Advertisement
สำหรับ ที่เที่ยว ปีใหม่ ที่จะถึงนี้! มีแพลนลานหรือยังว่าจะรับแสงวันใหม่ของปีใหม่ตรงไหน? นัดหมายไว้หรือยังว่าจะไปกับคนใด? สถานที่งามๆเพื่อเก็บความทรงจำดีๆคิดไว้รึยัง? คิดไม่ออกตามมา สักครู่ Dealcha พาไปเช็คอิน!!
สำหรับคนใดกันที่กำลังวางแผนท่องเที่ยวในวันหยุดติดต่อกันหลายวันตอน ปีใหม่ นี้ แต่ว่ายังไม่มีไอเดียดีๆเก๋ๆโดนๆแล้วล่ะก็ ลองดูกับ “10 ที่เที่ยว ปีใหม่ Check-in-Chic !” 10 อันดับ ที่เที่ยวปีใหม่ในประเทศไทย คัดเลือกมาแล้วเด็ดๆทั้งนั้น มาให้แก่คุณได้พินิจพิจารณาหาที่ไปกัน!! เรามาดูกันว่าที่ไหนน่าไปเที่ยวในช่วงปีใหม่นี้บ้าง
10 ที่เที่ยว ปีใหม่ Check-in-Chic !
1. “ภูเขาเรือ” กอดลมหนาว นั่งเฝ้าพระอาทิตย์ขึ้น-รับแสงสว่างแรกของวัน
ตรงนี้บอกเลยว่าหนาวที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือบ้านเฮาแล้ว! ปีใหม่นี้พากันไปกอดอากาศหนาวๆนั่งเฝ้าพระอาทิตย์ขึ้นกันดีกว่า… “อุทยานแห่งชาติภูเรือ” จังหวัดเลย ชื่อ “ภูเรือ” นี้มาจาก มีภูเขาลูกหนึ่งมีชะโงกผายื่นออกมามองเหมือนอ่อนสำเภา และก็ที่ราบบนยอดดอยมีลักษณะคล้ายท้องเรือตลอดจนมีธรรมชาติรวมทั้งวิวที่แสนจะสวย มีจุดดูดวงอาทิตย์ขึ้น 2 จุดเด็ดๆร่วมกันคือ “จุดชมทิวทัศน์เดโช” เป็นจุดดูพระอาทิตย์ขึ้น ที่นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นภูต่างๆของเมืองเลยได้แบบ 180 องศาเลยทีเดียว และอีกจุดสำหรับชมวิว คือ “ผาบ๊วยนน้อย” อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูเขาเรือราวๆ 3 กิโล จากจุดนี้จะเห็นภูหลวง ภูเขาสาด ภูเขาครั่ง และก็ภูเขาสลับซับซ้อนแบบสุดลูกตา ตอนเวลาเช้าเมื่อแสงสว่างเริ่ม โผล่มาให้มองเห็น บอกเลยว่ามันเป็นบรรยากาศที่ไม่ว่าจะพาผู้ใดกันแน่ไปก็รู้สึกฟินน จำไปตลอดชีวิตแน่นอน!
การเดินทาง
จากเมืองเลย ให้ใช้ถนนหลวงหมายเลข 203 (เลย – ภูเขาเรือ) ขับรถระยะทางโดยประมาณ 50 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาบริเวณหลักกิโลเมตร 49 – 50 “ตรงที่ว่าการอำเภอภูเขาเรือ” เข้าไปเป็นทางลาดยางประมาณ 8 กิโล รถยนต์สามารถขึ้นได้ และมีทางเดินเท้า 700 เมตร ก็กำลังจะถึงยอดภูเรือ
2. “เชียงคาน” เดินชิลเมืองโบราณริมน้ำโขง
ไม่น่าเชื่อว่าซอยเล็กๆชายน้ำโขงที่นี้จะมีนักท่องเที่ยวทุกมุมโลกมาเยี่ยมอย่างไม่ขาดสาย “เชียงคาน” เป็นเมืองเล็กๆริมแม่น้ำโขงสุดชายแดนไทยที่จังหวัดเลย เมืองที่ยังคงความงามด้วยสถาปัตยกรรมโบราณเริ่มแรก รวมทั้งที่สำคัญเป็นเมืองท่องเที่ยวซึ่งสามารถท่องเที่ยวได้ในทุกขณะอีกทั้งฤดูร้อน หน้าฝน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาวนี่ยิ่งเด็ดเลยขอบอก เสน่ห์ดึงดูดใจของที่นี่ก็คือ “มนต์สเน่ห์แห่งความพอเหมาะ” การใช้ชีวิตที่เรียบง่ายรวมทั้งวัฒนธรรมจารีตประเพณีที่สืบต่อกันมา เช่น การตักบาตรข้าวเหนียว ยังคงมีให้มองเห็นได้ในทุกรุ่งสว่างของเมืองที่เงียบสงบที่นี้ สำหรับกิจกรรมชิลๆที่นักท่องเที่ยวผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยมักทำกันก็คือ การขี่จักรยาน ปั่นชิลเลียบริมน้ำแม่โขง เห็นฝั่งประเทศลาวอยู่ไกลๆรวมทั้งการขี่จักรยานไปตรวจสอบตามตรอกตรอกต่างๆเพื่อถ่ายรูป และมองบ้านช่องเก่าๆบน ถนนศรีเชียงคาน ถนนที่ขนานคู่กันไปไปกับถนนใหญ่ซึ่งเป็นถนนหลักนั่นเอง
การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงเลขลำดับ 1 (พหลโยธิน) ผ่านตัวเมืองสระบุรี ตรงเข้าทางหลวงเลข 21 ผ่านจังหวัดเพชรบูรณ์ ตรงเข้าถนนหลวงลำดับที่ 203 ผ่านอำเภอหล่มสัก หล่มเก่า เข้าเขตจังหวัดเลย ที่อำเภอด่านซ้าย อำเภอภูเรือ ถึง ตัวจังหวัดเลย เข้าตัวเมืองเลย จากถนนหลวงลำดับที่ 203 ตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 201 มุ่งสู่ อ.เชียงคาน
3. “ปางอุ๋ง” ดูทะเลสาบสายหมอก
ถ้าหากได้เจอกับสิ่งดีๆตั้งแต่ยามเช้าวันใหม่ จะมีผลให้วันนั้นพวกเราอารมณ์เบิกบานไปตลอดวันมั่นใจว่าถ้าหากคุณได้ลืมตาตื่นมา พบกับภาพที่แสนมหัศจรรย์ของปางอุ๋งยามหน้าหนาวอย่างนี้ ฟินนไปตลอดทั้งวันอย่างแน่แท้ “ปางอุ๋ง” ที่ใครๆต่างขนานนามให้เป็นสวิตเซอร์แลนด์ประเทศไทย ด้วยความสวยงามของทิวสนลำต้นสูงใหญ่ รายล้อมรอบอ่างเก็บน้ำที่สงบนิ่ง อากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี ถ้าหากปรารถนาสัมผัสไอหมอกตอนเช้า เสนอแนะให้กางเต็นท์พักแรมกันที่ปางอุ๋งได้เลย (ติดต่อสมัครสมาชิกผ่านศูนย์ศิลปาชีพจังหวัดแม่ฮ่องสอน) ด้วยภาพของไอหมอกเช้าละเลียดผ่านซอกเขาลอยลงอย่างอ้อยอิ่ง กระทั่งแสงแดดทอประกายสะท้อนผิวน้ำเป็นดุจสีทองคำ บรรยากาศแบบนี้รับรองว่าสิ่งที่ได้เห็นจะเปลี่ยนเป็นความทรงจำอันแสนซาบซึ้งใจที่น่าจดจำไปชั่วชีวิตเลยทีเดียว
การเดินทาง
เดินทางออกจากเมืองแม่ฮ่องสอนไปตามทาง แม่ฮ่องสอน – ปางมะผ้า – ปาย ราว 10 กิโลเมตร จะมีป้ายพูดว่าเลี้ยวซ้ายไป บ้านรวมไทย น้ำตกเขาหินเสื่อ พระตำหนักปางโคนง ซึ่งอยู่บนส้นทางเดียวกัน แล้วหลังจากนั้นเดินทางขึ้นไปเรื่อยผ่านน้ำตกหน้าผาเสื่อ ผ่านพระตำหนักปางตอง ให้สังเกตุทางแยกซ้ายมือนิดนึง เพราะเหตุว่าจะมีป้ายเล็กๆเขียนพูดว่าไป “บ้านรวมไทย” ให้เลี้ยวซ้ายตรงไปเรื่อย จนกระทั่งหมู่บ้านห้วยมะเขือส้ม ซึ่งจะมีทางแยกรูปตัว T เลี้ยวขวาตรงแยก ตรงไปเรื่อยๆก็กำลังจะถึง “บ้านรวมไทย” หรือ “ปางอุ๋ง
4. “มวกเหล็ก” ไร่องุ่น บรรยากาศดี น่าไปชิล
อำเภอมวกเหล็กนั้นมีไร่องุ่นเยอะมากๆ แล้วก็มีผลิตภัณฑ์จากองุ่น ไม่ว่าจะเป็นองุ่นสด เหล้าองุ่น น้ำองุ่น องุ่นหยี หรือแยมองุ่น เยอะมาก ปีใหม่นี้อากาศหนาวๆพวกเราท่องเที่ยวเด็ดองุ่นชิมกันที่ ไร่องุ่น มวกเหล็ก ใกล้ๆจ.กรุงเทพฯ กันเลยดีกว่า ทั้งไร่ต่างๆยังเปิดให้นักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมเก็บองุ่นได้อีก ปีใหม่นี้ ผู้ใดอยากได้ภาพสวยๆเดินเก็บองุ่นในไร่ แปลงกายราษฎรไร่ ลองไปเที่ยวไร่องุ่นที่มวกเหล็กกันดู ซึ่งเราก็มีมาเสนอแนะกันถึง 4 ที่ร่วมกันอย่างยิ่งจริงๆ
ไร่องุ่นแวงเดอร์เรย์ (Vin De Ray)
ตรงนี้เป็นไร่องุ่นที่คัดสรรจำพวกองุ่นสำหรับเพื่อการผลิตเหล้าองุ่นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีแปลงองุ่นให้เห็นกันตั้งแต่ทางเข้าไปจนถึง แทบสุดเนินเขา มีโรงบ่มเหล้าองุ่น ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถดูการสาธิตการสร้างเหล้าองุ่น รวมทั้งมีผลิตภัณฑ์แปรรูปขององุ่น
ไร่องุ่นปภัสรา
เป็นไร่ของศิลปินมีชื่อ คุณกบ ปภัสรา ด้านในไร่ปลูกองุ่นมากมายพันธุ์ นอกเหนือจากนั้นยังมีฟาร์มนกกระจอกเทศ รวมทั้งฟาร์มเพาะพันธุ์ม้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย มีกิจกรรมมากมายก่ายกองสำหรับนักท่องเที่ยว อย่างเช่นวอล์คแรลลี่, ปั่นจักรยานตามไหล่เขา, ขี่ม้าดูฟาร์ม
ไร่องุ่นภูอมร
เว้นแต่ทิวองุ่นยาวสุดลูกตาแล้ว ตรงนี้ยงมีโรงบ่มไวน์ที่ได้รับรางวัลระดับ 4-5 ดาว เพราะฉะนั้นนักลองเหล้าองุ่น จำต้องไม่พลาดที่จะมาซื้อไวน์จากที่นี่ไปลองชิม เว้นแต่เหล้าองุ่นแล้ว ผู้ที่รังเกียจเหล้าองุ่นก็ใช่จะไม่มีอย่างอื่นจนเซ็งไป เนื่องจากว่าน้ำองุ่นสด รสเปียกแฉะคอ อร่อยใช้ได้ทีเดียว
ไร่องุ่นคุณดอกไม้
ที่นี่บอกเลยว่าเด็ด! เนื่องจากเป็นไร่องุ่น ซึ่งสามารถแลเห็นได้ตั้งแต่ขับรถมาจากถนนวังม่วง-มวกเหล็กทีเดียวเชียว นอกเหนือจากที่จะเป็นไร่องุ่นแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์จากองุ่นใหม่ๆหลากชนิด ให้นักเดินทางซื้อเป็นของฝากกลับบ้าน แต่ถ้าเกิดยังไม่ต้องการที่จะอยากกลับ เพราะพึงใจในบรรยากาศเย็นสบายๆแบบนี้ ไร่องุ่นคุณมาลย์ ก็มีบริการให้กางเต้นท์นอนเล่นเย็นๆเช็คอิน ถ่ายภาพชิลกันอีกด้วย
การเดินทาง
ใช้ถนนหลวงลำดับที่ 1 หรือ ถนนหนทางพหลโยธิน ผ่านรังสิตกระทั่งมาถึงหลักกิโลเมตรที่ 50 ให้เลี้ยวขวาผ่าน อำเภอวังน้อย จังหวัดอยุธยา ผ่าน อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี เข้าสู่ตัวเมืองจังหวัดสระบุรีต่อจากนั้นให้เลี้ยวขวาใช้ถนนหลวงลำดับที่ 2 ถนนมิตรภาพ ขับไปอีกราวๆ 15 กิโล คุณก็จะถึง อำเภอมวกเหล็ก
5. “Coro Field สวนผึ้ง” Farming สไตล์ประเทศญี่ปุ่นที่แรกในไทย
วันหยุดนี้ไปพักผ่อนชิลๆที่ Coro Field ที่เที่ยวรูปแบบใหม่ Lifestyle Farming สไตล์ญี่ปุ่นที่เดียวในประเทศไทย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรีนี่เองสัมผัสประสบการณ์ทางการเกษตรในรูปแบบใหม่ หรือ Lifestyle Farming โดยเปลี่ยนการเกษตรที่น่าเบื่อแล้วก็ไกลตัวในความนึกคิดของหลายท่าน มาเป็นอะไรที่จับจำเป็นต้องได้ ให้ความสนุกสนาน รวมทั้งสร้างแรงผลักดัน บนพื้นที่กว่า 104 ไร่ของ Coro Field บรรยากาศนี่ราวกับหลุดไปในประเทศประเทศญี่ปุ่นอย่างยิ่งจริงๆ อาคารกระจกใสสไตล์ไม่นิมอลกับแปลงพืชผักสีเขียว มองดูไปทางไหนก็ชื่นบานสบายตา ตรงนี้เค้าไม่ได้เพียงแค่ปลูกผักงามๆให้เราได้ชมเท่านั้น แต่ว่ายังเต็มไปด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจเยอะมาก ให้พวกเราได้รื้นเริงและได้เข้าถึงการเกษตรแบบสนิทสนม ตั้งแต่เริ่มเพาะพันธุ์ลงดินไปจนกระทั่งการเปลี่ยนรูปผลิตเป็นสินค้าหลายประเภท ทั้งพักผ่อน อีกทั้งได้การทราบใหม่ๆเพิ่มเติมแบบนี้คุ้มค่าแน่นอน เวลาเปิดบริการ : วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น. รวมทั้ง วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00 – 21.00
การเดินทาง
จากอำเภอเมืองจังหวัดราชบุรี ใช้เส้นทางลำดับที่ 3208 ไปยัง อำเภอสวนผึ้ง ราว 47 กิโลเมตร Coro Field ตั้งอยู่ทางซ้ายมือ ติดถนนจังหวัดราชบุรี – เขาหินปก
6. “หัวหิน” เสน่ห์แห่งความคลาสสิค
หัวหิน ยังขึ้นชื่อว่าเป็น “เมืองของพ่อ” เนื่องจากว่าเป็นที่ตั้งของ พระราชวังไกลกังวัล ที่ประทับแปรพระราชฐานในฤดูร้อนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 เมืองชายทะเล สุดคลาสสิคตั้งแต่รุ่นคุณปู่ เมืองน่ารักริมทะเลที่หลายท่านไปดำเนินชีวิตพักผ่อนกันในวันหยุดอย่างเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง ด้วยบรรยากาศหาดทรายครั้งเงียบสงบเย็นสบาย เหมาะสมที่จะพักเพื่อเติมชีวิตที่หายไปในช่วงปีใหม่นี้ เดินทางไม่ไกล อาหารอร่อย สถานที่เที่ยวให้ถ่ายรูปกดชัตเตอร์รัวๆได้บรรยากาศความคลาสสิคก็มีเยอะแยะ นี่อาจเป็นอีกตัวเลือกที่ดีสำหรับคนเกลียดเดินทางไกลแต่ว่าต้องการชิลในปีใหม่นี้เลยทีเดียว
การเดินทาง
ใช้ทางหลวงลำดับที่ 35 (ถนนหนทางพระราม 2 หรือถนนจังหวัดธนบุรี-ปากท่อ) ผ่านสมุทรสาคร สมุทรสงคราม อำเภอปากท่อ แล้วแยกซ้ายไปสู่ทางหลวงเลข 4 (เพชรเกษม) ผ่านจังหวัดเพชรบุรี อำเภอท่ายาง อำเภอชะอำ จนกระทั่งอำเภอหัวหิน
7. “สมุย” ปาร์ตี้เต็มที่ ชิลริมหาดทรายขาวบนเกาะ
หนึ่งในเกาะมีชื่อเสียงของประเทศไทยที่เป็นที่รู้จักจากริมฝั่งขาวสะอาด ธรรมชาติที่ยังคงบริสุทธิ์ ให้ความรู้สึกแบบ Tropical ให้คุณนอนเล่นสบายๆลืมเรื่องราวพักสมอง แล้วปล่อยใจไปกับบรรยากาศ แลนด์มาร์คของเกาะสมุย มันก็คือ “หินตา หินยาย” หินทรงแปลกที่เกิดขึ้นตามธรรมชาตินี้ บริเวณรอบๆยังมีร้านขายของของที่ระลึกเยอะมากโดยเฉพาะ “กาละแม” ของขึ้นชื่อของที่นี่ ก็สามารถหาซื้อได้ตรงจุดนี้เหมือนกัน ถึงช่วงเวลาค่ำก็ได้เวลาออกไปเดินเล่นถนนคนเดิน “Fisherman’s Village” ที่เป็นแหล่งช็อปปิ้งที่มีสินค้าจำนวนมากให้เลือกตลอดสองข้างถนน รวมถึงของกินแนว Street Food อีกนานัปการที่รสชาติอร่อยราคาถูก อีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดๆนั่นคือ Beach Party สุดมันส์ ที่จะรีสอร์ตต่างๆจะจัดทุกๆวันอาทิตย์ ตั้งแต่เที่ยงวันถึง 4 โมงเย็น คนไหนอยากสัมผัสบรรยากาศแบบบีชคลับสไตล์ไมอามี่ พร้อมลองลิ้มชิมรสไลน์ซีฟู๊ดบุฟเฟต์สดๆบอกเลยไม่ควรพลาด
การเดินทาง
เกาะสมุยอยู่ห่างจากจ.กรุงเทพฯ ราว 740 กิโล นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางสู่เกาะสมุยได้หลายวิธี อีกทั้งทางรถยนต์ส่วนตัว รถยนต์โดยสารประจำทาง แล้วก็เครื่องบิน
เรือเฟอร์รี่
ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงครึ่งสำหรับการเดินทางถึงเกาะสมุย โดยสามารถนำยานพาหนะขนาดเล็กลงเรือได้ด้วยด้วยเหมือนกัน นอกเหนือจากนั้นยังมีอาหารหวานให้บริการภายในเรือ ที่นั่งในห้องพักผู้โดยสารและมีแอร์ด้วยด้วยเหมือนกัน
มี 2 บริษัทที่ให้บริการเรือเฟอร์รี่ผ่านฝากไปยังเกาะสมุย (มีท่าเรือที่ท่าเรือดอนสักฝั่งสุราษฎร์)
บริษัทซีทรานเฟอร์รี่ ออกจากท่าเรือดอนสัก ไปยังท่าเรือหน้าทอนที่เกาะสมุย
บริษัทราชาเฟอร์รี่ ออกมาจากท่าเรือดอนสัก ไปยังท่าเรือราชาที่ลิปะน้อย
เรือบิน
* เที่ยวบินภายในประเทศ โดยบินตรงจากกรุงเทพ ไปยังเกาะสมุย
* เที่ยวบินภายในประเทศ โดยบินจากกรุงเทวดาไปยัง จังหวัดสุราษฏร์ธานี จากนั้นต่อรถบัสและก็เรือเฟอร์รี่ไปยังเกาะสมุย
เที่ยวบินตรงไปยังเกาะสมุย
อัตราค่าบริการจะแพงที่สุด แต่ว่าก็จัดว่ารวดเร็วทันใจมากมาย เหมาะสมแก่คนที่มีเวลาน้อยอยากได้ความรวดเร็วสำหรับเพื่อการเดินทาง โดยเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) ไปยังเกาะสมุยนั้นมีดำเนินการอยู่ 2 สายการบินร่วมกันเป็น กรุงเทพฯเครื่องปรับอากาศเวร์ และ การบินไทย
เที่ยวบินไปสุราษฎร์ธานี และการเดินทางถัดไปยังเกาะสมุย
หรือคุณสามารถจะเลือกบินไปจังหวัดสุราษฎร์ธานี (โดยการบินไทยหรือโอเรียนท์ไทย) จากท่าอากาศยานจะมีรถมินิบัส (รถตู้) บริการรับส่งถึงท่าเรือดอนสัก ซึ่งเป็น ท่าเรือเฟอร์รี่ เพื่อจะเดินทางต่อไปยังเกาะสมุย
8. จุดสำหรับชมวิวเนินนางพญา “จันทบุรี” ถนนหนทางเลียบริมทะเลที่สวยเหมือนประเทศนอก
อีกหนึ่งใน Dream destinations กาลค
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
centrofunzionaleabruzzoTags : centrofunzionaleabruzzo,centrofunzionaleabruzzo.org,http://centrofunzionaleabruzzo.org
สิงหาคม 03, 2017, 12:14:51 pm