Advertisement
ทำไมต้องเครื่องมือวิทยาศาสตร์ เพราะวิชาวิทยาศาสตร์เป็นวิชาที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่เทคโนโลยีต่างๆมีการเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว เป็นต้นว่า พวกเราจะเห็นได้ว่าโทรศัพท์มือถือในปัจจุบันนี้มีฟังก์ชั่นใหม่ๆรวบรวมมาอยู่ในเครื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็นกล้องถ่ายสำหรับภาพ, เครื่องเล่นเกมส์, ทีวี ไปจนถึงเป็นธนาคารให้พวกเราสามารถทำธุรกรรมด้านการเงินได้ โดยที่พวกเราไม่มีความจำเป็นที่ต้องเสียเวล่ำเวลาไปที่แบงค์ การเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ๆเหล่านี้ ผู้ที่มีความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์จะมีความรู้ถึงหลักการที่เกี่ยวข้องและรู้ถึงความเป็นไปรวมทั้งแนวโน้มของสิ่งที่จะเกิดขึ้นถัดไปได้ง่ายดายกว่า ด้วยเหตุว่าเทคโนโลยีนับว่าเป็นหนึ่งในวิทยาศาสตร์ประยุกต์ ซึ่งเป็นการนำความรู้รากฐานที่เราเรียนกันในวิชาวิทยาศาสตร์ในโรงเรียนมาต่อยอดเพื่อคิดค้นสิ่งใหม่ๆออกมานั่นเอง
.
.
อย่างไรก็ดี การเรียนวิชาวิทยาศาสตร์อาจจะมีความแตกต่างจากการเรียนวิชาอื่นๆอยู่บ้าง ในแง่ว่าการที่จะทำความเข้าใจวิธีการให้เข้าถึงแก่นที่จริงจริงนั้น นักศึกษาต้องเรียนรู้สิ่งต่างๆเพิ่มเติมไปที่เกิดจากการเรียนด้วยการฟังเล่าหรืออ่านหนังสือ โดยควรจะควรจะมีการทดสอบปฏิบัติจริงด้วยตัวเอง จึงต้องใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์เพื่อมองสิ่งที่พวกเราอยากได้หาคำตอบจากการตั้งปัญหาหรือความสนใจค้นคว้าข้อมูล จากนั้นก็เลยบันทึกและก็สรุปผลการทดสอบออกมา
.
.
สำหรับในการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ในยุคสมัยนี้ สถานศึกษาจำเป็นที่จะต้องมีอุปกรณ์
อุปกรณ์วิทยาศาสตร์[/b] ที่จำเป็นต้องสำหรับทำทดสอบให้ครูคุณครูและผู้เรียนได้ใช้งานอย่างสมบูรณ์ สิ่งถือเป็นสิ่งที่ควรจะได้รับการพัฒนาจากในสมัยก่อนที่
เครื่องมือวิทยาศาสตร์ไม่มีความเพียงพอให้นักเรียนได้มีประสบการณ์สำหรับในการใช้อย่างทั่วถึง ทำให้เป็นความจำกัดในการเรียนรู้ วัสดุอุปกรณ์วิทยาศาสตร์รวมถึงสื่อการเรียนการสอนจะเป็นตัวกระตุ้นให้การเรียนวิทยาศาสตร์มีความน่าสนใจเยอะขึ้นแล้วก็ช่วยทำให้เด็กนักเรียนเห็นภาพจริงจากการลงมือปฏิบัติกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดความเข้าใจได้ง่าย เป็นหลักฐานสำหรับเพื่อการต่อยอดการเรียนรู้ไปเป็นขั้นตอนการที่ไม่มีที่สิ้นสุดจากการตั้งคำถามหรือข้อสมมติแล้วทำหาคำตอบด้วยตัวเอง
.
.
การปรับใช้เครื่องใช้ไม้สอยวิทยาศาสตร์แล้วก็เครื่องมือวิทยาศาสตร์สำหรับเพื่อการเรียนการสอน เช่น
สื่อการเรียนการสอนหลักสูตรการศึกษาเล่าเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ในตอนนี้ แบ่งสาระการเล่าเรียนรูออกเป็น 8 สาระ ตามหลักสูตรแกนกลางการเรียนขั้นต้น พ.ศ. 2551 (ฉบับปรับแก้ พ.ศ.2560) เช่น สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ, สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ, สาระที่ 3 วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ, สาระที่ 4 ชีววิทยา, สาระที่ 5 เคมี, สาระที่ 6 ฟิสิกส์, สาระที่ 7 โลก ดาราศาสตร์, และก็อวกาศ และก็สาระที่ 8 เทคโนโลยี ซึ่งในแต่ละสาระต้องใช้เครื่องไม้เครื่องมือวิทยาศาสตร์สำหรับในการสอนที่แตกต่างออกไป ตามตัวอย่างดังนี้
- วิทยาศาสตร์ชีวภาพและชีววิทยา: เป็นการเรียนสิ่งมีชีวิตซึ่งจำต้องใช้เครื่องมือที่ช่วยทำให้มองเห็นสิ่งที่ตาเปล่าไม่เห็น ยกตัวอย่างเช่น กล้องจุลทรรศน์และกล้องถ่ายรูปสเตอริโอ รวมถึงใช้โมเดลแบบจำลองต่างๆเพื่อแสดงให้ผู้เรียนเห็นภาพ
- วิทยาศาสตร์กายภาพแล้วก็เคมี: เป็นการเรียนเกี่ยวกับสารแล้วก็คุณสมบัติต่างๆซึ่งการที่จะเรียนสารแต่ละชนิดจำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่จำเป็นสำหรับห้องปฏิบัติการเคมี ยกตัวอย่างเช่น ตู้อบ, หม้อนึ่งความดันไอ, เครื่องปั่นแยก, เครื่องคนสารละลาย ไปจนกระทั่งเครื่องไม้เครื่องมือสำหรับวัดค่าต่างๆอย่างเช่น pH meter, Refractometer ยิ่งไปกว่านี้จะต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือทั่วๆไปที่ใช้ในการทำการทดสอบรากฐาน อาทิเช่น เครื่องแก้ว, พลาสติก, กระเบื้อง, สารเคมี, ตาชั่ง ฯลฯ
.
.
- วิทยาศาสตร์โลกและก็อวกาศ, โลก ดาราศาสตร์ และก็อวกาศ: ในสาระนี้จะเป็นการศึกษาเล่าเรียนธรรมชาติภายในและก็ภายนอกโลก ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อม, ธรณีวิทยา หรือดาราศาสตร์ ซึ่งจำต้องใช้เครื่องมือวัดสำหรับศึกษาสิ่งแวดล้อม เช่น เครื่องวัดคุณภาพน้ำ, เครื่องทดลองดิน, เครื่องวัดปริมาณน้ำฝน ฯลฯ ถ้าจะศึกษาเล่าเรียนวัตถุหรือสิ่งมีชีวิตจากระยะไกล อย่างเช่น นก หรืออยู่ข้างนอกโลก ดังเช่นว่า ดวงดาว ก็จำต้องใช้กล้องที่มีไว้ส่องทางไกลหรือกล้องส่องทางไกล สำหรับการเรียนในห้องเรียนสามารถใช้ตัวอย่างหิน,แร่ หรือวัตถุ ไปจนถึงโมเดลแบบจำลองแสดงองค์ประกอบของโลก, ดวงดาว หรือปรากฎการณ์ต่างๆ
- ฟิสิกส์: แบ่งได้หลายสาขาวิชา ตัวอย่างเช่น ไฟฟ้า, อิเล็กทรอนิกส์, แม่เหล็กไฟฟ้า, แสงสว่าง, กลศาสตร์, คลื่นและก็เสียง, อุณหวิชาพลศาสตร์, พลังงาน เป็นต้น ซึ่งการศึกษาการสอนที่จะทำให้นักเรียนเข้าใจกฎหรือแนวคิดต่างๆจะต้องอาศัยชุดแสดงสำหรับชี้ให้เห็นภาพ ยิ่งไปกว่านี้การคำนวณนับว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในการศึกษาวิจัยวิชาฟิสิกส์ โดยเหตุนี้อุปกรณ์ที่สำหรับใช้ในการวัดค่าต่างๆดังเช่นว่า มัลติมิเตอร์, เครื่องวัดแสงสว่าง, เสียง และก็อื่นๆเป็นเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่ต้องในการวัดค่าตัวแปรที่พอใจ ซึ่งค่าที่ได้จำเป็นต้องนำไปคำนวณเพื่อหาสิ่งที่มีความต้องการต่อไป
.
.
- เทคโนโลยี: ตามหลักทฤษฎีในสาระวิชานี้ การที่จะรู้เรื่องหรือปรับใช้เทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรมีความชำนาญทางด้านคณิต, วิทยาศาสตร์ เพื่อใช้เพื่อการดีไซน์หรือปรับปรุงในทางของวิศวกรรม ซึ่งในช่วงหลายปีก่อนหน้านี้ การค้นคว้าที่เรียกว่าสะเต็มศึกษา (STEM Education) เป็นการผสานการเรียนรู้แบบบูรณาการ 4 สาขาวิชา ดังเช่นว่า วิทยาศาสตร์ (Science), เทคโนโลยี (Technology), วิศวกรรม (Engineering) รวมทั้งเลข (Mathematics) รวมกันเป็น STEM นั่นเอง ซึ่งในวงการเรียนระดับประเทศจัดว่า STEM เป็นวาระหลักในการศึกษาเรียนรู้รูปแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูง การที่จะจัดแจงเรียนการสอนหรือกิจกรรมต่างๆตามวิถีทาง STEM จำเป็นมากที่จะต้องให้นักศึกษาได้มีการเรียนรู้แบบลงมือทำ (Hands-on) ด้วยการเริ่มต้นที่ปัญหาที่อยากได้ปรับแก้หรือหัวข้อที่อยากเรียนรู้ แล้วให้นักเรียนคิดหาวิธีด้วยการใช้ศาสตร์อีกทั้ง 4 เพื่อจะหาบทสรุปออกมา การเรียนในลักษณะนี้บางครั้งก็อาจจะให้ผู้เรียนคิดสิ่งประดิษฐ์ใหม่แบบง่ายๆขึ้นมาเอง หรือบางทีก็อาจจะใช้ชุดการทดสอบแบบ Hands-on Lab ซึ่งควรมีการสร้างข้าวของขึ้นมาเอง นอกจากนั้นสามารถใช้หุ่นยนต์ควบคุมด้วยโปรแกรมเพื่อให้นักศึกษาออกแบบหุ่นยนต์จากตัวต่อและเขียนคำสั่งให้ปฏิบัติตามที่ต้องการเพื่อแก้ไขปัญหาหรือปฏิบัติตามแผนการที่อยาก
.
ประโยชน์ของการมีเครื่องมือวิทยาศาสตร์และก็เครื่องที่ใช้ในด้านที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์สำหรับการเรียนการสอน
การที่ผู้เรียนได้มีโอกาสใช้วัสดุอุปกรณ์แล้วก็เครื่องมือวิทยาศาสตร์หลายๆชนิดตั้งแต่ยังเด็ก จะก่อให้เกิดความคุ้นเคยแล้วก็สามารถใช้งานได้ตามเป้าประสงค์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อไปในภายหน้าตอนที่จำต้องใช้สำหรับในการดำเนินการจริง โดยสามารถใช้วัสดุอุปกรณ์แล้วก็เครื่องมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะว่าเครื่องไม้เครื่องมือจำนวนมากที่ใช้สำหรับเพื่อการทำการทดลองด้านวิทยาศาสตร์ชอบมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ไม่เหมือนกันออกไป ไม่ใช่เพียงแค่เปิดสวิตช์แล้วใช้งานได้เลย จะต้องมีการตั้งค่าหรือสอบเทียบเคียงเพื่อมีความเที่ยงตรงเยอะที่สุด รวมถึงมีความรู้ความเข้าใจสำหรับในการเลือกใช้วัสดุให้ถูกประเภทและมีความตระหนักถึงความปลอดภัยระหว่างทำการศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยทดสอบ
.
.
สำหรับการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์นั้น เครื่องใช้ไม้สอยวิทยาศาสตร์แล้วก็เครื่องที่ใช้ในด้านที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์รวมถึงสื่อที่ใช้สำหรับประกอบการเรียนการสอนนับได้ว่ามีความจำเป็นเป็นอย่างยิ่ง ช่วยทำให้นักเรียนมีความรู้แล้วก็มีประสบการณ์สำหรับการกระทำทดลอง ไม่ว่าจะเป็นในโรงเรียนระดับใดก็ตามหรือแม้แต่การเล่าเรียนนอกเวลาเรียนด้วยตัวเองที่บ้านโดยมีผู้ดูแลช่วยส่งเสริม โดยเหตุนั้นผู้ที่มีการเกี่ยวข้องควรจะเตรียมสิ่งพวกนี้ให้พร้อมใช้งานเมื่ออยากได้รวมทั้งติดตามข้อมูลวิชาความรู้ใหม่ๆเพื่อทราบถึงการพัฒนาของเครื่องไม้เครื่องมือและสื่อการเรียนรู้ต่างๆซึ่งมีความน่าจะเป็นไปได้ที่จะต้องนำมาดัดแปลงในอนาคต
.
สนใจอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ ติดต่อได้ที่นี่
Website เครื่องมือวิทยาศาสตร์
http://intereducation.co.th/th/Tags : สื่อการเรียนการสอน