การปล่อยเงินกู้นอกระบบ ทางกฎหมายแล้วมีผลกะไร

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: การปล่อยเงินกู้นอกระบบ ทางกฎหมายแล้วมีผลกะไร  (อ่าน 41 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
saibennn9
Full Member
***

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 149


ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์










« เมื่อ: มกราคม 28, 2019, 11:29:12 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

หลายๆท่าน ท่านผู้อ่าน อยากทราบว่า การปล่อยเงินกู้นอกระบบ ทางกฎหมายแล้ว มีผลอย่างไรนั้น เรามาดูกันเลยครับ
การทำสัญญากู้ยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดย่อมมีนิติกรรมที่อาจแยกได้เป็นสองส่วนได้แก่ ส่วนที่ ๑ การกู้ยืมเงินและส่วนที่ ๒ การคิดดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ในส่วนการกู้เงินนั้น วัตถุประสงค์ย่อมไม่ต้องห้ามตามกฎหมายจึงไม่ตกเป็นโมฆะ แต่ในส่วนการคิดดอกเบี้ยเกินอัตรานั้น เป็นนิติกรรมที่มีวัตถุประสงค์ต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมายตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราฯ จึงตกเป็นโมฆะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๐ แต่เนื่องจากตามพฤติการณ์อาจสันนิษฐานได้ว่าคู่กรณีมีเจตนาแยกส่วนไม่เป็นโมฆะออกจากส่วนที่เป็นโมฆะ ดังนั้น ในส่วนการคิดดอกเบี้ยเกินอัตรานั้นตกเป็นโมฆะ
          คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1647/2549
สัญญากู้ยืมเงินส่วนที่เกิน 350,000 บาท เป็นดอกเบี้ยจากการกู้ยืมเงินที่เกินอัตราที่กฎหมายกำหนด แล้วนำมารวมเข้าเป็นต้นเงินกู้ที่ทำขึ้นใหม่เป็นดอกเบี้ยต้องห้ามตาม ป.พ.พ. มาตรา 654 และพ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2475 มาตรา 3 (ก) ส่วนของต้นเงินที่มาจากดอกเบี้ยที่ไม่ชอบทั้งหมดย่อมตกเป็นโมฆะ แต่ไม่ทำให้ส่วนของต้นเงินที่ชอบจำนวน 350,000 บาท เสียไปด้วย เพราะพึงสันนิษฐานโดยพฤติการณ์แห่งกรณีได้ว่าโจทก์จำเลยเจตนาให้ส่วนที่ไม่เป็นโมฆะแยกออกจากส่วนที่เป็นโมฆะได้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 173 โจทก์จึงคงมีสิทธิเรียกร้องตามสัญญากู้ยืมเงินในส่วนที่ชอบคือต้นเงิน 350,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่ 19 มกราคม 2540 ซึ่งเป็นวันทำสัญญากู้ยืมเงินที่โจทก์นำมาเป็นมูลฟ้อง ดังนั้น ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ให้จำเลยชำระดอกเบี้ยนับแต่วันที่ 19 มกราคม 2536 ซึ่งเป็นวันที่กู้ยืมเงินตามสัญญากู้ยืมเงินฉบับก่อน ทั้งที่โจทก์มิได้ฟ้องขอให้บังคับ จึงเป็นการพิพากษาเกินไปกว่าหรือนอกจากคำฟ้อง ไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 142 ประกอบมาตรา 246
……….
……….
………..
กะไรก็ตาม เงินที่ชำระดอกเบี้ยที่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดมาแล้วนั้น จะทำเช่นไรหล่ะ ฮืม
ทนายความเชียงใหม่ มีคำตอบดังนั้น เงินที่ชำระดอกเบี้ยที่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด( เกินกว่า ร้อยละ ๑๕ ต่อปี หรือ ๑.๒๕ ต่อเดือน ) นั้น ให้นำมาหักกับต้นเงินได้เหลือเท่าไหร่ เจ้าหนี้มีสิทธิฟ้องร้องได้เพียงนั้น ดังคำพิพากษาฎีกาต่อไปนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2131/2560
โจทก์คิดดอกเบี้ยจากจำเลยร้อยละ 1.3 ต่อเดือน หรืออัตราร้อยละ 15.6 ต่อปี ซึ่งเป็นการคิดดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2475 มาตรา 3 ประกอบ ป.พ.พ. มาตรา 654 มีผลให้ดอกเบี้ยดังกล่าวตกเป็นโมฆะ กรณีถือไม่ได้ว่าจำเลยชำระหนี้โดยจงใจฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมายหรือเป็นการกระทำอันใดตามอำเภอใจเสมือนหนึ่งว่าเพื่อชำระหนี้โดยรู้อยู่ว่าตนไม่มีความผูกพันตามกฎหมายที่ต้องชำระ อันจะเป็นเหตุให้จำเลยไม่มีสิทธิได้รับทรัพย์นั้นคืนตาม ป.พ.พ. มาตรา 407 เมื่อดอกเบี้ยของโจทก์เป็นโมฆะ เท่ากับสัญญากู้ยืมมิได้มีการตกลงเรื่องดอกเบี้ยกันไว้ โจทก์ไม่มีสิทธิได้ดอกเบี้ยก่อนผิดนัด และไม่อาจนำเงินที่จำเลยชำระแก่โจทก์มาแล้วไปหักออกจากดอกเบี้ยที่โจทก์ไม่มีสิทธิคิดได้ จึงต้องนำเงินที่จำเลยชำระหนี้ไปชำร
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทนายเชียงใหม่

เครดิตบทความจาก : [url]http://www.นพนภัสทนายความเชียงใหม่.com/[/url]

Tags : ทนายเชียงใหม่,ทนายความเชียงใหม่,ทนายความเชียงใหม่



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
saibennn9
Full Member
***

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 149


ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 27, 2019, 08:28:57 am »

มีประโยชน์มากๆเลย

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ