การเลือกซื้อลำโพงแบบต่างๆ ให้เหมาะกับการใช้งานของเราครับ

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: การเลือกซื้อลำโพงแบบต่างๆ ให้เหมาะกับการใช้งานของเราครับ  (อ่าน 105 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Navaphon11991
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 35359


ดูรายละเอียด










« เมื่อ: มิถุนายน 24, 2015, 03:47:01 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ลำโพง (Speaker) แบบต่างๆ เช่น ลำโพงคอ
 ท่านหลายคนที่กำลังหา ลำโพง (Speaker) สักตัวไว้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น ลำโพง (Speaker) แบบ 2.1, 4.1, 5.1,6.1,7.1 แชนแนล ท่านรู้ไหมว่า ลำโพง (Speaker) แบบต่างๆ นั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร เราจะมาไขความสงสัยนี้ให้นะครับ ก่อนอื่นท่านต้องทำความเข้าใจกับคำเหล่านี้ก่อนนะครับ
Mono (1 channel )
คำว่า MONO นี้มีความหมายว่าอะไร หลายคนคงจะเคยเห็น วิทยุที่มี ลำโพง (Speaker) เดียว หรือ gramophone เช่น วิทยุสมัยก่อนครับ หลักการของ Mono คือส่งสัญญานเสียงออกมาที่ ลำโพง (Speaker) ตัวหลัง และตัวเดียว โดยที่ Mono นี้ไม่มี มโนภาพของเสียง อีกความหมายหนึ่งคือ เราไม่สามารถบอกได้ว่า เสียงนี้มาจากตำแหน่งไหน และมาจากที่ใด Mono นั้นจะไม่เหมือนกับพวก stereo และ multi-speaker อื่นๆ หากเราเอา ลำโพง (Speaker) Mono ไปเล่นกับเครื่องเสียงที่เป็น stereo เสียงที่ออกมาก็ยังเป็น Mono อยู่ดี แต่เสียงจะออกมาจาก ลำโพง (Speaker) 2 ลำโพง (Speaker) แต่เสียงที่เราได้รับทั้ง 2 ลำโพง (Speaker) จะเป็นเสียงๆเดียวกัน เหมือนกันทั้ง 2 ลำโพง (Speaker) เหมือนว่าเสียงนั้นมาจากที่เดียวกัน
 
Stereo (2 channel )
เสียงแบบ Stereo นี้จะมีความแตกต่างจาก Mono มากพอสมควรทีเดียว โดยในการจัดวาง ลำโพง (Speaker) นั้นจะต้องจัดวาง ลำโพง (Speaker) ทั้ง 2 ตัว โดยที่ตัวหนึ่งอยู่ทางซ้าย และอีกตัวหนึ่งอยู่ทางขวาของผู้ฟัง โดยเสียงแบบ Stereo นี้เราจะสามารถบอกสถานที่ของตำแหน่งของเสียงได้ ซึ่งต่างจาก ลำโพง (Speaker) แบบ Mono เช่น เมื่อเราเปิดเพลง เพลงที่เราได้ยินกันนี้ อาจจะได้ยินเสียงของกลอง อาจจะอยู่ตรงกลาง เสียงกีต้าร์อยู่ด้านขวาของ ลำโพง (Speaker) เสียงเปียโนอยู่ทางด้านซ้ายของ ลำโพง (Speaker) และเสียงนักร้องจะ อยู่ตรงกลาง ทำให้เสียงที่ได้นั้นมีความไพเราะมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็น ลำโพง (Speaker) ที่ดีกว่า ลำโพง (Speaker) แบบแรก
 
Speaker 2.1 channel
ลำโพง (Speaker) แบบ 2.1 แชนแนลนี้เป็น ลำโพง (Speaker) ที่ได้มีการพัฒนามาจาก ลำโพง (Speaker) แบบ 2 แชนแนล คือจะมีการเพิ่ม ลำโพง (Speaker) ซับวูเฟอร์เข้ามาอีกตัว ซึ่งสามารถเพิ่มพลังเสียงเบสขึ้นมา ทำให้มีเสียงที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งในปัจจุบัน ลำโพง (Speaker) แบบนี้เป็น ลำโพง (Speaker) ที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากเป็น ลำโพง (Speaker) ที่มีราคาไม่แพงมากนัก และสามารถให้เสียงที่ดี สามารถติดตั้งได้ง่าย


4 Point Surround ( 4.1 channel)
โดย ลำโพง (Speaker) แบบนี้จะประกอบไปด้วย ลำโพง (Speaker) มากถึง 4 ตัว และ subwoofer อีก 1 ตัว เรียกอีกอย่างว่าเป็น ลำโพง (Speaker) แบบ 4.1 ซึ่ง ลำโพง (Speaker) แบบนี้ต้องใช้คู่กับซาวนด์การ์ดที่เป็นแบบ 4.1 ด้วย ซึ่งเป็นระบบที่ใช้กันมากในปัจจุบันนี้ โดย ลำโพง (Speaker) 4 ตัวนี้จะจัดอยู่ในตำแหน่งที่ต่างกันคือ หน้าซ้าย,หน้าขวา,หลังซ้าย,หลังขวา และ subwoofer โดยที่ ลำโพง (Speaker) Subwoofer นี้จะไม่นับเป็น ลำโพง (Speaker) ที่ 5 เพราะเป็น ลำโพง (Speaker) ที่มีความถี่ต่ำ เขาจึงนับแค่ .1 โดย แต่ล่ะ ลำโพง (Speaker) ของ 4 Point Surround จะออกเสียงที่แต่ต่างกัน โดยแต่ล่ะตัวมีหน้าที่แตกต่างกันและมีสัญญาณเป็น ของตัวเอง ยกเว้น Subwoofer ที่ต้องอาศัยความถี่ของ ลำโพง (Speaker) ทั้ง 4 ตัว ในการออกเสียงแทน
 
Destop Theater 5.1 (6 channel)
โดย ลำโพง (Speaker) แบบ 5.1 นี้จะใหญ่กว่า ลำโพง (Speaker) แบบ 4.1 ขึ้นมาอีกหน่อย ที่แตกต่างก็คือ จะเพื่มช่องสัญญาณ ขึ้นมาอีก 2 Channel ให้กับ ลำโพง (Speaker) ตัวกลางที่เพื่มเข้ามาและ subwoofer โดยแบบ 5.1 นี้ Subwoofer จะมีช่อง Channel เป็นของตัวเองแล้ว แต่ก็ยังนับเป็น x.1 อยู่ดีเพราะความถี่ของ Subwoofer นั้นมีความถี่ต่ำเกินกว่าที่จะนับเป็บ 1.0 โดย ลำโพง (Speaker) แบบนี้จะ support Dolby Digital และ DTS (Digital Theater Systems) Surround systems โดยเราจะพบเห็นได้ในโรงหนังทั่วไป แต่หากระบบนี้มาอยู่ที่จอทีวีบ้านคุณหรือหน้าคอมพิวเตอร์จะเรียกว่า Destop Theater 5.1 นั้นเองครับ
 
Speaker 6.1 channel
โดย ลำโพง (Speaker) แบบ 6.1 นี้ ก็จะมีขนาดที่ใหญ่กว่า ลำโพง (Speaker) แบบ 5.1 ที่บอกมาข้างต้น มีช่องสัญญาณที่เพิ่มเข้ามาอีก ลำโพง (Speaker) แต่ละตัวจะมีการจัดวางที่แตกต่างกัน แล้วการให้เสียงก็มีความแตกต่างกันด้วย ลำโพง (Speaker) แบบนี้เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในตอนนี้ สามารถให้เสียงที่ไพเราะ มีคุณภาพเสียงที่ดี ทำให้บ้านของท่านกลายเป็นสถานบันเทิงย่อมๆได้เลย ลำโพง (Speaker) แบบ 6.1 ที่มีขณะนี้ก็มีอยู่ด้วยกันหลายรุ่น อย่างเช่นของ Creative คือ Creative Inspire 6600
 
Destop Theater 7.1 (8 channel)
ลำโพง (Speaker) แบบนี้เป็น ลำโพง (Speaker) ที่หรูที่สุดในบรรดา ลำโพง (Speaker) ที่บอกมาข้างต้นและกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันนี้ แต่ยังมีให้เห็นไม่มากนัก มีความแตกต่างจาก 5.1 ก็คือจะเพิ่ม ลำโพง (Speaker) ตรง กลางซ้าย, กลางขวา มาอีก 2 ตัว โดยโหมดนี้ ต้องใช้ควบคู่ไปกับซาวนด์การ์ดที่เป็นแบบ 7.1ซึ่งซาวนด์การ์ดแบบ 7.1 แชนแนลนี้ในท้องตลาดของเราเริ่มจะมีให้เห็นกันมากขึ้นแล้ว เช่น ซาวนด์การ์ดในตระกูล Creative SB Audigy 2 ZS หรือ Creative SB Audigy 2 NX ระบบ ลำโพง (Speaker) ดังกล่าวที่บอกนั้นจะมีให้เห็นแต่ ในโรงหนังหรูๆ และ Home Theater ราคาแพงครับ โดยหวังว่า Creative เจ้าพ่อวงการซาวนด์การ์ดจะทำการผลิตซาวนด์การ์ดแบบ 7.1 ออกมาเร็วๆนะครับ




เครดิต : [url=http://www.cdiscount.co.th/electronics/audio/speakers][url]http://www.cdiscount.co.th/electronics/audio/speakers
[/url]



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ