‘กัวเตมาลา’ เมืองดิบๆมั่งคั่งเสน่ห์ที่แทบไม่ได้ไป

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ‘กัวเตมาลา’ เมืองดิบๆมั่งคั่งเสน่ห์ที่แทบไม่ได้ไป  (อ่าน 53 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Saichonka
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 21399


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2019, 01:52:17 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

เมืองเก่าของกัวเตมาลาสิตี้ บางมุมบางครั้งอาจจะน่ากลัวไปบ้าง แต่ไม่มีการรองพื้น ประดิดประดอยติดขนตาปลอมเมืองแบบนี้มีเสน่ห์ดิบๆที่น่าคลั่งไคล้
แม้คุณคือนักทัศนาจรที่ตามล่าเมืองน่าเที่ยวระดับเอลิสต์ของโลก ปักหมุดเมืองแอนติกาไว้บนแผนที่โลก ด้วยเหตุว่านี่เป็นเมืองที่ผู้รักการเดินทางทุกคนควรจะพาสองเท้าไปเดินย่ำบนถนนหนทางปูด้วยหินแสนคลาสสิก


“โน” หลังจากเดดเครื่องปรับอากาศอยู่นาน ข้าราชการตรวจคนเข้าเมืองตัดสินใจส่ายศีรษะรวมทั้งยื่นพาสปอร์ตสีเลือดหมูคืนให้เจ้าของ แล้วเอ่ยคำนี้ออกมา นี่คือปัญหาที่ไม่เคยพบเลยชั่วชีวิตการเดินทาง รวมทั้งกำลังเกิดอยู่เวลานี้เป็น ‘เข้าประเทศจุดหมายมิได้’ ผู้ใดจะรู้สึกว่าท่องเที่ยวนี้ฉันจะวิ่งชนปัญหานี้เข้าอย่างจัง

สิ้นคำคุณข้าราชการ รถ Tica Bus ที่วิ่งข้ามประเทศจากเอล ซัลวาดอร์ (El Salvador) มุ่งหน้าไปหากัวเตมาลา (Guatemela) ตกลงใจทิ้งผู้โดยสารคนไทยลงตรงชายแดน เด็กรถหอบกระเป๋าลงมากองด้วยความห่วงใย

หมดกัน ทุกสิ่งมองมืดมน สายตาละห้อยของฉันมองดูป้าย Tica Bus อย่างอาลัย และก็มันค่อยๆกลืนหายไปกับฝุ่นละอองรวมทั้งจมไปบนถนนหนทางสายนั้น

“สักครู่พวกเราจะส่งคุณกลับเอล ซัลวาดอร์นะ คุณไปทำวีซ่าที่สถานทูตกัวเตมาลาในกรุงซาน ซัลวาดอร์ให้เรียบร้อยก่อนและก็หลังจากนั้นจึงค่อยมาใหม่…” ล่ามเฉพาะกิจสปีกอิงลิชกระพร่องกระแพร่งบอกคนสิ้นหวัง

นาทีนั้นอยากกล่าวภาษาสเปนแบบคล่องแคล่วปรื๋อได้ จะได้ชี้แจงให้ท่านข้าราชการรู้เรื่องอย่างแจ่มชัด ว่าวีซ่าอเมริกาที่ยังไม่หมดอายุ สามารถใช้เดินทางเข้าประเทศในแถบอเมริกากลางได้แล้วก็กัวเตมาลาด้วย แกอาจมัวแต่ขลุกอยู่ตรงชายแดน เลยไม่รู้เรื่องกฎข้อนี้ เจ้าหน้าที่จัดแจงส่งขึ้นรถโดยสารประจำทางกลับกรุงซาน ซัลวาดอร์ เมืองหลวงของประเทศเอล ซัลวาดอร์ที่ฉันพึ่งจากมาอยู่เร็วๆ

ในเพล้โพล้ที่บัสควบไปข้างหน้า ไม่มีอะไรดีไปกว่างัดหาเรื่องดีๆขึ้นมาปลอบประโลมใจตนเอง เอาเถอะ ยังดียิ่งกว่าพาสปอร์ตหาย แถมโชคดีที่ระยะทางจากชายแดนไปกรุงซาน ซัลวาดอร์แค่ 2 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว ถ้าเป็นเวลานานกว่านี้ เห็นทีคงยอมแพ้ แถมโชคดียิ่งกว่าที่วันพรุ่งเป็นวันจันทร์ที่สถานทูตเปิดทำการพอดี นี่หากพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ โน่นหมายความว่าว่าฉันต้องแขวนตนเองอยู่ในซาน ซัลวาดอร์อีก 2 วัน ซึ่งถ้าเกิดเป็นอย่างงั้นเห็นทีอาจจะจะต้องรื้อถอนปรับขยับแผนกันชุดใหญ่

แม้กระนั้นก็น่าประหลาด เป็นช่วงเวลากลางคืนที่กำจัดทุกข์และก็ความไม่สบายใจออกไปอย่างไวน่าตกใจ อาจจะเป็นเพราะว่าตัวเลขอายุทำให้คนเรารู้เรื่องโลกได้ง่ายมากขึ้น แผน 2 แผน 3 ถูกร่างขึ้นลางๆก่อนทั้งหมดทุกอย่างจะเบาๆจมไปในความมืดดำ

เมืองเก่าของกัวเตมาลาสิตี้ บางมุมอาจจะน่าสยดสยองไปบ้าง แต่ไม่มีการรองพื้น ประดิดประดอยติดขนตาเลียนแบบเมืองแบบนี้สินะ เสน่ห์ดิบๆที่ฉันหลงใหล

ภายหลังสำเร็จภารกิจขอวีซ่ากัวเตมาลาฉันก็นั่ง Tica Bus ข้ามประเทศจากเอล ซัลวาดอร์ไปหากัวเตมาลาอีกรอบ

สี่เหลี่ยมจัตุรัสประจำเมืองกัวเตมาลาสิตี้ (Guatemala City) อ้าแขนปลอบขวัญคนวิกลจริตนไกล ละแวกนี้เป็นเขตเมืองเก่า รอบด้านก็เลยเป็นอาคารเก่าแก่อายุมากกันทั้งนั้น แม้แต่เรือนพักที่ฉันเอนกาย ก็เก่าขนาดเดินบนห้องแล้วดังเอี๊ยดอ๊าดตลอดเวลา

หน้าที่ของสี่เหลี่ยมจัตุรัสนั้นมากเหลือเกิน ด้านหนึ่งเป็นสักขีพยานที่แสนโอ่อ่าอย่างพระราชวังแห่งชาติ (National Palace) ส่วนอีกด้านคือมหาวิหารแห่งกัวเตมาลา (Metropolitan Cathedral) อันศักดิ์สิทธิ์ของคนเมือง เดินอ้อมไปข้างหลังมหาวิหาร เป็นตลาดใหญ่ประจำเมือง เมืองเก่าของกัวเตมาลาสิตี้ บางมุมบางครั้งก็อาจจะน่ากลัวไปบ้าง แม้กระนั้นไม่มีการรองพื้น ประดิดประดอยติดขนตาเลียนแบบ เมืองอย่างนี้สินะ เสน่ห์ดิบๆที่ฉันคลั่งไคล้เสมอ

เว้นเสียแต่กัวเตมาลาสิตี้แล้ว ยังมีแอนติกา(Antigua) อีกเมืองหนึ่งที่ใครๆก็เพ้อกันว่าเมืองนี้แหละที่ทำให้หัวใจของนักเที่ยวสั่นไหวมานับไม่ถ้วน

แอนติกาเป็นดินแดนที่มิได้ถูกแต่งแต้มไว้ด้วยแบรนด์เนม ทว่าถูกคลุมไว้ด้วยบรรยากาศแบบดิบๆเดิมๆไม่ว่าจะซอกแซกไปมุมไหน ก็พบว่าแอนติกาคือเมืองที่โรยไว้ด้วยสีสัน

เนื่องแต่เป็นเมืองอาณานิคมของสเปนมาก่อน แอนติกาเลยมีมรดกตกทอดเป็นบ้านเรือนสไตล์โคโลเนียลกระจัดกระจายไปทั่วทั้งเมือง แอนติกาเลอค่าน่าขลุกอยู่ด้วย ไม่ว่าถนนสายไหนก็เลยไม่เคยขัดสนนักท่องโลก ถนนหนทางปูด้วยหินเป็นร่องเป็นหลุมคือตัวตนของแอนติกา บางบุคคลพูดว่าเพียงแค่พาสองเท้าเดินย่ำไปบนถนนปูด้วยหินก้อนใหญ่ๆในแอนติกาก็สัมผัสได้ถึงความคลาสสิกของเมืองนี้แล้ว

ฉันพาตัวเองไปวนเวียนแถวพลาซา มายอร์ (Plaza Mayor) นี่เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสกลางเมืองที่เป็นทั้งหมดทุกอย่างของเมือง สำหรับผู้ที่มองหาศูนย์รวมจิตใจของเมือง มุมหนึ่งของสี่เหลี่ยมด้านเท่าเป็นมหาวิหารประจำเมือง (Antigua Cathedral) ที่มีมุมสงบเอาไว้ให้ชาวคริสต์ทุกคนได้เข้ามาพึ่งพิงในสถานที่ที่อวลไว้ด้วยศรัทธา

วิหารสีขาวแห่งนี้สร้างตั้งแต่กึ่งกลางศตวรรษที่ 16 เหตุที่ดูใหม่อย่างนี้ เนื่องจากว่าผลพวงจากแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นบ่อยมาก รุนแรงที่สุดก็เป็นช่วงๆปี 1773 ซึ่งปีนั้นแอนติกาทั้งเมืองพังทลายไม่มีชิ้นดีโบสถ์แห่งนี้ก็จะต้องบูรณะกันใหม่อีกครั้ง

กึ่งกลางสี่เหลี่ยมด้านเท่าเป็นสวนรวมทั้งน้ำพุที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 คนไหนกันแน่ไม่รีบร้อนไปไหนลองมองหาเก้าอี้ริมถนนแล้วนั่งเพลิดเพลินใจไปกับทิวไม้และก็ผู้คนที่เขยื้อนผ่านไปมา จะได้รับรู้ว่าชาวแอนติกาในศตวรรษที่21 นั้นยังคงใช้ชีวิตแบบเดิมๆ

หญิงชาวแอนติกามักมานั่งจับกลุ่มกัน ในมือพวกเธอมีเก้าอี้พลาสติกหนีบไปด้วยเสมอ สะดวกนั่งตรงไหนก็วางลงแล้วนั่งล้อมวงคุยหรือนั่งขายของกันที่ตรงนั้นเลย บางวงไม่มีเก้าอี้ก็หย่อนยานตัวนั่งลงสนทนากันริมทางเลย แม้กระนั้นถ้าเกิดพบนักท่องเที่ยวปุบปับ พวกหล่อนพร้อมจะทิ้งวงพูดคุยแล้วพุ่งมาหากลุ่มเป้าหมายโดยทันที

แอนติกาเป็นดินแดนที่ไม่ได้ถูกแต่งแต้มไว้ด้วยแบรนด์เนม แต่ว่าถูกคลุมไว้ด้วยบรรยากาศแบบดิบๆเดิมๆไม่ว่าจะซอกแซกไปมุมไหน ก็พบว่าแอนติกาคือเมืองที่โรยไว้ด้วยสีสัน

นักช้อปท่านไหนที่อยากสำรวจตลาดของแอนติกา บริเวณจัตุรัสเป็นแหล่งช้อปชั้นหนึ่งที่มีไว้ให้คุณได้เดินสอดส่องแล้วก็ซื้อกัน หรือผู้ใดกันอยากจะหารถม้าแล้วให้พาเที่ยวไปให้ทั่วแอนติกา มุมนี้ก็มีรถม้าหยุดรออยู่ เรื่องจริงคนกรุงเองก็ยังคงใช้รถม้าอยู่เช่นกัน เดินไปมุมไหนเลยมีเสียงก่อกแก่กอยู่ทุกๆที่

ประตูโค้งซันตา คาตาลีนา (Santa Catalina Arch) ที่เป็นเหมือนโลโก้ของแอนติกา คือมุมที่ผู้เดินทางทุกคนพากันเดินหา แรกเริ่มประตูนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิหารซันตา คาตาลีท้องนาแม้กระนั้นที่เหลือแค่ซุ้มประตูเพราะถูกแผ่นดินไหวเขย่าเมืองพินาศกระทั่งเหลือซุ้มประตูเท่าที่เห็น

เดินไปสุดถนนสายนี้ ก็จะเจอโบสถ์งามอีกแห่งหนึ่งของแอนติกาอย่าง ลาเมอร์เซด (La Merced) สีเหลืองแพรวพราวของโบสถ์แห่งนี้สะกดทุกคนให้ยืนนิ่ง บางคนบางทีก็อาจจะสนุกกับการเดินสายเที่ยวโบสถ์ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วเมือง แม้กระนั้นฉันเดินถามเจ้าถิ่นเพื่อหาพิกัดที่จะพาไปเมอร์ค้างโด (Mercado) ตลาดนัดประจำเมืองที่ใหญ่ขนาดมีอีกทั้งโซนขายสิ่งของรวมทั้งโซนของฝาก ยืนยันว่ามาถึงตรงนี้ได้หิ้วอะไรติดไม้ติดมือกลับไปอยู่ที่บ้านแน่ๆ นี่ไม่ใช่ตลาดที่มีไว้ให้นักเดินทางได้มาซื้อเท่านั้น แต่ยังเป็นมุมที่ชาวกรุงหอบลูกลากหลานมาซื้อสิ่งของทุกสิ่งในบ้านด้วยเหมือนกัน

เดินเอ้อระเหยไปให้ทั่วแอนติกา แล้วฉันก็เลยพบว่านี่เป็นเมืองหลวงเก่าของกัวเตมาลาที่น่าเพลินใจก้าวหน้าจิตใจเบิกบานแท้

หากคุณคือนักทัศนาจรที่ตามล่าเมืองน่าเที่ยวระดับเอลิสต์ของโลก ปักหมุดเมืองแอนติกาไว้บนแผนที่โลก เนื่องจากว่านี่เป็นเมืองที่ผู้รักการเดินทางทุกคนควรพาสองเท้าไปเดินย่ำบนถนนหนทางปูด้วยหินอันแสนคลาสสิก แล้วจะรู้ดีว่าโลกช่างน่าอภิรมย์อย่างมาก
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : [url]http://hazardsofmedicine.org/[/url]

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : [url]http://hazardsofmedicine.org/[/url]

Tags : hazardsofmedicine



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ