Advertisement
กาแฟ จัดว่าเป็นเครื่องดื่มด้านวัฒนธรรมที่อยู่คู่กับสังคมมนุษย์มานาน ไม่ว่าจะเป็นการต้อนรับแขกด้วยกาแฟ การเสิร์ฟมื้อว่างด้วยกาแฟ (coffee break) การดื่มกาแฟเพื่อพบปะสนทนาคบหาสมาคม รวมทั้งเป็นเครื่องดื่มที่มีอยู่ประจำในที่ทำการแทบทุกแห่ง
รับออกแบบร้านกาแรับตกแต่งร้านกาแฟ ภายนอก ทำร้านสักคิ้ว มีภาพจำลอง3D ติดต่อ เรามีสำนักงาน 2 สาขาที่กรุงเทพ และหัวหิน
นอกจากนี้ วิถีชีวิตในช่วงปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบการทำงานที่จำเป็นต้องแข่งขันกับเวลากาแฟก็เลยเปลี่ยนเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของเมนูมื้อรุ่งเช้าสำหรับคนไม่ใช่น้อย สิ่งที่คอกาแฟทั้งหลายแหล่ปรารถนาที่กำลังจะได้รับทุกคราวเมื่อจิบกาแฟสักถ้วย อาทิเช่น กลิ่นอันหอมกรุ่น รสแสนกลมกล่อม ตามมาด้วยความรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและก็ตื่นตัวสำหรับเพื่อการปฏิบัติงาน
คุณเคยถามตนเองหรือเปล่าว่า เว้นเสียแต่ความพึงพอใจในกลิ่น รสชาติและความรู้สึกตื่นตัวนั้น คุณได้อะไรจากการดื่มกาแฟอีกบ้าง
สิ่งที่ได้อาจไม่ใช่ผลดีเพียงอย่างเดียว แม้ไม่รู้จักควบคุมจำนวนการดื่มให้เหมาะสม แน่ๆว่าคุณอาจได้รับผลอันไม่อยากจะปรารถนาจากการดื่มกาแฟไปด้วย เนื้อหานี้จะก่อให้คุณได้รู้ว่า กาแฟ ซึ่งมีสารที่เรียกว่า "คาเฟอีน" เป็นองค์ประกอบสำคัญนั้น ส่งผลต่อร่างกายและอารมณ์ของพวกเราอย่างไร ตลอดจนคำแนะนำที่ช่วยทำให้คุณดื่มกาแฟได้อย่างเหมาะควร ไม่มีอันตราย เพื่อได้รับประโยชน์จากการดื่มกาแฟสูงที่สุด และก็เป็นผลเสียน้อยที่สุด
กาเฟอีน (caffeine)
เป็นสารประกอบที่เจอในเม็ดกาแฟ เมล็ดโกโก้ ใบชาฯลฯ คาเฟอีนบริสุทธิ์นั้น มีลักษณะเป็นผลึกรูปเข็ม ไม่มีกลิ่นและก็มีรสขม ปริมาณคาเฟอีนที่มีอยู่ในกาแฟแต่ละจำพวกจะแตกต่าง กาแฟที่ชงจากเมล็ดกาแฟพันธุ์โรบัสต้าจะมีจำนวนคาเฟอีนสูงขึ้นมากยิ่งกว่าเม็ดกาแฟพันธุ์อาราบิกานอกเหนือจากนั้น วิธีสำหรับการชงและจำนวนผงกาแฟที่เพิ่มเติม ก็ส่งผลต่อจำนวนคาเฟอีนที่แตกต่าง
ปริมาณของคาเฟอีนที่มีผลต่อร่างกายและอารมณ์
คาเฟอีนขนาดต่ำ (50-200 มิลลิกรัม) จะทำการกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว กระชุ่มกระชวย ชื่นบาน ไม่อยากนอน
คาเฟอีนขนาดปานกลาง (200-500 มก.) อาจจะทำให้ปวดศีรษะ เครียด กระวนกระวายใจ มือสั่น นอนไม่หลับ
กาเฟอีนขนาดสูง (1,000 มก.) จะเริ่มนำมาซึ่งการก่อให้เกิดกาเฟอีนเป็นพิษ (caffeinism) ซึ่งจะมีอาการเร่าร้อนใจอยู่นิ่งมิได้ หัวใจเต้นเร็ว อาเจียน ไม่อยากอาหาร ปัสสาวะบ่อยครั้ง
การเปลี่ยนแปลงของร่างกายรวมทั้งอารมณ์หลังจากดื่มกาแฟ
กาเฟอีนในกาแฟถูกซับได้หมดและก็ค่อนข้างจะเร็วในระบบทางเดินอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะท้องว่างการดูดซึมจะยิ่งเร็วขึ้น
หลังจากการดื่มกาแฟ 30-60 นาที ความเข้มข้นของกาเฟอีนในเลือดจะขึ้นสู่ระดับสูงสุด แล้วก็หลังจากคาเฟอีนถูกซึมซับ จะกระจายตัวไปตามส่วนต่างๆของร่างกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งอวัยวะที่มีเลือดไปเลี้ยงมาก ดังเช่น หัวใจ ตับ ไต แล้วก็สมอง
ยิ่งกว่านั้น คาเฟอีนยังสามารถกระจายสู่เกลื่อนกลาดรวมทั้งนมได้บ้างโดยประมาณปริมาณร้อยละ 0.06
การขับกาเฟอีนออกมาจากร่างกายจะไม่เหมือนกันในแต่ละบุคคล ขึ้นกับอายุและก็สภาพร่างกาย โดยทั่วไปแล้ว ผู้ใหญ่จะใช้เวลา 5-6 ชั่วโมงสำหรับในการขับกาเฟอีนปริมาณครึ่งเดียวที่ได้รับ(half-life) ออกมาจากร่างกาย
ผลในด้านดีแล้วก็ผลกระทบของคาเฟอีนต่อสุขภาพ
ถ้าเกิดดื่มกาแฟในจำนวนที่เหมาะเจาะ จะส่งผลดีต่อสภาพร่างกายดังนี้
* กระตุ้นให้เกิดความตื่นตัว ลดอาการง่วงนอน มีประโยชน์สำหรับคนที่อยากทำงานต่อเนื่อง อาทิเช่นปฏิบัติงานรอบดึกดื่นควบคุมเครื่องยนต์ รวมทั้งผู้ขับขี่รถยนต์ระยะทางไกลๆโดยกลไกการออกฤทธิ์กระตุ้นของกาเฟอีนนั้น เกิดขึ้นเพราะเหตุว่าคาเฟอีนไปยับยั้งการทำงานของสารอะดีโนซีน (adenosine) ซึ่งเป็นสารเคมีที่ห้ามการหลั่งของสารสื่อประสาทภายในร่างกาย เมื่อสารอะดีโนซีนไม่สามารถที่จะดำเนินงานได้ ทำให้เซลล์ประสาทมีความไวมากกว่าธรรมดา มีการหลั่งของสารสื่อประสาท เช่น ซีโรโทนิน (serotonin) นอร์เอพิเนฟริน(norepinephrine) เพิ่มขึ้น ระบบประสาทศูนย์กลางถูกกระตุ้นมากยิ่งขึ้น ทำให้ร่างกายตื่นตัว ลดอาการง่วงหงาวหาวนอน
* ช่วยลดอาการอ่อนล้าจากการบริหารร่างกาย กลไกนี้มาจากข้อสมมติฐานที่ว่า คาเฟอีนจะไปกระตุ้นการหลั่งของสารสื่อประสาทเคคราววัวลามีน (cetecholamine) ซึ่งจะไปกระตุ้นการสลายไขมันในเนื้อเยื่อให้เป็นพลังงาน ด้วยเหตุนี้คาร์โบไฮเดรตที่อยู่ในรูปไกลโคเจน (glycogen) ก็เลยยังคงเป็นแหล่งพลังงานสำรองที่สะสมในกล้ามเนื้อร่างกายก็เลยทนทานต่อกิจกรรมที่ใช้แรงมากมายได้นานขึ้น
หากดื่มกาแฟปริมาณมากเกินความจำเป็น จะเกิดผลเสียต่อสถาพทางร่างกายดังต่อไปนี้
* หัวใจเต้นเร็วกว่าธรรมดา เต้นไม่เป็นจังหวะ เพราะเหตุว่าคาเฟอีนมีฤทธิ์กระตุ้นกล้ามเนื้อหัวใจโดยตรง อัตราการบีบตัวของหัวใจแล้วก็จำนวนเลือดที่สูบฉีดต่อนาทีจะมากขึ้น
* นอนไม่หลับ หากร่างกายได้รับกาเฟอีนสูงกว่า 150 มิลลิกรัมต่อวัน จะทำให้นอนหลับยาก หลับไม่สนิท และก็ขณะที่หลับนั้นสั้นลง
* รีบการหลั่งกรดในกระเพาะ คาเฟอีนมีฤทธิ์ไปกระตุ้นการหลั่งกรดเพปสิน (pepsin) และก็แกสตริน (gastrin) อาจจะเป็นผลให้โรคแผลในกระเพาะรวมทั้งไส้รุนแรงขึ้นได้
* ปัสสาวะบ่อยๆกาเฟอีนมีฤทธิ์สำหรับในการขับฉี่โดยจะไปลดการดูดกลับของโซเดียม โพแทสเซียม และก็แคลเซียมจากหน่วยไต แร่ธาตุกลุ่มนี้จะถูกขับออกมาพร้อมเยี่ยว
จึงมีข้อสันนิษฐานว่า หากมีการสูญเสียแคลเซียมออกมาจากร่างกายบ่อยๆในจำนวนมาก อาจเพิ่มสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนในหญิงวัยหมดประจำเดือนได้
* ปวดศีรษะ คนที่ดื่มกาแฟบ่อยๆ ถ้าเกิดหยุดดื่มฉับพลันจะก่อให้มีอาการปวดศีรษะ เร่าร้อนใจ ร่างกายอ่อนเพลีย และก็ง่วงนอน
กาแฟจัดว่าเป็นสารเสพติดไหม
ดร.ทรงศักดา ศรีน้องชายต สมัยก่อนผู้อำนวยการสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล พูดว่า"การดื่มกาแฟ เป็นความคุ้นชินมากกว่า คุ้นชินกระทั่งเป็นนิสัยส่วนตัว สิ่งที่จะเรียกว่าติดได้ เป็น จึงควรรับเสมอๆรวมทั้งจำนวนจะต้องเพิ่มขึ้น แต่กาแฟมิได้ทำให้ปรารถนามากขึ้น
อีกเหตุผลหนึ่งคือ อาการทางสรีรวิทยา กรณีของสารเสพติด แม้มิได้รับจะมีอาการลงแดง ทนไม่ได้ แต่ว่าถ้าหากมิได้ดื่มกาแฟ จะไม่เป็นผลอย่างนั้น คนที่จะต้องดื่มกาแฟเป็นประจำ ไม่ใช่การต่อว่าด แต่เป็นนิสัย
ข้อมูลเกื้อหนุนทางด้านวิทยาศาสตร์อีกประการหนึ่ง คือ ยาเสพติดประเภท แอมเฟตามีน (ยาม้า) มอร์ฟีน นิโคติน มีคุณลักษณะสำหรับในการกระตุ้นการหลั่งของโดพามีน (dopamine) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่เกี่ยวพันกับอาการเสพติด แต่คาเฟอีนไม่มีคุณสมบัติเช่นนั้น
ปริมาณกาเฟอีนมากแค่ไหน จึงจะไม่มีอันตราย
สภาพร่างกายของแต่ละบุคคลมีความไว (sensitivity) ต่อจำนวนคาเฟอีนต่างกัน การดื่มกาแฟ ๑ ถ้วยเท่ากัน อาจจะก่อให้คนที่ไวต่อคาเฟอีน ใจสั่น นอนไม่หลับ แต่ไม่เป็นผลกับอีกคนหนึ่งที่มีความคงทนมากกว่า
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานของกินแล้วก็ยาที่สหรัฐฯ (FDA) ได้กำหนดจำนวนคาเฟอีนที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายคือ ไม่เกิน 300 มก.ต่อวัน หรือเปรียบเทียบได้กับการดื่มกาแฟไม่เกิน 3 ถ้วยต่อวัน
ดื่มกาแฟยังไงให้เกิดประโยชน์มากที่สุด และเป็นผลเสียต่ำที่สุด
1. ควรสังเกตว่าตัวคุณเอง มีความไวของการตอบสนองต่อปริมาณกาแฟกี่ถ้วย มีลักษณะอาการอย่างไรบ้าง เพื่อหาปริมาณที่สมควรสำหรับตัวเอง
2. หากมีลักษณะนอนหลับยาก ควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟในเวลาบ่ายหรือช่วงค่ำ
3. ไม่สมควรดื่มกาแฟขณะท้องว่าง เหตุเพราะคาเฟอีนรีบการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร
4. ไม่ควรดื่มกาแฟเพื่อหักโหมปฏิบัติงาน แล้วก็อดนอนต่อเนื่องกันหลายๆคืน ถึงแม้ว่าคาเฟอีนช่วยให้ร่างกายตื่นตัวจริง แต่ว่าสมองต้องการเวลาพักผ่อนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรับรู้
5. ถ้าคุณเป็นผู้ที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ ควรกินอาหารที่เป็นแหล่งของแคลเซียมเสริมเติม อย่างเช่น นม โยเกิร์ตปลาเล็กปลาน้อย คะน้า บคอยกวัวลี ฯลฯเพื่อทดแทน แคลเซียมที่สูญเสียไปกับฉี่แล้วก็ลดความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนหรือบางทีอาจปรับเปลี่ยนโดยการชงกาแฟใส่นมแทนครีมเทียม เป็นต้น
6. ควรจะรับประทานผักและผลไม้อย่างพอเพียงทุกวัน เพราะเหตุว่าในกรรมวิธีการคั่วเม็ดกาแฟ จะมีอนุมูลอิสระเกิดขึ้น วิตามินซี อี แล้วก็อนุภาคบีตาแคโรทีนในผักผลไม้ อาทิเช่นมะเขือเทศ แครอต ผักใบเขียว ฝรั่ง ส้มเขียวหวาน เป็นต้น จะสามารถช่วยในการขจัดคราบอนุมูลอิสระในร่างกายได้
7. กินน้ำสะอาดมากมายๆเพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำจากฤทธิ์สำหรับการขับเยี่ยวของกาเฟอีน
สิ่งจำเป็นของการเปิดร้านกาแฟ เว้นแต่เรื่องของรสแล้วก็ขึ้นกับการบริการของพนักงานในร้านด้วย เพราะว่าถ้าเราให้บริการดีและก็จับใจ ก็จะทำให้ลูกค้ามาเข้าร้านของพวกเราบ่อยมากขึ้น แล้วก็อาจเปลี่ยนเป็นขาประจำได้เลยทีเดียว นอกเหนือจากนี้ยังเป็นการเชิญลูกค้าเข้าร้านทางอ้อม ด้วยการที่พวกเขาไปเชื้อเชิญเพื่อนๆให้ลองมาดื่มกาแฟที่ร้านของพวกเรานั่นเอง โดยสำหรับกลเม็ดในการบริการเพื่อสร้างความซาบซึ้งให้กับลูกค้าก็มีดังนี้
มานะจดจำชื่อลูกค้า
การจดจำชื่อของลูกค้าได้อย่างเที่ยงตรง แสดงได้ถึงความเอาใจใส่ของคุณที่มีต่อลูกค้าทุกคนในร้านค้า ซึ่งก็จะก่อให้พวกเขารู้สึกจับใจอย่างมาก จึงเป็นสิ่งที่คุณไม่สมควรมองข้ามเด็ดขาด แล้วก็ยิ่งหากจำรายการอาหารที่ลูกค้าสั่งประจำได้ด้วยแล้ว ก็จะเป็นอะไรที่ดีเยี่ยมอย่างยิ่งจริงๆ
จัดโปรชิมเครื่องดื่มแบบอย่าง
เมื่อมีเครื่องดื่มใหม่ๆเข้ามา ลูกค้าส่วนมากชอบยังไม่กล้าสั่ง เพราะว่ากลัวว่ารสจะผิดใจ โดยเหตุนั้นเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และก็เอาอกเอาใจลูกค้าไปในตัว คุณควรจะจัดโปรสุดพิเศษ ให้ลูกค้าได้ลองชิมเครื่องดื่มแบบอย่างแบบฟรีๆโดยอาจใช้วิธีแจกให้กับลูกค้าทุกคนที่เข้าร้านค้า หรือแม้กลัวจะเสียเงินลงทุนมากเกินไปก็บางทีอาจจะจัดโปรซื้อ2 แถม 1 ดังเช่นว่า ซื้อค้างปูชิโน่ 2 แก้ว แถมฟรีในทันทีเครื่องดื่มสูตรใหม่ 1 แก้วเล็ก เท่านี้ก็เอาอกเอาใจลูกค้าไปแบบเต็มๆแล้ว
ยิ้มรับลูกค้าเสมอ
อีกหนึ่งหัวใจของการบริการ ก็คือรอยยิ้มและความคุ้นเคยระหว่างพนักงานและก็ลูกค้านั่นเอง แล้วก็ยิ่งถ้าเกิดเราสามารถสร้างรอยยิ้มและก็เสียงหัวเราะให้กับลูกค้าได้ด้วยแล้ว ก็จะมีผลให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจกับร้านกาแฟของพวกเรามากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเหตุว่าอาจจะไม่มีผู้ใดที่ต้องการจะนั่งดื่มกาแฟในร้านที่พนักงานเอาแต่หน้าบึ้งตึงอยู่เสมอเวลาหรอกจริงไหม ฉะนั้นมาเปลี่ยนแปลงลุคของตนให้เป็นแม่สาวยิ้มเก่งกันหน่อยดีกว่า
เชื้อเชิญคุยถามความอยากได้ของลูกค้า
การชักชวนเสวนาแล้วก็ไต่ถามความอยากได้ของลูกค้า นอกเหนือจากเรื่องเมนูที่สั่ง จะเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ขายและก็ลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยมทำให้จากความเกี่ยวข้องระหว่างลูกค้าที่ห่างเหิน กลายเป็นสนิทกันเยอะขึ้นเรื่อยๆ และก็แน่นอนว่านั่นจะทำให้พวกเขาชอบใจแล้วก็กลับมาเข้าค๊อฟฟี่ช็อปของเราเป็นประจำกระทั่งเป็นลูกค้าขาประจำแน่นอน นอกเหนือจากนั้นการทักทายตามเทศกาลต่างๆก็สามารถทำให้รู้สึกดีๆต่อลูกค้าได้อีกด้วย อย่างเช่น Happy New Year ในวันปีใหม่ และ Merry Chirtmas ในวันคริสต์มาส ฯลฯ
บริการตกแต่งรายการอาหารตามใจลูกค้า
การเพิ่มบริการตกแต่งรายการอาหารตามใจลูกค้าเข้าไป นับว่าเป็นกลเม็ดที่จะเอาใจลูกค้าก้าวหน้าสุดๆโดยการจัดท็อปปิ้งสำหรับตกแต่งหน้ากาแฟไว้หลายๆอย่างแล้วให้ลูกค้าเป็นคนเลือกท็อปปิ้งที่จะใช้ตกแต่งเอง ทีนี้ล่ะไม่ว่าใครก็อยากจะเข้าร้านขายกาแฟของพวกเราแน่ๆ
ไขปัญหาเฉพาะหน้าเจริญ
การเปิดร้านกาแฟที่จำต้องบริการลูกค้า บางทีก็อาจจะมีปัญหาให้จำเป็นต้องเผชิญอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นความบกพร่องของบุคลากร ความเข้าใจผิดและไม่พอใจของลูกค้า การต้องเจอกับลูกค้าโกรธง่ายรวมทั้งขี้โวยวายสุดๆแต่ว่าดังนี้ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป ถ้าหากคุณสามารถที่จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ทั้งทำให้ลูกค้าเกิดความซาบซึ้งอีกด้วย โดยกฎเหล็กสำหรับพนักงานเลย ก็คือต้องใจเย็นเข้าไว้ และอย่าเผลอโต้คารมกับลูกค้าเด็ดขาด
รับทำออกแบบ Design & RE-NOVATE BUILD มีจำลอง3D ติดต่อ
สาขากทม. 098 292 4496 หัวหิน 094 982 2636
ขอบคุณบทความจาก :
[url]http://www.alldecorate.com/[/url]
Tags : ออกแบบเคาน์เตอร์,ตกแต่งร้านกาแฟ,รับออกแบบบ้าน
