ข่าวสารวงการไก่ชน

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ข่าวสารวงการไก่ชน  (อ่าน 27 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
xcepter2016
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 20112


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: เมษายน 21, 2019, 10:07:07 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

วิธีแก้ไขไก่ชนมีอาการทางประสาทขณะเข้าชน
- สังคมไก่ชน
- หัดเลี้ยงไก่ชน- มือใหม่ไก่ชน
- ทำเนียบไก่ชน
- สังเวียนไก่ชน
- เรื่องราวอื่นๆเกี่ยวกับไก่ชนอีกมากมาย

ติดตามได้ที่ 
  http://www.kaichonboxing.com
[/color][/b]



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
fifavip555webboard
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9370


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: เมษายน 22, 2019, 06:24:04 pm »

ตำแหน่งการลงขมิ้นให้ไก่ชน

การลงขมิ้นให้ไก่ชนมีพี่น้องสอบถามเขามาเยอะสำหรับวิธีติดหรือลงขมิ้นไก่ชน โดยเทคนิคส่วนตัวนะครับส่วนผสม มี 3 อย่าง ส่วนผสม1. ขมแทงไก่ชนออนไลน์[/url]casa982[/color]เว็บพนันนออนไลน์ครบเครืทางเข้[/color]

บันทึกการเข้า
fifavip555webboard
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9370


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: เมษายน 23, 2019, 03:51:23 pm »

ข้อควรทราบก่อนการทำวัคซีนให้ไก่ชน

ข้อควรทราบก่อนการทำวัคซีนให้ไก่ชน1. ทำวัคซีนให้กับไก่ที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงและไม่เป็นโรคเท่านั้น2. อย่าให้วัคซีนถูกความร้อนหรือแสงแดดและต้องให้วัคซีนครบตามขนาดที่กำหแทงไก่ชนออนไลน์[/url]casa982
[/color]เว็บพนันนออนไลน์ครบเครืทางเข้[/color]

บันทึกการเข้า
fifavip555webboard
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9370


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: เมษายน 26, 2019, 05:23:06 pm »

พื้นฐานลักษณะไก่ชนที่ดี

พื้นฐานลักษณะไก่ชนที่ดีนักเลงไก่ชนจะเริ่มดูลักษณะไก่ว่าตัวไหนจะดีหรือเลว โดยดูตั้งแต่ไก่อายุประมาณ 4 – 6 เดือน ขึ้นไป พิจารณาจากส่วนประกอบต่างๆ ของร่างกาย ดังต่อไปนี้1.ลำตัว ไก่ชนที่ดีลำตัวต้องยาวแบบ “ไก่สองท่อน” หมายถึง ช่วงตัวไก่หากใช้มือทั้งสองจับรวบรอบลำตัวให้ปลายนิ้วชี้ทั้งสองชนร่องอกไก่ ส่วนหัวแม่มือทั้งสองอยู่บนหลังไก่ ตั้งแต่ไหล่จนถึงก้นจับรวมได้ 2 ครั้ง น้ำหนักไก่ชนเมื่อโตเต็มที่ไม่เกิน 3 กิโลกรัม ไม่อ้วนไม่ผอมเกินไป สูงเปรียว โครงสร้างกระดูกใหญ่ อกกลมมน หลังแบนหน้าหนา ยืนอกชัน ท่าทางองอาจ จึงจะเป็นไก่ชน“ หงส์ ”ที่ถือว่าสง่างามเป็นเลิศ2.สีหนัง สีของหนังไก่เป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องพิจารณา คัดเลือกไก่ชนเพราะแสดงถึงความสมบรูณ์ และลักษณะนิสัยของไก่ได้ ดังนี้ หนังหนาสีแดง เป็นไก่ที่มีพละกำลังมาก ทรหด อดทน เมื่อนำไปชนจะแข็งแรงและสมบุกสมบันมาหนังเหลือง เป็นประเภทไก่หนังบาง เปราะบาง ไม่สมบุกสมบัน ไม่เหมาะที่จะคัดเป็นไก่ชน หนังสีขาว เป็นไก่ประเภทไม่สู้ไก่ในใจไม่ทรหดอดทน ซูบผอมง่าย ไม่เหมาะที่จะเลี้ยงเป็นไก่ชน ไก่หนังดำ ค่อนข้างหายาก จัดเป็นไก่ประเภทพิเศษ สามารถเลี้ยงไว้เป็นไก่ชนได้3.หงอนไก่ ชนที่ดีหงอนต้องหนาเล็ก ฐานแน่บแบบหงอนหิน (ลักษณะเป็นก้อนกลมยาวรีเล็กๆ บนหัวไก่) เพราะหงอนเล็กจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหว และไม่เป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหวและไม่เป็นเป้าในการจิกตีของคู่ต่อสู้ หงอนที่เลว คือหงอนหยัก ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นแผ่นบาง หยักบาง จะทำให้คู่ต่อสู้จิกตีได้ง่าย4.เหนียงและตุ้มหู ไก่ชนพันธุ์แท้จะไม่มีเหนียงและตุ้มหูเลย เนื่องจากเหนียงตุ้มหูเป็นจุดอ่อนที่สำคัญอย่างหนึ่ง เพราะคู่ต่อสู้มักจิกตีจุดเหล่านี้ หากถูกตีมากๆ จะทำให้เลือดคั่งบวมโต ดังนั้นไก่ชนที่ดีต้องไม่มีเหนียงและตุ้มหู หากมีก็ต้องมีขนาดเล็กและสั้นจึงจะใช้ได้5.หัว หัวกะโหลกไก่ชนที่ดีจะมีรอยรัดเข้าไปหาต้นคอ ท้ายทอยต้องไม่มีขนขึ้น เรียกว่า “รอยไขหัว” เป็นที่เจาะกรีดเอาเลือดที่คั่งบริเวณหัวออกทิ้ง6.ปาก ไก่ชนต้องมีปากสั้นหนา โคนปากอวบสัดส่วน สมดุลกับหัว ปลายปากงองุ้มเล็กน้อย ปากบนและล่างต้องยาวเท่ากันมีความหนาแน่น แข็งแรง เป็นร่องคล้ายปากนกแก้ว ตำราไก่ชนถือว่าสีของปากไก่ต้องเป็นสีเดียวกันสีของเกล็ดแข้ง ยิ่งตาเป็นสีเดียวกันอีกยิ่งดี ถือว่าเป็นไก่ชนที่ดีเยี่ยม7.รูจมูก รูจมูกไก่อยู่บริเวณโคนปากตอนบนทั้งซ้ายและขวาข้างละรู ไก่ชนที่ดีต้องมีรูจมูกกว้างใหญ่ หายใจสะดวกเวลาเหนื่อยจะไม่หอบเพราะจมูกกว้างหายใจได้สะดวก8.ไก่ชนที่ดี ดวงตาต้องแจ่มใสมีน้ำหล่อเลี้ยงเป็นตาประเภทตาปลาหมอตาย สีเหลืองอ่อนหรือเหลืองแก่ ตาคว่ำและลึกจมอยู่ในเบ้าตา ซึ่งเป็นตาไก่ที่ฉลาด อดทน ดุร้าย อีกประเภทหนึ่ง คือตาลอย มีลักษณะกลมใส กลอกกลิ้ง ล่อกแล่กตลอดเวลา เป็นลักษณะตาไก่ที่ฉลาดมีไหวพริบ ชั้นเชิงดีทรหดอดทน ส่วนตาสีอื่นๆ เช่น สีแดง ฟ้า น้ำตาล ลายและสีขุ่น มักเป็นสีตาไก่ที่ใจเสาะ ไม่ดี ไม่มีน้ำอดน้ำทน ไม่ควรเลือกไว้ชนถ้าจะให้ดีสีตาต้องเป็นสีเดียวกับปาก เกล็ดแข้งและเดือย จะเป็นการดีมาก9.คางและคอ ไก่ชนต้องมีคางซึ่งคางซึ่งจัดว่ามีลักษณะดี 3 แบบ คือ คางรัด คางเหลี่ยมและคางกลม คอไก่ชนที่ดีต้องยาวและใหญ่ หากเป็นคอโกลนคือซอกคอด้านล่างโล้น จนเห็นหนังแดงๆ ไม่มีขนสร้อยเลยยิ่งดี จัดเป็นไก่ที่มีชั้นเชิง ตีประชิดตัวดีมาก10.สีขนสร้อย โดยปกติมักเรียกไก่ตามสีขนสร้อยของมัน เช่น เหลือง เขียว ประดู่ ทองแดง หม่น (เทา) เลาและลาย เป็นต้น สร้อย คือขนละเอียดปลายแหลมสีต่าง ๆ จะปกคลุมด้านบนเป็นขนรอง สร้อยขนที่คอเรียก “สร้อยคอ” ที่ปีกเรียก ”สร้อยปีก” ส่วนที่ปกตั้งแต่หลังโคนหางเรียก “สร้อยหลัง” ไก่ชนจะต้องมีสีขนสร้อยทั้งตัวเป็นสีเดียวกัน อาทิ หากสร้อยคอสีเหลืองสร้อยปีกและหลังก็ต้องเป็นสีเหลืองเหมือนกัน ทั้งนี้อาจเรียกสีหางเพิ่มไปด้วย เช่น เหลืองหางขาว เหลืองหางดอก เหลือหางดำ เป็นต้น11.อก อกไก่ชนต้องกว้างใหญ่และค่อย ๆ เรียวลงอย่างได้สัดส่วน กล้ามเนื้อนูน เวลายืนอด (อกชัน) ดูเป็นสง่า อีกแบบหนึ่ง คือจะมีลักษณะกลมรี แต่ไม่ยาวเท่าใด12.ช่องท้อง ช่องท้องเป็นช่วงระหว่างกระดูกกอไก่กับรูทวาร ซึ่งจะมีเฉพาะเนื้อและหนังเท่านั้นไก่ชนที่ดีช่องท้องต้องเล็กและแคบ13.ตะเกียบก้น เป็นปุ่มกระดูกแข็ง 2 ปุ่ม อยู่ก้นบริเวณทวารหนัก ไก่ชนดีตะเกียบต้องแข็งและอยู่บริเวณทวารหนัก ไก่ชนดีตะเกียบต้องแข็งและอยู่ชิดกัน ยิ่งชิดมากยิ่งดี ตามตำราไก่ชนชาวเหนือ เรียกว่า “ไก่ฮูขี้ตั๋น” เป็นไก่ชนที่ว่องไวและตีเร็วหาง นักชนไก่นิยมไก่มีหางแบบแข็งเป็นกำใหญ่ (ภาคกลางเรียก “หางกระบอก”) นอกจากนี้อาจเป็นแบบหางพุ่ม ส่วนหางยาวโค้งมักไม่นิยมเพราะไก่ชนมักเหยียบหางตัวเองทำให้เสียหลัก เวลาชนไก่จะเคลื่อนไหวไม่คล่องตัว15.ปีกและขน ขนไก่ที่จัดว่างามต้องละเอียด หนา แห้ง แข็งเป็นมันและปลายแหลม ส่วนขนปีกต้องหนาใหญ่และยาว ในการนำไก่ไปชน เจ้าของต้องดูความสมบูรณ์ของขนด้วย คือไก่ ต้องไม่อยู่ในระยะถ่ายขน (สลัดขนเก่าหลุดไป ขนใหม่จะงอกขึ้น) ไก่ถ่ายขนนี้ปล่อยให้ชนยังไม่ได้ เพราะขนยังไม่สมบูรณ์พร้อม อาจแสดงชั้นเชิงตีไม่ได้เต็มที่ วิธีสังเกต คือถ้าหงายปีกดูตรงโคนขนปีกแต่ละเส้น หากมีรอยปลอกสีขาวโผล่เคลื่อนออกมา ก็แสดงว่าไก่กำลังถ่ายขน16.แข้ง แข้งไก่มี 5 ประเภท คือ
                   1.แข้งเรียวหวาย มีลักษณะกลมเล็กเหมือนเส้นหวายโดยจะกลมตั้งแต่ข้อเข่าและจะค่อยๆ เรียวใหญ่ขึ้นจนจรดโคนนิ้ว เป็นแข้งที่ตีได้เจ็บปวดและแม่นมาก
                   2.แข้งกลมใหญ่และแข้งเหลี่ยมใหญ่ ไก่ตัวโต มักมีแข้งใหญ่แต่ไก่ตีช้า มักตีตามลำตัว ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไก่แข้งเล็ก
                   3.แข้งคัด คือแข้งแบบเหลี่ยมเล็ก เป็นที่นิยมพอสมควร
                   4.แข้งแข็งสั้น เป็นลักษณะแข้งที่ตีดีเช่นกันแต่ทั้งนี้ต้องสังเกตดูสัดส่วนของช่วงขากับ ลำแข้งซึ่งต้องยาวได้สัดส่วนกัน ถ้าลำแข้งสั้นกว่าปั้นขามากก็ไม่ค่อยแม่น17.เกล็ด ไก่ชนโดยทั่วๆ ไปมักมีเกล็ดแข้งแบบธรรมดา ซึ่งมีลักษณะเป็น 2 แถว หรือ 3 แถว อาจเรียงเป็นระเบียบก็ได้ แต่ที่นักเลงไก่ชนให้ความสนใจมากเพราะเป็นเกล็ดพิเศษถือว่าเป็นเกล็ดไก่ชนที่ดีมาก คือ เกล็ดปอบ(ปลอก)ภาคกลางเรียก “เกล็ดกำไล” จะมีลักษณะเป็นเกล็ดเดียว (คล้ายเกล็ดที่นิ้ว) เรียงกันเต็มแข้ง เกล็ด พร้าวพันลำ (ภาคกลางเรียก เกล็ดพันลำ) เป็นเกล็ดเดียวเฉียงเรียงเต็มแข้ง สิ่งที่สำคัญก็คือสีของเกล็ดต้องเหมือนสีปาก ตา ขน เล็บ และเดือย จึงจะเป็นไก่ชนที่ดีเยี่ยม18.เดือย ภาษาถิ่นเรียกว่า เดือ เดือยไก่ที่ดีต้องแข็งและแหลมเป็นอาวุธประจำตัวของไก่ชนที่สำคัญคือ ถ้าแทงถูกจุดสำคัญอาจทำให้คู่ต่อสู้และไม่ยอมสู้            เดือยไก่ชนมี 7 ลักษณะ ดังนี้
                   1.เดือยเข็ม มีขนาดเล็ก ยาวและปลายแหลม เป็นเดือยที่แทงได้แม่นยำเจ็บปวด แต่หักง่าย
                   2.เดือยขนเม่น มีลักษณะกลม ก้านเดือยกลมคล้ายขนแม่น ปลายแหลมคม และตรงเฉียงลงเล็กน้อยเป็นเดือยไก่ชนที่ดีมาก จัดเป็นไก่แทงจัด ขนาดเดือยมักจะเท่ากับนิ้วไก่
                   3.เดือยงาช้าง มีลักษณะกลมค่อนข้างแบนเล็กน้อย ปลายแหลม งอนขึ้นคล้ายงาช้าง มั่นคงแข็งแรงมาก
                   4.เดือยคัด โคนใหญ่และสั้นปลายแหลมคม แข็งแรงและทนมากแต่แทงได้ไม่ลึก
                   5.เดือยแฝด เป็นเดือยที่งอกซ้อนกันมากกว่า 2 อัน หากยาวและได้สัดส่วนจัดเป็นเดือยที่อันตรายมากเพราะหากเดือยแทงเกิดบาดแผลฉกรรจ์
                   6. เดือยขวาน เป็นเดือยแบนหนาเทอะทะ ปลายบานออกคล้ายคมขวาน เป็นเดือยที่ไม่ดี
                   7.เดือยคุด เป็นเพียงปุ่มกระดูก ไม่มีคม ไม่มีประโยชน์ เดือยไก่ชนที่ดี ควรมีสีเดียวกับสีตัว ปาก เกล็ด แข้ง เล็บ และตา และความยาวเดือยต้องยาวเกินครึ่งนิ้วจึงถือว่าดี19.นิ้ว เกล็ด นิ้ว และเล็บ นิ้วไก่จะมี 4 นิ้ว ด้านหน้าสามนิ้ว และด้านหลังเฉียงๆ มีนิ้วก้อย นิ้วไก่ชนที่ดีมักจะนิ้วสั้นใหญ่ เพราะไก่ที่มีลำหักโค่นดี แข็งแรง และตีได้รุนแรงมาก ส่วนนิ้วเล็กยาว ตีไม่ค่อยหนักแน่นเด็ดขาด แต่ถ้าถูกจุดสำคัญก็สร้างความเจ็บปวดพอสมควร การพิจารณานิ้วไก่ต้องดูเกล็ดนิ้วควบคู่ไปด้วย เกล็ดไก่ชนต้องมีเกล็ดหลักร่องลึกชัดเจน หากมีเกล็ดแซมกลางนิ้วหรือที่เรียกว่า “ เกล็ดแตก ” ที่นิ้วกลางของไก่ชนยิ่งดี ถือว่าเป็นไก่ชนชั้นเชิงแพรวพราว ขนดีอีกทั้งต้องมีการนับดูเกล็ด ที่นิ้วกลางตั้งแต่เกล็ดแรกของโคนนิ้วไปจรดเกล็ดสุดท้ายโคนเล็บต้องมีจำนวนคี่ 17 หรือ 19 เกล็ดจึงถือว่าดี สีเกล็ดต้องเป็นสีเดียวกับสีขน ปาก แข้ง เดือย ตาและเล็บ จึงถือว่างาม 20.อุ้งเท้า อุ้งเท้าไก่ชนที่ดีจะต้องแฟบและบุ๋มเข้าไปเพราะจะทำให้ไก่สามารถเดินและกระโดดตีได้ถนัด แหล่งที่มา วิถีชีวิตเกษตรพอเพียง


แทงไก่ชนออนไลน์[/url]casa982
[/color]เว็บพนันนออนไลน์ครบเครืทางเข้[/color]

บันทึกการเข้า
fifavip555webboard
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9370


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: เมษายน 27, 2019, 06:38:04 pm »

“แตงกวา” อาหารเสริมบำรุงพ่อแม่พันธุ์ไก่ชน
“แตงกวา” อาหารเสริมบำรุงพ่อแม่พันธุ์ไก่ชนถ้าอยากให้ไก่พื้นเมืองพ่อ-แม่พันธุ์ที่เลี้ยงไว้ สุขภาพร่างกายแข็งแรงและมีความสมบูรณ์พันธุ์ สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการให้แตงกวาสดปลอดสารพิษเป็นอาหารเสริม ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่น่าสนใจของปราชญ์เกษตรกรเมืองอุบแทงไก่ชนออนไลน์[/url]casa982
[/color]เว็บพนันนออนไลน์ครบเครืทางเข้[/color]

บันทึกการเข้า
fifavip555webboard
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9370


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: เมษายน 28, 2019, 06:06:26 pm »

เทคนิคเสริมโปรตีนให้ไก่ชน

เทคนิคเสริมโปรตีนให้ไก่ชนคุณอนิรุตน์ อานามรถ ผู้ชื่นชอบและหลงไหลเลี้ยงไก่ชนเป็นชีวิตจิตใจมีความตั้งใจในการเลี้ยงสัตว์โดยเฉพาะไก่ชนพื้นเมืองเป็นอย่างมาก มีเทคนิคเสริมโปรตีนให้ไก่ชนแบบง่ายๆมาฝากผู้รักไก่ชนทุกท่าน ผ่านทางสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกันจังหวัดจันทบุรี 106.25 MHz. สูตรอาหารเสริมโปรตีน ต้นทุนไม่สูงปัจจุบันอาหารสัตว์ทุกชนิดแพงมากแถมบางอย่างคุณภาพไม่สมกับราคาหรือมีการค้ากำไรเกินควรโดยขึ้นราคาของแถมลดคุณภาพตามไปด้วย ทำให้ต้นทุนการเลี้ยงไก่สูงขึ้น ดังนั้นจึงแนะเทคนิคเสริมโปรตีนให้ไก่ชนว่าอะไรที่เอามาให้ไก่กินแล้วไก่เจริญเติบโตตามสายพันธุ์เพื่อให้ได้ไก่ที่มีคุณภาพ โดยที่ต้นทุนการผลิตเราไม่สูงเกินไป หากไก่สายพันธุ์ดีแต่โตขึ้นมาไม่แข็งแรงก็ไม่สามารถแสดงความเก่งได้เต็มที่ตามสายพันธุ์ จึงแนะเทคนิคง่ายๆ คือ นำอาหารหมูนมให้ไก่กินจนถึงอายุไม่เกิน 3 เดือน โดยใช้อาหารหมูนม 1 ส่วน ข้าวเปลือก 3 ส่วน ผสมคลุกเค้ากันแล้วนำไปให้ไก่กิน เพียงเท่านี้ไก่ชนตัวโปรดก็จะแข็งแรงเนื่องจากได้รับโปรตีนที่พอเพียงต่อร่างกาย แหล่งที่มา รักบ้านเกิด

แทงไก่ชนออนไลน์[/url]casa982
[/color]เว็บพนันนออนไลน์ครบเครืทางเข้[/color]

บันทึกการเข้า
fifavip555webboard
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9370


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: เมษายน 29, 2019, 06:59:34 pm »

สูตรเลี้ยงหนอนน้ำหมักชีวภาพสำหรับเลี้ยงไก่ชน

สูตรเลี้ยงหนอนน้ำหมักชีวภาพสำหรับเลี้ยงไก่ชนเกษตรกรที่เลี้ยงไก่ชน กบ หรือปลาดุก ส่วนใหญ่จะต้องซื้ออาหารสัตว์สำเร็จรูปจากท้องตลาดนำมาเลี้ยงเพื่อให้เจริญเติบโตตามความต้องการ แต่หากคิดทบทวนถึงต้นทุนตั้งแต่การเริ่มต้นเลี้ยง จะพบว่ามีต้นทุนค่อนข้างสูง ดังนั้นคุณผล วงค์ศรีดา ปราชญ์ชาวบ้านเครือข่ายศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ต.ไม้ยา อ.พญาเม็งราย จึงได้หาทางออกเพื่อประหยัดต้นทุนในการเลี้ยงด้วยวิธีการทางชีวภาพ ซึ่งได้ให้สัมภาษณ์ผ่านทางรายการวิทยุร่วมด้วยช่วยกันจังหวัดเชียงรายเพื่อเผยแพร่ให้กับเกษตรกรคนอื่นๆได้นำไปใช้ โดยเกษตรกรสามารถสร้างอาหารชีวภาพสำหรับเลี้ยงสัตว์เหล่านี้ได้ด้วยสูตรเลี้ยงหนอนน้ำหมักชีวภาพที่มีวิธีการทำไม่ยากนักคุณผล กล่าวว่า หนอนน้ำหมักชีวภาพ คือ หนอนแมลงวันที่เกิดจากน้ำหมักพืช ผัก ผลไม้สุก ในกระบวนการหมักแบบชีวภาพ พบได้กับการหมักน้ำหมักชีวภาพเพื่อใช้เป็นฮอร์โมนในการฉีดพ่นบำรุงพืชผักทั่วไป ลักษณะตัวหนอนจะมีสีขาว ลำตัวกว้างประมาณ 0.5 ซม. บนลำตัวมีขนใสเล็กๆไม่มากนัก ยาวประมาณ 1-2 ซม. วิธีการหมักน้ำหมักชีวภาพเพื่อให้ได้หนอนจำนวนมากๆ เพื่อให้เพียงพอต่อการเลี้ยงไก่ชนให้เกษตรกรเตรียมส่วนผสมและวิธีการทำ ดังนี้ วัสดุ-อุปกรณ์ – ผลไม้สุก เช่น กล้วยน้ำหว้า มะละกอ ขนุนสุกรวมๆกันหรือเท่าที่หาได้ 2 อย่างขึ้นไป 6 กิโลกรัม
– น้ำตาลทรายแดง 2 กิโลกรัม
– น้ำเปล่า 20 ลิตร
– ถังหมักขนาด 30 ลิตรมีฝาปิด [img width=400,height=400]http://www.kaichonboxing.com/wp-content/uploads/2019/04/2-11.jpg[/img] วิธีการทำ – หั่นผลไม้สุกทั้งเปลือกเป็นชิ้นเล็กๆคนคลุกเคล้ากับน้ำตาลทรายแดงในถัง เติมน้ำเปล่าลงไป 20 ลิตรคนให้เข้ากันอีกรอบ ไม่ต้องปิดฝา ตั้งถังทิ้งไว้ใต้ต้นไม้หรือในที่ร่มอากาศถ่ายเทได้สะดวก 3 วัน 
– หลังจากครบ 3 วันให้ปิดฝาให้สนิททิ้งไว้ 7 วัน
– หลังจากครบ 7 วันจะเริ่มมีตัวหนอนขึ้นแต่ตัวหนอนยังไม่โตเต็มที่ ให้ปิดฝาแบบหลวมๆ แง้มฝาถังนิดหน่อยให้อากาศสามารถเข้าได้ ทิ้งไว้อีก 7 วัน
– หลังจากครบอีก 7 วัน จะได้ตัวหนอนน้ำหมักตัวอ้วนๆขาวๆ สามารถนำไปเลี้ยงไก่พื้นเมือง เลี้ยงเป็ด เลี้ยงกบ เลี้ยงปลาดุกได้ ตัวหนอนจะเพิ่มปริมาณขึ้นๆทุก 2-3 วัน เกษตรกรควรเลี้ยงหนอนน้ำหมักชีวภาพไว้อย่างน้อย 2 ถังเพื่อสลับถังกันเก็บตัวหนอน ซึ่งจากปริมาณวัตถุดิบที่ใช้หมักดังกล่าวถ้าหมัก 2 ถังจะได้ตัวหนอนทุกๆวันประมาณวันละ 1-2 กิโลกรัมข้อแนะนำ – หนอนน้ำหมักจะเกิดขึ้นเองเรื่อยๆและอยู่ได้นานถึง 6 เดือน และเมื่อครบ 6 เดือนให้เติมเพิ่มผลไม้สุกลงไปในถัง 1 กิโลกรัม น้ำตาลทรายแดง 1 กิโลกรัมและน้ำเปล่าอีกประมาณ 5 ลิตร คนให้เข้ากันปิดฝาถังหลวมๆทิ้งไว้จะช่วยยืดอายุการผลิตตัวหนอนได้นานอีก 6 เดือน [img width=400,height=400]http://www.kaichonboxing.com/wp-content/uploads/2019/04/3-7.jpg[/img] วิธีการนำตัวหนอนน้ำหมักชีวภาพไปใช้ – หากเกษตรกรต้องการนำไปเลี้ยงไก่พื้นเมืองหรือเลี้ยงเป็ด ให้นำตัวหนอนสดๆ 1 ส่วน ผสมกับรำอ่อน 1 ส่วน สามารถนำไปเลี้ยงเป็นอาหารมื้อหลักได้เลย 
– หากเกษตรกรต้องการนำไปเลี้ยงปลาดุก สามารถนำไปเลี้ยงแบบสดๆโดยไม่ต้องผสมอะไร ให้นำไปหว่านในบ่อเลี้ยงปลาดุกทุกๆเช้า-เย็นได้เลย แต่สามารถเลี้ยงได้เฉพาะปลาดุกที่มีอายุตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป
– หากเกษตรกรต้องการนำไปเลี้ยงกบ สามารถนำไปเลี้ยงแบบสดๆได้โดยไม่ต้องผสมอะไร ทุกๆเช้า-เย็น แต่สามารถเลี้ยงได้เฉพาะกบที่มีอายุตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป
คุณผล กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันที่ศูนย์เรียนรู้เครือข่ายแห่งนี้ เลี้ยงเป็ดและไก่ประมาณ 100 กว่าตัว นอกจากนั้นยังมีปลาดุกและกบอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งที่นี่เลี้ยงหนอนน้ำหมักไว้เพียงแค่ 3 ถังตามปริมาณวัตถุดิบที่ใช้หมักดังกล่าว สามารถเลี้ยงเป็ด,ไก่,ปลาดุก,กบ ได้อย่างสบายๆโดยไม่ต้องซื้ออาหารสำเร็จรูปจากท้องตลาดมาใช้ประโยชน์ของหนอนน้ำหมักชีวภาพยังมีประโยชน์ต่อการเลี้ยงสัตว์เนื่องจากหนอนชนิดนี้มีโปรตีนสูง เป็นหนอนที่เกิดจากการหมักจุลินทรีย์ ช่วยให้สัตว์ที่เลี้ยงมีภูมิคุ้มกันโรค มีระบบขับถ่ายที่ดี เจริญเติบโตเร็ว หากนำไปเลี้ยงปลาดุกยังจะช่วยให้น้ำในบ่อปลาดุกไม่เสียง่าย ปลาดุกโตเร็วมีสุขภาพดีอีกด้วยนอกจากนั้นประโยชน์อีกด้านหนึ่ง คือประโยชน์โดยตรงของน้ำหมักชีวภาพดังกล่าว ซึ่งเมื่อหมักครบ 1 เดือน เกษตรกรสามารถนำน้ำหมักไปใช้เป็นฮอร์โมนสำหรับเร่งการเจริญเติบโตของพืชผักได้ ช่วยให้ผักสวนครัวสวยงามต้นอวบใช้ปรับปรุงบำรุงดินได้ โดยใช้ 4 ช้อนแกงต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นที่ใบและลำต้น หรือรดลงดิน 10 วันต่อครั้ง และน้ำหมักชีวภาพยังสามารถนำไปใช้เทราดในห้องน้ำ ซักโครก เพื่อดับกลิ่นในห้องน้ำได้อย่างดีอีกด้วย แหล่งที่มา รักบ้านเกิด
แทงไก่ชนออนไลน์[/url]casa982
[/color]เว็บพนันนออนไลน์ครบเครืทางเข้[/color]

บันทึกการเข้า
fifavip555webboard
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9370


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: เมษายน 30, 2019, 06:46:35 pm »

การอนุบาลลูกไก่แบบประหยัดพลังงาน

การอนุบาลลูกไก่แบบประหยัดพลังงาน จากการสัมภาษณ์ คุณวิรัตน์ เข็มแก้ว ผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ในเรื่องของการเลี้ยงสัตว์ ได้แนะนำเคล็ดลับ ผ่านรายการทางด่วนข้อมูลการเกษตร เรื่อง ของการอนุบาลไก่เล็ก เกษตรกรบางคนใช้วิธีการให้ความอบอุ่นกับไก่ในระยะแรกเกิด โดยวิธีการใช้ไฟ 100 วัต เปิดเว้นระยะ1 – 2 เมตร เพื่อให้ความอบอุ่นกับไก่ แต่คุณวิรัต ใช้วิธีการประหยัดต้นทุนซึ่งสามารถทำได้ดังนี้ วัสดุอุปกรณ์1. ปิ๊บเก่า
2. ถ่าแทงไก่ชนออนไลน์[/url]casa982
[/color]เว็บพนันนออนไลน์ครบเครืทางเข้[/color]

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ