รากเหง้า Huawei P Series

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รากเหง้า Huawei P Series  (อ่าน 4 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
uchaiyawat
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5602


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: มีนาคม 31, 2019, 07:04:51 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ถ้าพูดถึง Huawei ประเภท P Series ตัวแรกที่คิดถึงเลย ก็น่าจะหนีไม่พ้น Huawei P9 เนื่องจากช่วงที่เปิดตัวรุ่นนี้ออกมาครั้นเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2559 จัดว่าเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เนื่องด้วยความเป็นกล้องถ่ายรูปคู่ที่ได้รับการผสานของเทคโนโลยีที่ร่วมพัฒนากับ LEICA จึงเป็นเหตุให้ Huawei P9 ที่สามารถถ่ายภาพที่มีรายละเอียดสูงได้อย่างสวยงาม และยังได้รับความนิยมอยู่ในทุกวันนี้ วันนี้เราจะพาไปย้อนรอยเรื่องกล้องถ่ายรูปของ Huawei P9 อีกครั้ง ไปดูกันครับ
 
 Huawei P9 มีกล้องถ่ายรูปข้างหลัง 2 กล้องถ่ายรูปที่ทาง Huawei ได้ร่วมกันกับทาง LEICA ซึ่งเป็นบริษัทกล้องถ่ายรูปดีกรีตำนานมาร่วมออกแบบกล้องให้กับทาง Huawei P9 โดยบริเวณกล้องหลังจะมีข้อความกำกับไว้ว่า LEICA ซึ่งล่าง LEICA จะเขียนไว้ว่า Summarit H 1:2.2/27 APSH ซึ่ง Summarit เป็นการชี้ให้เห็นช่วงขนาดรูรับแสงของเลนส์ LEICA ส่วนเลขห้อยท้าย 1:2.2 คือเลนส์มีรูรับแสงขนาด 2.2 และเลข 27 คือทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 27mm ซึ่งถือเป็นระยะที่ให้มุมกว้างที่พอเหมาะเลยเทียว
 
 โดยกล้องถ่ายภาพตัวแรกของ Huawei P9 เป็นกล้องถ่ายภาพที่มีเซนเซอร์รับภาพสี (RGB) ในขณะกล้องตัวที่ 2 จะเป็นกล้องที่ใช้เซ็นเซอร์รับภาพขาว-ดำ (Monochrome) ซึ่งให้ภาพที่ชัดกว่า สามารถรับแสงได้มากกว่าปรกติ และการที่รับแสงได้มากกว่า นั่นหมายความว่าปริมาณ noise ที่น้อยกว่านั่นเอง จึงได้คุณภาพของไฟล์ภาพที่ดีกว่า แต่กล้องถ่ายรูปทั้งสองตัวก็มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดพิกเซล 1.25 ไมครอน, ไฟแฟลช LED แบบ Dual-Tone และระบบการโฟกัสภาพแบบ Hybrid Autofocus เช่นเดียวกันเลย อีกอย่างถึงแม้ว่าจะแบ่งแยกเป็นกล้อง RGB กับ กล้องถ่ายรูป Monochrome แต่ว่ากล้องทั้งสองตัวจะทำงานด้วยกันอยู่แล้ว จึงเป็นเหตุให้ภาพที่ได้มีสีสัน และรายละเอียดในส่วนสีขาว-ดำคมชัดมากกว่าการถ่ายด้วยกล้องถ่ายรูปทั่วๆ ไป รวมถึงสามารถปรับโฟกัสหลังจากทำการถ่ายภาพได้ด้วยเช่นกัน

 ด้านกล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง 2.4 ซึ่งก็ยังถือได้ว่ายังทำออกมาได้ดีทั้งๆ ที่จะไม่ใช่ LEICA แล้วก็ตาม และสามารถปรับระดับความฟรุ้งฟริ้งกิงก่องแก้ว หรือ Beauty Mode ได้ถึง 10 ระดับเลยทีเดียว ที่สำคัญคือกล้องหน้าของ Huawei P9 สามารถวัดแสงและชดเชยออกมาได้ค่อนข้างสว่าง หน้าขาวใส ถ้าหากใครที่ชอบเซลฟี่ ก็ไม่ควรพลาด อีกทั้งยังสามารถถ่ายได้แม้ในที่ความสว่างน้อย ก็ยังทำได้ดีอีกเช่นกัน ตัวอย่างเช่นท่านไปงานเลี้ยงยามค่ำคืน แต่ต้องการเซลฟี่ คุณก็สามารถถ่ายได้ทุกที่ โดยไม่ต้องแลหาแสงจากที่ไหน เพราะจอของ Huawei P9 จะส่องสว่างโดยทันทีที่ท่านลั่นชัตเตอร์ ซึ่งทำงานเหมือนไฟแฟลชด้านหน้าเลยเชียว
 
 และถ้าเจาะลึกไปทีละโหมดการใช้งาน ก็คงเริ่มที่โหมดออโต้ ซึ่งเป็นโหมดที่ใช้งานง่ายที่สุด เพราะเพียงแค่ยก Huawei P9 ขึ้นมาแล้วกดชัตเตอร์เท่านั้น เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยอยากปรับอะไรมาก หรือผู้ที่ฝึกถ่ายภาพ แต่ต้องการรูปที่สวยงาม โหมดอัตโนมัติก็สามารถตอบโจทย์ส่วนนี้ได้ดี ถัดมาเป็นโหมดโปร เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานการถ่ายภาพอยู่บ้าง โดยท่านสามารถเลือก ISO / WB / Shutter Speed แต่ไม่สามารถปรับรูรับแสงได้ โดยตัวเครื่องจะกำหนดพื้นฐานที่ 2.2 และในโหมดโปรสามารถเลือกบันทึกภาพเป็นแบบ raw file ได้ด้วย ถ้าหากว่าใครอยากนำไปแต่งในโปรแกรมต่างๆ ต่อ แต่ก็ไม่ได้มีฤทธิ์เดชในการแต่งเยอะมากมาย เหตุด้วยข้อจำกัดเรื่องขนาดเซนเซอร์นั่นเอง
 
 ถัดมาเป็นโหมดขาว-ดำ ในกล้องถ่ายรูป Monochrome ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งเลยก็ว่าได้ เพราะว่าเป็นยี่ห้อเริ่มแรกที่มีกล้องถ่ายภาพเพื่อถ่ายขาวดำโดยเฉพาะซึ่งจะสามารถเก็บรายละเอียดปลีกย่อยความต่างแสง (Dynamic range) ได้มากกว่าถ่ายแบบสี ซึ่งได้ภาพที่กระจ่าง สวยงามมาก เหมือนยังกะมาจาก LEICA ซะเองเลย และอีกโหมดที่น่าสนใจคือ โหมด Wide Aperture ซึ่งเป็นโหมดหน้าชัดหลังเบลอนั่นเองซึ่งในโหมดนี้เป็นการเลียนแบบรูรับแสง ซึ่งสามารถปรับต่ำสุดได้ที่ F 0.95 และสูงสุดที่ F 16 ซึ่งคงจะทำได้ไม่ดีราวกับกล้องใหญ่อย่าง DSLR เนื่องด้วยมีขนาด Sensor ที่เล็กกว่านั่นเอง แต่ก็ไม่ได้ทำออกมาจนน่าเกลียด
 
 และโหมดสุดท้ายนี้ที่ไม่แนะนำไม่ได้ นั่นคือ โหมดถ่ายกลางคืน หรือว่า Night mode นั่นเอง ซึ่งถ้าคุณมีขาตั้งอีกตัว ภาพที่คุณจะได้นี่เท่าเทียมกล้องใหญ่ๆได้เลยนะ เพราะว่าถ้าไร้ขาตั้งกล้อง อาจเป็นเหตุให้ภาพสั่นไหวได้ และโหมดนี้ท่านสามารถเลือก ISO ได้สูงสุดที่ 1600 และ Shutter Speed เลือกเปิดได้นานถึง 32 วินาทีเลยทีเดียว แต่หากว่าไม่ต้องการเปลี่ยนอะไร ก็สามารถให้ระบบเลือกให้อัตโนมัติได้เลย
 
 นี่เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นของ Huawei P9 ซึ่งยังมีจุดแข็ง สเปคการใช้งานต่างๆ ที่น่าศึกษาอีกมากมายก่ายกอง แต่อย่างที่บอกไปในข้างต้น ว่า Huawei ตระกูล P Series นั้น มีจุดแข็งที่กล้องอยู่แล้ว ซึ่งหากว่าใครที่โปรดปรานการถ่ายรูป และอยากได้รูปถ่ายที่ค่อนข้างมีคุณภาพเทียบเท่ากล้องถ่ายภาพใหญ่ๆ อีกทั้งยังสามารถพกพาได้อย่างฉลุยมากกว่าพกกล้องถ่ายรูปจริงๆ เสียอีก ก็ขอแนะนำเครื่องนี้เลย ซึ่งเวลานี้ Huawei P9 ราคาได้ลดลง ซึ่งเริ่มต้นเพียง 7,300 บาทเท่านั้น โดยแต่ละเว็บไซต์ หรือห้างร้าน ราคาอาจจะต่างกันออกไป อย่างไรก็ลองตรวจสอบราคากันอีกครั้งนะครับผม
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : รีวิว Huawei P9

Tags : Huawei p9,Huawei p9 ราคา,รีวิว Huawei P9



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


Related Topics
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
เทือกเถาเหล่ากอ Huawei P Series
สินค้าอื่นๆ
asianoned 0 202 กระทู้ล่าสุด ตุลาคม 31, 2018, 10:33:00 am
โดย asianoned
ต้นตระกูล Huawei P Series
สินค้าอื่นๆ
mmhaloha 0 190 กระทู้ล่าสุด พฤศจิกายน 12, 2018, 03:28:57 pm
โดย mmhaloha
เทือกเถาเหล่ากอ Huawei P Series
สินค้าอื่นๆ
asianoned 0 170 กระทู้ล่าสุด ธันวาคม 10, 2018, 12:48:47 pm
โดย asianoned
บรรพบุรุษ Huawei P Series
สินค้าอื่นๆ
uchaiyawat 0 202 กระทู้ล่าสุด มกราคม 20, 2019, 04:41:12 am
โดย uchaiyawat
บรรพบุรุษ Huawei P Series
สินค้าอื่นๆ
mmhaloha 0 196 กระทู้ล่าสุด กุมภาพันธ์ 05, 2019, 09:41:02 pm
โดย mmhaloha
ต้นตระกูล Huawei P Series
สินค้าอื่นๆ
mmhaloha 0 10 กระทู้ล่าสุด มีนาคม 05, 2019, 11:57:20 am
โดย mmhaloha
เทือกเถาเหล่ากอ Huawei P Series
สินค้าอื่นๆ
uchaiyawat 0 14 กระทู้ล่าสุด มีนาคม 11, 2019, 02:33:26 pm
โดย uchaiyawat
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ