเหตุอื่น เป็นต้นว่า พื้นดินถมไว้ไม่นานเพียงพอ หรือเคยเป็นบ่อสระมาก่อน ฯลฯ) ส่วนต่อเติมก็จะทรุดตามพื้นดินจนมีการฉีกขาดแตกร้าวบริเวณรอยต่อ ทำให้น้ำรั่วซึมเข้ามาได้ง่าย แนวทางที่ถูกต้องเป็นให้ใช้โฟมกั้นระหว่างรอยต่อดังที่กล่าวผ่านมาแล้ว (ทั้งยังพื้นแล้วก็ฝาผนัง) ก่อนที่จะยาแนวด้วย PU หรือ Silicone นอกเหนือจากนี้ เพื่อให้การทรุดตัวเป็นไปอย่างช้าๆบางทีอาจเลือกใช้สิ่งของกับเครื่องเรือนที่มีน้ำหนักค่อย รวมถึงกระจายน้ำหนักเฉลี่ยหลายด้านเพื่อหลีกเลี่ยงการทรุดตัวแบบเอียง
3. ทรุดแบบเอียงๆ!
ถ้าเกิดนำส่วนประกอบของห้องครัวส่วนต่อเพิ่มไปฝากไว้กับภูมิลำเนา ฝั่งด้านนอกซึ่งลงเสาเข็มสั้นจะยุบก่อน ในขณะฝั่งด้านในซึ่งยึดกับองค์ประกอบบ้านเกิดแม้ว่าจะยังไม่ทรุดในทีแรกๆ แต่ว่าในภายหลังก็จะฉีกให้ขาดออกมาในที่สุด แปลงเป็นการทรุดตัวแบบเอียงซึ่งอันตรายในด้านส่วนประกอบ และก็นับคือปัญหาที่ปรับปรุงแก้ไขได้ยากมากมาย
4. ทำเช่นไรไม่ให้ทรุด?
บ้านทรุดหรือส่วนต่อเพิ่มทรุดนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามธรรมดา เนื่องจากว่าสิ่งปลูกสร้างย่อมมีการทรุดเป็นปกติ แต่การทรุดตัวจะเกิดขึ้นน้อยมากหรือเกือบจะไม่ทรุดเลย แม้ลงเสาเข็มยาวถึงชั้นดินแข็ง สำหรับกรณีมีพื้นที่จำกัด อาจลงทุนเลือกใช้เสาเข็มแบบ Micro Pile เพื่อความสบายสำหรับในการก่อสร้าง แล้วก็ความแข็งแรงมั่นคงของส่วนต่อเพิ่มเติม
วิธีป้องกัน กระแสไฟฟ้ารั่ว เพื่อให้มีความปลอดภัย สำหรับในการใช้งาน
ไฟฟ้าที่พวกเราใช้กันในบ้านนับว่าเป็นความจำเป็น เนื่องจากช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้พวกเราสามารถใช้ชีวิตได้ง่ายยิ่งขึ้น แม้กระนั้นยังไงก็จำต้องไม่ลืมที่จะระแวดระวังในการเรื่องเครื่องใช้งาน ดังนั้นเพื่อให้มีความปลอดภัย พวกเรามาดูวิธีการป้องกันอันตรายจาก กระแสไฟฟ้ารั่ว กันเลยดีกว่าว่าจะมีอะไรบ้าง
1.ถ้าตกอยู่ในสถานการณ์รีบด่วนหรือจำเป็น คิดว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้งานมีไฟรั่ว ทางที่ดีใช้ไขควงเช็คจุดที่สัมผัสก่อน ถ้าหากพบว่าไม่มีไฟรั่วก็เลยสามารถจับต้องได้
2.ติดตั้งระบบไฟฟ้าที่มีสายดิน กระแสไฟรั่วจะไหลไปตามสายดิน ซึ่งช่วยคุ้มครองป้องกันอันตรายได้
3.จัดตั้งเครื่องตัดไฟรั่ว ตัวเครื่องจะป้องกันสำหรับตัดไฟรั่ว เมื่อค่ากระแสไฟถึงเกณฑ์ที่กำหนด
4.เพื่อความปลอดภัยสำหรับการใช้งาน ถ้าเกิดร่างกายของเรามีความเปียกแฉะ ไม่สมควรจับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆเนื่องจากว่าอาจจะทำให้ทำให้เป็นอันตรายได้
5.ใช้อุปกรณ์ที่เป็นฉนวนไฟฟ้าปูพื้น ถ้าหากจำเป็นจะต้องสัมผัสอุปกรณ์ไฟฟ้าให้ยืนบนฉนวน เพื่อความปลอดภัย
รอยต่อเติม ที่มักเกิดปัญหาวันหลังทางเข้าหลักหน้าบ้าน
บ้านจัดสรรส่วนมากมักดีไซน์พื้นที่ตรงนี้เป็นเพียงพื้นที่ปูกระเบื้องยกฐานะขึ้นมาโดยประมาณ 20 – 30 เซนติเมตรก่อนจะเข้าตัวบ้าน รวมทั้งมักมีเสาขนาดใหญ่ทั้งสองข้างเป็นตัวระบุขอบเขตการใช้งาน ว่าไปแล้วพื้นที่ที่ตรงนี้ทำอะไรได้ไม่มากสักเท่าไรนัก ด้วยเหตุว่าด้วยขนาดที่เล็กรวมทั้งเป็นฟุตบาทเข้า-ออกบ้าน ส่วนมากก็เลยจะต่อเติมในลักษณะของการเพิ่มระเบียงให้สามารถใช้งานได้มากขึ้น
กรณีนี้เราอยากได้พื้นที่ระเบียงที่อยู่รอบๆก่อนเข้าตัวบ้านมากยิ่งขึ้น เพื่อการนั่งพักผ่อนสบายๆยามเย็น หรือใช้รับรองแขกถ้าเกิดมีงานสังสรรค์ที่บ้าน แนวคิดในการดีไซน์ก็เลยเป็นการต่อเติมส่วนของระเบียงไม้ สร้างสวนแนวดิ่ง พร้อมด้วยแนวกำแพงทึบที่แนวรั้ว เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้บริเวณนี้
– ส่วนประกอบและก็อุปกรณ์
จำต้องแยกคานส่วนประกอบส่วนที่ต่อเติมออกจากส่วนเดิมของบ้าน กรณีนี้บางทีอาจใช้เสาเข็มสั้นราวๆ 2 – 3 เมตรรับน้ำหนักก็น่าจะพอเพียง ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ส่วนต่อเพิ่มเติมจำเป็นที่จะต้องตัดขาดจากส่วนตึกเดิมเหมือนกัน ส่วนที่เป็นหลักไม้อาจใช้ไม้สังเคราะห์หรือไม้จริงก็ได้ สุดแท้แต่ความชื่นชอบรวมทั้งความเหมาะสม ส่วนฝาผนังกรุหินที่อยู่ตรงข้ามประตูปากทางเข้าอาจจะต้องก่อฝาผนังเพิ่มนิดหน่อย เพื่อเกิดการล้อมที่เหมาะกับพื้นที่พักจริงๆ
มีหลายบ้านที่ประสบพบเจอปัญหานี้ คือการที่พื้นที่ข้างบ้านมีขนาดกว้างพอที่จะจัดสวนหรือมีระเบียงไม้นั่งเล่นสบายๆได้ แต่ว่าเพราะเหตุใดช่องเปิดที่ให้มากลับเป็นหน้าต่างเล็กๆที่มองออกไปได้เท่านั้น จะออกไปหนก็จะต้องเดินอ้อมไปออกทางหน้าบ้านแล้วก็มายังสวนนี้
– การใช้งาน
ถ้าต้องการความสะดวกและช่องเปิดที่ใหญ่ขึ้น ก็ควรต้องแปลงจากหน้าต่างเล็กเปลี่ยนเป็นประตูบานเปิดหรือบานเลื่อนก็ได้ สร้างระเบียงไม้พร้อมระแนงบังแดดเพื่อสร้างส่วนพักผ่อนนอกบ้าน ทั้งยังช่วยเชื่อมความข้องเกี่ยวระหว่างภายในกับภายนอกให้สนิทสนมกันมากเพิ่มขึ้นด้วย
– องค์ประกอบและก็สิ่งของ
ถ้ากลัวว่าจะเกิดการทรุดอาจใช้เสาเข็มสั้นราวๆ 2 – 3 เมตรรับน้ำหนัก ส่วนส่วนประกอบที่รองรับพื้นไม้นั้นเป็นโครงคร่าวๆเหล็กที่ทาหรืออบน้ำยาป้องกันการเป็นสนิมแล้ว เพื่อความคงทนต่อฝนแล้วก็ความชุ่มชื้นมากกว่าโคร่งคร่าวๆไม้ และไม่ควรให้สัมผัสพื้นดินโดยตรง ส่วนเสาที่ปฏิบัติภารกิจรับระแนงไม้ด้านบนเป็นเหล็กกล่องขนาด 15 x 15 ซม. ทาสีป้องกันสนิมและก็โทนสีที่อยาก ตรอกด้วยเหล็กกล่องขนาด 5 x 5ซม. ห่างกันทุก 60 เซนติเมตรเพื่อติดตั้งไม้ระแนง
ครัวเป็นสิ่งหนึ่งที่คนมักเพิ่มเติมเพื่อการใช้แรงงานที่สบายขึ้น เพราะลักษณะของครัวบ้านจัดสรรมักมีฝาผนังรอบด้าน มีหน้าต่างระบายอากาศเพียงเล็กน้อย แถมยังมีประตูที่เชื่อมต่อกับด้านในภายโดยตรงด้วย จึงอาจมีปัญหาด้านกลิ่นก่อกวนได้
– การใช้แรงงา
