เสาวรส สรรพคุณเเละประโยชน์

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เสาวรส สรรพคุณเเละประโยชน์  (อ่าน 14 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มม
หัดขับ
*

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 41


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: ธันวาคม 05, 2018, 03:45:53 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement



เสาวรส
ชื่อสมุนไพร  เสาวรส[/size][/b]
ชื่ออื่นๆ / ชื่อท้องถิ่น  สุคนธรส (ภาคกลาง) , กะทกรกฝรั่ง กะทกรกสีดา , กะทกรกยักษ์ (ทั่วไป)
ชื่อวิทยาศาสตร์            Passiflora edulis Sims. (พันธุ์สีม่วง)
Passiflora edulis f. flavicarpa O. Deg. (พันธุ์สีเหลือง)
ชื่อสามัญ  Passion fruit  , Yellow granadilla , Jamaica honey-suckle
วงศ์      Passifloraceae
ถิ่นกำเนิด 

เสาวร มีบ้านเกิดในทวีปอเมริกาใต้ในประเทศบราซิลขว้างรากวัย แล้วก็ประเทศอาร์เจนตินา แล้วมีการกระจายจำพวกโดยการนำเสาวรสไปปลูกเพื่อคุณประโยชน์เชิงพาณิชย์ในหลายประเทศทั่วทั้งโลก อาทิเช่น อินเดีย นิวซีแลนด์ อินโดนีเซียเปอร์โตริโก สาธารณรัฐโดมินิกัน อเมริกาประเทศออสเตรเลีย อิสราเอล คอสตาริกา แอฟริกาใต้ประเทศโปรตุเกสรวมถึงประเทศแถบทะเลแคริบเบียนและแอฟริกาทิศตะวันออก
สำหรับในประเทศไทย เสาวรสถูกนำเข้ามาทดสอบปลูกทีแรกในภาคเหนือ ราวปี พ.ศ. 2498 เดี๋ยวนี้ พบปลูกมากมายในภาคเหนือ รวมทั้งภาคตะวันออก ในแถบจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน จังหวัดเพชรบูรณ์ ระยอง รวมทั้งชลบุรี
 
ลักษณะทั่วไป
 
เสาวรสจัดเป็นไม้เถาเลื้อยขนาดใหญ่ ส่วนโคนเป็นไม้เนื้อแข็ง อายุนับเป็นเวลาหลายปี สามารถเลื้อยได้ไกลถึง 12 เมตร มีมือเกาะ ใบลำพัง รูปคล้ายโล่ หรือรูปไข่ ออกเรียงสลับกัน ขอบใบมักเว้าลึกเป็น 3 พูปลายใบแหลม หรือเรียวแหลม โคนใบกลม หรือรูปหัวใจเว้าตื้น เนื้อใบออกจะเหนียว ขอบใบจะฟันเลื่อย มีเส้นใบ 3 เส้น ออกมาจากโคนใบก้านใบยาว 4-4.5 ซม. ที่ปลายก้านมีต่อม หูใบรูปหอก ขอบเรียบ หรือจักฟันเลื่อย
ดอกเสาวรสจัดเป็นดอกบริบูรณ์เพศ สามารถผสมเกสรด้วยตัวเองได้ดี ตัวดอกแทงออกเป็นดอกคนเดียว ดอกแทงออกรอบๆซอกใบตามเถา ประกอบด้วยกลีบเลี้ยง ข้างนอกกลีบเลี้ยงมีสีเขียว ข้างในมีสีขาว และก็กลีบดอกสีครีมอมม่วง 5 กลีบ กลีบดอกไม้เรียงสลับเป็น 2 ชั้นถัดมาภายในมีฝอยเป็นเส้นล้อมเป็นวงกลมเป็นจำนวนมาก โคนฝอยมีสีม่วง ปลายฝอยมีสีขาวตรงกลางดอกมีเกสรตัวผู้ 5 อัน ส่วนเกสรตัวเมียมีปลายแยกเป็น 3 แฉก เมื่อบานจะส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ
ผลเสาวรสออกเป็นผลเดี่ยวผลมีรูปทรงกลมหรือรูปไข่ และอวบน้ำ ขนาดผลราวๆ 5-7 เซนติเมตร มีน้ำหนักผลโดยประมาณ 35-115 กรัม ขึ้นอยู่กับขนาดผล ส่วนสีเปลือกไม่เหมือนกันตามสายพันธุ์ เป็นต้นว่า พันธุ์สีม่วงจะมีเปลือกสีม่วงเข้ม ส่วนชนิดสีเหลืองจะมีเปลือกสีเหลืองสด เปลือกผลทุกชนิดค่อนข้างครึ้ม และก็ เป็นมัน ข้างในผลประกอบด้วยเมล็ดเยอะมาก
ส่วนพันธุ์ที่พบในประเทศไทยและก็นิยมปลูกกันมากมาย มี 3 ชนิด
1. ชนิดผลสีม่วง ( Passiflora edulis) ประเภทผลสีม่วงในธรรมชาติมักพบในที่สูงราว 1,000-2,000 เหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งมีอากาศออกจะหนาวเย็นตลอดระยะเวลา ทำให้ผลมีขนาดเล็ก เมื่อผลสุกจะมีสีม่วงเข้มผิวเป็นเงา น้ำจาก จำพวกผลสีม่วง มีรสชาติดียิ่งกว่าชนิดผลสีเหลือง มีกรดต่ำสีงามแล้วก็หวาน จึงเหมาะสำหรับรับประทาน ผลสดจุดอ่อนของจำพวกนี้เป็น ค่อนข้างจะอ่อนแอต่อโรค
2. ชนิดผลสีเหลือง (Passiflora edulis, var flaicarpa) จำพวกผลสีเหลือง ตามธรรมชาติเจอขึ้นตามพื้นที่สูงในแถบประเทศชายฝั่งทะเลที่มีความสูงตั้งแต่ 800 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ผลมีลักษณะเด่น คือ ผลมีขนาดใหญ่เมื่อผลสุกจะมีสีเหลืองขมิ้น ผิวเป็นมัน น้ำคั้นของพันธุ์นี้ มีกรดมาก ซึ่งมีpH น้อยกว่า 3 เหมาะสำหรับส่งเข้าโรงงานเพื่อแปรรูปมากยิ่งกว่าการ รับประทานผลสด ข้อดีของประเภทนี้คือ ได้ผลดกและก็มีแรงต้านทานโรคและแมลงสูงขึ้นยิ่งกว่าพันธุ์ผลสีม่วง
3. จำพวกลูกผสม เป็นพันธุ์ที่เกิดขึ้นจากการผสมระหว่างพันธุ์ผลสีม่วงกับประเภทสีเหลือง เพื่อคัดเลือกต้นชนิดใหม่ ที่รวมลักษณะผลที่เด่นของแต่ละจำพวกไว้ ทำให้มีลักษณะผลใหญ่ ให้ผลดก มีรกห่อหุ้ม เมล็ดมากมายเปลือกบาง ต้านทานโรค และมีช่วงสำหรับในการให้ผลที่นาน พันธุ์นี้จะให้ทั้งผลที่มีสีม่วงแล้วก็ผลสีเหลือง สามารถเก็บผลิตผลได้ตลอดทั้งปี
 
การขยายพันธุ์
 
[url=https://www.disthai.com/17031928/%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%AA]เสาวรส
สามารถเจริญวัยก้าวหน้าในสภาพภูมิอากาศของเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นเขตอากาศเย็นทางภาคเหนือ หรือเขตอากาศร้อนชื้นทางภาคกึ่งกลางรวมทั้ง ภาคตะวันออก ซึ่งเป็นพืชที่ปลูกได้ง่าย การดูแลรักษาไม่ยุ่งยาก แต่ว่าให้ผลผลิตต่อไร่สูง
ส่วนการขยายพันธุ์เสาวรสสามารถเพาะพันธุ์ได้จากต้นกล้าที่เพาะเม็ด รวมทั้งต้นกล้าที่ได้จากการปักชำหรือการตอนเถา แต่ว่าโดยมากนิยมนำมาปลูกจากเม็ดมากที่สุด โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้
การเตรียมเม็ด เม็ดที่ใช้เพาะกล้า ควรเลือกจากผลเสาวรสที่ส่งผลขนาดใหญ่ ผลมีความสมบูรณ์ เปลือกผลเป็นเงาวาว ไม่มีรอยกัดเล็มของแมลง โดยนำเมล็ดมาใส่ผ้าขาวบางแล้วนำไปขยี้ให้น้ำ และก็เยื่อหุ้มห่อเมล็ดหลุดออกมาจากเมล็ด แล้วหลังจากนั้นนำเม็ดมาล้างชำระล้าง ก่อนที่จะนำเมล็ดมาตากตากแดดให้แห้ง นาน 5-7 วัน เก็บพักไว้ภายในที่ร่มนาน 1-2 เดือน ค่อยเอามาเพาะ ภายหลังจากพักเม็ดไว้ 1-2 เดือนแล้ว ก่อนเพาะให้นำเมล็ดมาแช่น้ำไว้ 1 คืน การเพาะเม็ดบางทีอาจเพาะในถุงเพาะชำได้โดยตรง หรือหยอดเพาะในกระบะเพาะก่อน และหลังจากนั้นก็ค่อยแยกลงเพาะต่อในถุงเพาะชำได้
การเตรียมแปลงปลูก การปลูกเสาวรสในแปลงใหญ่จำนวนหลายต้นควรต้องจัดแจงแปลงก่อน โดยการไถกระพรวนดิน 1-2 รอบ พร้อมกำจัดวัชพืชออกให้หมด ต่อจากนั้น ขุดหลุมปลูกขนาดโดยประมาณ 30 ซม. โดยให้ลึกราว 30 ซม. ระยะห่างระหว่างแถว แล้วก็ระยะห่างระหว่างต้นหรือหลุม ประมาณ 2-3 เมตร จากนั้น ปลดปล่อยหลุมผึ่งแดดไว้ 3-5 วัน
ขั้นตอนการปลูก ก่อนปลูก ให้โรยตูดหลุมด้วยปุ๋ยคอก 3-5 กำมือ และปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 โดยประมาณ 1 ถือมือ ก่อนคลุกหน้าดินลงผสม ก่อนฉีกถุงดำออก แล้วนำต้นกล้าเสาวรสลงปลูกลงในหลุม พร้อมกลบดินให้แน่นพอควร แล้ว นำไผ่มาปักข้างหลุม เพื่อให้ลำต้นอิงเติบโตสักระยะ
กระบวนการทำค้าง เป็นสิ่งสำคัญ เพราะว่าเสาวรสเป็นไม้เถาเลื้อย จึงควรเกาะเลื้อยตามสิ่งของต่างๆการเตรียมค้าง ควรจะเตรียมหลังการขุดหลุมปลูกเสร็จหรือทำร่วมกับการขุดหลุมปลูก หรือบางทีอาจทำหลังการปลูก แม้กระนั้นควรระวังไม่ให้ต้นประเภทเกิดอันตรายขณะทำค้าง
การเตรียมค้างทำเป็นโดยการใช้เสาคอนกรีตหรือเสาไม้มาฝังใกล้กับต้นเสาวรสตามแนวยาวของแถว หลังจากนั้น ใช้ลวดกางโยงแต่ละเสาตามแนวยาว แล้วค่อยขึงโยงตัดตามแนวขวางให้เป็นตารางสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดราวๆ 50×50 เซนติเมตร
 
องค์ประกอบทางเคมี
 
ในน้ำเสาวรสเจอสาระสำคัญ เป็นต้นว่า Carotenoid (คาโรทีนอยด์) Pectin methyhesterase (เอนไซม์ เพคทนเมทิลเอสเตอเรส) Catalase (ติดอยู่ทาเลส) Leucine (ลิวซีน) Valine (วาลีน) Tyrosine (โทโรซีน) Prline (โพรลีน) Threonine (ทรีโอนีน) Glycine (ไกลซีน) Aspertic acid (กรดแอสพาร์ทิก) Arginine (อาร์จินีน) Lysine (ไลซีน) Alkalod (อัลคาลอยด์) ส่วนค่าทางโภชนาการของเสาวร
คุณประโยชน์/สรรพคุณ
เมล็ดพร้อมเยื่อห่อเมล็ดนำมาคั้นหรือปั่นเป็นน้ำผลไม้ดื่ม ให้รสเปรี้ยวจัด หรือปั่นผสมกับผลไม้อื่นที่มีรสหวาน เพื่อเพิ่มความหวาน อาทิเช่น ประเทศทางแถบอเมริกาใต้นิยมนำเยื่อหุ้มห่อเม็ด รวมทั้งเปลือกมาปั่นผสมกับน้ำตาล ได้เครื่องดื่มที่เรียกว่า refresco หรือใช้ผสมกับน้ำผลไม้จำพวกอื่น อย่างเช่น น้ำแอปเปิ้ล น้ำส้ม น้ำสัปปะรด น้ำพีช ฯลฯ โดยอัตราการผสมน้ำเสาวรสราวๆ 5 หรือ 10 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมหวนและก็รสที่ดี ซึ่งเป็นที่นำยมกันอย่างแพร่หลายในต่างถิ่น เพราะว่านอกเหนือจากทำให้เครื่องดื่มมีกลิ่นหอมหวนแล้วก็รสที่ดียิ่งขึ้นแล้ว ยังมีคุณค่าทางของกินสูง แล้วก็น้ำเสาวรสยังสามารถเอาไปใช้แต่งกลิ่นแล้วก็รสของไอติม เค้ก เยลลี่ เชอร์เบท พาย ลูกอมเหล้าองุ่น เป็นต้น
แล้วก็เยื่อห่อเม็ดยังแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆอาทิ เสาวรสผง แยมเสาวรส รวมทั้งเยลลี่เสาวรส ส่วนเปลือกเสาวรสมีคาร์โบไฮเดรต และโปรตีนสามารถเอามาตากแห้งหรือใช้สดเป็นของกินเลี้ยงวัว ควาย แกะแพะ รวมทั้งหมู ได้
นอกนั้นยังมีการนำเสาวรสเอามาสกัดสารสำหรับเป็นส่วนประกอบของเครื่องแต่งตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งครีมสำหรับบำรุงผิว ด้วยเหตุว่าประกอบด้วยสารที่สามารถสะท้อนรังสียูวีได้ และก็ในงานค้นคว้าวิจัยได้เจาะจงไว้ว่า เสาวรสอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ แร่ธาตุ วิตามินแล้วก็เส้นใย ในขณะเสาวรส 100 กรัม ให้พลังงานแค่เพียง 51-60แคลอรีแค่นั้น รวมทั้งเสาวรส100 กรัม ให้วิตามินซีถึง 30 มิลลิกรัม การกินเสาวรสบ่อยๆแล้วจะไกลห่างจากไข้หวัด แล้วก็ยังช่วยทำให้มีภูมิคุ้มกันโรคที่แข็งแรง
เสาวรสดีต่อการขับถ่าย เนื่องจากว่ามีไฟเบอร์สูง จึงสามารถช่วยกำจัดคอเลสเตอรอลในร่างกายได้ ทั้งยังช่วยขับพิษในไส้ คุ้มครองปกป้องโรคมะเร็งไส้อีกด้วย
เสาวรสบำรุงสายตาได้ดีเยี่ยม เนื่องจากว่าอุดมไปด้วยวิตามินเอ รวมทั้งยังมีสารฟลาโวนอยด์อย่างเบต้าแคโรทีนรวมทั้งคยึดโทแซนทินเบต้า(cryptoxanthin-ß) ซึ่งสารเหล่านี้มีคุณสมบัติของสารต้านอนุมูลอิสระ ควบคู่ไปกับวิตามินเอที่ช่วยบำรุงรักษาสายตาได้อย่างดีเยี่ยม
ส่วนสรรพคุณตามตำรายาไทยระบุไว้ว่า ยอด สามารถรับประทานเป็นผักสด แต่จะมีรสขมนิดหน่อยบางทีอาจเอามาจิ้มน้ำพริกหรือนำไปแกงยอดเสาวรสก็ได้ เนื้อไม้ ใช้เป็นยาควบคุมธาตุ ถอนพิษ และก็ใช้รักษาบาดแผล ราก แก้ไข้ รักษาผื่นคัน รวมทั้งรักษาโรคกามโรค โดยนำรากไปต้มน้ำใบ นำมาตำแล้วคั้นมัวแต่น้ำ กินเป็นยาถ่ายพยาธิได้ ดอกขับเสมหะ แก้ไอ ผลแก่ ใช้คั้นเอาน้ำเป็นน้ำผลไม้ช่วยลดไขมันในเลือดเป็นยาระบาย รวมทั้งยังมีคุณประโยชน์ ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ ลดความดับโลหิต และโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
แบบ / ขนาดวิธีใช้
ปกติแล้ว ชอบนำเสาวรสสุกมาทำเป็นน้ำผลไม้หรือใช้รับประทานสดๆก็สามารถได้ประโยชน์จากสารออกฤทธิ์ต่างๆของเสาวรสแล้วส่วนในคัดค้านการนำมาใช้เป็นสมุนไพรก็มีการมาใช้ เช่น นำรากเสาวรสไปต้มแล้วใช้ดื่มช่วยแก้ไข้ รักษาตามโรค แก้ผื่นคัน หรือนำใบมาต้มกับน้ำใช้กินสามารถใช้เป็นยาถ่ายพยาธิได้ หรือจะใช้เนื้อในของผลสุกมาทำเป็นน้ำผลไม้ดื่ม จะช่วยลดไขมันในเลือด ลดความดันเลือดและช่วยทำให้ระบายได้ ฯลฯ
การเรียนทางเภสัชวิทยา
 
สำหรับการทดลองฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในหลอดทดลอง (in vitro) พบว่า สารสกัดเอทานอล 80% จากเนื้อหุ้มห่อเม็ดของเสาวรสทั้งชนิดผลสีม่วงรวมทั้งผลสีเหลืองมีฤทธิ์ต้านทานอนุมูลอิสระเมื่อทดลองด้วยแนวทาง 2,2-azino-bis (3-ethylbenzthiazoline-6-sulphonic acid) decolorization assay (ABTS assay), H2O2 scavenging assay และ 2,2-diphenyl-1-picrylhydrazyl radical scavenging capacity assay (DPPH assay) จากผลการศึกษาเรียนรู้ดังที่กล่าวมาแล้วชี้ให้เห็นว่า น้ำเสาวรสมีคุณค่าทางโภชนาการรวมทั้งมีฤทธิ์ต้านทานอนุมูลอิสระ เหมาะสำหรับใช้เป็นเครื่องดื่มสำหรับดูแลสุขภาพ ใยอาหารส่วนที่ไม่ละลายน้ำ (insoluble fiber-rich fraction) จากเมล็ดเสาวรสมีฤทธิ์ลดไขมันในเลือด เมื่อทดลองผสมลงในของกินที่มีไขมันสูง (hypercholesterolemic diet) ปริมาณ 5% แล้วก็ใช้เลี้ยงหนู แฮมสเตอร์นาน 30 วันพบว่า ไตรกลีเซอไรด์รวมทั้งคอเลสเตอรอลในเลือดแล้วก็ในตับหนูลดลงอย่างเป็นจริงเป็นจัง รวมทั้งพบว่ามีไขมันในน้ำดีแล้วก็ในอุจจาระที่ขับถ่ายออกมามากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม แล้วก็สำหรับการป้อน น้ำคั้นเสาวรสชนิดเปลือกสีเหลืองให้แก่หนูแรทขนาด 1,000 มิลลิกรัม/กก. วันละ 2 ครั้ง นานต่อเนื่องกัน 28 วัน มีผลลดค่าไขมันแล้วก็ LDL (low-density lipoprotein) ใน เลือดรวมทั้งเพิ่มค่า HDL (high-density lipoprotein) ยิ่งกว่านั้นยังส่งผลลดค่า thiobarbituric acid reactive substance (TBARS) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึง การเกิดปฏิกิริยาขบวนการออกซิเดชันของไขมัน (lipid peroxidation) ทำให้เห็นว่าเม็ดเสาวรสรวมทั้งน้ำจากส่วนเยื่อหุ้มห่อเม็ดมีฤทธิ์ลดไขมันในเลือด และก็ต้านการเกิดอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาออกซิเดชันของไขมันได้ นอกเหนือจากนี้การป้อนส่วนเนื้อหุ้มห่อเม็ดของเสาวรสประเภทเปลือกสีเหลืองให้แก่หนูแรทที่มีภาวะความดันโลหิตสูง ขนาดวันละ 5 – 8 ก./กก. นานต่อเนื่องกัน 5 วัน ส่งผลทำให้ค่าความดันโลหิตขณะหัวใจบีบตัวลดน้อยลง รวมทั้งพบว่าระดับglutathione ในเยื่อไตสูงขึ้น แล้วก็สามารถยับยั้งการเกิดสาร TBARS สำเร็จการทดสอบดังที่กล่าวถึงมาแล้วทำให้เห็นว่าส่วนเนื้อห่อหุ้มเม็ดของเสาวรสมีฤทธิ์ลดระดับความดันโลหิตรวมทั้งฤทธิ์ต้านการเกิดอนุมูลอิสระ
 
การเล่าเรียนทางคลินิก
การเรียนรู้ฤทธิ์

 
ต้านทานอนุมูลอิสระของน้ำคั้นเสาวรสในกลุ่มอาสาสมัครคนวัยแก่ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) ที่มีสุขภาพแข็งแรงและไม่มีภาวการณ์ของโรครุนแรงปริมาณ 60 คน ทั้งเพศชายและหญิง โดยให้อาสาสมัครดื่ม น้ำคั้นเสาวรสอีกทั้งจากประเภทผลสีม่วงแล้วก็ผลสีเหลืองวันละ 1 แก้ว (โดยประมาณ 125 มิลลิลิตร) ภายหลังจากรับประทาน อาหารกลางวัน นานต่อเนื่องกัน 4 สัปดาห์เก็บเนื้อเก็บตัวอย่างเลือดของอาสาสมัครทั้งตอนก่อนรวมทั้งหลังกินน้ำคั้น เสาวรส เพื่อตรวจวัดค่าทางชีวเคมีในเลือดรวมทั้งเปรียบผลการเปลี่ยน ผลจากการศึกษาเล่าเรียนพบว่า การดื่มน้ำคั้นเสาวรสอีกทั้งประเภทผลสีม่วงรวมทั้งสีเหลืองมีผลทำให้จำนวนวิตามินเอและก็วิตามินอีในร่างกาย เพิ่มสูงมากขึ้น รวมทั้งส่งผลเพิ่มลักษณะการทำงานของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีที่เกี่ยวกับขั้นตอนต้านทานการเกิดอนุมูลอิสระ เช่น superoxide dismutase (SOD) และ catalase ยิ่งกว่านั้นยังมีผลยั้งการแสดงออกของโปรตีนที่เกี่ยวพัน ในขั้นตอนอักเสบเป็น interleukin-6 (IL-6) และก็ tumor necrosing factor-α (TNF-α) อีกด้วย
ส่วนการศึกษาเล่าเรียนทางคลินิกอีกชิ้นหนึ่งบอกว่าการทดสอบโดยให้อาสาสมัคร 9 คน(อีกทั้งชายและหญิง) ที่แก่ระหว่าง 20-35 ปี กินแคปซูลสารสกัดน้ำหรือชา (เข้มข้น 10%) จากส่วนใบเสาวรส วันละ 4 แคปซูลก่อนอน ติดต่อกันนาน 1 สัปดาห์ พบว่าไม่ได้มีความแตกต่างอย่างเป็นจริงเป็นจังระหว่างอาสาสมัครกลุ่มที่ระบบประทานแคปซูลเสาวรสแล้วก็กรุ๊ปที่ได้รับยาหลอกในเรื่องผลการนอน กลับพบว่าอาสาสมัครกรุ๊ปที่ระบบประทานแคปซูลเสาวรสบางรายมีค่าโปรตีนรวมทั้งโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีที่เกี่ยวเนื่องกับรูปแบบการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ ไตและตับเพิ่มสูงมากขึ้นดังเช่นว่า bilirubin, uric acid, creatinine phosphokinase และก็ glutamic-oxaloacetic transaminase
 
ข้อเสนอแนะ / สิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวัง
 
1. การรับประทานเสาวรสอาจส่งผลให้เป็นผลใกล้กัน อาทิเช่น หน้ามืดศีรษะ รู้สึกงงเต็ก กล้ามเนื้อปฏิบัติงานไม่ปกติ ระดับความรู้สึกตัวเปลี่ยนไป เส้นโลหิตอักเสบ บางรายพบกล่าวว่ามีอาการอ้วก อาเจียน ง่วงซึม หัวใจเต้นเร็วหรือเต้นแตกต่างจากปกติ
2. จากการทดสอบในหลอดทดสอบ (in vitro) น้ำคั้นเสาวรสมีฤทธิ์ยับยั้ง เอนไซม์CYP450 จำพวกCYP3A4 เมื่อทดลองบนเซลล์human liver microsomes ฉะนั้นจึงต้องควรรอบคอบ การกินน้ำคั้นเสาวรสร่วมกับกรุ๊ปแผนปัจจุบันที่จำต้องอาศัยเอนไซม์ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นในขั้นตอนการเผาผลาญยา
3. หญิงมีครรภ์ไม่ควรรับประทานเสาวรสเพราะว่าสารเคมีบางตัวในเสาวรสอาจก่อให้มดลูกหดตัว
4. ผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดควรหยุดรับประทานเสาวรสขั้นต่ำ 2 สัปดาห์ เนื่องจากเสาวรสอาจมีผลต่อระบบประสาทศูนย์กลางซึ่งบางทีอาจไประงับฤทธิ์ยาสลบหรือยาตัวอื่นต่อสมองในช่วงผ่าตัดรวมทั้งภายหลังจากผ่าตัดได้
 

เอกสารอ้างอิง

  • ศุภวัชร สิงห์ทอง, เสนีย์ เครือเนตร, ศุภพงษ์ อาวรณ์. ผลของน้ำเสาวรสต่อการต้านอนุมูลอิสระและต้าน การอักเสบในผู้สูงอายุและในหลอดทดลอง. กรุงเทพมหานคร : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย; 2557. Report No. RDG5420047.
  • การใช้สมุนไพร.กระดานถาม-ตอบ สำนักงานข้อมูลสมุนไพร มหาวิทยาลัยมหิดล.ธิดารัตน์ จันทร์ดอน.ผลไม้โครงการหลวงกับงานวิจัยเกี่ยวกับสุขภาพ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
  • "Passion Fruit: Background, Nutrition, Preparation". Exotic Fruit for Health. 25 August สืบค้นเมื่อ 18 September 2011.
  • เสาวรส/กะทกรกฝรั่ง สรรพคุณและการปลูกเสาวรส.พืชเกษตรดอทคอมพิชานันท์ ลีแก้ว . เสาวรส ผลไม้สำหรับผู้รักสุขภาพ. สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล.https://www.disthai.com/[/b]
  • เสาวรส.ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.Mallhi TH, Sarriff A, Adnan AS, Khan YH, Qadir MI, Hamzah AA, et al. Effect of fruit/vegetable-drug interactions on CYP450, OATP and p-glycoprotein: A systematic review. Trop J Pharm Res. 2015;14(10):1927-35.
  • de Souza Mda S, Barbalho SM, Damasceno DC, Rudge MV, de Campos KE, Madi AC, et al. Effects of Passiflora edulis (yellow passion) on serum lipids and oxidative stress status of Wistar rats. J Med Food. 2012;15(1):78-82.
  • Patel SS. Morphology and pharmacology of Passiflora edulis: a review. J Herb Med Toxicol. 2009;3(1):1-6
  • Konta EM, Almeida MR, do Amaral CL, Darin JD, de Rosso VV, Mercadante AZ. Evaluation of the antihypertensive properties of yellow passion fruit pulp (Passiflora edulis Sims f. flavicarpa Deg.) in spontaneously hypertensive rats. Phytother Res. 2014;28(1):28-32.
  • Chau CF, Huang YL. Effects of the insoluble fiber derived from Passiflora edulis seed on plasma and hepatic lipids and fecal output. Mol Nutr Food Res. 2005;49(เจ๋ง:786-90
  • Tala Y, Anavia S, Reismana M, Samachb A, Tirosha O, Aron M, et al. The neuroprotective properties of a novel variety of passion fruit. Journal of Functional Foods 2016;23:359- 69.
  • Hidaka M, Fujita K, Ogikubo T, Yamasaki K, Iwakiri T, Okumura M, et al. Potent inhibition by star fruit of human cytochrome P450 3A (CYP3A) activity. Drug Metab Dispos. 2004;32(6):581-3




GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ