Mac ที่ เหมาะสำหรับการทำงาน

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: Mac ที่ เหมาะสำหรับการทำงาน  (อ่าน 21 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
mmhaloha
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5645


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: ธันวาคม 19, 2018, 12:25:37 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ในเครือของบริษัท Apple ที่มีหลายกลุ่มการทำรวมไปถึงหลากหลายผลิตภัณฑ์เช่นตระกูลของ Mac ที่ประกอบด้วย iMac , iMac Pro , Macbook , Macbook Pro รวมทั้ง Macbook Air แล้วยังมีตระกูลผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับ iPhone , iPad หรือเครื่องมือเสริมอีกจำนวนมาก โดย Apple ก็มักจะใส่โปรแกรมหรือว่ารูปแบบสินค้าใหม่ๆ เข้าไปกับแทบรุ่นที่ออกมาสำหรับสนองความต้องการกับประเภทการใช้งานสำหรับผู้ซื้อได้มาก
ส่วนตระกูลผลิตภัณฑ์ของ Mac ที่น่าสนใจคือ Macbook ที่ผลิตออกขายมากถึง 3 อย่างให้ซื้อใช้กันได้แล้วแต่ความต้องการโดยที่แต่ละรุ่นก็ประกอบด้วยประเภทการใช้งานไม่เหมือนกันไปแล้วแต่รูปแบบ มาที่ตัวแรกคือ Macbook Air โดยที่แม็คบุ๊คเครื่องนี้ดังมากในระหว่างที่ออกมาครั้งแรกด้วยรูปแบบรอบตัวเครื่องที่บาง น้ำหนักเบา รวมถึงมีสัดส่วนไม่ใหญ่มากทำให้เหมาะสมที่เหมาะสำหรับการติดตัว แต่ว่านอกจากนั้นแล้วคุณสมบัติภายในก็เป็นที่ดึงดูดไม่ต่างกัน ข้อแรกเลยคือประเด็นเกี่ยวกับแบตเตอรี่ที่ทนมาก กับไซต์หน้าจอ 11 นิ้ว สามารถใช้ได้ถึง 9 ชั่วโมง และไซต์หน้าจอ 13 นิ้ว สามารถใช้ได้ถึง 12 ชั่วโมง นอกจากนั้นแล้วยังมี Power Nap ที่เมื่อปิดหน้าจอเพื่อให้ไปสู่โหมด Sleep ก็สามารถอัพเดทข้อมูลและเครื่องโดยต่อเนื่องโดยใช้งานไฟต่ำมากเลยช่วยให้ไม่เปลืองไฟในด้านเกี่ยวกับการดีไซน์แม็คบุ๊คตัวนี้ประกอบขึ้นจากอลูมิเนียมชิ้นเดียวจึงไม่มีข้อต่อในตัวเครื่อง รวมถึงฮาร์ดดิสใช้งานแบบ Flash Storage เลยส่งผลให้แม็คบุ๊คออกมาบางแบบที่เห็น Trackpad เองสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพรวมถึงบังคับได้ง่ายจนแทบจะไม่จำเป็นจะต้องใช้งานเมาส์กับใช้งานเลย ในด้านกลุ่มการเชื่อมก็มีที่เสียบ USB ไว้ให้ 2 รู Thunderbolt , Headphone อย่างละช่อง มีพอร์ตสำหรับชาร์จไฟและระบบเชื่อมต่อไร้สายมาให้ โดยที่ Macbook Air ไม่เหมาะกับการใช้งานสำหรับโปรแกรมอย่างหนัก ก็เพราะว่าถูกออกแบบมาเพื่อให้ทำงานได้แบบง่าย ทำงานไม่หนักมาก อีกทั้งพกพาสะดวกสบาย
            รุ่นที่ 2 เป็น Macbook รุ่นนี้ที่เปิดฉากออกจำหน่ายถือว่ามีคุณสมบัติใหม่อยู่หลายอย่างเลยทีเดียว อันแรกก็คือประเด็นความบางที่บางกว่าแม็คบุ๊คทุกรุ่นที่ได้มีมา ถัดมาก็คือคีย์บอร์ดเป็นคีย์บอร์ดประเภทล่าสุดที่ปรับปรุงมาเพื่อที่จะรองรับน้ำหนักในการกดแป้นพิมพ์บวกกับทำให้แม่นยำกับการจิ้มเพิ่มมากขึ้น จอภาพในรุ่นนี้จะเป็น Retina ความละเอียด 2304 x 1440 พิกเซล รวมทั้งใช้ไฟฟ้าลดลงกว่า หน้าจอลักษณะดั้งเดิมถึง 30%  ในส่วน Trackpad บน MacBook ประเภทนี้ ได้รับการออกแบบอีกครั้ง ที่มีชื่อว่า Force Touch trackpad โดยที่จะใช้งานระบบการสัมผัส ทดแทนการกดรูปแบบทั่วๆ ไป โดยจะมีเซ็นเซอร์ที่ตรวจจับน้ำหนักในการแตะเกี่ยวกับสัมผัสแรง หรือว่าแตะเบา  ประเภทนี้ถือเป็นครั้งแรกใน MacBook ที่ไร้พัดลมถ่ายเทความร้อน เนื่องจากมีการออกแบบให้ Logic Board มีสัดส่วนเล็กลง ทำให้เล็กกว่า Logic Board ข้างใน MacBook Air มากถึง 67% รวมทั้งบริเวณที่เหลือคือที่ของแบตเตอรี่ทั้งนั้น ส่งผลให้อาจจะใช้ได้ยาวนานมากถึง 10 ชั่วโมงเลย ท้ายที่สุดเป็นออกมาพร้อมพอร์ตรูปแบบล่าสุด คือ พอร์ต USB Type C (USB-C) เพียงแค่อันเดียว แต่ใช้ได้อย่างหลากหลาย ตัวอย่างเช่น ชาร์จแบตเตอรี่ , USB, DisplayPort , HDMI หรือ VGA
            อย่างสุดท้ายที่จะพูดถึงก็คือ Macbook Pro รุ่นใหม่ได้มีการปรับเปลี่ยนการออกแบบต่างๆ เช่น โลโก้ Apple บนฝาด้านหลังที่กลายเป็นอลูมิเนียมสะท้อนแสงข้างกระจกทดแทน ประกอบเครื่องขึ้นรูปรูปแบบยูนิบอดี้ตามสไตล์สำหรับ Apple เพราะว่ามีอีกสิ่งที่ปรับเปลี่ยนเทียบจากตอนแรกคือ แถบขอบเครื่องที่ของแม็คบุ๊ครุ่นเก่าจะเป็นพลาสติกสีดำ เพื่อให้เป็นจุดรองรับสัญญาณ ได้ถูกปรับเปลี่ยนมาเป็นอลูมิเนียมสีเหมือนกับเครื่องแล้วคีย์บอร์ดที่ใช้โครงสร้างลักษณะผีเสื้อ (Butterfly) รุ่นสอง ที่ได้ถูกการแก้ไขให้แต่ละปุ่มประกอบด้วยระยะการจิ้มมากขึ้นกว่าใน MacBook 12 นิ้ว ทำให้การกดเข้าไปรู้สึกเหมือนเป็นปุ่มมากขึ้นทำให้ตอนที่พิมพ์งานต่อเนื่องนานมาก ช่วยให้ไม่เมื่อยข้อนิ้ว ในส่วนพลังงานก็ยังสามารถใช้ได้ติดต่อกันยาวนานในมาตรฐาน MacBook Pro สามารถชาร์จแบตเตอรี่เข้าได้เร็ว และชาร์จที่ USB-C รูใดก็ได้สำหรับแม็คบุ๊ค ด้านของพอร์ต USB-C ที่รับ Thunderbolt 3 จะมีความรวดเร็วกับการรับส่งข่าวสารมากถึง 40 Gbps ทำให้มันสามารถเชื่อมต่อเครื่องมือหลากหลายชิ้น โดยการใช้ USB-C ที่มาจากเครื่องแค่พอร์ตเพียงอย่างเดียว ท้ายสุดก็เป็นในด้านของ Touch Bar ที่เป็นโซนคำสั่งแบบแตะที่มาแทนที่ที่แถบสั่งงาน รวมทั้งปุ่ม F1-F12 เดิม พร้อมกับระบบ Touch ID หรือว่าเซ็นเซอร์ตรวจจับลายนิ้วมือที่ช่วยทำงานในแม็คบุ๊คได้ง่าย รวมทั้งปลอดภัยมากขึ้น
จากที่กล่าวมา แม็กบุ๊คมีอยู่ให้เลือกใช้กันหลายอย่างเช่น Macbook , Macbook Air รวมถึง Macbook pro อย่างนั้นแล้วจำเป็นต้องพิจารณาเกี่ยวกับรูปแบบของอย่างนั้นเหมาะกับการทำงานตัวเองหรือเปล่าก่อนตัดสินใจเลือก

Tags : Mac,แมคบุ๊ค,Macbook



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ