Advertisement
ประเทศจีน เป็นแหล่งรับว่าจ้างผลิตสินค้า IT และ Gadget ระดับต้นของโลกมนุษย์มาช้านาน เหตุว่าต้นทุนทางพวกค่าเหนื่อยและทุนเดิมด้านการผลิตต่างๆ ในที่จีนนั้นต่ำ ฉะนั้นจึงเป็นที่ตั้งการผลิตของมือถือที่เรารู้จักมักคุ้นกันแทบจะทุกแบรนด์
แต่กระนั้นแม้ว่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในกลุ่มเทคโนโลยีโลก แต่ยุค 5-6 ปีก่อนหน้าลงไป ผลิตภัณฑ์ที่แปะตราจากประเทศจีนโดยตรง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เหล่าโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยมากไม่ได้รับความไว้ใจจากลูกค้าเท่าที่ควร บางครั้งถูกมองดูว่าเป็นของชั้นโลว์คลาส เหตุเพราะทำมาในสนนราคาที่ถูกไม่ว่าจะเป็นราคาพร้อมกับถูกทั้งคุณภาพ
อย่างไรก็ดีสิ่งที่เป็นที่ดึงดูดมากๆ คือไม่กี่ปีมานี้สมาร์ทโฟนจากประเทศจีนได้รับการตอบรับเพิ่มกว่าเดิมมาก โดยเฉพาะ OPPO ที่ในเมืองไทยได้ชนะใจผู้ซื้อวัยรุ่นไปได้ยกใหญ่
แบรนด์ OPPO ได้ถูกจดทะเบียนทั่วปฐพีเมื่อปี 2001 โดยมีนายโทนี่ เฉิน มิงยง นั่งเก้าอี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และก่อตั้ง OPPO ในจีนเมื่อปี 2004
โดยแรกๆ OPPO ประสบผลอย่างเกรียงไกรในตลาดเพลงประเภทเครื่องเล่นเพลง MP3 และเครื่องเล่น MP4 เมื่อปี 2005-2007 จากนั้นก็เริ่มเข้าสู่ท้องตลาดสมาร์ทโฟน OPPO รุ่นแรกในชื่อ A103 และ A100 กับฟีเจอร์ Smiley Face เมื่อปี 2008
OPPO ได้เริ่มลุยท้องตลาดมือถือทั่วโลก ซึ่งเปิดฉากจากที่เมืองไทยเป็นเมืองแต่แรกสุดในการเปิดฉากแบรนด์ OPPO ข้างนอกจีน เมื่อปี 2009 จากนั้นเริ่มทำผลิตมือถือหลายหลากรุ่นเยอะขึ้นเรื่อยๆ
OPPO เป็นยี่ห้อจากประเทศจีนที่ในตอนแรก หลายๆ คนอาจคิดว่ามาจากชาติเกาหลี ก็เพราะว่าใช้ภาพพรีเซนเตอร์คนที่มีชื่อเสียงจากเกาหลีอยู่บ่อยครั้ง และถือได้ว่าเป็นแบรนด์ที่เอาจริงเอาจังกับการเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นรุ่นกระเตาะและคนทันสมัยมาก ก็เพราะว่าการเลือกคัดเฟ้นพรีเซนเตอร์ที่เป็นชาวไทยก็จะเลือกใช้คนที่มีชื่อเสียง นักแสดง ตัวท็อป ไม่ว่าจะเป็น ต่อ ธนภพ, พลอยชมพู ญานนีน, เจมส์ จิรายุทธ หรือล่าสุดอย่าง ณเดชน์ คูกิมิยะ และ ญาญ่า อุรัสยา เป็นต้น มีโฆษณาผ่านสื่อนอกบ้าน (Out Of Home Media) ตลอดเวลา ทั้งตามสถานีรถไฟฟ้าและสถานีรถไฟใต้ดิน เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ในเมือง
ไม่เพียงตามรถไฟฟ้าใต้ดินแล้ว OPPO ยังมีป้ายบิลบอร์ดทั่วดินแดน รวมทั้งตามสนามบินจังหวัดใหญ่ ๆ เรียกได้ว่าแพร่สื่อโฆษณาและจับทุกช่องทางในการบริโภคสื่อของกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างยอดเยี่ยม ทำให้เพิ่มจำนวนความถี่ในการเจอะเจอโฆษณาของ OPPO ได้หลากหลายเขตพื้นที่
นอกจากการตลาดที่ดีงามแล้ว ทางด้านมูลค่า OPPO ก็ชนะใจผู้ใช้เป็นอย่างดี เหตุด้วยราคาที่มิแพง ผนวกกับการชูเทคโนโลยีทางด้านการเซลฟี่เซลฟี่คุณสมบัติที่ครบถ้วนและพอเพียงกับการใช้งานและสมเหตุสมผล
ทำให้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา OPPO ได้ทำลายกำแพงที่คนคิดว่าผลิตภัณฑ์จากประเทศจีนเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพต่ำสร้างออกมาโดยไม่ได้เตรียมการตลาด ก้าวขึ้นมาคือแบรนด์โทรศัพท์เคลื่อนที่อันดับ 2 ของเมืองไทยได้ในที่สุด (จากผลสำรวจของ GfKเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2560)
OPPO A37 เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าจับตามอง ทั้งความสามารถและราคา สะท้อนตัวตนของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี มากับหน้าจอทัสกรีน ขนาด 5 นิ้ว กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล และกล้องถ่ายรูปด้านหน้า 5 ล้านพิกเซล แม้ OPPO A37 จะไม่บอกว่าตนเองเป็น Selfie Exper เหมือนรุ่นพี่ที่มูลค่าสูงกว่า แต่เพราะสรรพคุณทางด้าน Camera Hardware ก็พอจะมองออกได้ว่า OPPO A37 เน้นจุดขายในเรื่องกล้องถ่ายรูปด้วย เพียงแต่จะมาในรูปแบบสมดุลที่ให้ความสำคัญทั้งกล้องด้านหน้าและกล้องส่วนหลังพอ ๆ กันนั่นเอง
กล้องถ่ายรูปข้างหน้านั้น มีความละเอียดอยู่ที่ 5 ล้านพิกเซล โดยที่เซ็นเซอร์กล้องหน้านั้น เป็นแบบ OmniBSI sensor และมีขนาด 1.4um ไม่มีแฟลช แต่ได้ใส่ไปภายในโปรแกรมกล้องถ่ายรูปแทน มีฟีเจอร์การชักรูปเซลฟี่ ด้วยการชูฝ่ามือ ส่วนกล้องถ่ายภาพข้างหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล LED Flash , f/2.0 1/3.2 sensor size, 1.4 µm pixel size
ตัวเครื่องขนาดค่อนข้างจะจับเหมาะกับมือ ผลิตจากวัสดุดี มาพร้อมกับกระจก Gorilla Glass 4 oppo-a37-2 มีช่องไว้เพื่อเสียบหูฟังอยู่ที่ด้านบนของตัวเครื่อง ด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องเพื่อเสียบสายรีชาร์ต ซึ่งมีลำโพงอยู่ด้านขวาและด้านซ้ายเป็นไมค์ แอพพลิเคชั่นที่มาพร้อมกับเครื่องอย่างครบครัน อาทิ แอพพลิเคชั่นของเหล่าตระกูล Google, แอปพลิเคชันตรวจเช็คอากาศ, เครื่องคิดเลข, แอพ ไว้เพื่อรับฟังเพลง
ราคาล่าสุดในช่วงนี้อยู่ที่ 4,990 บาท เหมาะสมกับคนที่ต้องการ โทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีประสิทธิภาพเพียงพอต่อการใช้งานในปัจจุบันนี้ในราคาที่ไม่สูง ซึ่งเว้นเสียแต่ รุ่น A37แล้ว OPPO ยังมีมือถือรุ่นต่างๆ อีกเป็นสิบๆที่น่าสนใจครอบคลุมทุกความต้องการ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
oppo a37 ราคาTags : oppo a37,oppo a37 ราคา,ออปโป้ a37