แมงมุม

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: แมงมุม  (อ่าน 9 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มม
หัดขับ
*

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 41


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: มีนาคม 23, 2019, 02:54:33 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

[/b]
แมงมุม
แมงมุมเป็นชื่อเรียกสัตว์จำพวกแมงหลายชนิด
แมงมุมเป็นชื่อเรียกสัตว์พวกแมงหลายประเภทในวงศ์ ทุกจำพวกจัดอยู่ในอันดับ Araneae มีชื่อสามัญว่า spider รับประทานสัตว์เป็นอาหาร มีขนาดนาๆประการตามแต่ประเภท พวกที่หนขนาดเล็กอาจมีลำตัวยาวเพียง ๐.๗ ซม. ส่วนพวกที่มีขนาดใหญ่อาจมีลำตัวยาวถึง ๙ ซม. พวกที่พบตามบ้านที่พักแล้วก็ก่อความเปรอะเปื้อนรุงรังมักเป็นที่อยู่สกุล Pholcus หลายอย่าง (สกุล pholcidae )
แมงกับแมลง
ในทางวิชากีฏวิทยา คำ “แมง” กับ “แมลง” สื่อความหมายไม่เหมือนกัน รวมทั้งมักเรียกงงงวยกัน คำ “แมง”ใช้เรียกชื่อสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลังหลายอย่าง ซึ่งเมื่อเติบโตเต็มกำลังแล้ว ลำตัวแบ่งออกได้เป็น ๒ ส่วน เป็น ส่วนหัวกับอกรวมเป็นส่วนเดียวกันส่วนหนึ่ง กับส่วนท้องอีกส่วนใดส่วนหนึ่ง มีขา ๘ หรือ ๑๐ ขา ไม่มีหนวด ไม่มีปีก ดังเช่นว่า แมงป่อง แมงดาทะเล ส่วนคำ “แมลง” ใช้เรียกชื่อสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังหลากหลายประเภท ซึ่งเมื่อเติบโตเต็มกำลังแล้ว ลำตัวแบ่งออกได้เป็น ๓ ส่วนอย่างชัดเจน เป็น ส่วนหัว ส่วนอก รวมทั้งส่วนท้อง มีขา ๖ ขา เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังเพียงพวกเดียวที่มีปีก อาจมีปีก ๑ หรือ ๒ คู่ ไหมมีปีกเลยก็ได้ เป็นสัตว์ที่มีมากมายชนิดที่สุดในโลก เป็นต้นว่า แมลงสาบ แมลงวัน
ชีววิทยาของแมงมุม
แมงมุมมีลำตัวแบ่งได้ ๒ ส่วน ท่อนหัวกับส่วนอกชิดกันเป็นส่วนเดียวปกคลุมด้วยแผ่นแข็งทั้งยังข้างหลังรวมทั้งข้างล่าง มีตาเล็กๆข้างละหลายตา ลางชนิดอาจมีได้ถึง ๘ ตา อยู่ใกล้ๆกัน (เว้นเสียแต่บางประเภทที่ไม่มีตา ซึ่งมักเป็นที่อาศัยอยู่ในที่มืด ตัวอย่างเช่นในถ้ำ) ที่ปากมีเขี้ยวเป็นอวัยวะคู่ มีรูปร่างคล้ายปากคีบหรือคีมหนีบใช้คีบ จับ หรือยึดเหยื่อเป็นอาหารได้ ประกอบด้วยปล้องฐานปล้องเดียว ส่วนปลายอาจมีรูปล่อยพิษซึ่งเชื่อมต่อถึงต่อมพิษที่ฐานปาก นอกจากนั้นที่ปากยังมีอวัยวะคู่ทรงเหมือนขา แต่สั้นกว่าและก็มักแบนกว่า (มักเจริญดีและเห็นได้ชัดในเพศผู้ที่ยังไม่โตเต็มที่และในตัวเมีย) ไม่มีหนวด มีขา ๔ คู่ ที่ขามักมีโครงสร้างพิเศษให้ใช้ถักใยได้ ดังเช่นว่า มีแผ่นแบนอยู่ระหว่างง่ามเล็บ ส่วนท้องอาจกลมหรือยาวสุดแท้แต่จำพวกของแมงมุมที่ปลายมีท่อเป็นรูเปิดสำหรับปล่อยใยได้ บริเวณข้างล่างของส่วนท้องข้อที่ ๒ รวมทั้ง ๓ มีอวัยวะปฏิบัติภารกิจเป็นจมูกสำหรับหายใจ ซึ่งมักเป็นช่อง ข้างในมีแผ่นบางๆเรียงซ้อนกันเหมือนกระดาษหนังสือ ส่วนใหญ่ที่ชาวไทยเห็นนั้น มักเป็นประเภทถักใยกีดกั้นผ่านของสัตว์เพื่อจับรับประทานเป็นของกิน เมื่อมีสัตว์มาติดใยแล้วก็ดิ้นรน แรงสะเทือนจะไปถึงตัวผู้ครอบครองรังซึ่งมีสายตาไม่ดีก็จะติดตามทิศทางของแรงสั่นสะเทือนนั้นเข้าหาเหยื่อ กัดเหยื่อ และปล่อยน้ำพิษทำให้เหยื่อสลบ ก่อนจะรับประทานเป็นของกิน
แมงมุมในประเทศไทย
แมงมุมที่พบในประเทศไทยมีมากมาย จัดอยู่ในหลายวงศ์ แต่ทุกวงศ์จัดอยู่ในอันดับเดียวกัน เป็น Araneae ประเภทที่พบในประเทศไทยนั้น ส่วนใหญ่ไม่มีพิษแรงถึงกับกัดคนให้เจ็บหรือตายได้ ยกตัวอย่างเช่น
๑.แมงใย หรือ ตัว เป็นที่พบตามบ้านเมืองและก็ถักใยจนถึงดูเลอะเทอะสกปรกและรกรุงรัง มักเป็นพวกที่จัดอยู่ในสกุล Pholcus หลายประเภท (สกุล Pholcidae ) เหล่านี้มักมีลำตัวสีน้ำตาลหรือสีเทาทึบ ข้างหลังท้องสีมักเข้ม บางจำพวกมีลาย โดยมากมีลำตัวยาว ๔-๕ มม. ขายาวกว่าลำตัวมาก เป็นยาวราว ๕-๖ เซนติเมตร ทำให้ดูโย่งเย่งแล้วก็เปราะบาง จึงมีชื่อสามัญว่า daddy long-leg spider คนประเทศไทยบางถิ่น เรียก เถ้าถ่าน เพราะเหตุว่าถักใยทำให้รกรุงรังรวมทั้งมีฝุ่นผงหรือขี้เถ้ามาติด ที่พวกนี้ถักทอไว้ในบ้าน โดยเฉพาะในห้องครัว หรือที่อยู่ใกล้เตาไฟ ซึ่งมีขี้เขม่าไฟหรือขี้เถ้าติดอยู่ด้วยกัน แพทย์โบราณใช้เป็นเครื่องยา เรียก ต้นหญ้ายองไฟ
๒. แมงมุมทำหลาว เป็น พวกที่ถักใยนอกบ้าน พบได้มากตามแปลงพืชหรือตามเรือกสวนไร่นา เป็นที่จัดอยู่ในสกุล Tetragnatha หลายอย่าง (ตระกูล Tetragnathidae ) ซึ่งราษฎรเรียก ทำหลาว เพราะว่าเมื่อตกอกตกใจ พวกนี้จะวิ่งไปหลบอยู่ข้างหลังใบไม้ ยื่นขา ๒ คู่แรกไปข้างหน้า ขาคู่ที่ ๔ ยื่นไปด้านหลังอยู่ในระดับเดียวกับลำตัว ขาคู่ที่ ๓ ใช้ยึดเกาะยืนตั้งฉากกับลำตัว มองคล้ายผู้ที่จัดเตรียมพุ่งแหลนลง น้ำ พวกนี้ดักจับเพลี้ยจักจั่นรับประทานเป็นของกิน จัดเป็นสัตว์ที่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร
๓. แมงมุมก๋า หรือ ตัวก๋า มีชื่อวิทยาศาสตร์ Heteropodae venatoria (Linnaeus ) จัดอยู่ในตระกูล Sparassidae มีชื่อสามัญว่า banana spider ( เนื่องจากมักพบก๋านี้ในโกดังเก็บกล้วย ) เป็นขาดกลาง เพศผู้ลำตัวยาว ๑.๕-๒ ซม. ตัวเมียมีลำตัวยาว ๒.๕-๓ เซนติเมตร ขายาว ๕-๖ เซนติเมตร หัว อก ขา รวมทั้งท้องสีน้ำตาล ตาสีคล้ำ ที่ข้างหลังอกมีแถบสีดำหนาพิงตามขวางด้านหน้า และแถบเป็นง่ามคล้ายรูปตัววี (V) ด้านปลายอีก ๑ แถบที่สันหลังท้องมีเส้นสีน้ำตาลแก่พาดมาถึงตรงกลาง อาจพบจุดสีน้ำตาลแก่เป็นลายข้างๆ ข้างละ ๔-๕ จุด มีขนสีน้ำตาลอ่อนบริเวณหน้าและขา ทำให้ดูน่ากลัว ชนิดนี้ไม่ถักใย ออกหากินโดยการจับเหยื่อโดยตรง เจออาศัยอยู่ตามอาคารบ้านเรือนหรือตามคลังสินค้า เป็นที่มีสาระ เพราะว่าถูกใจรับประทานแมลงสาบ
๔. แมงมุมมดแดง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Myrmarachne formicaria Linnaeus จัดอยู่ในสกุล Salticidae เป็นจำพวกที่มีรูปร่างเอาอย่างสัตว์อื่น มักพบและก็มีชุกตามจังหวัดชายฝั่งทะเล ยกตัวอย่างเช่น จังหวัดชลบุรีหรือระยอง มีรูปร่าง ขนาด แล้วก็สีสันใกล้เคียงกับมดแดง รวมทั้งชอบอาศัยผสมปนเปอยู่กับมดแดง แต่ว่าไม่เหมือนกันตรงที่เมื่อเหล่านี้กระโดด จะถักใยทิ้งตัวเพื่อเปลี่ยนที่ได้ เมื่อพิจารณาอย่างประณีตมุ่งมั่น จะพบว่าจำนวนขาและก็ลักษณะอื่นๆไม่เหมือนกับมดแดง
[/b]
ประโยชน์ทางยา
แพทย์แผนไทยรู้จักใช้ “ต้นหญ้ายองไฟ”และ “แมงมุมตายซาก” เป็นเครื่องยาด้วย ดังต่อไปนี้
๑.ต้นหญ้ายองไฟ แพทย์แผนไทยรู้จักใช้แมงมุม{หยากไย่|ใยเหนือเตาไฟในครัวของบ้านไทยในบ้านนอกอดีตสมัย (เตาไฟใช้ฟืนใช้ถ่าน) ที่มีคราบเขม่า ขี้เถ้า และฝุ่นเกาะอยู่ด้วยนี้ หมอโบราณเรียก หญ้ายองไฟ บางแบบเรียนเรียกเป็น ไฟ หรือ หยักไย่ไฟ ก็มี ใช้เป็นเครื่องยาอย่างหนึ่ง
ตำราคุณประโยชน์ยาโบราณว่า หญ้ายองไฟมีรสเค็ม ขื่น มีคุณประโยชน์แก้โลหิต ฟอกเลือด กระจายโลหิตอันเป็นลิ่มเป็นก้อน ขับเลือดรอบเดือน
ตำรายาไทยหลายขนานเข้า “ต้นหญ้ายองไฟ” เป็นเครื่องยาอย่างหนึ่ง ในที่นี้ขอยกตัวอย่างยา ๒ ขนาน ขนานแรกเป็นยาแก้กษัยอันเกิดเพื่อโชธาตุชื่อ “สันตัปปัคคี” ซึ่งบันทึกไว้ในพระคู่มือไกษย ดังต่อไปนี้ ขนานหนึ่งเล่า หากมันให้จุกเสียดปวดขบเปนกำลัง ให้เอา พริกเทศ ๑๐๘ เม็ด พริกล่อน ๑๐๘ เม็ด ผักกระชับเอาทั้งยังต้นรากใบลูกเอาสิ่งละ ๑ บาท หญ้าไซย้อย ๑ ต้นหญ้าไซแห้ง ๑ เอาสิ่งละ ๑ บาท หญ้ายองไฟ ๑ บาท ไพลแห้ง ๑ บาท ตำเปนผง ละลายน้ำเหล้า น้ำส้มซ่า น้ำขิง น้ำมะนาว น้ำกระเทียมก็ได้ เปลี่ยนแปลงให้ชอบโรคนั้นเถอะ อีกขนานหนึ่งเป็นยาขับเลือดของสตรีซึ่งมีบันทึกไว้ภายใน พระคู่มือมหาโชตรัต ดังนี้ อนึ่งเอา หัศคุณเทศ ๑ แก่นแสมทะเล ๑ ต้นหญ้ายองไฟ ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ บดละลายสุรากิน ใหขับเลือดดีนักแล ตำรับยาบางขนาน เจ้าของตำรับอาจเขียนตัวยาไว้เป็นปัญหาให้แปลความหมายกันเอาเอง ตัวอย่างเช่น ยาแก้บิดขนานหนึ่ง เจ้าของยาให้ตำรับยาไว้ว่า “ลุกใต้ดิน รับประทานท่า อยู่หลังคา ขี้ค้างรู คู่อ้ายบ้า” ซึ่งหมายถึง “รากเจตมูลเพลิง ๑ ผักเป็ด ๑ หญ้ายองไฟ ๑ คนติดยาฝิ่น ๑ เหล้าเป็นน้ำกระสาย”
๒. แมงมุมตายซาก หมอแผนไทยใช้ที่ตายแล้วซากแห้งสนิท ไม่เน่าเหม็นและไม่ขึ้นรา เป็นเครื่องยาในยาไทยโบราณหลายขนาน ตัวอย่างเช่น “ยานากพด” ซึ่งมีบันทึกไว้ภายในพระหนังสือปฐมจินดาร์ ดังนี้ ยาชื่อนากพด ท่านให้เอา ใบหนาด ๑ พริกไทย ๑ เบี้ยจั่นเผา ๑ ขิง ๑ รังสุนัขร่าเผา ๑ แมงมุมตายซาก ๑ ลำพัน ๑ รวมยา ๗ สิ่งนี้เอาเสมอภาค บดทำแท่งไว้ แก้ทรางทั้งสิ้น แก้ละอองพระบาท แก้ตะพั้น ทั้งรับประทานอีกทั้งชะโลมดีนัก

Tags : แมงมุม



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ