Meteora…. วัดลอยฟ้า สถานที่ต้นแบบอาณาจักร The Mountain and The Vale ในซี่รี่ย์ G

[Petchchacha]

Advertisement

หลายๆครั้งภาพสถานที่บางแห่งช่วงมีเสน่ห์ เย้ายวน ผสมลึกลับ เย้ายวนใจให้พวกเราเริ่มเดินทางไกลเสียเหลือเกิน เพื่อที่จะได้ไปสัมผัส แลเห็นสถานที่นั้นด้วยตาตนเอง

Meteora คือสถานที่แบบนั้น

รวมทั้งถ้าเกิดคิดภาพ Meteora ไม่ออกให้นึกถึงอาณาจักร the Mountain and the Vale ที่ปกครองโดยตระกูลอาร์รีน หนึ่งในอาณาจักรอีกทั้ง 7 ที่เวสเทอคอยสในซี่ปรี่ย์ยอดฮิต Game of Thrones ในฉากเปิดตัวอาณาจักรดังที่ได้กล่าวมาแล้วเราจะเห็นภาพพระราชวังเอียปรี่ ตั้งสูงเด่นอยู่บนยอดดอยที่มีลักษณะเป็นแท่งหินสูงเสียดไปบนฟ้า กระทั่งแลคล้ายวังดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นไม่ได้ตั้งอยู่บนผืนดิน แม้ล่องลอยอยู่บนฟ้า และก็รอบๆปราสาทที่นั้น เต็มไปด้วยขุนเขาที่มีลักษณะแบบเดียวกันรายล้อมเพียงเปลี่ยนแปลงปราสาทเอียปรี่บนยอดดอยเป็นวัดนิกายออร์โธดอกซ์แทน ภาพ และบรรยากาศแบบนั้นแหละเป็นภาพจำลองวิวของ Meteora

ลอยล่องอยู่ในอากาศ
Meteora เป็นชื่อเรียกรวมๆของกรุ๊ปเทือกเขาที่เป็นที่ตั้งอารามนิกายออร์โธดอกซ์ ในเมือง Kalambaka ทางตอนกลางของประเทศกรีซ Meteora เป็นคำภาษากรีกหมายถึง “ลอยล่องอยู่กลางอากาศ” ใช้เรียกศาสนสถานที่ตั้งอยู่บนยอดเขาที่เป็นแท่งหินสูงอย่างชวนพิศวง จนถึงแปลงเป็นชื่อเรียกพื้นที่ทั้งสิ้น

อารามบนยอดเขาหินเหล่านี้ทำขึ้นในศตวรรษที่14 มีทั้งมวล 24 อารามซึ่งทั้งผองเข้าถึงได้ด้วยยการปีนบันไดเชือก แล้วก็กว้านที่ชักขึ้นลงเพียงแค่นั้นทำให้ตัววัดรวมทั้งเหล่านักบวชรอดพ้นจากการโจมตีจากพวกเตริก์ที่เข้ามารุกรานทางเหนือของประเทศได้ กระทั่งปี ค.ศ. 1920 แล้วก็ค่อยมีการสร้างทางบันไดลัดไปตามไหล่เขาเข้าถึงตัววัด

ภาพวาด Meteora ในบังกะโลบ้านพัก ชี้ให้เห็นแจ้งชัดว่าในอดีต การเข้าถึงวัดบนยอดดอยทำเป็นโดยผ่านการปีนป่ายปีนบันไดเชือกและก็กว้านที่ชักขึ้นลงเพียงแค่นั้น

ปัจจุบันหลงเหลือวัดใน Meteora เพียงแต่ 6 แห่งเท่านั้น โน่นเป็น

Great Meteora

St.Nikolaos Anapafsas

Varlaam

Roussanou

Holy Trinity

แล้วก็ St.Stefanos

เมือง Kalambaka ต้นทางไปสู่ Meteora
ทันทีที่เราเข้าไปในเขตเมือง Kalambaka จะเห็นทิวเขาที่ยอดเขามีลักษณะเป็นแท่งหินโอบขนาบพื้นที่เมืองที่อยู่ด้านล่าง สร้างบรรยากาศให้เมืองเล็กๆแสนสงบที่มีราษฎรเพียงแค่ไม่กี่พันผู้ชมเป็นเมืองแห่งการเสี่ยงอันตรายและก็ชักชวนตื่นเต้นให้รู้สึกต้องการตรวจไปบริเวณขึ้นมา

ภายหลังที่เราเข้าไป Check in ในบังกะโลที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ตั้งที่แลเห็นบรรยากาศเทือกเขาแท่งหินที่โอบประชิดเมืองอย่างเด่น ก็รีบออกมาเพื่อถามไถ่ข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยวชมอารามจากข้าราชการตรงรอบๆเคาน์เตอร์ในทันที

และก็เป็นเนื่องจากว่าตรงนี้เป็นเมืองเล็กๆแสนน่ารักน่าเอ็นดู ที่อยู่ห่างไกลละมัง เจ้าหน้าที่แต่ละคนก็เลยล้วนเป็นมิตร เบิกบาน และช่างเร่งรีบอย่างยิ่งที่จะให้ข้อมูลอำนวยความสะดวกกับเราที่เป็นแขกต่างถิ่น

การเที่ยวดู Meteora นั้นไม่ยากเลย จะมีรถบัสที่วิ่งประจำทางจากตัวเมืองขึ้นไปยังพื้นที่เทือกเขาด้านบน ผ่านอารามทุกหัวระแหงให้เราเลือกลงไปเยี่ยมดูได้ในทุกๆ2 ชั่วโมง โดยเริ่มตั้งแต่ 9 โมงตอนเช้า ไปหมดเวลา บ่าย 3 นาฬิกา

แล้วข้าราชการเด็กหนุ่มที่บริเวณใบหน้าเลอะเทอะยิ้มตลอดเวลาก็ให้คำปรึกษา ให้พวกเราเลือกเข้าชมบางวัดก็เพียงพอแล้ว เนื่องจากว่าแต่ละวัดจะคล้ายกัน ถ้าเกิดแต่ว่าแนะนำอาราม Great Meteora ให้เป็น the must ที่ควรจะเข้าชม เนื่องจากว่าเป็นอารามที่ใหญ่ที่สุด โบราณที่สุด เพียงแต่…. มองหน้าเราสองคนแล้วยิ้มอีกแล้ว เพียง…ทางขึ้นจะเป็นขั้นบันไดที่สูงชันกว่าอารามอื่นๆแล้วหลังจากนั้นก็เลยแนะนำให้เราเข้าชมวัด St. Stetanos ที่เป็นวัดท้ายที่สุดของเส้นทาง เนื่องจากว่าเข้าถึงได้ง่าย ไม่ต้องเดินขึ้นบันไดที่สูงชัน แถมเมื่อเยี่ยมชมตรงนี้เสร็จแล้ว สามารถเดินย้อนมายังอาราม Holy Trinity ที่อยู่ใกล้ๆที่แม้จะปิดในวันที่พวกเราคิดแผนจะขึ้นไปท่องเที่ยวดู (วัดทั้งยัง 6 แห่ง จะสลับกันปิดไม่ตรงวันกัน) แต่สามารถใช้เส้นทางเดินเท้าเล็กๆที่จะเริ่มจากตรงนั้น กลับมายังเมืองข้างล่างได้

เขาชี้แนะอย่างขันแข็งว่าเราควรเดินกลับมายังเมือง แทนที่จะนั่งรถกลับมา เพื่อจะได้สัมผัสกับบรรยากาศความเป็น Meteora อย่างเต็มที่ นั่นเป็นข้อเสนอที่ละเอียดและก็เราตกลงปลงใจที่จะเที่ยวตามคำแนะนำนั้น โน่นคือไปด้วยรถยนต์โดยสารประจำทาง รวมทั้งกลับด้วยสองเท้าเราเอง

ถึงเวลาเข้าเยี่ยมชมอารามลอยฟ้า
ยามเช้าวันรุ่งขึ้น รถบัสประจำทางแล่นพาเราออกจากเมืองไปเพียงหน่อยเดียว ก็ตกอยู่ในวงล้อมของทิวภาพสองข้างทางที่เต็มไปด้วยแท่งหินสูง และไม่ช้าเราก็เริ่มเห็นภาพวัดบางแห่งบนยอดเขาสูง คล้ายลอยล่องอยู่ในอากาศจริงๆทำให้กลั้นใจอย่างตื่นเต้นโดยไม่ได้คาดคิด นี่มันราวกับภาพที่วาดไว้ในจินตนาการจริงๆ

ในที่สุด รถบัสก็เข้าไปจอดที่ลานข้างหน้าอารามที่แรก The Great Meteora ทางเข้าอารามดูลึกลับเป็นทางบันไดเล็กๆที่ทอดยาวลัดเลาะไหล่เขาขึ้นไป แรกทีเดียว ที่เห็นภาพตัวอารามด้านหลังจากข้างนอก มีความคิดว่าทางขึ้นอาจสูงชัน แล้วก็ทุกข์ยากลำบากไม่น้อย ทว่าเอาเข้าจริงทางไม่ชันอย่างที่คิด อีกทั้งเดินได้ง่าย และไม่ไกลเลย ทำให้ถึงเขตตัววัดโดยไม่ทันตั้งตัว

ตัวอารามด้านไหนค่อนข้างจะเรียบง่ายไม่หรูหราใดๆก็ตามประกอบด้วยพื้นที่โบสถ์สำหรับทำกิจกรรมทางศาสนาพื้นที่พักอาศัยสำหรับนักบวช รวมทั้งมีการจัดสรรพื้นที่ดั้งเดิมบางส่วนที่มิได้ใช้งานแล้วเป็นหลักที่นำเสนอนิทรรศการสำหรับนักเดินทางได้ชมสิ่งของต่างๆในอดีตที่อารามได้รักษาไว้ นี่ไม่เหมือนกับภาพที่จินตนาการไว้พอควร เพราะภาพวัดที่อยู่บนยอดขาหินที่ดูจากด้านอนกนั้นมองลี้ลับ น่าค้นหา ต่เมื่อได้เข้ามาสัมผัสจริงๆกลับกลายวัดที่เรียบง่ายแล้วก็สมถะ

Meteora ที่ยวนเสน่ห์ ร่ายมนต์ให้คนทั่วทั้งโลกมาเยี่ยมชม ก็เลยมิได้อยู่ที่ตัวอาราม ถ้าหากเป็นสภาพแวดล้อมตื่นตาของทิวเขาแท่งหินขนาดใหญ่โตมโหฬาร ที่ทอดยาวสม่ำเสมอ มองดูเข้าถึงยาก ถ้าด้วยความตั้งใจจริงของผู้คนตัวเล็กน้อย กลับปรากฏสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แขวนล่องลอยอยู่บนแท่งหินเหล่านั้น

จากวัด Great Meteora พวกเราได้เข้าชมอาราม Roussaou และ อารามSt Stefanos อารามทั้งสิ้นมีสภาพที่คล้ายกันเหมือนที่ข้าราชการบอกจริงๆมิน่าล่ะ ถึงย้ำนักว่า ไม่มีความจำเป็นที่ต้องเข้าไปมองทุกวัดหรอก และก็สุดท้ายพวกเราก็ทราบดีแล้วว่า เพราะเหตุใดเจ้าหน้าที่ถึงอยากให้เราเข้าชมอาราม St. Stefanos ที่เป็นวัดท้ายสุดของเส้นทาง เนื่องจากจากบนนั้น เป็นจุดชมวิวที่มองลงมามองเห็นเมือง Kalabaka ที่ตั้งอยู่ข้างล่างได้งามที่สุด

เมื่อเยี่ยมชมจนถึงพอแล้ว ฉันกับเพื่อนร่วมทางก็เดินย้อยจากอาราม St. Stefanos มายัง อาราม Holy Trinity ที่อยู่ใกล้ๆเพื่อเดินเท้ากลับมายังเมือง ทางดังที่กล่าวถึงแล้วเป็นเส้นทางเดินป่าที่เดินง่าย กลางทางเพลิดเพลินทีเดียว เพราะว่าได้เห็นพืชพันธุ์ที่แปลกตาให้ต้องหยุดถ่ายรูปกันบ่อยครั้ง

นั่นทำให้แทนที่เราจะใช้เวลาเดินลงมาราวครึ่งชั่วโมงดังที่ข้าราชการให้ข้อมูล กลับใช้เวลาถึงชั่วโมงกว่าอย่างยิ่งจริงๆ ทำเอาเมื่อมาถึงเมืองข้างล่าง หิวโซ แลเห็นร้านอาหารในเมืองร้านค้าไหน แลน่าอร่อย น่าทานไปหมด แต่ว่าสุดท้ายพวกเราเลือกที่จะไปนั่งรับประทานอาหารกันที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสน้ำพุกลางเมือง ด้วยเหตุว่าจากตรงนั้น แลถัดผ่านบ้านเรือนออกไป จะมองเห็นแนวเทือกเขาหินตระหง่านเป็นเบื้องหลังอย่างชัดเจน ดูลึกลับ ห่างไกล ยากต่อการเข้าถึง

จนไม่น่าเชื่อว่า เพิ่งตะกี้นี้เอง ที่พวกเราได้ไปฝากรอยย่ำบนพื้นที่ลึกลับดังที่กล่าวถึงแล้วมาแล้ว
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : negoumelgolaf

Tags : negoumelgolaf.com,negoumelgolaf