ท่องเที่ยว 15 ประเทศ ไม่ต้องขอวีซ่า

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ท่องเที่ยว 15 ประเทศ ไม่ต้องขอวีซ่า  (อ่าน 27 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
komgrit1989
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19840


ดูรายละเอียด










« เมื่อ: กันยายน 11, 2019, 02:45:02 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

1. ประเทศเปรู (Perú) : ท่องเที่ยวได้ 90 วัน
เปรู เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้ มีเมืองหลวงเป็น ‘กรุงลิมาง เป็นใจกลางของประเทศ พื้นที่ในประเทศ จำนวนมากเป็นที่ราบสูง โดยมีเทือกเขาแอนดิสพาดผ่านขนานกับริมฝั่งห้วงสมุทรแปซิฟิค ซึ่งแบบทำเลที่ตั้งได้เป็น 3 แบบ ดังเช่นว่า พื้นที่ชายฝั่งหรือโกสตา (Costa) ทางตะวันตก เป็นที่ราบแคบ รวมทั้งแห้งแล้ง ละเว้นรอบๆซอกเขา ซึ่งมีต้นเหตุจากแม่น้ำตามฤดูกาล เขตที่สูง หรือ เซียร์รา (Sierra) เป็นภูมิภาคประเทศบนแนวเขาแอนดีส ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ราบสูงอัลตีปลาโน เขตป่ารกทึบ หรือเซลบา (Selva) เป็นที่ราบกว้างขวาง ปกคลุมด้วยพื้นที่ของป่าดิบชื้นอเมซอน สถานที่เที่ยวที่ควรไป ซาก มาจูปิจู (Machu Picchu), จุดชมวิว (Huayna Picchu), เขาเรนโบว์ Cerro Colorado Vinicunca
2. ประเทศเอกวาดอร์ (Ecuador) : ท่องเที่ยวได้ 90 วัน
เอกวาดอร์ เป็นประเทศหนึ่งในทวีปอเมริกาใต้ Ecuador เป็นภาษาสเปน ตรงกับคำว่า Equator ในภาษาอังกฤษ แปลว่า เส้นอีเควเตอร์ การตั้งชื่อแบบนี้เป็นเพราะประเทศเอกวาดอร์ตั้งอยู่รอบๆเส้นศูนย์สูตรพาดผ่าน ทำให้ทั่วทั้งประเทศได้รับแสงแดดเต็มที่ทั้งปี แม้กระนั้นสภาพอากาศในแต่ละพื้นที่ก็นาๆประการ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ เป็น พื้นที่เทือกเขา ป่าฝน และก็ชายฝั่งทะเลแปซิฟิค ประเทศเอกวาดอร์มีชื่อทางด้านสถานที่เที่ยวจำนวนไม่ใช่น้อย แม้กระนั้นที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือ ภูเขาไฟโกโตปักซี (Cotopaxi) ภูเขาไฟที่อยู่ห่างจากเมืองหลวงเพียง 48 กิโลเมตร บนเทือกเขาแอนดีส ภูเขาไฟโกโตปักซีเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับที่อยู่มากที่สุดในโลก แล้วก็ในทุกๆปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนภูเขาไฟที่นี้เยอะๆ เมืองบาโญส (Banos) เป็นอีกโอกาสหนึ่งหนึ่งสำหรับนักเดินทางที่ชอบการเดินป่า รวมทั้งชมความงดงามจของน้ำตก สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่น่าสนใจเป็น หมู่เกาะกาลาขว้างโกส เป็นหมู่เกาะที่เต็มไปด้วยสัตว์มากมายก่ายกองหลายพันธุ์ เป็นหมู่เกาะกึ่งกลางห้วงสมุทรแปซิฟิก
3. ประเทศบรูไน (Brunei) : ท่องเที่ยวได้ 14 วัน
ประเทศบรูไน เป็นประเทศเล็กๆแม้กระนั้นมีเศรษฐกิจที่ดีไม่น้อยหน้าไปกว่าประเทศอื่นใดในเอเชีย สถานที่สำหรับท่องเที่ยวยังคงความอุดมสมบูรณ์ไว้เป็นอย่างมาก เพราะมีนักท่องเที่ยวมีความสนใจน้อยซะงั้น แม้กระนั้นรับประกันได้เลยว่าทุกคนที่ได้ไปถึง เป็นจำเป็นต้องได้รับความซาบซึ้งกลับมาแน่ๆ สถานที่เที่ยวที่น่าดึงดูด ไม่ว่าจะเป็น พิพิธภัณฑสถานบรูไน, มัสยิดสุลต่านโอมาร์ อาลี ไซฟุดดิน, ราชสำนักอิสตานา นูรัล อีมาน, สวนเจรูดง, สุเหร่าจาเม อาร์ ฮัสซานัล โบลเกียห์
4. ประเทศปานามา (Panamá) : ท่องเที่ยวได้ 180 วัน
ปานามา เป็นประเทศที่อยู่ทางใต้สุดของอเมริกากึ่งกลาง เป็นประเทศที่เป็นตัวอย่างความสำเร็จของการพัฒนาเศรษฐกิจทีเดียว ปานามาไม่ใช่ประเทศล้าหลังที่เป็นสรวงสวรรค์ของนักฟอกเงิน ตรงกันข้าม ขณะนี้กำลังแปลงเป็นศูนย์กลางด้านการเงินของละตินอเมริกา มีสถาบันการเงินระดับใหญ่ เป็นต้นทางการขนส่งตู้ผลิตภัณฑ์ เพราะเหตุว่าเป็นเส้นทางขนส่งทางที่มีความสำคัญในการรบของทวีปอเมริกา สถานที่เที่ยวห้ามพลาด ลำคลองปานามา, เมืองคาสิโน Panaviera at Ocean Sun Casino, โบสถ์แล้วก็วิหาร Iglesia del Carmen, น้ำตก El Chorro Macho, พิพิธภัณฑ์ BioMuseo
5. ประเทศอาร์เจนตินา (Argentina) : ท่องเที่ยวได้ 90 วัน
อาร์เจนติน่า ประเทศขนาดใหญ่ในอเมริกาใต้แห่งนี้ มีน้ำตกที่เลื่องลือสุดอลังการ เทือกเขาแอนดีสอันยิ่งใหญ่ ไวน์ การเต้นระบำแทงโก้เก๋ รวมทั้งเมืองหลวงบัวโนส ไอเรสที่น่าตื่นเต้น ถือเป็นสวรรค์สำหรับนักเที่ยว จะได้สัมผัสตั้งแต่เมืองหลวงที่มีมนต์เสน่ห์ ไปจนกระทั่งเมืองอาณานิคมอันสงบเงียบ ประเทศที่ใหญ่เป็นชั้นสองในอเมริกาใต้ที่นี้มีทัศนียภาพธรรมชาติที่นานัปการ ด้วยพื้นที่ที่กว้างใหญ่ไพศาลทำให้สภาพอากาศแตกต่างกันไป ตั้งแต่หิมะ ธารน้ำแข็ง ภูเขาสูง ท้องทุ่งอบอุ่น ไร่องุ่น แคนยอน ทะเลทราย จนถึงป่าดิบชื้น สถานที่สำหรับท่องเที่ยวที่แนะนำว่าไม่ควรพลาดคือ น้ำตกอีกวาซู, The BigBen of Argentina, สีสันบ้านช่องบริเวณ La Boca, El Tren a Las Nubes (รถไฟไปยังก้อนเมฆ), เยี่ยมชมโรงกลั่นไวน์, เทือกเขา Hornocal (เนินเจ็ดสี)
6. ประเทศชิลี (Republic of Chile) : ท่องเที่ยวได้ 90 วัน
ประเทศชิลี เป็นประเทศลาติน มีพื้นที่ติดชายฝั่งทะเลยาวระหว่างแนวเขาแอนดีสกับมหาสมุทรแปซิฟิก มีขอบเขตจรดประเทศอาร์เจนตินาทางทิศตะวันออก แม้ว่าชิลีจะเป็นประเทศที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่นัก แต่ว่าเรื่องความยาวประเทศนี้กินขาดประเทศอื่นๆในโลก เนื่องจากว่าเป็นเจ้าของสถิติประเทศที่ยาวที่สุดกว่า 4,300 กม. แต่ว่ากว้างแค่เพียง 180 กิโลเมตรเท่านั้น ข้อดีของชิลีนั้นอยู่ตรงที่ความมากมายหลายของภูมิประเทศ ที่มีตั้งแต่ทะเลทรายที่จัดได้ว่าแห้งที่สุด ไปจนถึงธารน้ำแข็ง รวมทั้งฟยอร์ด นอกนั้นยังมีภูเขาไฟรายล้อมอีกหลายแห่ง สมกับเป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนวงแหวนที่ไฟ หรือ “ring of fire” ซึ่งเป็นเขตรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก ที่จะก่อให้เกิดแผ่นดินไหวอยู่บ่อยมาก แต่ตรงนี้ก็ยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยวอยู่ไม่ขาดสาย ด้วยเหตุว่าด้านหน้าเป็นทะเลสาบแล้วก็ด้านหลังเป็นภูเขาไฟ ทำให้ทำเลที่ตั้งนี้มีความงามแล้วก็ผิดตา
7. ประเทศเซเชลส์ (Seychelles) : ท่องเที่ยวได้ 30 วัน
เซเชลส์ รู้จักกันในนาม Paradise on Earth หรือ สรวงสวรรค์บนดินในหมู่นักเดินทาง หมู่เกาะเซเชลส์เป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่รอบๆทวีปแอฟริกา มีหมู่เกาะเรียงรายกว่า 115 เกาะ ห่างจากริมฝั่งแอฟริกาทางทิศตะวันออก 1,600 กิโล ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของคุณแม่กัสการ์ ผู้ที่นี่จะใช้ภาษาอังกฤษและภาษาประเทศฝรั่งเศสได้ชำนาญเนื่องจากเคยถูกดูแลจากสองประเทศนี้ อากาศจะอบอุ่นตลอดทั้งปี ช่วงไฮซีซั่นจะเป็นช่วง มิถุนายนถึงสิงหาคม นักท่องเที่ยวโดยมากจะมาจากอเมริการวมทั้งยุโรปเป็นส่วนใหญ่ ที่สำคัญเกาะนี้เคยเป็นที่ฮันนีมูนของเจ้าชายวิลเลียมและก็เคทด้วย ตรงนี้ก็มีชายหาดสวยๆหลายหาดด้วยกัน แต่ที่ชี้แนะคือหาดทราย Anse Lazio
8. ประเทศมองโกเลีย (Mongolia) : ท่องเที่ยวได้ 30 วัน
ดูโกเลีย ดินแดนแห่งธรรมชาติ ภูเขา ป่าดง และก็ท้องทุ่งที่สมบูรณ์บริบูรณ์ นอกจากมีความเด่นทางด้านธรรมชาติแล้ว สิ่งที่เป็นเสน่ห์ของดูโกเลียอีกอย่างก็คือ ศิลปวัฒนธรรมแล้วก็ผู้คนซึ่งมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนกับที่อื่นๆผู้คนเขตแดนยังคงดำเนินชีวิตแบบเรียบง่าย ก็เลยไม่แปลกใจที่ดินดินแดนที่นี้จะเป็นจุดมุ่งหมายของนักเที่ยวจากทั่วทั้งโลก มาถึงที่นี่ทั้งทีจะต้องมาเยือนทะเลทรายโกบี, แนวเขาอัลไต, ทุ่งหญ้า Dornod Aimag, สี่เหลี่ยมจัตุรัสซัคบาทาร์ (Sukhbaatar Square) และที่พักสไตล์เกอร์
9. ประเทศรัสเซีย (Russia) : ท่องเที่ยวได้ 30 วัน
รัสเซีย ท่องเที่ยวแดนหมีขาว ที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมยุโรปแล้วก็เอเชียไว้ร่วมกัน ออกมาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลของศิลปะรัสเซีย สถานที่เที่ยวที่ชี้แนะเป็น มอสโกเครมลิน (Moscow Kremlin) เขตมรดกโลก, วิหารเซนต์บาซิล (St. Basil’s Cathedral) โดมทรงหัวหอม 9 โดมและโบสถ์หลังคาสูงยอดแหลม, จตุรัสแดง (Red Square), สุสานเลนิน (Lenin Mausoleum), พิพิธภัณฑสถานเฮอร์มิเทจ(Hermitage Museum) ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก, วิหารเซนต์ไอแซค (Saint Isaac’s Cathedral) โบสถ์เก่าแก่ที่มีหลังคารูปโดมใหญ่เป็นชั้น 3 ของโลก
10. ประเทศวานูอาตู (Vanuatu) : ท่องเที่ยวได้ 90 วัน
วานูอาตู เป็นประเทศหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในห้วงมหาสมุทรแปซิฟิคตอนใต้ อยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันออกของออสเตรเลียราว 1,200 กม. ประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่โดยประมาณ 82 เกาะ ในปริมาณนี้มีเกาะราว 65 เกาะที่ไร้คนอาศัยอยู่ แล้วก็สภาพของเกาะโดยมากจะเป็นเทือกเขาสูง เนื่องด้วยเคยเป็นภูเขาไฟมาก่อน รวมทั้งยังมีภูเขาไฟใต้น้ำตั้งอยู่ทั่วทุกภูมิภาคอีกด้วย เศรษฐกิจนั้นส่วนใหญ่ของวานูอาตูจะอิงกับเศรษฐกิจแบบดำรงชีวิต หรือเกษตรกรรมขนาดเล็ก อาชีพที่สำคัญคือการประมงริมฝั่ง มีบางส่วนสำนักงานท่องเที่ยว แต่ผู้ใดจะทราบล่ะว่าส่งผลตรวจสอบออกมาว่า ที่นี่เป็นประเทศที่สุขสบายที่สุดในโลก
11. ประเทศตุรกี (Turkey) : ท่องเที่ยวได้ 30 วัน
ประเทศตุรกี เป็นประเทศที่สวยงามด้วยมรดกโลกแล้วก็สิ่งอัศจรรย์ของโลก รวมถึงร่องรอยที่อารยธรรมโบราณอันยิ่งใหญ่ ผู้คนเป็นมิตร ของกินอร่อย รวมทั้งราคาถูกอย่างที่คิด ประเทศตุรกีเป็นนครที่อุดมไปด้วยเรื่องราวที่ตำนานแล้วก็ประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นการสู้รบเมืองทรอย และก็ม้าไม้อันลือลั่น อิสตันบูล สถานที่ท่องเที่ยวมากไม่น้อยเลยทีเดียวที่ห้ามพลาด ไม่ว่าจะเป็น วิหารเซนต์โซเฟีย, วิหารอะวัวรโปลิส เมืองเพอร์กามุม, พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ เมืองคัปปาโดเจีย, นครใต้ดินไคมัคลึ, ปราสาทปุยฝ้าย เมืองปามุกคาเล่
12. ประเทศจอร์เจีย (Georgia) : ท่องเที่ยวได้ 365 วัน
จอร์เจีย เป็นประเทศที่ไม่ใหญ่มาก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย อุดมไปด้วยธรรมชาติอันสวย โดยสิ่งที่เด่นของจอร์เจียคือประเทศโดยมากตั้งอยู่บนแนวเขาคอเคซัส ซึ่งเป็นแนวเขาที่มีความงามสุดยอด นักปีนเขา หนักกิจกรรมสโนว์มักจะเดินทางไปประเทศหน้าจอร์เจียเพื่อท่องเที่ยวอีกทั้งในหน้าหนาวและก็ในช่วงฤดูใบไม้บาน หน้าจอร์เจีย เป็นที่รู้จักของชาวยุโรปมานานแล้ว แม้กระนั้นเพิ่งเป็นที่รู้จักผ่านหูผ่านตาคนประเทศไทยเมื่อไม่นานมานี้ ที่ประเทศนี้ให้ทราบไว้เลยว่าองุ่นแล้วก็เหล้าองุ่นนั้นถือเป็นชีวิต เป็นจิตวิญญาณ แล้วก็เป็นศาสนา ไวน์ใช้ในพิธีกรรมทุกสิ่งในโบสถ์มาตั้งแต่ยุคก่อนศาสนาคริสต์ ลวดลายเครื่องหมายหน้าโบสถ์หรือสถานที่สำคัญมักเป็นลายเถาองุ่น ทุกบ้านในหน้าจอร์เจียจะปลูกองุ่นที่ซุ้มประตูหน้าบ้าน เป็นสัญลักษณ์ เป็นร่มเงา เป็นวัฒนธรรม คนภายในจอร์เจียรับรองว่าหากไม่มีองุ่นคนจอร์เจียก็คงอยู่ไม่ได้
13. ประเทศมัลดีฟส์ (Maldives) : ท่องเที่ยวได้ 30 วัน
มัลดีฟส์ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐมัลดีฟส์ แต่ว่าคนธรรมดาทั่วไปจะนิยมเรียกว่า หมู่เกาะมัลดีฟ กันเสียมากกว่า ซึ่งตั้งอยู่ในมหาสมุทรประเทศอินเดีย มีเขตแดนอยู่ทางทิศตะวันตกของอินเดียและก็ประเทศศรีลังกา ลักษณะภูมิประเทศนั้นเป็นลักษณะหมู่เกาะ ที่ประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่ที่วางตัวต่อเนื่องกันในแนวเหนือจรดใต้ นำมาซึ่งลักษณะภูมิประเทศที่มีความสวยงามและก็เอื้อต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว มีหมู่เกาะถึง 1,990 เกาะเลยทีเดียว แม้กระนั้นมีเกาะที่มีผู้คนอาศัยอยู่เพียงแค่ไม่ถึง 250 เกาะแค่นั้น แล้วก็ในหมู่เกาะต่างๆกว่า 100 เกาะมีการปรับปรุงแล้วก็สร้างให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและโรงแรมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว
14. ประเทศพม่า (Myanmar) : ท่องเที่ยวได้ 14 วัน
ประเทศพม่า หรือ เมียนมา เป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าท่องเที่ยวมากมาย ถือได้ว่าเป็นมุกเม็ดงามของทวีปเอเชียที่พึ่งเผยโฉมให้พวกเรามองเห็นความสวยกัน ซึ่งประเทศนี้ก็ได้แอบซ่อนความสวยงามเอาไว้เยอะแยะ อีกทั้งสถาปัตยกรรม วัดวาอาราม ศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิตของมนุษย์ที่เรียบง่าย โดยยิ่งไปกว่านั้นธรรมชาติที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ มีชายเขาแล้วก็ทะเลที่สวยงามไม่แพ้ไหนในโลก สถานที่เที่ยวที่น่าสนใจ ดังเช่นว่า พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง, พระบรมสารีริกธาตุอินทร์ห้อย, ทะเลสาบอินเล, พระมหามัยมุนี, เจดีย์กุไม่มีคู่ครองอว์, เมืองพม่า, หาดงาขว้างลี, ภูเขาโปปา, เมืองพินอูลวิน, หาดฮเวซวง ซึ่งเมืองที่นักเดินทางนิยมท่องเที่ยวชมก็คือ เมืองปิ้งกุ้ง, เมืองมัณฑะเลย์, เมืองพุกาม, เมือง Thandwe เมืองยะไข่ นั่นเอง เชื่อเถอะว่าคนไหนได้เห็นภาพความสวยของประเทศนี้เป็นจำต้องชอบ
15. ประเทศกาตาร์ (Qatar) : ท่องเที่ยวได้ 30 วัน
กาตาร์ รัฐเล็กๆทางคาบสมุทรอาระเบียออกไปในอ่าวอิหร่าน พื้นที่ประเทศมีรูปร่างคล้ายไข่มุก จึงถูกเรียกขานว่า “มุกที่เปอร์เซีย” เป็นประเทศที่คนยุโรปรวมทั้งชาวฟิลิปปินส์จำนวนมากพึงพอใจมาดำเนินการ เนื่องจากว่าได้เงินเดือนดีมาก มีทรัพยากรน้ำมันและปิโตรเลียมแอบซ่อนอยู่อย่างมหาศาล จึงถูกจัดอับดับว่าเป็นเยี่ยมในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ เศรษฐกิจของกาตาร์ขึ้นกับภาคพลังงานเป็นหลัก อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีแหล่งปิโตรเลียมสำรองใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากรัสเซียและก็ประเทศอิหร่านอีกด้วย ลักษณะภูมิประเทศโดยมากจะเป็นทะเลทราย จึงมีความแห้ง รวมทั้งอาจกำเนิดพายุทรายได้ทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนเมษายน-เดือนมิถุนายน (อุณหภูมิมากถึง 50 องศา) ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังกาตาร์ปริมาณไม
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : sunshinesolar.org

Tags : sunshinesolar,http://sunshinesolar.org



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ