เสาวรส สรรพคุณเเละประโยชน์

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เสาวรส สรรพคุณเเละประโยชน์  (อ่าน 67 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
raraymondas
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 37247


ดูรายละเอียด










« เมื่อ: ธันวาคม 16, 2018, 08:15:44 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement



เสาวรส
ชื่อสมุนไพร  เสาวรส
ชื่ออื่นๆ / ชื่อท้องถิ่น  สุคนธรส (ภาคกลาง) , กะทกรกฝรั่ง กะทกรกสีดา , กะทกรกยักษ์ (ทั่วไป)
ชื่อวิทยาศาสตร์            Passiflora edulis Sims. (พันธุ์สีม่วง)
Passiflora edulis f. flavicarpa O. Deg. (พันธุ์สีเหลือง)
ชื่อสามัญ  Passion fruit  , Yellow granadilla , Jamaica honey-suckle
วงศ์      Passifloraceae
ถิ่นกำเนิด 

เสาวร มีบ้านเกิดในทวีปอเมริกาใต้ในประเทศบราซิลขว้างรากวัย รวมทั้งอาร์เจนตินา แล้วมีการกระจายประเภทโดยการนำเสาวรสไปปลูกเพื่อคุณประโยชน์ด้านการค้าในหลายประเทศทั้งโลก ดังเช่น อินเดีย นิวซีแลนด์ อินโดนีเซียเปอร์โตริโก สาธารณรัฐโดมินิกัน สหรัฐอเมริกาออสเตรเลีย อิสราเอล คอสตาริกา แอฟริกาใต้ประเทศโปรตุเกสรวมถึงประเทศแถบทะเลแคริบเบียนและแอฟริกาตะวันออก
สำหรับในประเทศไทย เสาวรสถูกนำเข้ามาทดสอบปลูกทีแรกในภาคเหนือ ราวปี พ.ศ. 2498 ปัจจุบัน เจอปลูกมากในภาคเหนือ แล้วก็ภาคทิศตะวันออก ในแถบจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดระยอง แล้วก็ชลบุรี
 
ลักษณะทั่วไป
 
เสาวรสจัดเป็นไม้เถาเลื้อยขนาดใหญ่ ส่วนโคนเป็นไม้เนื้อแข็ง อายุยาวนานหลายปี สามารถเลื้อยได้ไกลถึง 12 เมตร มีมือเกาะ ใบโดดเดี่ยว รูปคล้ายโล่ หรือรูปไข่ ออกเรียงสลับกัน ขอบใบมักเว้าลึกเป็น 3 พูปลายใบแหลม หรือเรียวแหลม โคนใบกลม หรือรูปหัวใจเว้าตื้น เนื้อใบค่อนข้างเหนียว ขอบของใบจะฟันเลื่อย มีเส้นใบ 3 เส้น ออกจากโคนใบก้านใบยาว 4-4.5 เซนติเมตร ที่ปลายก้านมีต่อม หูใบรูปหอก ขอบเรียบ หรือจักฟันเลื่อย
ดอกเสาวรสจัดเป็นดอกบริบูรณ์เพศ สามารถผสมเกสรด้วยตัวเองได้ดิบได้ดี ตัวดอกแทงออกเป็นดอกเดี่ยว ดอกแทงออกบริเวณซอกใบตามเถา ประกอบด้วยกลีบเลี้ยง ภายนอกกลีบเลี้ยงมีสีเขียว ข้างในมีสีขาว และกลีบสีครีมอมม่วง 5 กลีบ กลีบดอกเรียงสลับเป็น 2 ชั้นถัดมาข้างในมีฝอยเป็นเส้นล้อมเป็นวงกลมเยอะมาก โคนฝอยมีสีม่วง ปลายฝอยมีสีขาวกึ่งกลางดอกมีเกสรตัวผู้ 5 อัน ส่วนเกสรตัวเมียมีปลายแยกเป็น 3 แฉก เมื่อบานจะส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ
ผลเสาวรสออกได้ผลสำเร็จเดี่ยวผลมีทรงกลมหรือรูปไข่ และก็อวบน้ำ ขนาดผลโดยประมาณ 5-7 เซนติเมตร มีน้ำหนักผลประมาณ 35-115 กรัม ขึ้นอยู่กับขนาดผล ส่วนสีเปลือกต่างกันตามสายพันธุ์ เช่น ชนิดสีม่วงจะมีเปลือกสีม่วงเข้ม ส่วนชนิดสีเหลืองจะมีเปลือกสีเหลืองสด เปลือกผลทุกพันธุ์ค่อนข้างจะหนา รวมทั้ง เป็นมัน ภายในผลมีเมล็ดมากมาย
ส่วนประเภทที่พบในประเทศไทยแล้วก็นิยมนำมาปลูกกันมาก มี 3 จำพวก
1. ประเภทผลสีม่วง ( Passiflora edulis) พันธุ์ผลสีม่วงในธรรมชาติพบได้บ่อยในที่สูงโดยประมาณ 1,000-2,000 เหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งมีอากาศออกจะหนาวเย็นตลอดระยะเวลา ทำให้ผลมีขนาดเล็ก เมื่อผลสุกจะมีสีม่วงเข้มผิววาว น้ำจาก ชนิดผลสีม่วง มีรสชาติดีมากกว่าจำพวกผลสีเหลือง มีกรดต่ำสีสวยและหวาน ก็เลยเหมาะกับรับประทาน ผลสดจุดด้วยของประเภทนี้คือ ค่อนข้างจะอ่อนแอต่อโรค
2. จำพวกผลสีเหลือง (Passiflora edulis, var flaicarpa) พันธุ์ผลสีเหลือง ตามธรรมชาติพบขึ้นตามพื้นที่สูงในแถบประเทศชายฝั่งทะเลที่มีความสูงตั้งแต่ 800 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ผลมีลักษณะเด่น คือ ผลมีขนาดใหญ่เมื่อผลสุกจะมีสีเหลืองขมิ้น ผิวเป็นมัน น้ำคั้นของจำพวกนี้ มีกรดมากมาย ซึ่งมีpH ต่ำลงมากยิ่งกว่า 3 เหมาะกับส่งเข้าโรงงานเพื่อดัดแปลงมากยิ่งกว่าการ รับประทานผลสด จุดเด่นของประเภทนี้เป็น ได้ผลดกแล้วก็มีแรงต้านทานโรครวมทั้งแมลงสูงขึ้นยิ่งกว่าจำพวกผลสีม่วง
3. ประเภทลูกผสม เป็นพันธุ์ที่เกิดขึ้นมาจากการผสมระหว่างชนิดผลสีม่วงกับจำพวกสีเหลือง เพื่อเลือกสรรต้นชนิดใหม่ ที่รวมลักษณะผลที่เด่นของแต่ละพันธุ์ไว้ ทำให้มีลักษณะผลใหญ่ ได้ผลดก มีรกห่อหุ้ม เมล็ดมากมายเปลือกบาง ต้านทานโรค และมีช่วงในการให้ผลที่ยาวนาน ชนิดนี้จะให้ทั้งผลที่มีสีม่วงและผลสีเหลือง สามารถเก็บผลผลิตได้ตลอดทั้งปี
 
การขยายพันธุ์
 
[url=https://www.disthai.com/17031928/%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%AA]เสาวรส
สามารถเจริญวัยได้ดิบได้ดีในสภาพอากาศของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นเขตอากาศเย็นทางภาคเหนือ หรือเขตอากาศร้อนชื้นทางภาคกลางแล้วก็ ภาคตะวันออก ซึ่งเป็นพืชที่ปลูกได้ง่าย การรักษาไม่ยุ่งยาก แต่ว่าได้ผลผลิตต่อไร่สูง
ส่วนการขยายพันธุ์เสาวรสสามารถแพร่พันธุ์ได้จากต้นกล้าที่เพาะเม็ด รวมถึงต้นกล้าที่ได้จากการปักชำหรือการทำหมันเถา แม้กระนั้นส่วนใหญ่นิยมปลูกจากเมล็ดเยอะที่สุด โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้
การเตรียมเม็ด เมล็ดที่ใช้เพาะกล้า ควรที่จะเลือกจากผลเสาวรสที่ส่งผลขนาดใหญ่ ผลมีความสมบูรณ์ เปลือกผลวาววาว ไม่มีรอยกัดแทะเล็มของแมลง โดยนำเม็ดมาใส่ผ้าขาวบางแล้วนำไปขยี้ให้น้ำ รวมทั้งเยื่อหุ้มเมล็ดหลุดออกจากเม็ด หลังจากนั้นนำเม็ดมาล้างชำระล้าง ก่อนจะนำเมล็ดมาตากตากแดดให้แห้ง นาน 5-7 วัน เก็บพักเอาไว้ในที่ร่มนาน 1-2 เดือน ค่อยเอามาเพาะ ภายหลังพักเมล็ดไว้ 1-2 เดือนแล้ว ก่อนเพาะให้นำเมล็ดมาแช่น้ำไว้ 1 คืน การเพาะเมล็ดบางทีอาจเพาะในถุงเพาะชำได้โดยตรง หรือหยอดเพาะในกระบะเพาะก่อน แล้วค่อยแยกลงเพาะต่อในถุงเพาะชำได้
การเตรียมแปลงปลูก การปลูกเสาวรสในแปลงใหญ่จำนวนหลายต้นต้องตระเตรียมแปลงก่อน โดยการไถลูกพรวนดิน 1-2 รอบ พร้อมกำจัดวัชพืชออกให้หมด แล้วหลังจากนั้น ขุดหลุมปลูกขนาดราว 30 ซม. โดยให้ลึกประมาณ 30 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างแถว แล้วก็ระยะห่างระหว่างต้นหรือหลุม ประมาณ 2-3 เมตร หลังจากนั้น ปล่อยหลุมตากแดดไว้ 3-5 วัน
แนวทางการปลูก ก่อนปลูก ให้โรยตูดหลุมด้วยปุ๋ยมูลสัตว์ 3-5 กำมือ รวมทั้งปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ราว 1 ถือมือ ก่อนคลุกหน้าดินลงผสม ก่อนฉีกถุงสีดำออก แล้วนำต้นกล้าเสาวรสลงปลูกภายในหลุม พร้อมกลบดินให้แน่นพอประมาณ หลังจากนั้น นำไม้ไผ่มาปักข้างหลุม เพื่อให้ลำต้นอิงเติบโตสักระยะ
กระบวนการทำค้าง เป็นสิ่งสำคัญ เพราะว่าเสาวรสเป็นไม้เถาเลื้อย จะต้องเกาะเลื้อยตามวัสดุต่างๆการเตรียมค้าง ควรจะจัดเตรียมหลังการขุดหลุมปลูกเสร็จหรือทำร่วมกับการขุดหลุมปลูก หรืออาจทำข้างหลังการปลูก แต่พึงระวังไม่ให้ต้นจำพวกเป็นอันตรายขณะทำค้าง
การเตรียมค้างทำเป็นโดยการใช้เสาคอนกรีตหรือเสาไม้มาฝังใกล้กับต้นเสาวรสตามแนวยาวของแถว ต่อจากนั้น ใช้ลวดกางโยงแต่ละเสาตามแนวยาว และหลังจากนั้นก็ค่อยขึงโยงตัดตามแนวขวางให้เป็นตารางสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดราวๆ 50×50 เซนติเมตร
 
ส่วนประกอบทางเคมี
 
ในน้ำเสาวรสเจอสาระสำคัญ เป็นต้นว่า Carotenoid (ติดอยู่โรทีนอยด์) Pectin methyhesterase (โปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี เพคทนเมทิลเอสเตอเรส) Catalase (ค้างทาเลส) Leucine (ลิวซีน) Valine (วาลีน) Tyrosine (โทโรซีน) Prline (โพรลีน) Threonine (ทรีโอนีน) Glycine (ไกลซีน) Aspertic acid (กรดแอสพาร์ทิก) Arginine (อาร์จินีน) Lysine (ไลซีน) Alkalod (อัลคาลอยด์) ส่วนค่าทางโภชนาการของเสาวร
คุณประโยชน์/คุณประโยชน์
เม็ดพร้อมเยื่อห่อหุ้มเม็ดเอามาคั้นหรือปั่นเป็นน้ำผลไม้ดื่ม ให้รสเปรี้ยวจัด หรือปั่นผสมกับผลไม้อื่นที่มีรสหวาน เพื่อเพิ่มความหวาน อาทิ ประเทศทางแถบอเมริกาใต้นิยมนำเยื่อห่อหุ้มเม็ด และก็เปลือกมาปั่นผสมกับน้ำตาล ได้เครื่องดื่มที่เรียกว่า refresco หรือใช้ผสมกับน้ำผลไม้จำพวกอื่น ดังเช่น น้ำผลแอปเปิ้ล น้ำส้ม น้ำสัปปะรด น้ำพีช ฯลฯ โดยอัตราการผสมน้ำเสาวรสราว 5 หรือ 10 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมหวนและก็รสที่ดี ซึ่งเป็นที่นำยมกันอย่างแพร่หลายในเมืองนอก เพราะนอกจากทำให้เครื่องดื่มมีกลิ่นหอมสดชื่นแล้วก็รสที่ดีขึ้นแล้ว ยังมีคุณค่าทางของกินสูง รวมทั้งน้ำเสาวรสยังสามารถใช้ประโยชน์แต่งกลิ่นรวมทั้งรสชาติของไอศกรีม เค้ก เยลลี่ เชอร์เบท พาย ลูกอมเหล้าองุ่น เป็นต้น
และเยื่อห่อเม็ดยังดัดแปลงเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆเช่น เสาวรสผง แยมเสาวรส และเยลลี่เสาวรส ส่วนเปลือกเสาวรสมีคาร์โบไฮเดรต แล้วก็โปรตีนสามารถเอามาตากแห้งหรือใช้สดเป็นอาหารเลี้ยงวัว กระบือ แกะแพะ แล้วก็หมู ได้
นอกเหนือจากนี้ยังมีการนำเสาวรสนำมาสกัดสารสำหรับเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอาง โดยยิ่งไปกว่านั้นครีมดูแลผิว เพราะว่ามีสารที่สามารถสะท้อนรังสียูวีได้ และในงานศึกษาวิจัยได้ระบุไว้ว่า เสาวรสอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ธาตุ วิตามินและเส้นใย ในขณะเสาวรส 100 กรัม ให้พลังงานเพียง 51-60แคลอรีแค่นั้น และก็เสาวรส100 กรัม ให้วิตามินซีถึง 30 มก. การกินเสาวรสเป็นประจำแล้วจะไกลห่างจากหวัด แล้วก็ยังช่วยให้มีภูมิต้านทานโรคที่แข็งแรง
เสาวรสดีต่อการขับถ่าย เพราะเหตุว่ามีไฟเบอร์สูง จึงสามารถช่วยขจัดคอเลสเตอรอลในร่างกายได้ ทั้งยังช่วยขับสารพิษในไส้ คุ้มครองโรคมะเร็งไส้อีกด้วย
เสาวรสบำรุงสายตาได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะเหตุว่าอุดมไปด้วยวิตามินเอ และก็ยังมีสารฟลาโวนอยด์อย่างเบต้าแคโรทีนและคริบโทแซนทินเบต้า(cryptoxanthin-ß) ซึ่งสารพวกนี้มีคุณลักษณะของสารต้านอนุมูลอิสระ พร้อมกันไปกับวิตามินเอที่ช่วยบำรุงรักษาสายตาได้อย่างดีเยี่ยม
ส่วนคุณประโยชน์ตามตำรายาไทยระบุไว้ว่า ยอด สามารถกินเป็นผักสด แม้กระนั้นจะมีรสขมนิดหน่อยอาจเอามาจิ้มน้ำพริกหรือนำไปแกงยอดเสาวรสก็ได้ แก่นไม้ ใช้เป็นยาควบคุมธาตุ ถอนพิษ และก็ใช้รักษาบาดแผล ราก แก้ไข้ รักษาผื่นคัน รวมทั้งรักษาโรคกามโรค โดยนำรากไปต้มน้ำใบ เอามาตำแล้วคั้นเอาแต่น้ำ รับประทานเป็นยาถ่ายพยาธิได้ ดอกขับเสลด แก้ไอ ผลแก่ ใช้คั้นเอาน้ำเป็นน้ำผลไม้ช่วยลดไขมันในเลือดเป็นยาระบาย และก็ยังมีสรรพคุณ ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ ลดความดับเลือด และก็โรคกระเพาะฉี่อักเสบ
แบบ / ขนาดการใช้
โดยปกติแล้ว ชอบนำเสาวรสสุกมาทำเป็นน้ำผลไม้หรือใช้รับประทานใหม่ๆก็สามารถได้ประโยชน์จากสารออกฤทธิ์ต่างๆของเสาวรสแล้วส่วนในค้านการนำมาใช้เป็นสมุนไพรก็มีการมาใช้ อาทิเช่น นำรากเสาวรสไปต้มแล้วก็ใช้ดื่มช่วยแก้ไข้ รักษาตามโรค แก้ผื่นคัน หรือนำใบมาต้มกับน้ำใช้กินสามารถใช้เป็นยาถ่ายพยาธิได้ หรือจะใช้เนื้อในของผลสุกมาทำเป็นน้ำผลไม้ดื่ม จะช่วยลดไขมันในเลือด ลดระดับความดันโลหิตและช่วยให้ระบายได้ เป็นต้น
การเรียนรู้ทางเภสัชวิทยา
 
ในการทดสอบฤทธิ์ต้านทานอนุมูลอิสระในหลอดทดลอง (in vitro) พบว่า สารสกัดเอทานอล 80% จากเนื้อห่อเมล็ดขอเสาวรส[/url]ทั้งยังจำพวกผลสีม่วงและผลสีเหลืองมีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระเมื่อทดลองด้วยแนวทาง 2,2-azino-bis (3-ethylbenzthiazoline-6-sulphonic acid) decolorization assay (ABTS assay), H2O2 scavenging assay รวมทั้ง 2,2-diphenyl-1-picrylhydrazyl radical scavenging capacity assay (DPPH assay) จากผลการศึกษาดังที่กล่าวถึงมาแล้วทำให้เห็นว่า น้ำเสาวรสมีคุณค่าทางโภชนาการแล้วก็มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ เหมาะกับใช้เป็นเครื่องดื่มเพื่อคนรักการดูแลสุขภาพ ใยอาหารส่วนที่ไม่ละลายน้ำ (insoluble fiber-rich fraction) จากเมล็ดเสาวรสมีฤทธิ์ลดไขมันในเลือด เมื่อทดสอบผสมลงในของกินที่มีไขมันสูง (hypercholesterolemic diet) ปริมาณ 5% แล้วก็ใช้เลี้ยงหนู แฮมสเตอร์นาน 30 วันพบว่า ไตรกลีเซอไรด์และก็คอเลสเตอรอลในเลือดแล้วก็ในตับหนูลดลงอย่างเป็นจริงเป็นจัง แล้วก็พบว่ามีไขมันในน้ำดีแล้วก็ในอุจจาระที่ขับถ่ายออกมามากขึ้นเรื่อยๆเมื่อเทียบกับกรุ๊ปควบคุม และสำหรับการป้อน น้ำคั้นเสาวรสประเภทเปลือกสีเหลืองให้แก่หนูแรทขนาด 1,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัม วันละ 2 ครั้ง นานต่อเนื่องกัน 28 วัน มีผลลดค่าไขมันและก็ LDL (low-density lipoprotein) ใน เลือดและเพิ่มค่า HDL (high-density lipoprotein) นอกนั้นยังมีผลลดค่า thiobarbituric acid reactive substance (TBARS) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึง การเกิดปฏิกิริยาขบวนการออกซิเดชันของไขมัน (lipid peroxidation) แสดงให้เห็นว่าเม็ดเสาวรสรวมทั้งน้ำจากส่วนเยื่อหุ้มห่อเมล็ดมีฤทธิ์ลดไขมันในเลือด แล้วก็ต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นมาจากปฏิกิริยาออกซิเดชันของไขมันได้ นอกจากนี้การป้อนส่วนเนื้อหุ้มเมล็ดของเสาวรสจำพวกเปลือกสีเหลืองให้แก่หนูแรทที่มีภาวะความดันโลหิตสูง ขนาดวันละ 5 – 8 กรัม/กก. นานติดต่อกัน 5 วัน ส่งผลทำให้ค่าความดันโลหิตขณะหัวใจบีบตัวน้อยลง และพบว่าระดับglutathione ในเนื้อเยื่อไตสูงมากขึ้น รวมทั้งสามารถยับยั้งการเกิดสาร TBARS สำเร็จการทดลองดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นทำให้เห็นว่าส่วนเนื้อหุ้มห่อเม็ดของเสาวรสมีฤทธิ์ลดระดับความดันเลือดแล้วก็ฤทธิ์ต้านการเกิดอนุมูลอิสระ
 
การศึกษาเล่าเรียนทางสถานพยาบาล
การศึกษาฤทธิ์

 
ต่อต้านอนุมูลอิสระของน้ำคั้นเสาวรสในกลุ่มอาสาสมัครผู้สูงวัย (อายุ 60 ปีขึ้นไป) ที่มีสุขภาพดีและไม่มีภาวการณ์ของโรคร้ายแรงปริมาณ 60 คน ทั้งเพศชายและก็หญิง โดยให้อาสาสมัครดื่ม น้ำคั้นเสาวรสทั้งจากจำพวกผลสีม่วงรวมทั้งผลสีเหลืองวันละ 1 แก้ว (ราวๆ 125 มิลลิลิตร) ภายหลังจากรับประทาน อาหารมื้อกลางวัน นานต่อเนื่องกัน 4 อาทิตย์เก็บเนื้อเก็บตัวอย่างเลือดของอาสาสมัครทั้งยังช่วงก่อนและก็ข้างหลังกินน้ำคั้น เสาวรส เพื่อตรวจวัดค่าทางชีวเคมีในเลือดและก็เทียบผลของการเปลี่ยน ผลจากการศึกษาเล่าเรียนพบว่า การดื่มน้ำคั้นเสาวรสทั้งยังชนิดผลสีม่วงแล้วก็สีเหลืองส่งผลทำให้จำนวนวิตามินเอรวมทั้งวิตามินอีภายในร่างกาย เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งมีผลเพิ่มหลักการทำงานของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีที่เกี่ยวกับกรรมวิธีการต้านการเกิดอนุมูลอิสระ ดังเช่น superoxide dismutase (SOD) รวมทั้ง catalase ยิ่งกว่านั้นยังส่งผลยับยั้งการแสดงออกของโปรตีนที่เกี่ยวเนื่อง ในขั้นตอนอักเสบเป็น interleukin-6 (IL-6) แล้วก็ tumor necrosing factor-α (TNF-α) อีกด้วย
ส่วนการเรียนทางคลินิกอีกชิ้นหนึ่งบอกว่าการทดลองโดยให้อาสาสมัคร 9 คน(ทั้งยังชายและก็หญิง) ที่แก่ระหว่าง 20-35 ปี กินแคปซูลสารสกัดน้ำหรือชา (เข้มข้น 10%) จากส่วนใบเสาวรส วันละ 4 แคปซูลก่อนอน ติดต่อกันเป็นเวลานาน 1 อาทิตย์ พบว่าไม่ได้มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างอาสาสมัครกลุ่มที่ระบบประทานแคปซูลเสาวรสแล้วก็กรุ๊ปที่ได้รับยาหลอกในเรื่องผลของการนอนหลับ แต่พบว่าอาสาสมัครกลุ่มที่ระบบประทานแคปซูลเสาวรสบางรายมีค่าโปรตีนแล้วก็เอนไซม์ที่เกี่ยวกับการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ ไตรวมทั้งตับเพิ่มสูงมากขึ้นดังเช่นว่า bilirubin, uric acid, creatinine phosphokinase รวมทั้ง glutamic-oxaloacetic transaminase
 
คำแนะนำ / ข้อควรระวัง
 
1. การรับประทานเสาวรสอาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียง ได้แก่ เวียนหัวศีรษะ รู้สึกงง กล้ามดำเนินการแตกต่างจากปกติ ระดับความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลงไป เส้นโลหิตอักเสบ บางรายเจอแถลงการณ์ว่ามีลักษณะอ้วก คลื่นไส้ ง่วงซึม หัวใจเต้นเร็วหรือเต้นไม่ปกติ
2. จากการทดสอบในหลอดทดลอง (in vitro) น้ำคั้นเสาวรสมีฤทธิ์ยั้ง เอนไซม์CYP450 จำพวกCYP3A4 เมื่อทดสอบบนเซลล์human liver microsomes เพราะฉะนั้นจะต้องระมัดระวัง การดื่มน้ำคั้นเสาวรสร่วมกับกรุ๊ปแผนปัจจุบันที่จำต้องอาศัยเอนไซม์ดังที่ได้กล่าวมาแล้วในขั้นตอนเผาผลาญยา
3. หญิงมีครรภ์ไม่สมควรรับประทานเสาวรสเพราะสารเคมีบางตัวในเสาวรสอาจทำให้มดลูกหดตัว
4. ผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดควรหยุดรับประทานเสาวรสอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เนื่องจากว่าเสาวรสอาจมีผลต่อระบบประสาทส่วนกลางซึ่งอาจไประงับฤทธิ์ยาสลบหรือยาตัวอื่นต่อสมองในช่วงผ่าตัดแล้วก็ภายหลังผ่าตัดได้
 

เอกสารอ้างอิง

  • ศุภวัชร สิงห์ทอง, เสนีย์ เครือเนตร, ศุภพงษ์ อาวรณ์. ผลของน้ำเสาวรสต่อการต้านอนุมูลอิสระและต้าน การอักเสบในผู้สูงอายุและในหลอดทดลอง. กรุงเทพมหานคร : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย; 2557. Report No. RDG5420047.
  • การใช้สมุนไพร.กระดานถาม-ตอบ สำนักงานข้อมูลสมุนไพร มหาวิทยาลัยมหิดล.ธิดารัตน์ จันทร์ดอน.ผลไม้โครงการหลวงกับงานวิจัยเกี่ยวกับสุขภาพ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
  • "Passion Fruit: Background, Nutrition, Preparation". Exotic Fruit for Health. 25 August สืบค้นเมื่อ 18 September 2011.
  • เสาวรส/กะทกรกฝรั่ง สรรพคุณและการปลูกเสาวรส.พืชเกษตรดอทคอมพิชานันท์ ลีแก้ว . เสาวรส ผลไม้สำหรับผู้รักสุขภาพ. สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล.https://www.disthai.com/[/b]
  • เสาวรส.ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.Mallhi TH, Sarriff A, Adnan AS, Khan YH, Qadir MI, Hamzah AA, et al. Effect of fruit/vegetable-drug interactions on CYP450, OATP and p-glycoprotein: A systematic review. Trop J Pharm Res. 2015;14(10):1927-35.
  • de Souza Mda S, Barbalho SM, Damasceno DC, Rudge MV, de Campos KE, Madi AC, et al. Effects of Passiflora edulis (yellow passion) on serum lipids and oxidative stress status of Wistar rats. J Med Food. 2012;15(1):78-82.
  • Patel SS. Morphology and pharmacology of Passiflora edulis: a review. J Herb Med Toxicol. 2009;3(1):1-6
  • Konta EM, Almeida MR, do Amaral CL, Darin JD, de Rosso VV, Mercadante AZ. Evaluation of the antihypertensive properties of yellow passion fruit pulp (Passiflora edulis Sims f. flavicarpa Deg.) in spontaneously hypertensive rats. Phytother Res. 2014;28(1):28-32.
  • Chau CF, Huang YL. Effects of the insoluble fiber derived from Passiflora edulis seed on plasma and hepatic lipids and fecal output. Mol Nutr Food Res. 2005;49(เจ๋ง:786-90
  • Tala Y, Anavia S, Reismana M, Samachb A, Tirosha O, Aron M, et al. The neuroprotective properties of a novel variety of passion fruit. Journal of Functional Foods 2016;23:359- 69.
  • Hidaka M, Fujita K, Ogikubo T, Yamasaki K, Iwakiri T, Okumura M, et al. Potent inhibition by star fruit of human cytochrome P450 3A (CYP3A) activity. Drug Metab Dispos. 2004;32(6):581-3




GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ