รู้จักกับปัสสาวะเล็ด

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รู้จักกับปัสสาวะเล็ด  (อ่าน 65 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
adalegroup
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1976


ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์










« เมื่อ: มิถุนายน 29, 2019, 04:06:24 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement



รู้จักกับปัสสาวะเล็ด
 
ภาวะ ไอ จาม ปัสสาวะเล็ด หรือ ช้ำรั่ว  คือการที่ กลั้นปัสสาวะไว้ไม่อยู่ ทำให้มีปัสสาวะเล็ดออกมาขณะเคลื่อนไหวเช่น ไอ จาม วิ่ง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อบุคลิกภาพ และการเข้าสังคม รวมถึงสุขอนามัย โดยอาการปัสสาวะเล็ดพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากมีท่อปัสสาวะที่สั้นกว่าผู้ชาย
อาการปัสสาวะเล็ด

  • มีอาการปัสสาวะเล็ดเมื่อออกแรงหรือทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ไอ จาม วิ่ง กระโดด ยกของหนัก
มีเพศสัมพันธ์ ลงจากรถ ซึ่งเป็นรูปแบบที่พบได้บ่อยที่สุด
  • มีปัสสาวะไหลซึม โดยที่ไม่รู้ตัว
  • มีอาการปวดปัสสาวะบ่อย ปวดปัสสาวะวันละหลายๆรอบ
ควรพบแพทย์เมื่อไหร่
ควรปรึกษาแพทย์เมื่อรู้สึกว่าอาการที่เกิดขึ้นส่งผลต่อชีวิตประจำวัน เช่น กระทบต่อการทำงาน การเข้าสังคม การทำกิจกรรม
 
สาเหตุของปัสสาวะเล็ด





  สาเหตุของปัสสาวะเล็ดมีหลายปัจจัย โดยสาเหตุหลักเกิดจากการที่กล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อโดยรอบที่รองรับกระเพาะปัสสาวะ (กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน/pelvic floor muscle) รวมถึงกล้ามเนื้อที่ควบคุมปัสสาวะหรือหูรูดกระเพาะปัสสาวะ อ่อนแอหรือเสื่อมลง

  โดยปกติเมื่อมีปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะจะขยายออก กล้ามเนื้อบริเวณหูรูดกระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะก็จะขับปัสสาวะออก และหลังจากนั้นก็จะปิดลง เพื่อป้องกันการไหลของปัสสาวะ จนกว่าจะถึงเวลาที่ต้องการปัสสาวะอีกครั้ง แต่เมื่อใดก็ตามที่กล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวอ่อนแอลง เมื่อมีกิจกรรมที่ทำให้เกิดแรงดันบริเวณอุ้งเชิงกราน เช่น การไอ จาม ยกของหนัก การหัวเราะ ก็สามารถส่งผลต่อกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ไม่สามารถควบคุมการปิดของกล้ามเนื้อหูรูดที่อ่อนแอลงได้ จึงส่งผลต่อเนื่องให้เกิดอาการปัสสาวะเล็ด
 
โดยปัจจัยที่ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกรานและหูรูดกระเพาะปัสสาวะอ่อนแอลง อาทิเช่น

  • การคลอดบุตร โดยกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน รวมถึงหูรูดท่อปัสสาวะมีโอกาสที่จะอ่อนแอลงได้ เนื่องจากเนื้อเยื่อ และเส้นประสาทที่ได้รับผลกระทบในระหว่างการคลอดบุตร ส่งผลให้เกิดปัสสาวะเล็ด ซึ่งอาจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายหลังการคลอดบุตร หรืออาจจะใช้ระยะเวลาหลายปีต่อมา
  • การมีแรงดันสะสมในช่องท้องติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้กล้ามเนื้อในผนังช่องคลอดเกิดการหย่อนคล้อย กระเพาะปัสสาวะและทางเดินปัสสาวะมีการเปลี่ยนมุม จากการออกแรงยกของหนักหรือเล่นกีฬาอย่างหนักเป็นประจำ ซึ่งเป็นการเพิ่มแรงดันในช่องท้อง ปัสสาวะจึงเล็ดออกมา
  • ปัจจัยอื่นเช่นน้ำหนักตัวเยอะ รวมถึงท้องผูกเรื้อรัง ส่งผลทำให้มีแรงดันในช่องท้องเยอะอยู่ตลอดเวลาและเกิดการหย่อนคล้อยของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน
  • อายุที่มากขึ้น โดยการเกิดปัสสาวะเล็ด ไม่จำเป็นเป็นต้องพบเมื่ออายุมากขึ้น แต่การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ อาทิเช่น กล้ามเนื้อที่อ่อนแอลง กล้ามเนื้อผนังช่องคลอดหย่อนยาน ความเสื่อมของหูรูดกระเพาะปัสสาวะช่องคลอดหรือเยื่อบุท่อปัสสาวะขาดความยืดหยุ่น ซึ่งเกิดได้บ่อยในสตรีวัยหลังหมดประจำเดือน เนื่องจากการขาดฮอร์โมนเพศจะเพิ่มโอกาสให้เกิดขึ้นได้ แต่อย่างไรก็ตาม อาการปัสสาวะเล็ดแบบชั่วคราว สามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่เกี่ยวกับอายุ
  • วิธีการคลอดบุตรที่ยากลำบาก จะส่งผลทำให้เนื้อเยื่อในช่องคลอดหย่อนและบาดเจ็บหรือที่เรียกกันว่ากระบังลมหย่อน หลังการคลอดบุตร
  • การส่งกระแสประสาทที่ผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้กระเพาะปัสสาวะถูกกระตุ้นอยู่ตลอดเวลา และไม่สามารถควบคุมการปัสสาวะได้
รักษาอาการปัสสาวะเล็ดได้อย่างไรบ้าง?

  • หากอาการยังอยู่ในระยะเริ่มต้น สามารถใช้วิธีการบริหารช่องคลอดด้วยการขมิบ  ซึ่งควรทำอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ โดยจะเริ่มเห็นผลหลังปฏิบัติใน 3 – 6 เดือน จะสามารถป้องกันภาวะกระบังลมหย่อนและอาการปัสสาวะเล็ดได้

การรักษาโดยการใช้ยา เพื่อลดการบีบตัวของกระเพาะปัสสาวะ โดยควรใช้ยา ตามคำแนะนำของแพทย์








  • การใช้เทคโนโลยีรีแพร์ ยกกระชับช่องคลอดแบบไม่ผ่าตัด เพื่อกระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ และเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานภายใน โดยจะเหมาะกับการรักษาอาการปัสสาวะเล็ดที่ไม่รุนแรงมาก เช่น มีอาการปัสสาวะเล็ดเฉพาะเวลาเล่นกีฬาหนักๆ ไอ จาม รู้สึกว่ามีลมออกทางช่องคลอดตอนทำกิจกรรมที่ใช้แรงเช่นเล่นกีฬา โดยคนไข้ที่มีอาการควรทำการรักษาแต่เนิ่น เนื่องจากหากปล่อยทิ้งไว้จนอาการรุนแรง อาจจำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัดแทน โดยการรักษาอาการปัสสาวะเล็ด รวมถึงการรีแพร์ช่องคลอดแบบไม่ผ่าตัด ควรจะต้องทำทั้งหมด 3 ครั้ง โดยไม่ต้องพักฟื้น ไม่เจ็บตัว หลังจากทำการรักษาเรียบร้อย สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ มีเพศสัมพันธ์ได้ภายใน 4 ชั่วโมง โดยมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการผ่าตัดมาก อีกทั้งยังปลอดภัย ไม่เสี่ยงติดเชื้อ จึงเป็นทางเลือกใหม่ของสุภาพสตรีที่เริ่มมีปัญหาปัสสาวะเล็ดได้อย่างดีเลยทีเดียว

การผ่าตัดรักษาอาการปัสสาวะเล็ด อาทิเช่น การผ่าตัดเปิดหน้าท้องยกมุมของกระเพาะปัสสาวะขึ้น การผ่าตัดดึงรั้งท่อปัสสาวะโดยใช้เข็มแทง การใช้เทปสลิงดึงมุมกระเพาะปัสสาวะขึ้น ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนมุมของท่อทางเดินปัสสาวะให้กลับไปเป็นปกติ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ได้แก้ปัญหาเรื่องช่องคลอดหลวม ไม่กระชับ ซึ่งจะแกตต่างจากการรักษาด้วยเครื่องมือรีแพร์แบบไม่ผ่าตัด ซึ่งสามารถรักษาอาการปัสสาวะเล็ดและรีแพร์แก้ปัญหาช่องคลอดหลวมได้ภายในคราวเดียว อีกทั้งยังช่วยให้เพิ่มความสุขในการมีเพศสัมพันธ์ได้ดียิ่งขึ้น จากการที่ปรับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อภายในจึงลดความหย่อนคล้อยภายในช่องคลอด ลดอาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ รวมถึงอาการเจ็บท้องน้อย ลดอาการช่องคลอดแห้ง และแก้ปัญหาorgasm ช้าได้อีกด้วย จึงเป็นการคืนคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับผู้หญิงอย่างแท้จริง









นัดหมายแพทย์และสอบถาม: สอบถามรายละเอียดหรือ นัดหมายแพทย์ บีเอซี คลินิกเวชกรรม สุขุมวิท Line: @bacclinic


คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : รีแพร์ไม่ผ่าตัด

Tags : รีแพร์ไม่ผ่าตัด,ช่องคลอดหลวม,ปัสสาวะเล็ด



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า

บริการ<a href="http://adalepaper.com">รับทำเว็บไซต์, ตกแต่งร้านค้าออนไลน์, จัดทำระบบ E-Commerce, โพสเว็บบอร์ด, เขียนบทความ, หัวเฟสบุ๊ค, แต่งเว็บสำเร็จ</a></h3>ครบวงจร
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ