“แฟรนไชส์ขนมครกสิงคโปร์” เจ้าแรกแห่งไทย ปรับใหญ่รับเทรนด์สุขภาพ

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: “แฟรนไชส์ขนมครกสิงคโปร์” เจ้าแรกแห่งไทย ปรับใหญ่รับเทรนด์สุขภาพ  (อ่าน 20 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
SEO.No1
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14253


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: ธันวาคม 24, 2018, 02:05:30 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


 
เจ้าของแบรนด์ “ท่าช้าง ขนมครกสิงคโปร์” พลิกโฉมขนมไทยโบราณรูปแบบใหม่รับเทรนด์สุขภาพ ด้วยขนมครกสิงคโปร์สูตรวีแกน (Vegan) 100% ในราคาสบายๆกล่องละ 40 บาท พร้อมตั้งเป้าหมายขายแฟรนไชส์สไตล์แคะเพลิดเพลินเงินล้นมือ มากกว่า 10 สาขา ด้านในปี 2562 " แป้งขนมครกสำเร็จรูป "

     ภายหลังจากขนมไทยโบราณภายใต้แบรนด์ “ท่าช้าง ขนมครกสิงคโปร์” ที่เปิดให้คนไทยได้ลิ้มชิมรสสัมผัสขนมครกประเทศสิงคโปร์ กว่า 10 รสที่แสนอร่อยมา 7 เดือนแล้ว ที่ตรอกประชาราษฎร์บำเพ็ญ 23 แน่ๆว่าไม่ใช่แค่ลูกค้าอย่างเดียวที่ตอบรับกับขนมครกประเทศสิงคโปร์ทุกรสชาติ กลับมีผู้พึงพอใจติดต่อเข้ามาขอซื้อแฟรนไชส์กันอย่างล้นหลาม ทำให้ยอดจำหน่ายเติบโตขึ้นโดยตลอด จัดว่าบรรลุความสำเร็จในตอน 5 เดือนแรกอย่างยิ่งจริงๆ " ขนมเขียวใบเตย "


 
เข้าชม Fanpage ของเราได้ที่นี่ >>  https://www.facebook.com/thachangthaidessert

     >> “หยอด-แคะ-รับตังค์” แฟรนไชส์ขนมครกเพื่อคนขี้เกียจ

ล่าสุดคุณใบพัด-อธิษฐ์เพชร นิพิษฐาดี ผู้ครอบครองแบรนด์ ท่าช้าง ขนมครกประเทศสิงคโปร์ ได้ต่อยอดขนมไทยด้วยการพัฒนาสูตร ครกประเทศสิงคโปร์เพื่อสุขภาพ หรือเรียกกันติดปากว่า Vegan (วีแกน) Sanook! Money ก็เลยไม่พลาดที่จะอัพเดทเรื่องราวดีๆมาฝากกัน " ขนมครกสิงคโปร์ "

     ท่าช้าง ขนมครกประเทศสิงคโปร์ เปิดขายไม่ถึงปี สร้างยอดขายเดือนละแสน

คุณใบพัด-อธิษฐ์พัชร นิพิษฐาประเสริฐ ผู้ครอบครองแบรนด์ ท่าช้าง ขนมครกประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่า หลังจากที่ขายขนมครกสิงคโปร์ในช่วง 5 เดือนแรก มียอดขายมากขึ้น 20% อยู่ที่ราว 50,000 – 100,000 บาทต่อเดือน ซึ่งยอดขายดังที่กล่าวถึงแล้วมาจากการซื้ออีกทั้งหน้าร้าน, Line Man รวมทั้งงานอีเว้นท์ต่างๆโดยมีทั้งยังลูกค้าขาประจำแล้วก็ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามไปด้วย

เดี๋ยวนี้ ทางแบรนด์ได้ลงทุนแตกไลน์ขนมครกประเทศสิงคโปร์สูตรวีแกน (Vegan) เพื่อเจาะตลาดสุขภาพในไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งถือเป็นปัญหาที่ท้าในฐานะผู้ประกอบการขนาดเล็ก " ขนมไทย "



     - ผุดไอเดีย ขนมครกสิงคโปร์สูตรวีแกน (Vegan) จากเสียงเรียกร้องของลูกค้า -

คุณใบพัด เล่าถึงแรงจูงใจของขนมครกสิงคโปร์เพื่อสุขภาพนั้น มาจากความอยากของกลุ่มลูกค้าขาประจำ รวมถึงฝูงคนรักสุขภาพที่อยู่ในช่วง 25-40 ปี สอบถามหาขนมครกสิงคโปร์สูตรหวานน้อย เพราะกลุ่มลูกค้าจะกังวลใจถึงน้ำหนัก แม้รับประทานในจำนวนมาก ประกอบกับผู้คนจำนวนมากแนะนำให้ลองทำขนมไทยเพื่อสุขภาพ ก็เลยตกลงใจไปพบนักโภชนาการมาเป็นที่ปรึกษา คอยแก้ไขวัตถุดิบใหม่ทั้งผอง จากสูตรเดิมที่ใช้ น้ำตาล ไข่ กะทิ แป้ง เปลี่ยนมาตัดส่วนประกอบ อย่าง ไข่ ออกไป ส่วนแป้ง และก็น้ำกะทิ สั่งผลิตวัตถุดิบจากโรงงานที่มีการรับรองมาตรฐาน Halal, GMP และ HACCP รวมทั้งน้ำตาลที่ใช้จะเป็นของที่มีคุณภาพสูง ผสมรวมกับวัตถุดิบอื่นๆในรูปทรงที่เหมาะสม ตามสูตรที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการโภชนาการได้คํานวนอีกทั้งสัดส่วนไว้ โดยขนมครกประเทศสิงคโปร์ 1 คำต้องมีเนื้อสัมผัสอีกทั้ง กรอบ หวานน้อย เพื่อให้ขนมครกสิงคโปร์สูตรวีแกน (Vegan) ได้มาตรฐาน มีรสชาติเนื้อสัมผัสที่อร่อย รวมทั้งมีคุณค่าทางโภชนาการ ตอบโจทย์กลุ่มคนรักสุขภาพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ "  ขนม vegan "

นอกเหนือจากนั้น คุณใบพัด เห็นว่า เมื่อขนมครกประเทศสิงคโปร์ไปสู่แนวทางการผลิตที่ตามมาตรฐานจะหยุดปัญหาหัวข้อการจัดส่งรวมทั้งการเก็บรักษาวัตถุดิบได้เป็นอย่างดี เพราะมีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกเยอะขึ้นเรื่อยๆ และจัดเตรียมที่จะลงบัญชี Halal ในเร็วๆ

“ของหวานสูตรวีแกน (Vegan) ทำเป็นยากกว่าของหวานสูตรทั่วๆไป เนื่องจากว่าควรมีการลงทุน ทั้งยังเนื้อหาค่อนข้างจะเยอะแยะ ที่สำคัญ ตัวขนมไทยจะต้องมีคุณประโยชน์ทางโภชนาการแล้วก็ตามมาตรฐานอีกด้วย ถึงจะรับประกันได้ว่าเป็นขนมไทยเพื่อสุขภาพ 100% อย่างแท้จริง” ใบพัด กล่าว



  “หวานน้อย กรอบนอก นุ่มใน” กลเม็ดความอร่อยของขนมครกประเทศสิงคโปร์เพื่อสุขภาพ

คุณใบพัด กล่าวว่า ทางแบรนด์ได้เริ่มทดลองขนมครกประเทศสิงคโปร์เพื่อสุขภาพเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังจากนั้นก็ได้สูตรขนมครกประเทศสิงคโปร์ที่พอดีซึ่งก็คือ หวานน้อย กรอบนอก นุ่มใน รวมทั้งเริ่มขายในเดือนตุลาคมในปีเดียวกัน ซึ่งลูกค้าให้การตอบรับมากกว่าเดิม เนื่องมาจากมีการปรับของหวานให้มองมีชีวิตชีวาและก็ประหลาดตามากขึ้น ที่สำคัญยังเป็นการแชร์ความเข้าใจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องสุขภาพให้กับลูกค้าอีกด้วย เดี๋ยวนี้ทางแบรนด์มีขนมครกสิงคโปร์ทั้งผอง 6 รส เป็นต้นว่า ใบเตย, มะพร้าว, ชาเขียว, มันม่วง, ช็อกโกแลต และชาไทย ส่วนรสเดิมที่มีความหวานอย่าง สตอร์เบอร์ปรี่ ถูกเอาออกไป อีกทั้งยังมีการเพิ่มเนื้อสัมผัสของขนมด้วยหน้าต่างๆซึ่งมีมากกว่า 10 จำพวก อย่างเช่น เมล็ดแฟลกซ์ (Flax seed), อัลมอนด์, ข้าวโอ๊ต, ถั่วแดง, ถั่วทองคำ, งาดำ, แปะก๊วย, ข้าวโพด, ลูกเกด, ข้าวบาเลย์, เผือก, มันม่วง,ข้าวเหนียวดำ, ลูกเดือย, กราโนล่า แล้วก็ข้าวเหนียวมะม่วง เป็นต้น ซึ่งจะช่วยเสริมให้ขนมครกประเทศสิงคโปร์มีรสชาติที่อร่อยลงตัวพอดี

     ซึ่งถัดไปลูกค้าจะสามารถเลือกผสมหน้า Topping ในขนมครกประเทศสิงคโปร์ต่างๆได้ด้วยตัวเอง ส่วนราคาขายยังเท่าเดิม โน่นเป็น กล่องละ 40 บาท แต่เป็นการเพิ่มลู่ทางให้กับลูกค้าได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

     “หัวใจหลักของการพัฒนาขนมครกประเทศสิงคโปร์สูตรวีแกน (Vegan) คือไม่หวาน ไม่มีไขมันทรานส์ และก็จะต้องอร่อย” ใบพัด กล่าว



     นอกจากนี้ ยังมีขนมครกสิงคโปร์หน้า ณ หน้าทองคำ โดยใช้ทองคำบริสุทธ์ใช้ทองคำแท้บริสุทธิ์ 100% (Food grade) สำหรับเพื่อการเพิ่มความเป็นเอกลักษณ์ไทย และก็ความสวย จึงสามารถกินได้ การเลือกใช้ทองเนื้อแท้ จะไม่มีปฏิกิริยากับสารเคมีอะไรก็แล้วแต่หรือต่อเซลของร่างกายเมื่อไปสู่ร่างกาย จึงไม่ก่อให้เกิดอันตราย แถมทองยังเอามาพอกหน้าเพิ่มความงามได้อีกด้วย

“ท่าช้าง ขนมครกประเทศสิงคโปร์” เนื้อหอม โดนรุมจีบทั้งยังไทยรวมทั้งเทศ

คุณใบพัด เล่าว่า ทางแบรนด์ได้รับการกาความรักดต่อจากคนที่พอใจซื้อแฟรนไชส์ 3 กรุ๊ปใหญ่ เช่น ตลาดนัดช่วงเวลากลางคืน หรือถนนหนทางคนเดิน เนื่องจากว่ามีจำนวนผู้คนคับคั่ง, ปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่ ที่มียอดคนรับใช้บริการ 1,000 คนต่อวัน ได้แก่ ปั๊มน้ำมันที่จังหวัดชลบุรี และจังหวัดสุพรรณบุรี ฯลฯ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดเล็กของคนขับ แล้วก็ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น

ตอนที่ตลาดในต่างประเทศก็มี อังกฤษ, ประเทศฟิลิปปินส์, สหรัฐฯ และก็เขมร ติดต่อเข้ามาขอซื้อแฟรนไชส์ด้วยด้วยเหมือนกัน

     - ทางแบรนด์ฯ มองหาผู้สนับสนุนทางธุรกิจมากยิ่งกว่าการขายทิ้ง -

ส่วนความคืบหน้าแนวทางการขายแฟรนไชส์ให้กับคนที่สนใจและติดต่อเข้ามานั้น คุณใบพัด ระบุว่า ทางแบรนด์ได้นำร่องแฟรนไชส์สาขาแรกที่ ไอคอนไทย (ICONSIAM) แล้วต่อจากนั้นภายในปี 2562 จะขายแฟรนไชส์โดยระบุโควต้าไว้ 20 สาขา ด้วยความที่ทางแบรนด์จะเน้นผู้ส่งเสริมทางธุรกิจมากกว่าจำนวนแฟรนไชส์ ซึ่งจะมีการแบ่งเป็นโซนตามหัวเมืองใหญ่ในชนบทเป็นหลักก่อน โดยพื้นฐานจะมองหาคนที่อยู่ในท้องถิ่นนั้น เนื่องจากมีความรู้ความสามารถเรื่องประชากรศาสตร์อย่างดีเยี่ยม

ภายในปี 2562 แบรนด์ ท่าช้าง ขนมครกสิงคโปร์ จะมีต้นแบบสาขา 3 ที่ ซึ่งเป็นสาเหตุของแบรนด์ ท่าช้าง ขนมครกประเทศสิงคโปร์ ดังเช่นว่า ท่าช้าง, ท่ามหาราช และท่าดวงจันทร์ เพื่อรวมกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้เยอะขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับคุณลักษณะของผู้ที่จะมาซื้อแฟรนไชส์ ทางแบรนด์จะพินิจ 3 ส่วนด้วยกัน เป็น เรื่อง Passion ในการทำธุรกิจ , สถานที่ของแฟรนไชส์ แล้วก็ระยะความห่างของแฟรนไชส์ในแต่ละสาขา เป็นต้น โดยจะมีการสอบสัมภาษณ์ เพื่อพิเคราะห์ทั้งยังความพร้อมเพรียงสำหรับเพื่อการทำธุรกิจ ให้ตรงกับคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ “อร่อย สนุก สบาย” โดยคิดถึงเรื่องการบริการ (Service), ประสิทธิภาพ (Quality) แล้วก็สะอาด (Clean) อีกด้วย ส่วนค่าแฟรนไชส์อยู่ที่ราวๆ 30,000++ บาท

“สิ่งที่พวกเราทำไม่มีลูกค้ามาซื้อรังแกคนกิน เรามีความสุขที่ได้นำเทรนด์ขนมไทยโบราณให้มาใส่ใจเรื่องสุขภาพเยอะขึ้นเรื่อยๆ” ใบพัด กล่าว



อย่างไรก็ตาม คุณใบพัด บอกว่า ตลาดสุขภาพมีอัตราการเจริญเติบโตอย่างสม่ำเสมอ โดยส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ราวหมื่นล้านบาท ซึ่งการที่ Street food จะเข้ามาจับตลาดสุขภาพนั้นสามารถทำเป็น ถ้ารู้จักปรับตัวให้ รู้จักนำเทรนด์ แล้วก็พัฒนาแบรนด์อย่างไม่หยุดยั้ง ก็จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ของตนเองได้อย่างยั่งยืน ถึงแม้ ท่าช้าง ขนมครกประเทศสิงคโปร์ จะเป็นแบรนด์ขนาดเล็กแม้กระนั้นก็ต้องการจะเป็นต้นแบบให้กับ Street food ได้เห็นเป็นตัวอย่าง สำหรับเพื่อการสร้างแบรนด์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ ว่าสามารถเติบโตได้จริง รวมทั้งในอนาคตทางแบรนด์ฯ มีแผนในการที่จะปรับปรุงผลิตภัณฑ์เป็น “ขนมครกอบแห้ง” เจาะกรุ๊ปนักเดินทางคนต่างประเทศอีกด้วยนะ " แฟรนไชส์ขนมไทย "

เครดิตบทความจาก : [url]https://www.facebook.com/thachangthaidessert[/url]

Tags : ขนมครกสิงคโปร์,ขนมไทย,ขนมเขียวใบเตย



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ