ต้นตอ Microsoft ผู้ปฏิรูปสังคมเทคโนโลยี

[asianoned]

Advertisement

ในแวดวงเทคโนโลยีประกอบด้วยนานาบริษัทและหลายองค์กรที่คอยขับเคลื่อนและผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกสู่ท้องตลาดอย่างต่อเนื่อง และ Microsoft คืออีกหนึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ที่แทบใครๆรู้จักมักคุ้นและผูกพันเป็นเป็นอันดี และทราบกันว่ามีความหมายมากเพียงใดแก่ชีวิตหลายๆ คนในยุคปัจจุบัน ดีฉันจักนำทุกคนไปรู้จัก Microsoft ให้เยอะขึ้นกว่าแต่ก่อน
 
 ไมโครซอฟ บริษัทซอฟต์แวร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก มียอดจำหน่ายประมาณ 4 แสนล้านบาท และเจ้าหน้าที่คร่าวๆ 57,000 คน ใน 90 แดนทั่วโลก สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ เมือง Redmond,Washington สหรัฐอเมริกาบริษัท Microsoft ผลิต และพัฒนาซอฟต์แวร์เป็นหลัก โดยมีผลิตภัณฑ์ที่ขายดิบขายดีติดอันดับคือระบบปฏิบัติการชื่อ Microsoft Window และซอฟต์แวร์สำหรับที่ทำงานที่หน่วยงานทั่วโลกนิยมซื้อชื่อ Microsoft Office ยิ่งไปกว่านั้นแล้ว Microsoft อีกทั้งได้แพร่ขยายสายสินค้าไปยังตลาดอื่นๆ เช่น สถานีโทรทัศน์ MSNBC เว็บไซต์ MSN และรวมไปถึงสารานุกรม Microsoft รวมไปถึงวัสดุอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ อย่างเช่น เมาส์, คีย์บอร์ด, ฮารด์แวร์,เครื่องเล่นเกม, โทรศัพท์มือถือ รวมทั้งของซื้อของขายเกี่ยวข้องเทคโนโลยีอีกมากหลาย

 บริษัท Microsoft ก่อตั้งขึ้นในศักราช ค.ศ. 1975 โดย Bill Gates และ Paul Allen แรงดลใจของพวกเขาทั้งสอง ต้องย้อนกลับไปเดือนมกราคม ศักราชค.ศ. 1975 โดยวันหนึ่ง Paul Allen ได้นั่งอ่านเรียงความเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ Altair 8800 และนำไปโชว์ให้ Bill Gates ดู ทันใดนั้น Bill Gates จึงโทรไปหาบริษัท Micro Instrumentation and Telemetry Systems (MITS)เป็นบริษัทชนชาติอเมริกาดำเนินธุรกิจการค้าเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์โดยทันทีทันใด และพูดว่าเขาทั้งคู่คน จะเขียนภาษาเบสิค Programming เวอร์ชั่นใหม่ให้โดยพวกเขาก็ได้รับการเห็นด้วยจริง ๆและนั่นก็คือก้าวแรกไปสู่แวดวง ITของ Bill Gates และ Paul Allen

 ตอนหลังศกค.ศ 1976 หลังจากแยกตัวออกมาริเริ่มตั้งขึ้นบริษัท ไมโครซอฟ การดำเนินธุรกิจของพวกเขาได้ผลอย่างมากมีเงินได้มากกว่า $15,000 เป็นสองคนรุ่นใหม่แห่งสังคม IT ที่ควรจะน่าสนใจไม่เบาในเวลานั้น

 อีก 2 ปี บริษัทในเครือ Microsoft แห่งแรก ที่ตั้งอยู่ข้างนอกสหรัฐอเมริกา มีชื่อว่า "ASCII Microsoft" โดยจัดตั้งเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ปีค.ศ. 1978 ชาติญี่ปุ่น เพื่อที่จะขยายฐานตลาดฝ่ายองค์การ และผู้ใช้ให้เพิ่มขึ้น เพราะว่าญี่ปุ่นมีอัตราการเจริญเติบโตทางธุรกิจการค้าสูง

 แล้วช่วงเวลาที่สำคัญก็มาถึง เมื่อ Bill Gates และ Paul Allen คิดเช่นเดียวกันว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ จำเป็นจะต้องมีระบบปฏิบัติการเสมือนเป็นสมองกลเฝ้าคอยทำงานทำการให้กับผู้ใช้งาน เพราะเช่นนั้น Bill Gates จึงแลหาทางเลือก ท้ายที่สุดก็ได้ไปซื้อระบบปฏิบัติการ "Control Program for Microcomputers" (CP/M) และ "Quick and Dirty Operating System" (QDOS) จากบริษัท Seattle Computer Products ซึ่ง Microsoft ก็ยกมามาพัฒนาเป็นระบบปฏิบัติการที่มีชื่อว่า MS-DOS (Microsoft Disk Operating System)และเปลี่ยนแปลงมาเป็น Windows ในเวลาต่อมา

 
 ในวันที่ 20 พฤศจิกายน ปีค.ศ. 1985 ทาง Microsoft ได้เปิดฉาก "Windows 1.0" อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นการขยายทำให้ดีขึ้นมาจาก MS-DOS ซึ่งได้ปรับปรุงให้การทำงานมีความคล่องเยอะขึ้นกว่าเดิม เหมาะสำหรับผู้ใช้งานในบ้านทั่วๆ ไป มีรายการที่เอื้ออำนวยความคล่องมากมาย เช่น Paint, Windows Writer, Notepad, Calculator, Calendar และมีเกม Reversi เพื่อให้ผ่อนคลายด้วย

 ในศักราช 1987 ได้เปิดตัว Windows 2.0 โดยเพิ่มพูนสมรรถนะใหม่ๆ เข้ามา รวมไปถึงปฏิวัติการทำงานให้เข้ายุค และมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น อาทิเช่น ไอคอนบนเดสก์ท็อป (Desktop icons), หน่วยความจำส่วนขยาย (Expanded memory), Control Panel ฯลฯ

 ถัดจากนั้นในช่วงศก 1989 ทางบริษัท ไมโครซอฟ ได้พัฒนา Software ต่างๆ อย่างเช่น office suite, Microsoft office คือรายการที่ใช้ตามที่ทำงานต่างๆ อย่างเช่น Microsoft Word, Microsoft Excel

 ปี1990 ทางบริษัทได้กระทำการเปิดตัว Window 3.0 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัตการ version แรกที่ได้หยิบยก Graphics มาช่วยในการใช้งานเพื่อความสวยงาม คล่องตัวและพัฒนาศักยภาพเพื่อให้ใช้ Intel 386 processor ได้

 และผลสัมฤทธิ์อย่างถ่องแท้ของ ไมโครซอฟ ก็เกิดขึ้นใน ศกค.ศ. 1995 เมื่อได้ทำการปล่อย Windows 95 ออกสู่ตลาดซึ่งนับว่าเป็น Windows ที่มีความสามารถครบครันดังเช่น ด้านการเรียนรู้, ด้านกลุ่มธุรกิจการค้า, มัลติมีเดีย, อินเทอร์เน็ต และการทำงานที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของระบบ จุดที่น่าหลงใหลคือปุ่ม Start, ปุ่มย่อ/ขยาย และปุ่มปิด เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกบนเวอร์ชั่นนี้
 
 ในปี 1998  ทางบริษัทยังเดินหน้าพัฒนา Window 98 ออกมาใหม่สนับสนุนการอ่านแผ่นดีวีดี (DVD) และ Universal serial bus (USB) เหมือนเป็นวินโดวส์ที่ตอบโจทย์การใช้งานในยุคใหม่ก่อนปรับปรุง Windows 2000 และ Windows ME ในปี 2000 เป็นสอง Window ที่ก้าวหน้ามาจากเวอร์ชั่น 95 และ 98 โดยมีการเพิ่มเติมลูกเล่น และความรอบรู้ใหม่ๆ เข้าไป
 
และการก้าวย่างสมัยใหม่ของ Microsoft และผู้ใช้ก็มาถึงเมื่อ Windows XP เกิดขึ้นในศักราช 2001 ซึ่งระบบต่าง ๆ ทำออกมาได้เสถียร จนหลายคนยังใช้ Windows XP มากระทั่งถึงศก 2018 แม้น Microsoft จะออก Windows Vista มา และยุติให้การสนับสนุน Windows XP ไปตั้งแต่ปี 2014 แล้วก็ตาม
 
 จนมาถึงตอนที่ Windows 7 ที่ลงสู่ท้องตลาดในปี 2009 และ Windows 8 ที่โหมโรง ในศก 2012 ซึ่งทั้งคู่ก็เรียกได้ว่าเป็นเวอร์ชั่นยอดนิยมจากผู้ใช้งานทั่วโลกในตอนนี้ เนื่องด้วยรูปร่างหน้าตา และคุณลักษณะตามสมัยใช้งานคล่อง
 
 ปัจจุบันนี้ Windows 10 ถือกำเนิดขึ้นแล้วในปี 2015 และกำลังกลายมาเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งในชีวิตผู้คน แต่กระนั้น Microsoft ยังไม่เว้นแค่นั้น ยังคืบหน้าสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ซึ่ง Smart Phone ก็เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่ Microsoft ยังคงผลิตออกมาอย่างสม่ำเสมอ และมีความเพียรพยายามที่จะนำ Windows 10 มาเป็นระบบปฏิบัติการกลางที่ใช้ได้ทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น PC จนถึง Smart Phone ซึ่งจำต้องคอยจับตากันต่อไปว่า ไมโครซอฟ จะเปลี่ยนโลกได้อีกครั้งหรือเปล่า

Tags : Microsoft,ซื้อ Microsoft office,ไมโครซอฟ