Advertisement
เมื่อก้าวขาย่างเข้ามาสู่นิวยอร์กแบบเต็มกำลังพวกเราก็จะได้พบกับความยิ่งใหญ่ของหนึ่งในเมืองเอกอีกที่บนโลกใบนี้ นิวยอร์กเป็นศูนย์กลางความนำสมัยความรื่นเริงใจรวมทั้งเศรษฐกิจการค้าซึ่งแม้ว่าจะเต็มไปด้วยป่าคอนกรีตแต่ก็ยังชวนชมและไม่ได้มองดูอึดอัดราวกับอย่างเมืองใหญ่ที่อื่นๆจนได้ชื่อว่าเป็นเยี่ยมในเมืองที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในโลก เจริญเสียทุกมุมทางคมนาคมมีครอบคลุมทุกพื้นที่และไม่เคยนอนหลับหากแม้ในวิกาลแสงสีมีอยู่ทั้งเมือง แม้กระนั้นก็มากด้วยพื้นที่สีเขียวของสวนสาธารณะอย่างสมดุล
นิวยอร์กแบ่งเขตการปกครองของตนเองออกเป็น 5 ส่วน แมนฮัตตันเป็นหนึ่งในนั้นและนับว่าเป็นศูนย์กลางความรุ่งโรจน์ของเมืองเกือบทั้งหมดมีความเจริญก้าวหน้าที่สุด พลเมืองหนาแน่นที่สุดและก็ค่ายังชีพสูงที่สุดนิวยอร์กเป็นเยี่ยมในมหานครที่ชาวโลกใฝ่ฝันหาที่จะได้มาเที่ยวกันสักหนึ่งครั้งในชีวิตและมีสถานที่เที่ยวรวมถึงสัญลักษณ์สำคัญของความเป็นประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่ในนิวยอร์กค่อนข้างมากมาย เอาเป็นที่เด็ดของที่เที่ยวในเมืองนี้ละกัน
เทพีเสรีภาพ (Statue of Liberty)
เครื่องบรรณาการที่สวยงามชิ้นนี้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญเมื่อนึกถึงประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วก็นิวยอร์กที่เรียกว่าเป็นบรรณาการก็เนื่องจากว่า “อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ” (Statue of Liberty)คือความภาคภูมิของคนประเทศอเมริกาที่ได้รับมอบมาจากฝรั่งเศสเพื่อเป็นของขวัญในวันฉลองครบรอบ 100 ปีวันชาติ 4 กรกฎาคม 1876แด่ชาวอเมริกันที่ไม่ย่อท้อต่อการสืบหาความอิสระรวมทั้งผลปรากฏจากการได้อิสระของอเมริกาแล้วก็ประกาศปลดแอกจากอังกฤษในตอนนั้นก็เป็นแรงผลักดันให้ชาวฝรั่งเศสก่อการปฏิวัติเรียกร้องประชาธิปไตยเพื่อตัวเองเช่นกันของขวัญที่เสรีภาพชิ้นนี้มีชื่อเป็นทางการว่า “Liberty Enlightening theWorld” สร้างด้วยโลหะสำริดเนรมิตเป็นประติมากรรมงามในรูปสุภาพสตรีใส่เสื้อหุ้มลอยละล่องสยายกรุยกรายมือขวาถือคบไฟยกขึ้นเหนือศีรษะเหมือนเปล่งแสงสว่างแห่งเสรีภาพมือซ้ายถือแผ่นจารึกคำประกาศอิสระที่มีจารึกตัวหนังสือแสดงวันที่ “4 JULY1876” บนหัวสวมมงกุฎล้อมด้วยยอดแหลม 7 แฉกสื่อถึงจำนวน 7 ทวีป 7 คาบสมุทร เทพีเสรีภาพยืนสูงเด่นอยู่บนเกาะลิเบอร์ตี้ในรอบๆอ่าวนิวยอร์ก
ผู้ออกแบบอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพคือ “เฟรเดอริก ออกุสท์ บาร์โธลดิ”( Frederic Auguste Bartholdi)โดยเลือกออกแบบโครงเรื่องหน้าด้วยการกางใบหน้ามารดาของตัวเองเป็นแบบส่วนโครงเหล็กข้างในทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลและควบคุมการผลิตโดย “กุสตาฟไอเฟล” (Gustave_Eiffel) ผู้ออกแบบสร้างหอพักไอเฟลที่ประเทศฝรั่งเศสนั่นเองทุกองค์ประกอบผลิตในประเทศฝรั่งเศสและขนส่งองค์ประกอบเหล่านั้นทั้งยัง 350ชิ้นมาทางเรือเพื่อมาประกอบที่สหรัฐอเมริกา ใช้เวลานาน 4เดือนก็ประกอบเสร็จดังรูปทรงที่เราเห็นกัน จนกระทั่งในปี 1984 อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพก็ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ภายในรูปปั้นอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพยังมีบันไดวนขึ้นไปสู่ยอดมงกุฎถึง 393 ขั้นเทียบเคียงความสูงได้เท่ากับอาคาร 27 ชั้นก่อนหน้านั้นมีการเปิดให้นักเดินทางขึ้นไปดูวิวจากจุดนั้นได้แต่ว่าปัจจุบันนี้อนุญาตเพียงแค่การเข้าชมพิพิธภัณฑสถานรอบๆฐานข้างล่างเท่านั้น นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเฮลิคอปเตอร์ท่องเที่ยวชมบริเวณเกาะลิเบอร์ตี้ได้และก็การนั่งเฮลิคอปเตอร์ดูอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพในมุมสูงก็จะก่อให้เรามองเห็นการออกแบบชิ้นเครื่องจองจำที่ขาดวางอยู่บริเวณฐานใกล้ส่วนเท้าของรูปปั้นสื่อถึงการหลุดจากพันธนาการมาครองเสรีภาพสุดกำลัง
การเดินทางไปยังเกาะลิเบอร์ตี้ (Liberty) จะมีเรือ 2 แบบเป็น แบบที่ 1 นั่งเรือชมอย่างเดียวมิได้ลงไปที่เกาะลิเบอร์ตี้ (Liberty) และก็อีกแบบที่คนนิยมก็คือเรือ Statue Cruise จะพาเราไปลงที่เกาะลิเบอร์ตี้(Liberty) เลย โดยเรือลำนี้จะแวะหยุดที่เกาะ เอลลิส(Eillis) ก่อนเป็นจุดแรก ซึ่งเป็นที่ตั้งพิพิธภัณฑสถานที่รวบรวมเรื่องราวของคนประเทศอเมริกาที่เข้ามาตั้งภูมิลำเนาประเทศอเมริกา แล้วต่อจากนั้นพวกเรานั่งเรือต่ออีกราว 7 นาทีก็ใกล้จะถึงเกาะลิเบอร์ตี้ (Liberty)
เกาะลิเบอร์ตี้มีพื้นที่ราว 30 ไร่ซึ่งนอกจากจะเป็นที่ตั้งของเทพีเสรีภาพรวมทั้งยังมีร้านขายของร้านอาหารรวมทั้งพิพิธภัณฑสถานรวมอยู่ด้วย
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
1980mm.comเครดิต :
[url]http://1980mm.com/ประสบการณ์เฟิร์สคลาสกั/[/url]
Tags : 1980mm
