สรรพคุณเเละประโชน์ ชุมเห็ดเทศ

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรรพคุณเเละประโชน์ ชุมเห็ดเทศ  (อ่าน 5 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Jeatnarong9898
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 24436


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: ธันวาคม 05, 2018, 06:42:34 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


ชุมเห็ดเทศ
ชื่อสมุนไพร  ชุมเห็ดเทศ
ชื่ออื่นๆ / ชื่อท้องถิ่น ขี้คาก , ลับมืนหลวง , หมากกะลิงเทศ ,หญ้าเล็บมือหลวง (ภาคเหนือ) , ส้มเห็ด (เชียงราย) ,จุมเห็ด (มหาสารคาม) , ชุมเห็ดใหญ่ (ภาคกลาง) , ตะสีพอ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) , ตุ๊ยเฮียะเต่า , ฮุยจิวบักทง (จีน) , ตุ้ยเย่โต้ว (จีนกลาง)
ชื่อวิทยาศาสตร์  Senna alata (L.) Roxb.
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์  Cassia alata (L.) Roxb. , Cassia bracteata L.f.
ชื่อสามัญ  Acapulo, Candelabra bush, Candle bush, Ringworm bush
วงศ์  FABACEAE (LEGUMINOSAE ) - Caesalpinioideae
ถิ่นกำเนิด
ชุมเห็ดเทศ มีบ้านเกิดเมืองนอนในเขตร้อนของทวีปแอฟริกา อเมริกาออสเตรเลีย และเขตร้อนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับในประเทศไทย สามารถพบได้มากในประเทศไทย ตามที่ชุ่มชื้น ทุกภาวะดินแม้กระนั้นไม่ขอบที่ร่มมาก พบบ่อยทั้งยังรอบๆที่ราบรวมทั้งบนเขาที่มีความสูงไม่เกิน 1500 เมตร จากระดับน้ำทะเล
ลักษณะทั่วไป
ชุมเห็ดเทศจัดเป็นพุ่มขนาดกลาง สูง 1.5-3 เมตร ลำต้นแข็งมีเนื้อไม้ ลำต้นแตกกิ่งก้านเป็นแถวขนานกับพื้นดิน กิ่งจะแบออกทางด้านข้าง มีขนสั้นนุ่ม เปลือกลำต้นเรียบเป็นสีน้ำตาล ใบเป็นใบประกอบแบบขนปลายคู่ ออกเรียงสลับ ใบย่อย 8-20 คู่ ยาว 5-15 เซนติเมตร ใบย่อยรูปขอบขนาน ยาว5-15 เซนติเมตร ปนรูปรี โคนใบมน ปลายใบมน กลม หรือเว้าน้อย ไม่มีต่อม ฐานใบมนไม่เท่ากันทั้งคู่ด้าน ขอบใบเรียบมีสีแดง ศูนย์กลางใบครึ้ม ยาวโดยประมาณ 30-60 ซม. ก้านใบประกอบยาวประมาณ 2 เซนติเมตร หูใบรูปติ่งหู สามเหลี่ยม ยาว 6-8 มิลลิเมตร ติดทน ดอกย่อยมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 ซม. ก้านดอกย่อยสั้นมากมาย ใบตกแต่งเป็นแผ่นบางๆกลีบเลี้ยงสีเขียวปลายแหลมมี 5 กลีบ กลีบสีเหลืองปลายมนมี 5 กลีบ ลายเส้นที่กลีบดอกไม้เห็นได้ชัด เกสรตัวผู้ยาว ไม่เท่ากัน เกสรตัวเมียมี 1 อัน ผลมีลักษณะเป็นฝักรูปแถบ ยาว แบน รวมทั้งเกลี้ยงไม่มีขน ฝักมีขนาดยาวราวๆ 10-20 เซนติเมตรและก็กว้างโดยประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร มีสันหรือปีกกว้าง 4 ปีก ปีกกว้างโดยประมาณ 5 มิลลิเมตรตามความยาวของฝัก ฝักมีผนังกั้น ฝักเมื่อแก่จะเป็นสีดำแล้วก็แตกตามยาว ด้านในฝักมีเม็ดราวๆ 50-60 เมล็ด เม็ดเป็นสามเหลี่ยมสีดำ มีผิวขรุขระ มีขนาดกว้างโดยประมาณ 5-8 มม.แล้วก็ยาวราว 7-10 มม.
การขยายพันธุ์ ชุมเห็ดเทศสามารถแพร่พันธุ์ได้ 2 แนวทางคือการใช้เม็ดและก็การปักชำ แม้กระนั้นโดยมากจะนิยมแพร่พันธุ์ด้วยเม็ดมากกว่าซึ่งมีวิธีการปลูกดังต่อไปนี้
1. การเตรียมดินให้กำจัดวัชพืชรวมทั้งเศษวัสดุ พร้อมทั้งไถกระพรวนรวมทั้งตากดินไว้ 7-15 วัน แล้วต่อจากนั้นให้ปุ๋ยคอกอัตรา 2 ตันต่อไร่
2. การเตรียมพันธุ์ คัดเลือดเมล็ดที่แก่จัดแล้วเอามาแช่น้ำไว้ 1 คืน แล้วต่อจากนั้นคลุกกับทรายในอัตรา 1: 1-2 แล้วห่อด้วยผ้าขาวบาง รดน้ำให้ชุ่ม เก็บในที่ร่ม 1-2 วัน เม็ดก็จะเริ่มแตกออก
3. การปลูก ถ้าเกิดปลูกแบบหยอดหลุมด้วยเมล็ดที่เริ่มงอก ให้หยอดหลุมละ 5-6 เม็ดให้มีระยะห่างระหว่างต้น รวมทั้งระหว่างแถว 3x4 เมตร เมื่อปลูกเสร็จใช้ผางปกคลุมบางๆรดน้ำให้ชุ่ม หากปลูกแบบใช้ต้นกล้าให้น้ำต้นกล้าที่เพาะจากเมล็ดที่แก่ 30 วัน หรือมีใบจริง 5-7 ใบ มาปลูกลงแปลง รดน้ำให้เปียก ปักไม้ค้ำยันไว้และผูกติดกับต้นกล้าแล้วหุ้มโคนต้นด้วยผางและควรจะรดน้ำให้ชุ่มเสมอในช่าง 2 เดือนแรก
องค์ประกอบทางเคมี ชุมเห็ดเทศมีส่วนประกอบทางเคมีที่สำคัญประกอบด้วยสารกรุ๊ป Anthraquinone โดยในใบชุมเห็ดเทศ ควรจะมีสาระสำคัญ Hydroxy-anthracene derives ไม่น้อยกว่า 1.0% w/w (โดยคำนวณเป็น rhein-8-glucoside) เป็นต้นว่า Aloe-emodin, Chrysophanol , Chrysophanic acid, lsochrysophanol, Physcion glycoside, Terpenoids, Sennoside, Sitosterols, Lectin, Rhein.

คุณประโยชน์ / คุณประโยชน์ [/size][/b]
ตำรายาไทย: ใช้ภายในแก้อาการท้องผูก เป็นยาระบาย ไปกระตุ้นทำให้ลำไส้ใหญ่บีบตัวดีขึ้น สมานธาตุรักษากระเพาะอักเสบ แก้กษัยเส้น ทำหัวใจให้ปกติขับเยี่ยว ขับพยาธิ ใช้ด้านนอก รักษาฝี รวมทั้งแผลพุพอง รักษากลาก เกลื้อน โรคผิวหนัง อมบ้วนปาก รักษาผิวหนังอักเสบเป็นผื่นคัน เส้นประสาทอักเสบ โดยใช้ส่วนของ ใบ เป็นยาถ่าย ใช้ข้างนอกรักษากลาก แก้แมลงสัตว์กัดต่อย รวมทั้งโรคผิวหนังอื่นๆใช้ถ่ายพยาธิตัวตืด ใบสด ใช้รักษากลากเกลื้อน ตำพอก รีบหัวฝี ใบรวมทั้งดอก ทำยาต้มรับประทาน เป็นยาระบายแก้ท้องผูกขับเสมหะในรายที่หลอดลมอักเสบ แล้วก็แก้หืด เมล็ด มีกลิ่นเบื่อหน่าย รสเอียนบางส่วนใช้ขับพยาธิ แก้ตานซาง แก้ท้องอืด แก้นอนไม่หลับ ฝัก มีรสเหม็นเบื่อเบื่อ แก้พยาธิ เป็นยาระบาย ขับพยาธิตัวตืด พยาธิไส้เดือน ต้นและก็ราก แก้กษัยเส้น แก้ท้องผูก บำรุงหัวใจเปลือกและก็แก่นไม้ ใช้ขับน้ำเหลืองเสีย ส่วนในทางการแพทย์แผนปัจจุบันกล่าวว่า ชุมเห็ดเทศเป็นยาระบายที่ดี เนื่องด้วยมีทั้งแอนทราควิโนน ซึ่งเป็นยาระบาย และแทนนิน ซึ่งเป็นยาฝาดสมาน จึงเป็นยาระบายที่สมานธาตุในตัว รวมทั้งในชุมเห็ดเทศยังมีพฤกษเคมีที่เป็นยาและก็สารต้านนุมูลิอิสระสำคัญหลายแบบ โดยมีการทดลองสารสกัดหยาบคายจากใบ เปลือกลำต้น ดอก ผล สกัด โดยใช้เอทิลอะซิเตทและเมทานอล พบสารฟลาโวนอยด์ แอนทราควิโนน คูมาริน ซาโปนิน แทนนิน เทอร์ปินอยด์ สเตอร์รอยด์ แล้วก็คาดิแอคไกลโคไซด์ แต่ไม่เจอสารแอลติดอยู่ลอยด์ ในทุกส่วนของชุมเห็ดเทศ แล้วก็พบว่าสารสกัดทั้งยัง 8 ตัวอย่าง มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ยิ่งไปกว่านี้ สารสกัดทั้ง 8 ตัวอย่างสารมารถต้านเชื้อ Bacillus subtilis และ Staphy-lococcus aureus ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารสกัดเมทานอลจากดอกชุมเห็ดเทศชนิดเดียวเพียงแค่นั้นที่ต้านทานเชื้อ Pseudomonas auroginosa ได้ แต่ว่าไม่มีสารใดที่มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อ E.coli การศึกษาการออกฤทธิ์ของ Senna alata (L.) Roxb. หรือชุมเห็ดเทศในการยับยั้งการเจริญของเชื้อก่อโรคพบว่าสารสกัดจากชุมเห็ดเทศสามารถยั้งการก้าวหน้าของเชื้อก่อโรคได้หลายชนิด ได้แก่ เชื้อรา แบคทีเรีย ไวรัส ปรสิต และก็ยังมีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด ต่อต้านการก่อยั้งเนื้องอก เป็นยาระบาย ขับปัสสาวะ ลดการอักเสบ แก้ปวดอีกด้วย
แบบ/ขนาดการใช้

ท้องผูก ใช้ใบจำนวน 12-15 ใบย่อย ตากแห้ง คั่ว (ถ้าหากไม่คั่วซะก่อน จะกำเนิดอาการใกล้กัน คืออาจมีอาการอ้วกอ้วก เมื่อคั่วความร้อนจะช่วยให้สารที่ออกฤทธิ์ทำให้อ้วกอาเจียนสลายไป) แล้วนำไปต้มกับน้ำพอควร ดื่มครั้งเดียวก่อนอาหารช่วงเวลาเช้ามืด หรือก่อนนอน หรือใช้ผงใบ 3-6 กรัม ชงน้ำเดือด 120 มิลลิลิตร ตรงเวลา 10 นาที ดื่มก่อนนอน อาจทำเป็นยาลูกกลอนก็ได้ หรือใช้ช่อดอกสด 1-3 ช่อดอก ลวก จิ้มน้ำพริก หรือใช้ดอก 1 ช่อ รับประทานสดๆเป็นยาระบาย รวมทั้งใช้ใบและก็ก้านขนาดใหญ่ ราวๆ 3-5 ช่อ เอามาต้มกับน้ำโดยประมาณ 2 ขัน(1500 ซี.ซี.) ต้มให้เดือดเหลือน้ำโดยประมาณ 1/2 ขัน ใส่เกลือพอมีรสเค็มเล็กน้อย ดื่มวันละ 1 แก้ว (250 ซี.ซี.)ครั้งถัดไป รับประทานดอกทีละโดยประมาณ 1 ช่อ
การใช้ชุมเห็ดเทศรักษาขี้กลาก เกลื้อน นำใบสดมาตำอย่างระมัดระวังใช้ทาบริเวณที่เป็นกลากหรือผื่นคัน หรือบางทีอาจนำใบชุมเห็ดเทศ 3-4 ใบ มาตำอย่างระมัดระวังเพิ่มน้ำมะนาวนิดนึง ทาบริเวณที่เป็นวันละ 2-3 ครั้ง หรือใช้ใบสดขยี้ถูนานๆแล้วก็เป็นประจำตรงรอบๆที่เป็น
รวมทั้งใช้ใบสด 4-5 ใบ ตำรวมกับกระเทียม 4-5 กลีบ แล้วเติมปูนแดงน้อย ทาบริเวณที่เป็นซึ่งได้ใช้ไม้ไผ่บางๆทำลายเชื้อแล้วขูดผิวรอบๆที่นั้นให้มีสีแดง(กรณีกลาก) ทาวันละ3-4 ครั้ง ตราบจนกระทั่งจะหาย และเมื่อหายแล้วให้ทาไปอีก 1 สัปดาห์ หรือจะใช้ใบสดตำแช่สุรา เอาส่วนเหล้าทาบริเวณที่เป็นวันละ 2-3 ครั้ง จนกว่าจะหาย พบว่าได้ผลดี แต่ว่าไม่ค่อยสำเร็จในขี้กลากที่ผมรวมทั้งเล็บ
รักษาฝีแผลพุพอง ใช้ใบชุมเห็ดเทศ 1 กำมือ ต้มกับน้ำพอเพียงท่วม เคี่ยวให้เหลือ 1 ใน 3 เอามาชำระล้างฝีที่แตกแล้ว หรือแผลพุพอง วันละ 2 ครั้งเช้า เย็น ถ้าบริเวณที่เป็นกว้างมากมายใช้สมุนไพร 10-12 กำมือ ต้มกับน้ำใช้อาบยามเช้าเย็น จนกระทั่งจะหาย
ใช้ใบสดตำพอก เพื่อเร่งให้หัวฝีออกเร็วขึ้น หรือจะใช้ใบผสมกับน้ำปูนใสหรือเกลือหรือน้ำมันตำพอก รักษาขี้กลาก แมลงสัตว์กัดต่อย โรคผิวหนัง นอกเหนือจากนี้ยังใช้ใบตำพอกหรือคั้นเอาน้ำผสมน้ำปูนใสทาหรือผสมวาสลิน ใช้ทำเป็นยาขี้ผึ้งทาได้อีกด้วย
ส่วนยาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติที่แนะนำให้ใช้เป็น กินทีละ 1 – 2 ซอง (ใบชุมเห็ดเทศแห้งซองละ 3 กรัม) (3 – 6 กรัม) ชงในน้ำเดือด 120 มล. นาน 10 นาที วันละ 1 ครั้งก่อนนอน บรรเทาท้องผูก
การเล่าเรียนทางเภสัชวิทยา
ฤทธิ์กระตุ้นการเคลื่อนไหวของไส้ สารสกัดจากใบชุมเห็ดเทศด้วยน้ำขนาดเสมอกันผงใบชุมเห็ดเทศแห้ง 5 กรัม/กิโล ทำให้ลำไส้เล็กส่วนปลายของหนูตะเภาหดตัวได้ปริมาณร้อยละ 25 ของฤทธิ์จากฮีสตามีน 1 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร สารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยน้ำขนาดเท่ากันผงใบชุมเห็ดเทศแห้ง 10 แล้วก็ 20 กรัม/กิโลกรัม ส่งผลเพิ่มการเคลื่อนไหวของลำไส้ของหนูเม้าส์ได้มากกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ สารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยน้ำในขนาด 15 ไมโครกรัม/มล. ทำให้ลำไส้เล็กส่วนปลายของหนูตะเภาหดตัวได้ในหลอดทดลอง เวลาที่สารกลัยวัวไซด์จากใบชุมเห็ดเทศมีฤทธิ์กระตุ้นกล้ามเรียบในไส้
ฤทธิ์สำหรับการรักษาท้องผูก เมื่อให้สารสกัดจากใบชุมเห็ดเทศแห้งด้วยน้ำร้อนกับหนูแรททางปากในขนาด 500 รวมทั้ง 800 มิลลิกรัม/โล พบว่ามีฤทธิ์ช่วยระบาย รวมทั้งเมื่อให้สารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยน้ำกับหนูเม้าส์ทางปากในขนาดเท่ากันผงใบชุมเห็ดเทศแห้ง 5, 10 รวมทั้ง 20 กรัม/กิโลกรัม จะก่อให้หนูเม้าส์ถ่ายเหลว โดยการให้ในขนาดต่ำ (5 กรัม/กิโลกรัม) จะออกฤทธิ์ช้ากว่าในขนาดสูง (10 และ 20 กรัม/กิโลกรัม) สาร anthraquinone glycoside จากใบดังเช่นว่า isocrysophanol, physcion-l-glycoside, chrysophanol, emodine, rhein, และ aloe-emodin มีฤทธิ์เป็นยาถ่าย
ฤทธิ์ต้านเชื้อจุลชีวัน สารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยน้ำ สารสกัดด้วยเอทานอล สารสกัดด้วยเมทานอล และก็สาร aloe-emodin, rhein emodol, 4,5-dihydroxy-1-hydroxymethylanthrone, 4,5-dihydroxymethylanthraquinone แล้วก็ chrysophanol จากใบชุมเห็ดเทศ มีฤทธิ์ต้านทานเชื้อราที่ผิวหนังดังเช่นว่า Epidermophyton floccosum , Microsporium gypseum, Trichophyton rubrum , T. mentagrophytes แล้วก็ M. canis เมื่อเทียบกับยา tolnaftate สารสกัดด้วยน้ำรวมทั้งเอทานอลจากเปลือกต้นชุมเห็ดเทศสามารถยับยั้งเชื้อยีสต์ Candida albicans ได้ โดยที่ความเข้มข้น 30 ไมโครกรัม/ไมโครลิตร จะให้ผลดีเมื่อเปรียบเทียบกับยา ticonazole 30 ไมโครกรัม/ไมโครลิตร แต่ว่าสารสกัดจากใบด้วยน้ำแล้วก็เอทานอลไม่มีฤทธิ์ยั้งเชื้อยีสต์ น้ำมันหอมระเหยจากใบชุมเห็ดเทศ สารสกัดจากเปลือกต้นด้วยเมทานอล มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย Bacillus subtilis ในจานเพาะเชื้อได้ปานกลาง สารสกัดด้วยน้ำจากใบชุมเห็ดเทศสามารถยับยั้งเชื้อ Escherichia coli ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อพอดีความเข้มข้นมากยิ่งกว่า 21.8 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร
ผลที่เกิดจากการวิจัยทางคลินิก (clinical pharmacology) การเรียนรู้ฤทธิ์สำหรับเพื่อการรักษาท้องผูก การศึกษาทางสถานพยาบาลแบบสุ่มมีกรุ๊ปควบคุมระหว่างชงชาชุมเห็ดเทศ มิสท์แอลบา รวมทั้งยาหลอก ในโรงหมอชุมชน 5 แห่ง และก็โรงพยาบาลทั่วไป 1 ที่ คนเจ็บที่ไม่อึต่อเนื่องกันเกิน 72 ชั่วโมง ปริมาณ 80 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรก รับยาหลอกเป็นน้ำ เติมสีคาราเมล 120 มิลลิลิตร ปริมาณ 28 ราย กรุ๊ปลำดับที่สองรับยามิสท์แอทบา 30 มล. น้ำ 90 มิลลิลิตร ปริมาณ 28 รายและก็กรุ๊ปที่สามรับน้ำละลายชุมเห็ดเทศ ได้จากการชงผชุมเห็ดเทศ[/url]ปริมาณ 3-6 กรัม ในถุงที่ทำจากกระดาษ แช่ลงไปภายในน้ำเดือด 120 มิลลิลิตร นาน 10 นาที จำนวน 24 ราย ผู้ป่วยอีกทั้ง 3 กลุ่มมีลักษณะไม่ได้ต่างอะไรกัน ได้รับยารับประทานก่อนนอนให้คะแนนจากการอุจจาระหรือเปล่าขี้ด้านใน 24 ชั่วโมง พบว่า สำเร็จขี้ภายใน 1 วัน ร้อยละ 18,86 รวมทั้ง 83 เป็นลำดับ ซึ่งพบว่าผลของกลุ่มชุมเห็ดเทศและก็มิสท์แอลบาดีกว่ายาหลอกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติแต่พบอาการท้องเสียในกรุ๊ปที่ได้รับมิสท์แอลบามากยิ่งกว่า ผู้เจ็บป่วยกลุ่มที่ได้รับชุมเห็ดเทศมีความพอใจมากกว่ายาหลอก สรุป ยาชงชุมเห็ดเทศมีคุณภาพที่ดีสำหรับเพื่อการรักษาท้องผูก
ส่วนอีกการทดสอบหนึ่งพบว่าเมื่อผสมผงใบชุมเห็ดเทศในอาหารในขนาดร้อยละ 2 แล้วก็ 10 ของของกิน แล้วให้หนูแรทรับประทานนาน 4 สัปดาห์ จะพบแผลในลำไส้ ตับ รวมทั้งไต แล้วก็หรูหราฮีโมโกลบินและก็ packed cell volume (PCV) สูงขึ้น แต่ปริมาณเม็ดเลือดแดงน้อยลงใน 2 สัปดาห์แรก เมื่อใส่สารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยเอทานอลขนาด 100 มิลลิกรัมในน้ำกินให้หนูแรทกินนาน 14 วัน พบว่ากำเนิดแผลในตับ เซลล์ตับตายเกลื่อนกลาดกระจัดกระจายรวมทั้งมีการคั่งของเลือดในเส้นเลือดดำ การฉีดสารemodin รวมทั้ง kaemferol ขนาด
10 มก. เข้าช่องท้องหนูแรทต่อเนื่องกัน 14 วัน หรือฉีดสาร aloe-emodin ขนาด 100 มิลลิกรัม สาร rhein ขนาด 70 มิลลิกรัม เข้าช่องท้องนาน 4 วัน พบว่ากำเนิดแผลในตับของหนูทุกกรุ๊ป กลุ่มที่ได้รับ aloe-emodin จะพบเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจถูกทำลาย หนูทุกกรุ๊ปหรูหราฮีโมโกลบิน และก็ PCV ต่ำลงข้างใน 14 วัน เมื่อป้อนสารสกัดจากใบด้วยน้ำขนาด 10, 50, 100 และ 250 มก./โล ให้หนูแรทนาน 14 วัน จะพบระดับฮีโมโกลบินและก็ เม็ดเลือดแดงมากขึ้น ในเวลาเดียวกันหนูมีอาการเบื่ออาหาร ผอมบางรวมทั้งน้ำหนักลด
การศึกษาในคนป่วยที่เป็นโรคกลากรวมทั้งเกลื้อนสารสกัดจากใบชุมเห็ดเทศด้วยแอลกอฮอล์แล้วก็ครีมชุมเห็ดเทศเข้มข้นปริมาณร้อยละ 20 สามารถรักษาคนไข้โรคกลาก 30 ราย และโรคเกลื้อน 10 ราย ก้าวหน้าเทียบเท่ากับยาขี้ผึ้ง whitfield แต่ไม่เป็นผลรักษาราที่เล็บและก็หนังหัว ยาตระเตรียมชุมเห็ดเทศในแบบทิงเจอร์แล้วก็ครีม(ซึ่งมีสารสำคัญ rhein 600 ไมโครกรัม/กรัม) ได้ผลสำหรับในการรักษาคนไข้โรคกลากโรคเกลื้อนที่ผิวหนังได้เช่นเดียวกับยาครีมโคลสามมาโซลปริมาณร้อยละ 1 สารสกัดใบชุมเห็ดเทศสดด้วยน้ำ (ใบสด 100 กรัมต่อน้ำ 50 มล.) ความเข้มข้นร้อยละ 100 ทาบริเวณแขน รวมทั้งขา หรือความเข้มข้นร้อยละ 90 ทาบริเวณคอ และก็มือ รวมทั้งความเข้มข้นจำนวนร้อยละ 80 ทาบริเวณหน้า วันละ 1 ครั้ง ก่อนนอน 2 ชั่วโมง มีผลรักษาโรคกลากโรคเกลื้อนชนิด Pityraisis versicolor ที่มีต้นเหตุจากเชื้อรา Malassezia furfur ในผู้ป่วยปริมาณ200 คนได้
การเรียนทางพิษวิทยา การทดลองความเป็นพิษ การทดลองความเป็นพิษทันควัน พบว่าสารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยแอลกอฮอล์จำนวนร้อยละ 50 ในขนาด 15 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ไม่มีพิษเมื่อให้หนูเม้าส์ทางปากแล้วก็ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง แม้กระนั้นมีความเป็นพิษเล็กน้อยเมื่อฉีดเข้าทางช่องท้องหนูเม้าส์ รวมทั้งเมื่อฉีดสารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยแอลกอฮอล์ปริมาณร้อยละ85 เข้าทางช่องท้องหนูเม้าส์ในขนาด 2 กรัม/กิโลกรัมก็ไม่พบความเป็นพิษ สารสกัดจากใบด้วยน้ำรวมทั้งสารสกัดจากส่วนเหนือดินของชุมเห็ดเทศด้วยแอลกอฮอล์ร้อยละ 50 มีความเป็นพิษปานกลางเมื่อฉีดเข้าทางช่องท้องหนูเม้าส์
โดยขนาดของสารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยแอลกอฮอล์ปริมาณร้อยละ 50 ที่ทำให้หนูถีบจักรตายจำนวนร้อยละ 50 (LD50) เป็น ขนาดที่ให้ทางปากรวมทั้งทางผิวหนังมากกว่า 15 กรัมต่อกิโลแล้วก็ทางช่องท้อง 8.03 กรัมต่อกิโลกรัม
การทดสอบพิษครึ่งเรื้อรังของผงใบชุมเห็ดเทศในหนูขาววิสตาร์ 4 กลุ่ม กรุ๊ปละ 24 ตัว (เพศผู้ 12 ตัว เพศภรรยา 12 ตัว) เป็นกลุ่มควบคุมแล้วก็กรุ๊ปที่ได้รับยาใช้ภายนอกงปากขนาด 0.03 , 0.15 แล้วก็0.75 กรัมต่อกิโลกรัมต่อวัน (ซึ่งเปรียบได้กับได้รับ 1 5 รวมทั้ง 25 เท่า ของขนาดที่รักษาในคน) ผลคือ ไม่เจอพิษทุกกลุ่ม มีการเติบโตธรรมดาการตรวจทางเลือดวิทยาและก็ชีวเคมีปกติ ไม่พบพยาธิภาวะแล้วก็จุลพยาธิวิทยาของอวัยวะภายในที่เปลี่ยนไปจากปกติ
พิษต่อระบบขยายพันธุ์ เมื่อฉีดสารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยแอลกอฮอล์ร้อยละ 50 เข้าท้องหนูแรทในขนาด 125 มิลลิกรัม/โล ไม่มีผลทำให้แท้งและไม่เจอพิษต่อตัวอ่อนแต่ผลต่อความเคลื่อนไหวของรอบเดือนกำกวม ส่วนสารสกัดจากใบด้วยน้ำขนาด300ไมโครกรัม/มิลลิลิตร มีฤทธิ์ทำให้มดลูกหนูแรทหดตัวในหลอดทดลองแล้วก็มีฤทธิ์เสริม oxytocin
พิษต่อเซลล์ การทดลองความเป็นพิษต่อเซลล์โดยใช้ brine shrimp พบว่าสารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยน้ำในขนาด 7.74 ไมโครกรัม/มล. ทำให้ brine shrimp ตายไปกึ่งหนึ่ง แล้วก็สารสกัดนี้มีความเป็นพิษต่อเซลล์ Vero โดยความเข้มข้น 1,414 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร ทำให้เซลล์ Vero ตายไปครึ่งเดียว
ฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ สารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยเอทานอล มีผลก่อกลายพันธุ์ในSalmonella typhimurium strain TA98 และพบว่าสารสกัดชุมเห็ดเทศด้วยแอลกอฮอล์ มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ S. typhimurium strain TA98 และก็TA100 โดยสำหรับการออกฤทธิ์อยากโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีจากตับหนูกระตุ้นการออกฤทธิ์
ข้อเสนอ/ข้อควรพิจารณา

1. ระมัดระวังการใช้ในเด็กอายุน้อยกว่า 12 ปี คนป่วย inflammatory bowel disease แล้วก็ภาวะทางเดินอาหารตัน คนสูงอายุ หญิงให้นมบุตร เนื่องจากสารmetabolite บางตัวตัวอย่างเช่น rhein ถูกคัดหลั่งทางทะเลนม
2. ควรใช้ยาระบายเป็นบางครั้งบางคราว ไม่ควรใช้ต่อเนื่องกัน เพราะสารแอนทราควิโนนในใบชุมเห็ดเทศ มีฤทธิ์ทำให้ลำไส้บีบตัวและก็เคลื่อนไหวเร็ว ใช้ติดต่อนานจะทำให้ลำไส้ชินต่อการใช้ยา ถัดไปถ้าเกิดไม่ใช้จะมีผลให้ลำไส้ไม่บีบตัวไม่ขยับเขยื้อนเกิดท้องผูกhttps://www.disthai.com/[/b]
3. การกินยาในขนาดสูงอาจจะทำให้เกิดไตอักเสบ มีเลือดหรือโปรตีนในฉี่มากยิ่งกว่าปกติ
4. การใช้ต่อเนื่องนานๆอาจมีผลลดจำนวนเม็ดเลือดแดง และก็ฮีโมโกลบิตแล้วก็อาจจะก่อให้เกิดแผลที่ตับ
5. การใช้สม่ำเสมอในขนาดสูงนานๆอาจกำเนิดระบบการดูดซึมเปลี่ยนไปจากปกติ มีการดูดกลับของเหลวต่ำลง เกิดภาวะระดับโพเทสเซียมแล้วก็แคลเซียมในเลือดต่ำ
6. ห้ามใช้ในสตรีท้อง
7. การใช้ชุมเห็ดเทศในทีแรกๆๆอาจทำให้เกิดอาการไม่ประสงค์ เช่น ลักษณะของการปวดมวนท้องเนื่องมาจากการบีบตัวของลำไส้ใหญ่แล้วก็อาจมีอาการคลื่นไส้ อาหารไม่ย่อยแล้วก็ปวดท้องได้
เอกสารอ้างอิง
1. ภก.ชัยโย ชัยชาญทิพยุทธ.ชุมเห็ดไทย/ชุมเห็ดเทศ.คอลัมน์ สมุนไพรน่าสนใจ.นิตยสารแพทย์ชาวบ้าน.เล่มที่ 26 .เดือนกรกฎาคม .2524
2. ฉัตรโย สวัสดิไชย,สุรศักดิ์ อิ่มเอี่ยม.ชุมเห็ดเทศ.ยาน่ารู้.นิตยสารศูนย์การศึกษาเล่าเรียนแพทยศาสตร์คลินิก โรงพยาบาลพระปกเกล้า.ปีที่ 34 ฉบับที่4.ต.ค.-เดือนธันวาคม.2560 หน้า.352-355
3. ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม.“ชุมเห็ดเทศ”. หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย, ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5. หน้า 271-274.
4. เปี่ยม บุณยะโชติ. ตำราโบราณเกี่ยวกับโรคเด็กรวมทั้งสุภาพสตรี. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์เฟื่องอักษร, 2514. หน้า 39.
5. กองวิจัยด้านการแพทย์. สมุนไพรพื้นบ้าน ในขณะที่ 1. จ.กรุงเทพฯ: กรมวิทยาศาตร์การแพทย์. กระทรวงสาธารณสุข, 2526. หน้า 34.
6. ดร.นิจศรี เรืองรังษี, เครื่องหมายชัย มังคละปะทุปต์. “ชุมเห็ดเทศChumhet Tet)”. หนังสือสมุนไพรไทย เล่ม 1 หน้า 108.
7. พระเทพวิมลโมลี. หนังสือเรียนยากลางบ้าน. จังหวัดกรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มงกุฏราชวิทยาลัย, 2524. หน้า 140.
8. ชุมเห็ดเทศ.ฐานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์ม.อบ..
9. วิทยา บุญวรพัฒน์. “ชุมเห็ดเทศ”. หนังสือสารานุกรมสมุนไพรไทย-จีนที่ใช้บ่อยในประเทศไทย. หน้า 208.
10. เภสัชกรหญิง จุไรรัตน์ กำเนิดดอนแฝก. “ชุมเห็ดเทศ”. หนังสือสมุนไพรบรรเทาโรคเบาหวาน 150 ประเภท. หน้า 74-75.
11. (คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล). “ชุมเห็ดเทศ Ringworm Bush”. หนังสือสมุนไพรสวนสิรีรุกขชาติ. หน้า 75.
12. ชุมเห็ดเทศ.ฐานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.
13. คณะกรรมการแห่งชาติด้านยา. บัญชียาจากสมุนไพร พุทธศักราช 2549 ตามประกาศคณะกรรมการแห่งชาติด้านยา (ฉบับที่ 5) พุทธศักราช2549 เรื่องบัญชียาหลักแห่งชาติพุทธศักราช 2547 (ฉบับที่ 4). จังหวัดกรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์ประชุมสหกรณ์การกสิกรรมแห่งประเทศไทยจำกัด, 2549
14. วันดี กฤษณพันธ์ แม้สรวง วุฒิอุดมเยี่ยม ดอกมะลิ ไตรเดโช สุภาวี อาชวาคม. การเรียนรู้ฤทธิ์ต้านเชื้อราของสารแอนทราควิโนนจากใบชุมเห็ดเทศ. การประชุมวิชาการวิทยาศาสตร์และก็เทคโนโลยีแห่งเมืองไทย ครั้งที่ 24, 19-21 ต.ค. ณ. ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ จังหวัดกรุงเทพ, 2541.
15. Harrison J, Garro CV. Study on anthraquinone derivatives from Cassia alata L. (Leguminosae). Rev Peru Bioquim 1977;(1):31-2.
16. จินตนาการ สุทธชนาความสนุก และแผนก. ฤทธิ์ต่อต้านเชื้อราของใบชุมเห็ดเทศ. รวมบทสรุปย่องานศึกษาค้นคว้าวิจัยการแพทย์แผนไทยรวมทั้งทิศทางการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยในอนาคต สถาบันการแพทย์แผนไทย, 2543.
17. Akah PA. Abortifacient activity of some Nigerian medicinal plants. Phytother Res 1994;8(2):106-8.
18. Plengvidhya P, Suvagondha C. A study of diagnostic contents of leaves of some members in genus Cassia. J Pharm Assoc Siam, Third series 1957;10(1):10-2.
19. เกษร นันทจิต. ฤทธิ์ต่อต้านจุลชีวินของใบชุมเห็ดเทศ (Cassia alata Linn.). รายงานการวิจัย สำนักงานคณะกรรมการศึกษาค้นคว้าแห่งชาติ, 2538.
20. เสาวลักษณ์ ดงษ์สวย. ฤทธิ์ต้านจุลชีพของสารสกัดจากพืชสกุล Cassia sp. รายงานการวิจัย ที่ทำการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ, 2543.
21. Thamlikitkul V, Dechatiwonges T, Chantrakul C, et al. Randomized controlled trial of Cassia Alata Linn. for constipation. J Med Assoc Thai 1990;73(4):217-21.
22. Mokkhasmit M, Swatdimongkol K, Satrawaha P. Study on toxicity of Thai medicinal plants. Bull Dept Med Sci 1971;12(2/4):36-65.
23. Rao JVLN, Sastry PSR, Poa RVK, Vimaladevi M. Occurrence of kaempferol and aloe-emodin in the leaves of Cassia alata. Curr Sci 1975;44(20):736-7.
24. ท้องนาถฤดี สิทธิสมตระกูล ทรงพล ชีวะพัฒน์ เอมจิต หวังหมัด สุบุตรี ไชยราช พัชรินทร์ รักษามั่น จรินทร์ จันทรฉายะ. พิษของใบชุมเห็ดเทศ. นิตยสารกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์2534;33(4):145-54.
25. Somchit MN, Reezal I, Nur IE, Mutalib AR. In vitr



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หนุ่มน้อยคอยรัก007
Jr. Member
**

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 76


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2018, 09:51:55 am »

ชุมเห็ดเทศ

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ