เรอัล มาดริด ตกรอบ 3 ถ้วยในช่วงเวลาแค่ 1 สัปดาห์

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เรอัล มาดริด ตกรอบ 3 ถ้วยในช่วงเวลาแค่ 1 สัปดาห์  (อ่าน 24 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Jirasak2708
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 22854


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: มีนาคม 13, 2019, 08:43:06 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


เรอัล มาดริด ตกรอบ 3 ถ้วยในช่วงเวลาแค่ 1 สัปดาห์
เริ่มจากร่วงในโกปาเดลเรย์ ทางเข้า UFABET ด้วยการแพ้บาร์ซ่า 3-0 เละเทะ จากนั้นในลาลีกา แพ้บาร์ซ่าอีกรอบคาบ้าน 1-0 ช่องว่างห่างกัน 12 คะแนน หมดลุ้นแชมป์ไปอีกรายการ
ความหวังเดียวที่จะทำให้มาดริด พอกู้หน้าตัวเองได้ คือการได้แชมป์ยุโรป 4 สมัยซ้อน สุดท้ายก็มาแพ้อาแจ๊กซ์คาบ้าน 4-1 ตกรอบไปอีกถ้วย
แพ้ไม่ใช่แบบแพ้ธรรมดา แต่นี่มันเอาต์คลาสเลย
ตอนนี้ว่ากันตรงๆไม่มีใครกลัวมาดริดอีกแล้ว แม้แต่คิโรน่า ยังบุกมาชนะที่ซานติอาโก้ เบร์นาเบวได้
คำถามคือ จากราชาผู้ยิ่งใหญ่เจอกับใคร ทุกคนต้องหวั่นเกรง เรอัล มาดริดกลายมาอยู่ในสภาพนี้ได้อย่างไร
จริงๆไม่ใช่แค่แฟนบอลที่รู้สึก แต่ตัวนักเตะเองก็คิด โทนี่ โครส ให้สัมภาษณ์หลังเกมแพ้เออิบาร์ ในเดือนพฤศจิกายนว่า
"นี่เป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดของผม ตั้งแต่ย้ายมาเรอัล มาดริด เมื่อ 5 ปีก่อน"
------------------------------------------
ปัญหาแรกสุดคือเกมรุกที่ไร้ประสิทธิภาพโดยสิ้นเชิง
เรอัล มาดริด ลงเล่นมา 26 นัดในลาลีกา เพิ่งยิงไปได้แค่ 43 ประตู
ขณะที่ดาวซัลโว 6 อันดับแรก ไม่มีชื่อของนักเตะมาดริดแม้แต่คนเดียว คนที่ยิงได้สูงสุดคือ คาริม เบนเซม่า จำนวน 11 ประตู เป็นดาวซัลโวอันดับ 7 ของลีก
เมื่อคุณไร้ตัวจบสกอร์ คุณจะเอาอะไรไปยิงคู่แข่งล่ะ นี่มันเป็นพื้นฐานของเกมฟุตบอลอยู่แล้ว
เบนเซม่า 11 ลูก 
แกเร็ธ เบล 7 ลูก
เซร์คิโอ รามอส 6 ลูก
คาเซมิโร่ 3 ลูก
นี่คือ 4 อันดับแรก ที่ยิงประตูได้มากสุดในลีกของมาดริด ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ มิดฟิลด์ตัวรับอย่างคาเซมิโร่ ยังยิงเยอะสุดเป็นอันดับ 4
ในเกมโกปาเดลเรย์ เลก 2 ที่แพ้บาร์ซ่า เมื่อวีกก่อน มาดริด มีโอกาสในครึ่งแรกจะจะถึง 3 ดอก จากเบนเซม่า และวินิซิอุส แบบที่ต้องเข้าแน่ๆ แต่ก็ไม่เป็นประตูสักลูก
พอกลับมาครึ่งหลัง โดนบาร์ซ่ารัวยิง 3 เม็ด ร่วงตกรอบไปเลย
เมื่อเห็นปัญหาของเกมรุกแบบนี้ มันช่วยไม่ได้ที่จะย้อนมาที่การปล่อยคริสเตียโน่ โรนัลโด้ออกจากทีม
โรนัลโด้อายุ 33 ก็จริง แต่ร่างกายยังแข็งแรง และไว้ใจได้เสมอหน้าปากประตู
ผลงานของเขากับยูเวนตุสตอนนี้ เป็นดาวซัลโวของลีก (19 ลูก) และ ท็อปแอสซิสต์ (8 ครั้ง) ช่วยให้ยูเว่ เป็นจ่าฝูงกัลโช่ แบบที่คว้าแชมป์ชัวร์ๆ 100%
เมื่อเห็นแบบนี้ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ควรจะยอมรับได้แล้วว่า ตัดสินใจพลาดแค่ไหนที่ปล่อยคริสเตียโน่ โรนัลโด้ออกจากทีม
5 ปีหลังสุดโรนัลโด้ยิงในลาลีกาเรียงตามซีซั่นด้วยจำนวน 34-48-35-25-26 จะเห็นว่า ต่อให้ซีซั่นที่เล่นแย่ที่สุดยังยิงได้ถึง 25 ประตู แสดงให้เห็นถึงความสม่ำเสมอ
เปเรซ รู้ว่าโรนัลโด้เก่ง แต่เขาคิดว่าไม่มีโรนัลโด้ก็คงไม่เป็นไร ทีมคว้าแชมป์ยุโรปสามสมัยซ้อนมาได้ เพราะองค์ประกอบอย่างอื่นดี ไม่ใช่แค่โรนัลโด้คนเดียว แต่จากวันนี้มันเห็นแล้วว่า แม้โรนัลโด้จะเป็นแค่จิ๊กซอว์ชิ้นเดียว แต่มันเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นที่ใหญ่มากจริงๆ
"ปัญหาของเราในซีซั่นนี้คือขาดความต่อเนื่อง และขาดประตู" ลูก้า โมดริชกล่าว "โรนัลโด้ เป็นนักเตะที่ใครๆก็หามาทดแทนไม่ได้"
"คริสเตียโน่ ยิง 50 ลูกต่อซีซั่น ซึ่งคุณไม่สามารถหาใครยิงได้ขนาดนั้นง่ายๆหรอก"
------------------------------------------
ปัญหาเรื่องที่ 2 คือ มาดริดเสียโรนัลโด้แล้ว ไม่ซื้อนักเตะเกรดระดับเดียวกันมาทดแทน
ตัวดังๆที่เป็นข่าวอย่างแฮร์รี่ เคน, เนย์มาร์,เอแด็น อาซาร์ หรือ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ปรากฏว่า มาดริด ไม่ซื้อสักคนเดียว
สโมสรยึดมั่นกับการใช้คาริม เบนเซม่าเป็นแกนนำในแกนบุก ซึ่งก็ดูตามผลงานจะเห็นว่า เบนเซม่าน่ะเล่นได้ แต่จะมารัวถล่มประตูุลุ้นดาวซัลโวลีก มันก็ไม่ใช่สไตล์เขา
ตัวที่มาดริดซื้อมาในช่วงซัมเมอร์ ส่วนใหญ่จะเป็นแนวรับ ตัวรุกจริงๆมี 2 คนคือ วินิซิอุส จูเนียร์ กับ มาเรียโน่
วินิซิอุส เพิ่งจะ 18 ปี โอเคเขาคือดาวรุ่งพรสวรรค์ แต่เด็ก 18 ปี คุณจะคาดหวังให้เขาเก่งแค่ไหนล่ะ จะมาแทนที่โรนัลโด้ได้เลยงั้นหรอ มันไม่มีทางหรอก เขาต้องใช้เวลาอีกเยอะในการปรับตัว
วินิซิอุส ยิงได้ในลาลีกา 2 ลูก จากการลงสนาม 15 นัด ยังไม่ถึงขั้นประทับใจ
ขณะที่มาเรียโน่ ที่ย้ายมาจาก โอลิมปิก ลียง พกความมั่นใจเกินร้อย ขอใส่เสื้อเบอร์ 7 ต่อจากโรนัลโด้ แต่ผลงานก็อย่างที่เห็น ลงสนามไป 8 นัด ยิงได้ 1 ลูก ไม่ได้มีอะไรใกล้เคียงกับเบอร์ 7 คนเดิม
ด้วยสถานการณ์แบบนี้ เรอัล มาดริด จะลงตลาดอย่างจริงจังในซัมเมอร์ที่จะถึง และก็แน่นอน พวกเขาจะโดนโก่งราคานักเตะแบบที่ต้องกุมขมับ ซึ่งมาดริดก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากต้องยอมจ่ายอย่างเดียว
------------------------------------------
ปัญหาที่ 3 คือโค้ช
ตลอด 2 ปีครึ่งที่เรอัล มาดริด มีซีเนอดีน ซีดาน เป็นเฮดโค้ช ไม่มีอะไรที่พวกเขาต้องกังวลเลย ต้องให้เจอคู่แข่งเก่งแค่ไหน ซีดาน จะหาหนทางทีมชนะได้เสมอ
แน่นอนส่วนหนึ่งที่มาดริดแข็งแกร่ง เพราะมีโรนัลโด้ แต่อีกส่วนก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า มาจากความเขี้ยวในเรื่องแท็กติกของซีดาน
เกมชนะลิเวอร์พูล 3-1 ในแชมเปี้ยนส์ลีกนัดชิงชนะเลิศ เขาเก็บแกเร็ธ เบลไว้เป็นไม้ตาย ทางเข้า UFABET เพื่อเอามานวดหงส์แดงในช่วงครึ่งหลัง และพอส่งเบลลงมาก็โป้ง ยิงได้ 2 ดอก คว้าแชมป์ยุโรปไปครอง
ซีดาน คือนักเตะดีกรีบัลลงดอร์ พอมาคุมทีม ต่อให้นักเตะจะห้าวแค่ไหน คุณก็ต้องฟังซีดาน คือแน่ใจหรือเปล่าล่ะ ว่าเก่งกว่าโค้ชที่กำลังพูดอยู่
คนที่มาแทนซีดาน คือชูเลน โลเปเตกี ที่ไม่เคยคุมทีมในลาลีกามาก่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ปรากฏว่า ก็เป็นไปตามคาด เมื่อโลเปเตกี คุมทีมไป 10 เกมในลาลีกา ชนะ 4 เสมอ 2 แพ้ 4 พาทีมอยู่อันดับ 9 ของตาราง
โลเปเตกี ย่อมต้องโดนไล่ออก และกลายเป็นซานติอาโก้ โซลารี่เข้ามาคุมแทน
โซลารี่เองก็ไม่ได้ต่าง เขาคุมทีมเยาวชนมาดริดมาหลายปีก็จริง แต่ก็ไร้ประสบการณ์กับการคุมทีมชุดใหญ่
พอมาคุม ก็พอกล้อมแกล้มไปได้ เอาตัวรอดได้ในเกมไม่ยาก แต่พอเจอของจริง เจอเกมหนัก มาดริดเสร็จตลอด
ขณะที่ปัญหาภายใน ดราม่าระหว่างเขากับอิสโก้ ก็ไม่สามารถเคลียร์ได้
บางคนอาจบอกว่า แต่ซีดาน ก็ไม่เคยคุมทีมชุดใหญ่มาก่อนเหมือนกันนะ แต่เอาเป็นว่าเคสของซีดาน เป็นกรณีพิเศษ คงไม่ได้มีเยอะหรอก ที่จะทำได้แบบซีดาน หรือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า คนที่พาสจากทีมเยาวชนมาคุมชุดใหญ่ได้เลย คุณต้องมีพรสวรรค์มากจริงๆ
ทั้งโลเปเตกี และ โซลารี่ ประสบการณ์น้อยเกินไป ในการคุมทีมคุณภาพขนาดนี้
ดูอย่างบาร์เซโลน่า แม้จะมีองค์ประกอบทีมดีแค่ไหน แต่ก็จำเป็นต้องหาโค้ชที่เก๋าๆเข้ามาช่วยวางแท็กติกด้วย เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ จะยังไง เขาก็มีประสบการณ์เพียบ คุมทั้งบิลเบา, บาเลนเซีย, บียาร์เรอัล และ เอสปันญ่อลมาแล้ว เข้าใจเกมระดับลาลีกาเป็นอย่างดี
ดังนั้นโค้ชคนต่อไปของมาดริด ต้องเป็น โค้ชมากประสบการณ์แบบที่ใช้การได้เลยทันที แบบโซเช่ มูรินโญ่, เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่, โยอาคิม เลิฟ , อันโตนิโอ คอนเต้ หรือ แม้แต่อาร์แซน เวนเกอร์
จะไปเดิมพันกับตำนานสโมสรอย่าง กูตี, ราอูล กอนซาเลซ หรือเฟร์นันโด เอียร์โร่ คงไม่ได้อีกแล้ว
------------------------------------------
ปัญหาที่ 4 คือ ธีโบต์ กูร์กตัวส์
เรอัล มาดริด จ่าย 30 ล้าน ดึงกูร์กตัวส์มาจากเชลซี เพื่อมาเป็นมือหนึ่งของทีม
กูร์กตัวส์ยังหนุ่มยังแน่น อายุแค่ 26 ปี เขาคือปัจจุบันและอนาคต ส่วนผลงานก็ถือว่าน่าประทับใจ กูร์กตัวส์ได้อันดับ 3 ฟุตบอลโลกกับเบลเยี่ยม และเคยพาแอตเลติโก้ มาดริดเป็นแชมป์ลาลีกามาแล้ว
อย่างไรก็ตาม เรอัล มาดริด มีนายทวารที่ชื่อเกย์ลอร์ นาบาสอยู่แล้ว
นาบาสอาจไม่ใช่คนที่หวือหวาอะไร ไม่ได้มีสตอรี่นอกสนามที่น่าสนใจ แถมบุคลิกก็ไม่ได้หล่อเหลาขายได้ แต่ทว่าเรื่องฝีมือ สามารถการันตีได้เลยว่าเขาคือของจริง
3 แชมป์ยุโรปของมาดริด มีขึ้นเพราะได้นาบาสคอยเฝ้าเสา ถ้าไม่มีเขา มาดริดคงไม่ได้แชมป์ยุโรปสบายๆแบบนี้
แต่พอกูร์กตัวส์มา เขาก็ต้องเป็นสำรอง
นาบาสให้สัมภาษณ์ว่า "ผมได้แชมป์ยุโรปสามสมัยแต่สุดท้ายกลายเป็นว่าไม่ได้ลงเล่น" แน่นอนเขาไม่พอใจ คือเทียบฟอร์มตัวตัวจริงๆ นาบาสไม่ได้เป็นรองเลย
10 เกมหลังสุด ที่กูร์กตัวส์ลงเล่นเขาเก็บคลีนชีทไป 1 เกม เราก็จะเห็นว่า กูร์กตัวส์ไม่ได้สม่ำเสมอ หรือเก่งกว่าแบบที่นาบาสต้องยอม
หากมองในมุมของของฟลอเรนติโน่ เปเรซ ที่ต้องการ "อัพเกรด" ตำแหน่งผู้รักษาประตู คือถ้าซื้อดาบิด เด เคอาเข้ามา โอเคอันนี้แน่นอน ต้องอัพเกรดขึ้น
แต่กูร์กตัวส์น่ะ จริงอยู่เขาเป็นนายทวารที่ดี แต่ถามว่า มาช่วยอัพเกรดตำแหน่งนี้ตามความตั้งใจหรือไม่ คำตอบคือไม่ แถมยังมาสร้างความสับสนอีกว่า ใครควรเป็นมือ 1 มือ 2 กันแน่
------------------------------------------
ปัญหาที่ 5 คือแกเร็ธ เบล
ปีนี้เป็นปีที่ดราม่ามากที่สุดของเบลก็ว่าได้ ในการค้าแข้งที่สเปน
น่าแปลก ทั้งๆที่ผลงานของเขาอยู่ในระดับมาสเตอร์พีซมาตลอด แต่เบล กลับไม่ค่อยได้รับการยอมรับจากแฟนๆมาริดิสต้า
เกมลาลีกา ที่แพ้บาร์ซ่าคาบ้าน 1-0 เบลลงเล่น 1 ชั่วโมง และตอนโดนเปลี่ยนตัวออก เขาโดนโห่ลั่นสนาม
ในเกมกับอาแจ๊กซ์ ระหว่างที่โดนนำ 2-0 นาที 29 ลูคัส บาซเกวซเจ็บจนต้องเปลี่ยนเอาเบลลงมาแทน ปรากฏว่าเขาก็โดนโห่อีก ทั้งๆที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย
เข้าใจว่า หลังจากคริสเตียโน่ โรนัลโด้ อำลาทีมไป เบลก็คือความหวังเบอร์ 1 ในเกมรุก แต่ในเมื่อคุณไม่มีตัวช่วยให้เขาเลย ไม่มีสตาร์มาเล่นด้วยกัน จะคาดหวังให้เบลระเบิดผลงานสุดยอดได้อย่างไร
หลังจากจบรายการชิงแชมป์สโมสรโลก ที่เบลได้รางวัล MVP เขาเกิดอาการบาดเจ็บขึ้น และพอหายกลับมาทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
ตลอดปี 2019 เบลได้ลงตัวจริงแค่ 2 นัดในลาลีกา เขาเสียตำแหน่งให้กับวินิซิอุส และลูคัส บาสเกวซ โดยตลอดปีนี้ยิงไปได้แค่ 3 ประตู
ขณะที่นอกสนาม นอกจากเรื่องโดนโห่แล้ว ก็มาโดนวิจารณ์ว่า อยู่สเปนมาตั้งนานทำไมพูดสเปนไม่ได้เสียที แถมยังมีเรื่องว่า เบลไม่สนิทกับเพื่อนร่วมทีม ใครชวนไปไหนก็ไม่ไปด้วย
เรื่องนี้เอเยนต์ของเบล ได้ออกมาตอบโต้แล้ว ว่าเบลพูดสเปนได้ได้ระดับที่โอเค เขาไม่ได้สื่อสารไม่ได้ขนาดนั้นตามที่ข่าวหลุดออกไป
จะเห็นได้เลยว่า มีดราม่าเกิดขึ้นมากมายในชีวิตของเบลปีนี้ ทุกอย่างรุมเร้าไปหมด
ซึ่งสำหรับเรอัล มาดริด การเสียผู้เล่นเบอร์ 1 โรนัลโด้ไป ส่วนผู้เล่นเบอร์ 2 เบล ก็เจอปัญหามากมาย ก็ไม่แปลกอะไรเลยที่ผลงานโดยรวมในสนามจะดร็อปลง
------------------------------------------
ปีนี้แน่นอนว่ามาดริด จะมือเปล่า
ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ต้องผ่าตัดทีมครั้งใหญ่ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
นักเตะเกรดเอ โค้ชตัวท็อป ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกประเคนเข้ามาสู่ทีม ตลาดซื้อขายซัมเมอร์นี้คึกคักแน่นอน
ส่วนปัญหาภายในอะไรก็ตาม เขาต้องสะสางให้เสร็จสิ้น เคลียร์ใจทุกคน ให้พร้อมลุยไปด้วยกันในปีหน้า
เปเรซ ได้รับเลือกตั้งให้เป็นประธานสโมสรเรอัล มาดริดจนถึงปี 2021 นั่นแปลว่าถ้าในซีซั่นหน้า 2019-20 มาดริด ยังคงมืดมนไร้อนาคต และไม่สามารถกลับมาเป็นเบอร์ 1 ของประเทศได้ล่ะก็
ต่อให้เป็นประธานสโมสรมา 5 สมัยก็เถอะ
เปเรซ ก็เปเรซ เขาเองก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน

ที่มา วิเคราะห์บอลจริงจัง    ทางเข้า UFABET  
สมัครสมาชิก โปนโมชั่นดีที่สุด สนใจ Line: @BetDD8888



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ