Mac ที่ เหมาะกับทุกการใช้งาน

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: Mac ที่ เหมาะกับทุกการใช้งาน  (อ่าน 9 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
mmhaloha
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5645


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: มีนาคม 03, 2019, 05:45:43 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ในเครือของบริษัท Apple ที่มีหลากหลายสายการทำรวมทั้งหลากหลายสินค้าไม่เว้นแต่กลุ่มสำหรับ Mac ที่มี iMac , iMac Pro , Macbook , Macbook Pro รวมทั้ง Macbook Air นอกจากนั้นแล้วก็มีประเภทสินค้าเกี่ยวกับ iPhone , iPad รวมทั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมอีกมากมาย โดยที่ Apple ก็มักจะใส่รายการหรือว่ารูปแบบผลิตภัณฑ์ล่าสุด เข้าไปในทุกๆประเภทที่ออกขายเพื่อจะตอบสนองความปรารถนาและประเภทการทำงานสำหรับผู้ใช้ให้ได้ที่สุด
ส่วนประเภทสินค้าของ Mac ที่น่าสนใจก็คงจะเป็น Macbook ที่ทำออกขายถึง 3 แบบให้ซื้อใช้งานกันได้แล้วแต่ความต้องการโดยแต่ละรุ่นก็ประกอบด้วยลักษณะการทำงานต่างกันไปตามรูปแบบ มาที่ตัวแรกเป็น Macbook Air โดยที่แม็คบุ๊คตัวนี้มีชื่อเสียงมากในระหว่างที่ออกขายครั้งแรกเพราะรูปลักษณ์ภายนอกที่บาง เบา และยังมีไซต์ไม่ใหญ่มากทำให้พอดีที่เหมาะกับการติดตัว แต่นอกจากนั้นแล้วคุณสมบัติด้านในก็เป็นที่ดึงดูดไม่ต่างกัน อันแรกเลยคือเรื่องเกี่ยวกับแบตเตอรี่ที่อึดมาก กับขนาดจอ 11 นิ้ว สามารถใช้งานได้ถึง 9 ชั่วโมง กับสัดส่วนหน้าจอ 13 นิ้ว สามารถใช้มากถึง 12 ชั่วโมง นอกจากนั้นแล้วก็มี Power Nap ที่เมื่อพับหน้าจอเพื่อให้ไปยังโหมด Sleep ก็ยังอัพเดทข้อมูลพร้อมทั้งเครื่องอยู่ต่อเนื่องเพราะว่าใช้งานไฟต่ำมากเลยทำให้ไม่กินไฟฟ้าเรื่องของการออกแบบแม็คบุ๊คตัวนี้ขึ้นรูปจากอลูมิเนียมหนึ่งชิ้นจึงไม่มีข้อต่อในแม็คบุ๊ค รวมถึงฮาร์ดดิสใช้เป็นแบบ Flash Storage เลยทำให้ตัวเครื่องที่ได้บางแบบที่เห็น Trackpad เองก็ทำงานได้มีประสิทธิภาพรวมทั้งควบคุมได้สะดวกจนแทบไม่จำเป็นจะต้องใช้งานเมาส์ในการทำงานเลย ส่วนหมวดการเชื่อมต่อก็มีที่เสียบ USB ไว้ให้ 2 ช่อง Thunderbolt , Headphone ประเภทละรู มีพอร์ตเอาไว้ชาร์จไฟรวมถึงระบบเชื่อมไร้สายไฟมาให้ โดยที่ Macbook Air ไม่เหมาะกับการใช้งานด้วยโปรแกรมหนักๆ เนื่องจากถูกดีไซน์มาเพื่อที่จะใช้งานได้แบบสะดวก ทำงานไม่หนักมาก อีกทั้งพกพาคล่องแคล่ว
            รุ่นที่ 2 ก็คือ Macbook รุ่นนี้ที่เปิดตัวออกขายเรียกได้ว่ามีสเปคใหม่อยู่หลายแบบเลย อย่างแรกเป็นเรื่องความบางที่บางมากกว่าแม็คบุ๊คทุกๆอย่างที่ได้มีมา ถัดมาก็คือคีย์บอร์ดคือคีย์บอร์ดแบบล่าสุดที่พัฒนามาสำหรับที่จะรองรับน้ำหนักในการกดแป้นพิมพ์และยังช่วยให้เที่ยงตรงในการจิ้มมากขึ้น จอแสดงผลในประเภทนี้จะเป็น Retina ความละเอียด 2304 x 1440 พิกเซล และยังกินไฟน้อยลงมากกว่า จอลักษณะแรกเริ่มมากถึง 30%  ในส่วน Trackpad ที่ MacBook ประเภทนี้ ได้รับการออกแบบใหม่ ที่มีชื่อว่า Force Touch trackpad โดยที่สามารถใช้งานระบบการสัมผัส ทดแทนการกดลักษณะปกติ ซึ่งจะมีเซ็นเซอร์ที่ตรวจน้ำหนักในการสัมผัสเกี่ยวกับสัมผัสแรง หรือว่าสัมผัสเบา  แบบนี้นับว่าเป็นเครื่องแรกใน MacBook ที่ปราศจากพัดลมถ่ายเทความร้อน เนื่องจากมีการออกแบบให้ Logic Board มีขนาดเล็กลง ทำให้เล็กกว่า Logic Board ณ MacBook Air มากถึง 67% รวมถึงเนื้อที่ที่เกินกลายเป็นที่ของแบตเตอรี่ทั้งหมด ช่วยให้อาจจะทำงานได้ยาวนานถึง 10 ชั่วโมงเลย หลังสุดก็คือออกมาพร้อมกับพอร์ตลักษณะล่าสุด คือ พอร์ต USB Type C (USB-C) เพียงอย่างเดียว แต่ใช้งานได้อย่างหลากหลาย ไม่เว้นแต่ ชาร์จแบตเตอรี่ , USB, DisplayPort , HDMI หรือ VGA
            รุ่นสุดท้ายที่จะกล่าวถึงก็คือ Macbook Pro แบบล่าสุดที่ได้มีการปรับเปลี่ยนการออกแบบต่างๆ อย่างเช่น สัญลักษณ์ Apple ที่ฝาข้างหลังที่กลายเป็นอลูมิเนียมสะท้อนแสงข้างกระจกทดแทน ทำเครื่องประกอบลักษณะยูนิบอดี้ในแบบสำหรับ Apple โดยที่มีอีกจุดที่ปรับปรุงเทียบจากแต่ก่อนคือ แถบสันแม็คบุ๊คที่ในแม็คบุ๊ครุ่นก่อนคือพลาสติกสีดำ เพื่อจะให้เป็นจุดรับสัญญาณ ได้โดนดัดแปลงมาเป็นอลูมิเนียมสีเหมือนกับตัวเครื่องก็ยังมีคีย์บอร์ดที่ใช้งานระบบประเภทผีเสื้อ (Butterfly) แบบสอง โดยที่ได้ถูกการปรับปรุงให้แต่ละปุ่มมีช่องว่างการจิ้มมากกว่าใน MacBook 12 นิ้ว ทำให้การจิ้มลงไปรู้สึกเป็นปุ่มมากกว่าเดิมทำให้ตอนที่พิมพ์งานต่อเนื่องนานมาก ช่วยให้ไม่ล้าข้อนิ้ว ด้านแบตเตอรี่ยังใช้ได้อย่างติดต่อกันยาวนานตามเกณฑ์ MacBook Pro สามารถชาร์จไฟเข้าได้เร็ว รวมทั้งชาร์จที่ USB-C ช่องใดก็ได้ของเครื่อง ด้านของพอร์ต USB-C ที่ใช้ Thunderbolt 3 ช่วยให้มีความรวดเร็วในการรับส่งข่าวสารมากถึง 40 Gbps ช่วยให้มันสามารถต่อเครื่องมือหลากหลายชิ้น ด้วยการใช้งาน USB-C ที่มาจากแม็คบุ๊คแค่พอร์ตอันเดียว สุดท้ายก็เป็นในด้านเกี่ยวกับ Touch Bar ที่เป็นโซนคำสั่งแบบสัมผัสที่มาแทนที่แถบสั่งงาน หรือปุ่ม F1-F12 ดั้งเดิม พร้อมทั้งระบบ Touch ID หรือว่าเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ช่วยให้ทำงานในเครื่องได้สะดวก อีกทั้งมั่นคงเพิ่มมากขึ้น
จากที่กล่าวมา แม็กบุ๊คมีให้เลือกใช้กันหลายรุ่นตัวอย่างเช่น Macbook , Macbook Air หรือ Macbook pro เพราะฉะนั้นแล้วจำเป็นต้องพิจารณาเกี่ยวกับรูปแบบเกี่ยวกับประเภทนั้นเหมาะกับการทำงานตัวเองหรือเปล่าก่อนที่จะเลือกเลือก
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : แมคบุ๊ค

Tags : Mac,แมคบุ๊ค,Macbook



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ