” ท่องเที่ยว มาเลเซีย ” 5 วัน 4 คืน กับ 3 เมือง แบบเก็บแลนด์มาร์คได้ครบ!

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ” ท่องเที่ยว มาเลเซีย ” 5 วัน 4 คืน กับ 3 เมือง แบบเก็บแลนด์มาร์คได้ครบ!  (อ่าน 22 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
veerachai29
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12299


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: กันยายน 09, 2019, 10:21:01 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

” เที่ยว มาเลเซีย ” 5 วัน 4 คืน กับ 3 เมือง แบบเก็บแลนด์มาร์คได้ครบ!
วันนี้ขอสวมบทบาทเป็นไกด์ นำทางทุกคนไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านของพวกเรา ซึ่งก็คือ “ประเทศมาเลเซีย” นั่นเองค่ะ มาดูกันว่า เที่ยว มาเลเซีย แบบครบๆใน 5 วัน คืออะไรบ้าง
ประเทศมาเลเซีย อยู่ทางตอนใต้ของไทยเรา มีเมืองหลวงเป็น กัวลาลัมเปอร์ นั่งเรือบินประเดี๋ยวเดียว แค่ 2 ชั่วโมงนิดๆก็ถึงค่ะ ซึ่งสามารถเลือกเดินทางได้กับอีกทั้งสายการบิน Low Cost รวมทั้ง Full Service เลยค่ะ ยิ่งกว่านั้นยังสามารถเดินทางได้ด้วยวิธีอื่นๆอีก ไม่ว่าจะเป็นรางรถไฟ หรือรถทัวร์ ก็สามารถเหมือนกัน ส่วนค่าเงินของที่นี่ คิดง่ายๆ1 RM = 8 บาทค่ะ
เกริ่นมามากพอแล้ว ขอเริ่มพาเที่ยวเลยนะคะจะได้ไม่เสียเวล่ำเวลา ^^
1. เที่ยว มาเลเซีย วันแรก
ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง จ.กรุงเทพฯ ด้วยเที่ยวบินไฟล์ทบ่ายๆคราวนี้ดีลช่าเลือกเดินทางกับสายการบิน Air Asia จ้ะ สะดวก แถมราคาย่อมเยาสุดๆหลับบนเครื่องไปแป๊บนึง ตื่นมาเครื่องก็กำลังแลนด์ดิ้งสู่สนามบิน KLIA2 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์แล้วจ้ะ ในตอนที่มาเลเซีย จะเร็วกว่าไทยเรา 1 ชั่วโมงนะคะ ปรับเวลากันเรียบร้อย ก็ออกมาจากสนามบินมุ่งหน้าสู่เมืองกัวลาลัมเปอร์กันเล้ย
จากสนามบินไปสู่กัวลาลัมเปอร์ สามารถไปได้หลายแนวทางเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า รถบัส หรือจะเรียกแท็กซี่ หรือ Grab, Uber ก็ได้ สำหรับดีลช่าแล้ว ไม่รีบไม่ร้อน ขอนั่งชิลๆด้วยรถบัสแล้วกันค่ะ สนนราคาที่ 10 RM หรือราวๆ 80 บาทเพียงแค่นั้น นั่งชมทิวทัศน์เพลินๆ1 ชั่วโมงก็มาถึงสถานีรถไฟกึ่งกลางกัวลาลัมเปอร์ หรือที่เรียกกันว่า KL Sentral แล้วจ้ะ
เพียงพอออกมาจาก KL Sentral ดีลช่าก็อาศัย Google Map นำทางไปสู่เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ที่จองไว้ โน่นคือเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ Hotel Sentral นั่นเอง ดีลช่าใช้บริการจองจาก Expedia ได้มาในคืนละ 1,600 บาทพร้อมข้าวเช้า คุ้มมากๆเลยจ้ะ ซึ่งตัวรีสอร์ทอยู่ห่างจาก KL Sentral เพียง 800 เมตรแค่นั้น ใกล้มากมายๆแถมบริเวณอพาร์เม้นท์ยังล้อมไปด้วยร้านอาหาร และเซเว่นอีเลฟเว่น แล้วยังมีห้าง NU Sentral อยู่ตรงกันข้ามเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์อีก บอกได้คำเดียวว่า สะดวกสุดๆใครจะมาเที่ยวกัวลาลัมเปอร์เสนอแนะพักเขตนี้นะคะ
เช็คอินเข้าบังกะโลเป็นระเบียบ ก็เอาของไปเก็บกันจ้ะ หอพักของที่นี่ขนาดตามมาตรฐานอพาร์เม้นท์ศูนย์กลางเมืองทั่วไป แต่ที่ประทับจิตใจก็คือภาพที่มองเห็นข้างหน้า กับภาพที่เห็นมาก่อนหน้าในเว็บ Expedia เช่นกันเลยค่ะ ประทับใจมากมายๆเลย
วันนี้มิได้ไปไหนไกลค่ะ เนื่องจากเป็นวันเดินทาง เลยขอเดินเล่นชิลๆตรวจสอบบริเวณแถวที่พัก และก็เดินช้อปปิ้งนิดๆหน่อยๆที่ห้าง NU Sentral ตรงกันข้ามโรงแรมเท่านั้นเองจ้ะ ^^
2. ท่องเที่ยว มาเลเซีย วันที่ 2
วันนี้ขอชูให้เป็น Shopping Day แล้วกันนะคะ เพราะแพลุกลี้ลุกลนสำคัญๆของวันนี้ก็คือการช้อปปิ้งนั่นเอง ดีลช่าตื่นมารับประทานอาหารมื้อเช้าที่ร้านอาหารของอพาร์เม้นท์ อาหารอร่อยสมกับที่ผู้เข้าพักคนก่อนๆรีวิวเอาไว้ใน Expedia จริงๆค่ะ หลังจากนั้นกํ็อาบน้ำแต่งตัว พร้อมออกฝ่ากัวลาลัมเปอร์กันเลย!
เริ่มกันที่ห้างแรก ไม่ไกลจากที่พักเลยจ้ะ NU Sentral นั่นเอง หลังจากที่เมื่อวานได้มาเินตรวจสอบไปแล้ว วันนี้เลยมาช้อปแบบจัดเต็มกันทีเดียว ที่ห้างนี้ก็มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกเยอะมากเลยจ้ะ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์แคว้นของมาเลเซีย หรือแบรนด์เนมชื่อดังต่างๆดีลช่าได้กระเป๋าจาก Brands Outlet ซึ่งเป็นแบรนด์เขตแดนของมาเลเซียมาหนึ่งใบ กระเป๋าสวยสดงดงามแล้วก็แข็งแรงใช้ได้เลยจ้ะ
จุใจกับ NU Sentral แล้ว ก็ต่อรถไฟฟ้า Monorail ไปลงที่สถานี Bukit Bintang เลยค่ะ นี้กล่าวได้ว่าเป็นแหล่งช้อปปิ้งเลยก็ว่าได้ เปรียบเทียบรวมทั้งเหมือนกันไทยบ้านพวกเรานั่นเอง เพราะว่ามีห้างมากไม่น้อยเลยทีเดียวตั้งเรียงกัน ไม่ว่าจะเป็น Pavilion, Isetan, Lot 10 รวมไปถึงร้านชื่อดังต่างๆเป็น shop ใหญ่เลยล่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Sephora, H&M, Giodano หรือแบรนด์หรูอย่าง Louis Vuitton ก็มีนะค่ะ
ดีลช่าใช้เวลาที่นี่กระทั่งจุใจ เดินลืมอ่อนเพลีย ลืมเวลากันไปเลยล่ะจ้ะ เพลิดเพลินเจริญใจสุดๆเลย รู้สึกตัวอีกครั้งพระอาทิตย์ก็กำลังจะตกดิน และจากนั้นก็ไม่มีแรงขึ้นมาดื้อๆค่่อยๆประคองร่างของตนกลับเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ไปพักดีกว่าจ้ะ ^^
3. เที่ยว มาเลเซีย วันที่ 3
วันนี้ดีลช่าตื่นเช้าตรู่กว่าธรรมดา เพราะว่าจำเป็นต้องย้ายบังกะโลค่ะ แต่ว่ามิได้ไปไหนไกลเลย เพียงแค่เดินข้ามถนนเพียงแค่นั้น อิอิ ขอเล่าให้ฟังก่อนแล้วกันค่ะ เหตุเพราะตอนต้นดีลช่าจะไปนอนอีกเมืองนึง แม้กระนั้นด้วยความประมาทไม่จองซะคราว ปรากฎว่ารีสอร์ทที่เล็งไว้ เต็ม!!! ค้นหาอพาร์เม้นท์รอบๆในรัศมีที่พอเดินทางสบายก็ล้วนเต็มไปหมด อาจจะด้วยเนื่องจากตรงกับวันชาติของมาเลเซีย ทำให้ต้องระเหินระหกกลับมาหาบ้านพักในกัวลาลัมเปอร์อย่างเดิม ทั้งนี้ทั้งนั้น บอกเลยค่ะว่าขอกราบขอบคุณ Expedia สวยๆที่ทำให้ดีลช่ามีเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ดีๆนอนในคืนวันนี้ แถมยังราคาถูกมากมายอีกด้วย คืนละแค่ 1,000 บาทเองค่ะ ทั้งๆที่จองก่อนวันเดินทางเพียงแต่ 1 อาทิตย์ แต่ว่ายังได้ราคาดีเลิศขนาดนี้ ทำให้ต้องใจ Expedia สุดๆอ้อ! ลืมบอกชื่อโฮเต็ลไป ดีลช่าเข้าพักที่ NU Hotel ค่ะ
พอเช็คอินเข้าที่เข้าทางพักแห่งใหม่ พร้อมด้วยเก็บของเสร็จเรียบร้อย ดีลช่าก็รีบเดินไป KL Sentral เพื่อไปนั่งรถไฟฟ้าไปอีกเมืองนึงเลยจ้ะ เมืองที่ดีลช่าจะไปวันนี้ก็คือ “เมืองปูยี่ห้อจายา” นั่นเอง
เมืองปูยี่ห้อจายา ตั้งอยู่ห่างจากกัวลาลัมเปอร์ประมาณ 30 กิโลเมตร สามารถเดินทางไปได้ด้วยรถไฟฟ้า หรือแท็กซี่, Grab รวมทั้ง Uber เป็นเมืองศูนย์ราชการของประเทศมาเลเซียค่ะ มีทั้งทำเนียบรัฐบาล และตึกของกระทรวงต่างๆสถานที่เที่ยวที่สำคัญก็คือ “สุเหร่าสีชมพู” หรือที่เรียกว่า “Masjid Pruta” นั่นเองค่ะ
ดีลช่านั่งรถไฟฟ้า KL Transit ไปลงที่สถานี Prutajaya Sentral แล้วต่อรถเมล์สาย L15 เพื่อไปลงที่หน้าสุเหร่าเลย ข้อดีของรถเมล์สายนี้ก็คือ ถูกดีไซน์มารองรับนักท่องเที่ยวอย่างแท้จริงค่ะ ด้วยเหตุว่ารถเมล์จะวิ่งไปรอบๆเมืองก่อน เพื่อได้ดูความงดงามของทิวทัศน์เมือง ก่อนที่จะมาหยุดที่หน้าสุเหร่า ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักของตรงนี้จ้ะ เมืองปูยี่ห้อจายาถูกวางแบบมาให้เป็นเมืองในสวน ทำให้พื้นที่จำนวนมากถูกล้อมด้วยสีเขียว แล้วก็มีสวนสาธารณะล้นหลาม วันที่ดีลช่าไปเป็นวันชาติ ซึ่งเป็นวันหยุดราชการของประเทศมาเลเซีย ทำให้ได้สัมผัสกัับความเงียบสงบของบ้านเรือน แล้วก็ได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศสบายๆอย่างมากจ้ะ
บ่ายคล้อยเมฆฝนเริ่มตั้งเค้า ดีลช่าเลยขอถอยทัพกลับกัวลาลัมเปอร์ดีมากกว่า ขากลัับใช้บริการ Uber ค่ะ ราคาถูกเลยแถมบริการดีมากๆอีกต่างหาก ดีลช่าให้ Uber ส่งที่ห้าง Suria KLCC เพื่อเดินเล่นฆ่าเวลาก่อนที่จะไปถ่ายภาพกับ “Petronas Twin Tower” หรือ “อาคารฝาแฝด” ในช่วงเวลาค่ำคืนจ้ะ
เดินหามุมดีๆถ่ายภาพอย่างจุใจแล้ว ก็ถึงเวลากลับที่พักกันเลยดีกว่า นอนเอาแรงไว้จำนวนไม่ใช่น้อยวันพรุ่งรุ่งเช้าตื่นมาจะได้แจ่มใส ^^
4. ท่องเที่ยว มาเลเซีย วันที่ 4
จริงๆวันนี้ตั้งอกตั้งใจจะเช็คเอาท์แต่เช้า ด้วยเหตุว่าจำต้องนั่งรถไปอีกเมืองนึงกว่า 2 ชั่วโมงเลยค่ะ แต่ว่า…ฟ้าฝนช่างไม่เป็นใจ ซ้ำๆตกลงมาอย่างมากไม่ยินยอมหยุด กว่าฝนจะซาพอให้เริ่มเดินทางได้ก็เกือบจะเที่ยงตรงกัันแล้ว ออกจากบังกะโลก้าวหน้าลช่าก็ไม่คอยช้า รีบนั่งรถไฟฟ้า KL Transit ไปลงที่สถานี Bandar Tasik Station เลยค่ะ แล้วก็เดินข้ามไปที่ TBS เปรียบได้กับสายใต้ใหม่ของบ้านเรา เพื่อไปซื้อตั๋วรถทัวร์ไปยัง “เมืองมะละกา” จ้ะ
สิ่งหนึ่งที่ดีลช่าถูกใจมากมายๆของที่นี่ก็คือ รถทัวร์ออกตามเวลามากมายๆและพนักงานบนรถก็บริการดีด้วยค่ะ ในส่วนของรถทัวร์ก็นั่งสบาย เครื่องปรับอากาศเย็น ที่วางขากว้างขวาง นั่งชิลๆหลับๆตื่นๆ2 ชั่วโมงนิดๆรถทัวร์ก็มาหยุดที่ Melaka Sentral ที่เป็นศูนย์กลางการขนส่งของมะละกานั่นเอง
จาก Melaka Sentral นั่งรถประจำทางสาย 17 ต่อไปลงที่ Dutch Square Melaka จัตุรัสแกนกลางเมืองของมะละกาค่ะ ที่จริงแล้วสามารถนั่งแท็กซี่, Grab หรือ Uber ไปก็ได้นะคะ สุดแท้แต่สบายเลย แต่ดีลช่าต้องการลองสัมผัสความ slow life นั่งชมเมืองชิลๆดู เลยใช้วิธีนั่งรถประจำทางค่ะ
บ้านพักคืนวันนี้ เป็น Guest House ริมคลองมะละกา ชื่อว่า Wayfarer Guest House จ้ะ ดีลช่าพบตรงนี้โดยบังเอิญ จากการคลิกเข้าไปใน Expedia มองที่พักเพลินๆรวมทั้ง Expedia ก็แนะนำที่นี่ขึ้นมา บอกเลยว่าเหมือน Love at First sight เลย ด้วยเหตุว่าเพียงพอมองเห็นปุ๊บ บอกตัวเองเลยจ้ะว่าฉันจำเป็นจะต้องมาพักที่นี่ให้ได้! และได้มาจริงๆค่ะ แถมได้มาในราคาที่ถูกมากมายๆคืนละ 1,700 บาทแค่นั้น ที่สำคัญคลิกไปจองผ่านทางเว็บของดีลช่าเอง ได้รับ Cashback กลับมาถึง 10% เลยจ้ะ คุ้มสุดๆ
Wayfarer Guest House ถูกตกแต่งเป็นสไตล์จีนนิดๆผสมกับเครื่องเรือนไม้สีเข้ม ทำให้ที่นี่มีเสน่ห์อย่างไม่น่าเชื่อ มีมุมโซฟาให้นั่งเล่นพักผ่อน รวมถึงชิงช้าเล็กๆให้นั่งชิลๆดื่มชา-กาแฟ ที่มีพร้อมบริการทั้งวัน ชื่นชอบสุดๆจ้ะ ส่วนห้องนอนของดีลช่า ได้ห้องที่มีระเบียง มองออกไปมองเห็นโบสถ์คริสต์ และก็วิวคลองมะละกา ยืนรับลมสบายสุดๆไปเลยล่ะค่ะ
เก็บของเสร็จสิ้นสมบูรณ์ นั่งพักให้หายเหนื่อยอีกหน่อยก็ได้เวลาออกไปตะลุยเมืองมะละกากันแล้ว คนไหนกันจะมาท่องเที่ยวมะละกาชี้แนะให้มาในวันศุกร์-เสาร์นะคะ จะมีถนนคนเดิน หรือที่เรียกว่า Jonker Walking Street มีสินค้าที่ระลึก รวมทั้งของกินขายมากไม่น้อยเลยทีเดียวเลยจ้ะ เพลิดเพลินใจสุดๆนอกจากนี้ขอเสนอแนะให้ทดลองนั่ง “รถสามล้อ” ของเมืองมะละกาดูนะคะ เป็นประสบการณ์แปลกใหม่ กับรถสามล้อที่ถูกตกแต่งด้วยตัวการ์ตูนน่ารักน่าเอ็นดูๆรวมทั้งเปิดเพลงดังๆสนุกสุดๆบันเทิงใจดีค่ะ
หมดไปอีกหนึ่งวัน อิดโรยนิดๆสำหรับเพื่อการเดินทาง แต่พอใช้มาเปิดโลกในอีกมุุมที่มะละกา ก็เพียงพอบรรเทาความอ่อนแรงไปได้เยอะแยะเลยล่ะจ้ะ พรุ่งนี้จำต้องกลับแล้ว….ยังไม่ต้องการที่จะอยากกลับเลย
5. เที่ยว มาเลเซีย วันที่ 5
ตื่นแต่เช้ามารับลมเย็นๆและแสงแดดอ่อนๆที่ระเบียงห้องกันจ้ะ นั่งดื่มกาแฟสักแก้ว ก่อนจะลุกไปอาบน้ำรวมทั้งออกไปลุุยมะละกากัน วันนี้จำต้องเดินทางกลับเมืองไทยแล้ว เลยจำเป็นต้องทำเวลากันหน่อยจ้ะ
ข้อดีของการตื่นมาท่องเที่ยวแต่เช้าก็คือ พวกเราจะได้ชมทิวทัศน์ทิวภาพ รวมทั้งลิ้มรสบรรยากาศแบบเป็นส่วนตัวแบบไม่มีใครแย่งเลยค่ะ จะถ่ายภาพมุมไหนก็ดีไปหมดด้วยเหตุว่ายังไม่ต้องแชร์วิวร่วมกับคนใดกันแน่ ดีลช่าเดินถ่ายรูปเริ่มจากเกสต์เฮ้าส์บ้านพัก เดินไปบริเวณผ่านลำคลองมะละกา แวะถ่ายรูปกับโบสถ์คริสต์, สี่เหลี่ยมจัตุรัสดัชต์ รวมทั้งวิวเมืองที่สวยของมะละกา
ก่อนที่จะมาหยุดที่ร้าน Chicken Rice Ball เพื่อกินมื้อเช้ากัน จริงๆก็คือข้าวมันไก่แหละค่ะ เพียงแต่ที่มะละกาจะมีเอกลักษณ์ตรงที่ เค้าจะนำข้าวมาปั้นเป็นก้อนกลมๆนั่นเอง ตรงหัวถนน Jonker มีให้เลือกหลายร้านเลยค่ะ สะดวกร้านไหนก็เข้าร้านนั้นเลย รสชาติคล้ายกันจ้ะ
รับประทานอาหารเช้าตรู่เสร็จ ขอเดินเข้าไปใน Jonker Street ต่อเพื่อไปตามหาขนมหวานกันจ้ะ นั่นก็คือ BaBa Chendor หรือเรียกภาษาบ้านๆก็คือขนมลอดช่องกะทินั่นเอง แม้กระนั้นด้วยความพิเศษที่ไม่เหมือนใครจนดีลช่าต้องตามมาชิมก็คือ เค้าจะราดด้วยน้ำอ้อยเคี่ยวค่ะ บอกเลยว่า อร่อยมากกกกกกกกกกก ต่อคิวกว่าครึ่งชั่วโมงมาเจอรสชาตินี้ คุ้มสุดๆจ้ะ
ดวงตะวันตรงหัวบอกเวลาเที่ยงตรง ก็ได้เวลาโบกไม้โบกมือบ๊ายบายมะละกา กลับเข้ากรุงกัวลาลัมเปอร์แล้วจ้ะ โดยไปขึ้นรถทัวร์ที่ Melaka Sentral ที่เดิมเพื่อไปลง TBS แล้วก็ต่อรถไฟฟ้าไปยัง KL Sentral ก่อนที่จะฝากกระเป๋าไว้ที่ล็อกเกอร์เพื่อนั่งรถไปหาซื้อของฝากกัน ล็อกเกอร์จะตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ใกล้ๆกับเซเว่นอีเลฟเว่นนะคะ ราคา 10 RM ฝากได้ 24 ชั่วโมงเลยค่ะ
ดีลช่าเรียก Uber มาลงที่ Central Market ตลาดซื้อของฝากที่ใหญ่ที่สุดในกัวลาลัมเปอร์ และก็เลือกจ่ายตลาดฝากอย่างจุใจเลยค่ะ มีให้เลือกหลากหลายทั้งยังขนมเขตแดน, ช็อกโกแลต, ของฝากเครื่องหมายของประเทศมาเลเซีย, ผ้าถุง ผ้าต่างๆ(อันนี้บอกเลยว่าได้รับความนิยมมากมาย แม่กำชับมาเลยว่าจะต้องซื้อให้ได้ ฮ่าๆๆ) จัดเตรียมกระเป๋าว่างๆมาเพื่อของฝากโดยเฉพาะ 1 ใบ ยังเกือบจะน้อยเกินไปเลยค่ะ จับจ่ายใช้สอยเพลินสุดๆ
เมื่อได้ของที่ระลึกครบแล้ว ดีลช่าก็เรียก Uber กลับไปที่ KL Sentral เพื่อเอากระเป๋า รวมทั้งต่อรถบัสไปยังสนามบินค่ะ เดินทางอุ่นใจกับ Air Asia ดังเดิม กลับถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ ….
ชื่นชอบมากมายๆจ้ะกับทริปนี้ ได้ท่องเที่ยวครบแบบไม่อ่อนเพลียและไม่ต้องรีบ ราวกับได้ชาร์แบตเตอรี่เพิ่มเติมพลังให้กับร่างกาย กระปรี้กระเปร่าสุดๆบ๊ายบายยย ไว้มีโอกาสจะกลับมานะ….มาเลเซีย
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : design-concepts

Tags : design-concepts,design-concepts.net



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ