บรรพบุรุษ Huawei P Series

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: บรรพบุรุษ Huawei P Series  (อ่าน 13 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
asianoned
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5614


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: มกราคม 17, 2019, 04:57:24 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

หากพูดถึง Huawei ตระกูล P Series ตัวแรกที่ระลึกถึงเลย ก็น่าจะหลีกเลี่ยงไม่พ้น Huawei P9 เพราะว่าช่วงที่เปิดตัวรุ่นนี้ออกมาครั้นเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2559 ถือว่าเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะว่าความเป็นกล้องคู่ที่ได้รับการผสมผสานของเทคโนโลยีที่ร่วมพัฒนากับ LEICA จึงเป็นเหตุให้ Huawei P9 ที่สามารถถ่ายรูปที่มีรายละเอียดสูงได้อย่างงดงาม และยังได้รับความชื่นชมอยู่ในทุกวันนี้ วันนี้กระผมจะพาไปย้อนรอยเรื่องกล้องของ Huawei P9 อีกครั้ง ไปดูกันครับ
 
 Huawei P9 มีกล้องถ่ายรูปข้างหลัง 2 กล้องถ่ายภาพที่ทาง Huawei ได้ร่วมแรงร่วมใจกับทาง LEICA ซึ่งเป็นบริษัทกล้องถ่ายภาพขั้นตำนานมาร่วมมือออกแบบกล้องถ่ายรูปให้กับทาง Huawei P9 โดยบริเวณกล้องถ่ายรูปหลังจะมีข้อความกำกับไว้ว่า LEICA ซึ่งล่าง LEICA จะเขียนไว้ว่า Summarit H 1:2.2/27 APSH ซึ่ง Summarit เป็นการบอกช่วงขนาดรูรับแสงของเลนส์ LEICA ส่วนเลขต่อท้าย 1:2.2 คือเลนส์มีรูรับแสงขนาด 2.2 และเลข 27 คือทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 27mm ซึ่งนับว่าเป็นระยะที่ให้มุมกว้างที่กำลังดีเลยทีเดียว
 
 โดยกล้องถ่ายภาพตัวแรกของ Huawei P9 เป็นกล้องถ่ายภาพที่มีเซนเซอร์รับภาพสี (RGB) ในขณะกล้องตัวที่ 2 จะเป็นกล้องถ่ายภาพที่ใช้เซ็นเซอร์รับภาพขาว-ดำ (Monochrome) ซึ่งให้ภาพที่กระจ่างกว่า สามารถรับแสงได้มากกว่าทั่วๆ ไป และการที่รับแสงได้มากกว่า นั่นหมายความว่าปริมาณ noise ที่น้อยกว่านั่นเอง จึงได้คุณภาพของไฟล์ภาพที่ดีกว่า แต่กล้องทั้งสองตัวก็มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดพิกเซล 1.25 ไมครอน, ไฟแฟลช LED แบบ Dual-Tone และระบบการโฟกัสภาพแบบ Hybrid Autofocus แบบเดียวกันเลย อีกอย่างถึงแม้จะแบ่งแยกเป็นกล้อง RGB กับ กล้องถ่ายรูป Monochrome แต่กล้องถ่ายภาพทั้งสองตัวจะทำงานด้วยกันอยู่แล้ว จึงเป็นเหตุให้ภาพที่ได้มีสีสัน และรายละเอียดในส่วนสีขาว-ดำกระจ่างมากกว่าการถ่ายด้วยกล้องทั่วๆ ไป รวมไปถึงสามารถปรับจุดโฟกัสหลังจากทำการถ่ายรูปได้ด้วยเช่นเดียวกัน

 ส่วนกล้องด้านหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง 2.4 ซึ่งก็ยังนับว่ายังทำออกมาได้ดีทั้งที่จะไม่ใช่ LEICA แล้วก็ตาม และสามารถปรับระดับความฟรุ้งฟริ้งกิงก่องแก้ว หรือ Beauty Mode ได้ถึง 10 ระดับเลยทีเดียว ที่สำคัญคือกล้องถ่ายภาพหน้าของ Huawei P9 สามารถวัดแสงและชดเชยออกมาได้ค่อนข้างจะสว่าง หน้าตาขาวใส หากใครที่ชอบถ่ายภาพตัวเอง ก็ไม่ควรพลาด ยิ่งกว่านั้นยังสามารถถ่ายได้แม้ในที่แสงไฟน้อย ก็ยังทำได้ดีอีกเช่นกัน ตัวอย่างเช่นคุณไปงานสังสรรค์กลางคืน แต่ว่าอยากเซลฟี่ ท่านก็สามารถถ่ายได้ทุกแห่ง โดยไม่ต้องแลหาแสงจากที่ใด เพราะว่าหน้าจอของ Huawei P9 จะส่องสว่างทันทีที่คุณลั่นชัตเตอร์ ซึ่งทำงานเหมือนกับแฟลชหน้าเลยเทียว
 
 และถ้าล้วงลึกไปทีละโหมดการใช้งาน ก็คงเริ่มที่โหมดออโต้ ซึ่งเป็นโหมดที่ใช้งานหมูที่สุด เพราะเพียงแค่ยก Huawei P9 ขึ้นมาแล้วกดชัตเตอร์เท่านั้น เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยอยากปรับอะไรมาก หรือผู้ที่หัดถ่ายรูป แต่อยากได้รูปถ่ายที่สวยงาม โหมดอัตโนมัติก็สามารถตอบโจทย์ส่วนนี้ได้ดี ถัดมาเป็นโหมดโปร เหมาะกับผู้ที่มีพื้นฐานการถ่ายภาพอยู่บ้าง โดยท่านสามารถเลือก ISO / WB / Shutter Speed แต่ไม่สามารถปรับรูรับแสงได้ โดยตัวเครื่องจะกำหนดพื้นฐานที่ 2.2 และในโหมดโปรสามารถเลือกบันทึกภาพเป็นแบบ raw file ได้ด้วย ถ้าหากใครอยากนำไปแก้ไขในโปรแกรมต่างๆ ต่อ แต่ก็ไม่ได้มีฤทธิ์เดชในการแต่งเยอะมากมาย เนื่องด้วยขีดจำกัดเรื่องขนาดเซนเซอร์นั่นเอง
 
 ถัดมาเป็นโหมดขาว-ดำ ในกล้องถ่ายภาพ Monochrome ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งข้อดีเลยก็ว่าได้ เหตุเพราะเป็นแบรนด์แรกที่มีกล้องถ่ายรูปเพื่อถ่ายขาวดำโดยเฉพาะซึ่งจะสามารถเก็บรายละเอียดความต่างแสง (Dynamic range) ได้มากกว่าถ่ายแบบสี ซึ่งได้ภาพที่คมชัด สวยงามมาก เหมือนยังกับมาจาก LEICA ซะเองเลย และอีกโหมดที่น่าสนใจคือ โหมด Wide Aperture ซึ่งเป็นโหมดหน้าชัดหลังเบลอนั่นเองซึ่งในโหมดนี้เป็นการจำลองรูรับแสง ซึ่งสามารถปรับต่ำสุดได้ที่ F 0.95 และสูงสุดที่ F 16 ซึ่งอาจจะทำได้ไม่ดีราวกับกล้องถ่ายรูปใหญ่อย่าง DSLR เนื่องด้วยมีขนาด Sensor ที่เล็กกว่านั่นเอง แต่ก็ไม่ได้ทำออกมาจนน่าอาย
 
 และโหมดสุดท้ายนี้ที่ไม่แนะนำมิได้ นั่นคือ โหมดถ่ายกลางคืน หรือว่า Night mode นั่นเอง ซึ่งถ้าหากว่าคุณมีขาตั้งอีกตัว ภาพที่คุณจะได้นี่เสมอเหมือนกล้องถ่ายภาพใหญ่ๆได้เลยนะ เพราะว่าถ้าหากไม่มีขาตั้งกล้อง อาจจะทำให้ภาพสั่นไหวได้ และโหมดนี้คุณสามารถเลือก ISO ได้สูงสุดที่ 1600 และ Shutter Speed เลือกเปิดได้นานถึง 32 วินาทีเลยเทียว แต่ถ้าไม่ต้องการปรับเปลี่ยนอะไร ก็สามารถให้ระบบเลือกให้อัตโนมัติได้เลย
 
 นี่เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นของ Huawei P9 ซึ่งยังมีข้อเด่น สเปคการใช้งานอื่นๆ ที่น่าศึกษาอีกจำนวนมาก แต่อย่างที่บอกไปในข้างต้น ว่า Huawei สาย P Series นั้น มีจุดแข็งที่กล้องถ่ายรูปอยู่แล้ว ซึ่งถ้าหากว่าใครที่โปรดปรานการถ่ายภาพ และอยากได้ภาพถ่ายที่ค่อนข้างจะมีคุณภาพเท่าเทียมกล้องถ่ายภาพใหญ่ๆ อีกทั้งยังสามารถติดตัวได้อย่างสะดวกมากกว่าพกกล้องถ่ายรูปจริงๆ เสียอีก ก็ขอแนะนำเครื่องนี้เลย ซึ่งเดี๋ยวนี้ Huawei P9 ราคาได้ลดลง ซึ่งเริ่มต้นเพียง 7,300 บาทเท่านั้น โดยแต่ละเว็บไซต์ หรือห้างร้าน ราคาอาจจะต่างกันออกไป ยังไงก็ลองสำรวจราคากันอีกครั้งนะครับผม
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : Huawei p9 ราคา

Tags : Huawei p9,Huawei p9 ราคา,รีวิว Huawei P9



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


Related Topics
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
เทือกเถาเหล่ากอ Huawei P Series
สินค้าอื่นๆ
uchaiyawat 0 202 กระทู้ล่าสุด สิงหาคม 22, 2018, 09:01:58 am
โดย uchaiyawat
บรรพบุรุษ Huawei P Series
สินค้าอื่นๆ
mmhaloha 0 174 กระทู้ล่าสุด ตุลาคม 27, 2018, 04:04:18 pm
โดย mmhaloha
เทือกเถาเหล่ากอ Huawei P Series
สินค้าอื่นๆ
asianoned 0 185 กระทู้ล่าสุด ตุลาคม 31, 2018, 10:33:00 am
โดย asianoned
ต้นตระกูล Huawei P Series
สินค้าอื่นๆ
mmhaloha 0 165 กระทู้ล่าสุด พฤศจิกายน 12, 2018, 03:28:57 pm
โดย mmhaloha
เทือกเถาเหล่ากอ Huawei P Series
สินค้าอื่นๆ
asianoned 0 151 กระทู้ล่าสุด ธันวาคม 10, 2018, 12:48:47 pm
โดย asianoned
รากเหง้า Huawei P Series
สินค้าอื่นๆ
mmhaloha 0 184 กระทู้ล่าสุด ธันวาคม 25, 2018, 05:00:38 pm
โดย mmhaloha
เทือกเถาเหล่ากอ Huawei P Series
สินค้าอื่นๆ
asianoned 0 286 กระทู้ล่าสุด มกราคม 09, 2019, 06:16:13 pm
โดย asianoned
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ